20 วิธี ป้องกันยุง กำจัดยุง ไล่ยุง ในบ้าน และคอนโด ก่อนเป็นไข้เลือดออก

ฤดูฝนแบบนี้สิ่งที่น่ากังวลคือการมาของยุงลาย พาหะนำเชื้อโรคต่างๆ มาสู่คน โดยเฉพาะโรคไข้เลือดออก ที่เป็นอันตรายทั้งต่อเด็กและผู้ใหญ่ มาดูอาการของไข้เลือดออก และวิธีป้องกัน และกำจัดยุงลาย ไล่ยุง ไล่แมลงต่างๆ ทั้งในบ้าน และคอนโดก่อนเป็นไข้เลือดออกได้ที่นี่ ไข้เลือดออก Dengue Hemorrhagic Fever เป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสเดงกี (Dengue virus) โดยมียุงลายเป็นพาหะนำโรค มักพบในประเทศเขตร้อน และระบาดในช่วงฤดูฝนของทุกปี อาการของโรคไข้เลือดออกมีตั้งแต่ไม่มีอาการผิดปกติไปจนถึงเสียชีวิตได้หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที สาเหตุการเป็นโรคไข้เลือดออก โรคไข้เลือดออกที่หลายๆ คนมักกังวลนี้ เป็นโรคติดต่อที่เกิดจากยุงลาย (Aedes aegyti) ตัวเมีย บินไปกัดผู้ป่วยที่เป็นไข้เลือดออกโดยเฉพาะช่วงที่มีไข้สูง เชื้อไวรัสเดงกีจะเพิ่มจำนวนในตัวยุงประมาณ 8-10 วัน และจะแพร่ไปที่ผนังกระเพาะและต่อมน้ำลายของยุง เมื่อยุงกัดคนก็จะแพร่เชื้อสู่คน เชื้อจะอยู่ในร่างกายคนประมาณ 2-7 ซึ่งส่วนใหญ่มักจะเป็นในเด็ก รู้จักอาการของโลกไข้เลือดออก และความรุนแรงที่อาจเกิดขึ้น อาการของผู้ที่เป็นโรคไข้เลือดออกมักจะมีอาการที่พบบ่อยได้แก่ ปวดศีรษะ ปวดกระบอกตา ปวดเมื่อยตามตัว ปวดข้อหรือกระดูก มีผื่นขึ้นคล้ายผื่นของโรคหัด และอาจมีภาวะเลือดออกหรือไม่มีก็ได้ นอกจากนี้ยังมีอาการอื่นๆ ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของโรคไข้เลือดออกที่เห็นได้ชัด คือ มีไข้สูงเฉียบพลันเกิน 38 องศาเซลเซียส ประมาณ 2-7 วัน คลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร หน้าแดง อาจพบจ้ำเลือดหรือจุดเลือดออกสีแดงเล็กๆ ตามผิวหนัง หรือมีเลือดออกบริเวณอื่น เช่น เลือดกำเดาไหล เลือดออกตามไรฟัน ปัสสาวะ อุจจาระมีเลือดปน ปวดท้องอย่างรุนแรง กดเจ็บชายโครงด้านขวา ในรายที่มีอาการรุนแรงมาก หลังจากมีไข้มาแล้วหลายวันผู้ป่วยอาจเกิดภาวะการไหลเวียนโลหิตล้มเหลวหรือภาวะช็อก และเข้าสู่ระยะที่เรียกว่า กลุ่มอาการไข้เลือดออกช็อก (Dengue Shock Syndrome) โดยผู้ป่วยจะมีอาการกระสับกระส่าย ปลายมือปลายเท้าเย็น ปัสสาวะน้อยลง ไข้ลดลงอย่างรวดเร็ว ความดันโลหิตลดต่ำ วัดชีพจรไม่ได้ สำหรับผู้ป่วยที่ไม่มีภาวะช็อก หลังจากมีไข้สูง 2-7 วัน ไข้จะเริ่มลดลง ระบบไหลเวียนโลหิตเริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ ความดันโลหิตและชีพจรเริ่มคงที่ เมื่อผ่านไป 2-3 วันจึงเข้าสู่ระยะหายเป็นปกติ ผู้ป่วยจะมีอาการดีขึ้น ไข้ลดลง เริ่มรับประทานอาหารได้ อาการปวดท้องดีขึ้น ระยะนี้มักพบผื่นแดงและคันตามฝ่ามือและฝ่าเท้าซึ่ง จะหายได้เองภายใน 1 สัปดาห์ การป้องกันโรคไข้เลือดออก และวิธีป้องกันกำจัดยุงลาย จบที่ต้นเหตุ เมื่อทราบถึงอาการของไข้เลือดออกที่น่ากลัวแล้ว เราควรต้องกำจัดที่ต้นตอของสาเหตุ นั่นก็คือ ยุงลายที่เป็นพาหะของโรคไข้เลือดออกนี้ที่มักระบาดในช่วงฤดูฝน โดยยุงลายชอบออกหากินในเวลากลางวันตามบ้านเรือน และโรงเรียน และชอบวางไข่ในน้ำสะอาดที่อยู่นิ่งๆ ตามภาชนะที่มีน้ำขัง เช่น ยางรถยนต์ กะลา กระป๋อง จานรองกระถางต้นไม้ ดังนั้นต้องกำจัดน้ำขังที่มีอยู่รอบบ้าน และภายในบ้านให้หมดสิ้น เรามาดู สรุป 20…

7 ประโยชน์การเก็บล้างทำความสะอาดตู้เย็น ที่คุณยังไม่เคยรู้มาก่อน

เคยเปิดดูตู้เย็นแล้วพบกับ อาหารที่แออัดกันจนไม่มีที่ว่าง และ กลิ่นไม่พึ่งประสงค์ หรือเปล่า? วันนี้ พลัสฯ จะมาเผยประโยชน์ของการเก็บล้างทำความสะอาดตู้เย็น ที่ทำให้ทุกท่านอยากลุกไปทำงานเก็บล้างในทันที “ตู้เย็น” ถือว่าเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าประจำบ้านที่ขาดไม่ได้ เสมือนเป็นคลังเก็บตุนรักษาอาหารหล่อเลี้ยงผู้อยู่อาศัยภายในบ้าน และ คอนโด เราจึงไม่สามารถหลีกเลี่ยงที่จะต้องเก็บล้างทำความสะอาดตู้เย็นในสักวัน แต่เมื่อพูดถึง การเก็บล้างทำความสะอาดตู้เย็น จริงๆแล้วมีประโยชน์อยู่มากมายเลย เรียกได้ว่า ทั้งดีต่ออาหาร ดีต่อตัวเรา ดีต่อตัวตู้เย็นเอง และดีต่อค่าใช้จ่ายด้วย!!! วันนี้ พลัสฯ ชวนมาดูประโยชน์ของการเก็บล้างทำความสะอาดตู้เย็นที่ทุกท่านอาจจะยังไม่เคยรู้มาก่อน ถ้าพร้อมแล้ว มาเริ่มกันเลยดีกว่า 1. ยืดอายุการใช้งาน การเก็บล้างทำความสะอาดตู้เย็น จะทำให้เราสามารถจัดสรรพื้นที่ภายในตู้เย็นให้ไม่อัดกันจนเกินไป และมีอากาศถ่ายเทสะดวก ซึ่งจะทำให้ตู้เย็นไม่ต้องทำงานหนักเกินความจำเป็น ลดความเสี่ยงที่ตู้เย็นจะมีอายุการใช้งานที่สั้น รวมถึงลดการเกิดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจากการซื้อตู้เย็นใหม่ 2. ลดค่าไฟ ในเมื่อตู้เย็นไม่ต้องทำงานหนัก ตู้เย็นจะกินไฟน้อยลง การเก็บล้างทำความสะอาดตู้เย็นจึงเป็นวิธีที่ช่วยประหยัดไฟทางอ้อมได้ เนื่องจากตู้เย็นเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านที่กินไฟเป็นอันดับต้นๆ และส่งผลให้บิลค่าไฟของคุณถูกลงอย่างแน่นอน 3. ทำความสะอาดง่ายขึ้นในครั้งต่อไป ด้วยความที่เราจัดวางอาหารอย่างเป็นระเบียบไว้ตามโซนต่างๆเรียบร้อยอยู่แล้ว ในการเก็บล้างทำความสะอาดตู้เย็นครั้งต่อไป เราก็จะสามารถทำได้อย่างสะดวกสบายและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น 4. เช็คอาหารได้ง่ายขึ้น เราสามารถแปะป้ายบนภาชนะที่ใช้บรรจุอาหารที่เขียนเกี่ยวกับประเภทของอาหารและวันหมดอายุเอาไว้ และเมื่อรู้ว่าอันไหนใกล้จะหมดอายุ คัดแยกมาจัดรวมกันเป็นกลุ่มๆ นำไปวางในตะตร้าตรงโซนที่หยิบไปใช้ได้อย่างสะดวกมากขึ้น โดยอาจจะทำบันทึกรายกายและวันหมดอายุ ติดไว้ด้านนอกของตู้เย็นเพื่อตรวจเช็คในทุกๆวัน 5. ยืดระยะเวลาการถนอมอาหาร การจัดเก็บอาหารอย่างเหมาะสมในตู้เย็นที่มีการจัดสรรพื้นที่อย่างเป็นระเบียบ จะลดการเกิดแหล่งเพาะเชื้อโรคต่างๆ เช่น แบคทีเรีย เชื้อรา ทำให้อาหารไม่เน่าเสียง่าย และจัดเก็บอาหารได้นานยิ่งขึ้น 6. ลดกลิ่นอับ ลดการสะสมเชื้อโรค หากเราทำการจัดตู้เย็น และตรวจสอบรายการอาหารอยู่เป็นประจำ จะทำให้ตู้เย็นปราศจากอาหารเน่าเสียสะสม ลดการเกิดกลิ่นไม่พึ่งประสงค์ และลดโอกาสการสะสมความชื้นและสิ่งสกปรกที่จะนำไปสู่การก่อเกิดเป็นแหล่งเพาะเชื้อในตู้เย็น 7. ลดการเกิดขยะ การบริหารจัดการตู้เย็นทำให้เราได้ติดตามบริโภคอาหารก่อนหมดอายุ รวมถึงการจัดเก็บอาหารอย่างเหมาะสม จะช่วยลดจำนวนอาหารที่เน่าเสียในตู้เย็นลง ทั้งหมดนี้จะทำให้ปริมาณอาหารที่เราต้องทิ้งลดลง และช่วยลดปริมาณขยะภายในบ้านที่เกิดขึ้นในแต่ละครั้ง เมื่อได้อ่าน 7 ประโยชน์ของการเก็บล้างทำความสะอาดตู้เย็นกันไปเรียบร้อยแล้ว หลายๆท่านคงอยากจะลุกขึ้นไปหยิบอุปกรณ์ทำความสะอาด และ เริ่มต้นทำงานเก็บล้างกันแล้วใช่ไหม ซึ่ง งานเก็บล้าง ก็ไม่ได้มีแค่การเก็บล้างทำความสะอาดตู้เย็นเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังมีอย่างอื่นอีกมากมายหลายอย่าง เช่น งานเก็บล้างครัว งานขัดล้างห้องน้ำ งานจัดเก็บห้องนอน และ งานปัดกวาดเช็ดถูซอกมุมต่างๆภายในบ้าน ทั้งนี้ เราควรใส่ใจที่จะทำงานเก็บล้างให้สม่ำเสมอตามความเหมาะสมในแต่ละงาน เช่น กวาดพื้น เทขยะ เช็ดโต๊ะ เช็ดเคาน์เตอร์ ทุกวัน เปลี่ยนที่นอน ขัดห้องน้ำ ถูพื้น ปัดฝุ่น ทุกสัปดาห์ เช็ดไมโครเวฟ เก็บล้างตู้เย็น ทุกเดือน เพื่อสร้างบรรยากาศที่ดีให้แก่ที่อยู่อาศัยของเรา และ ลดการเกิดฝุ่น ที่ก่อให้เกิดอาการแพ้ รวมถึงลดการสะสมสิ่งสกปรก ที่นำมาสู่อาการป่วย ทำให้ร่างกายไม่แข็งแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง…

How-to แยกขยะจากอาหารเดลิเวอรี: คู่มือฉบับคนยุคใหม่

ในคนไทยหนึ่งคน ค่าเฉลี่ยพบว่ามีการทิ้งขยะวันละ 1.15 กิโลกรัม สมมติว่าในคอนโดเฉลี่ยห้องนึงมีผู้พักอาศัย 2 คน นั่นหมายความว่า 1 ห้องจะทิ้งขยะประมาณ 2.3 กิโลกรัมต่อวัน ซึ่งพบว่ามีคอนโดมิเนียมที่จดทะเบียนทั่วประเทศ รวมแล้วมีห้องพักมากถึง 898,922 ยูนิต หากนำไปคำนวนแล้วจะพบว่า ใน 1วัน ชาวคอนโดจะทิ้งขยะประมาน 2,276,982 กิโลกรัมเลยทีเดียว!  การที่เราทิ้งขยะทุกประเภทรวมกันโดยไม่แยกนั้น จะทำให้ขยะที่สามารถนำมาใช้ใหม่ได้ และขยะที่สามารถนำไปรีไซเคิลได้ ถูกทิ้งรวมไปกับขยะเปียกทั้งหมด และอาจจะไม่ได้ถูกนำมาใช้ประโยชน์ได้อีก ส่วนที่อันตรายมากก็คือขยะที่เป็นสารพิษ พวกบรรจุภัณฑ์สารเคมี กระป๋องยาฉีดกันยุง พวกหลอดไฟซึ่งมีสารเคมีฉาบไว้ ถ่านไฟฉาย ถ้าเอาทิ้งไปรวมกับขยะอื่นโดยที่ไม่แยก สารเคมีก็จะไหลลงสู่พื้นดิน ถ้าถูกเผาก็จะเป็นก๊าซพิษลอยขึ้นไปในอากาศ หรือถ้าถูกฝัง ก็จะทำให้เกิดก๊าซพิษลอยขึ้นไปในอากาศ ซึ่งเป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมและเป็นสาเหตุหนึ่งของภาวะโลกร้อนด้วย และยิ่งในยุคนี้ หน้ากากอนามัยแบบใช้แล้วทิ้ง จำเป็นต้องมีการแยกขยะทิ้งอย่างถูกวิธี เพื่อการกำจัดที่ถูกต้องและไม่แพร่กระจายเชื้อต่ออีกด้วย เริ่มแยกขยะได้ง่ายๆ ที่ตัวเรา วิธีเริ่มแยกขยะสำหรับชาวคอนโดนั้นไม่ได้ยากอย่างที่คิด ถึงพื้นที่ห้องจะเล็กแต่เราก็จัดสรรได้ เรามาดูกันว่าวิธีแยกขยะให้เกิดประโยชน์ต้องเริ่มต้นอย่างไร 1. จัดพื้นที่ในห้องสำหรับทิ้งขยะ สำหรับคนที่อยู่อาศัยในคอนโดซึ่งมีพื้นที่ที่จำกัด ทำให้ไม่อยากเตรียมพื้นที่สำหรับแยกขยะ แต่เรามีทริคที่ให้ทุกคนทำตามได้ คือ เราอาจจะซื้อกล่องพลาสติกมาซ้อนต่อกันหรือจะหาเป็นเฟอร์นิเจอร์แบบในรูปเพิ่มความสวยงามภายในห้อง เพื่อแยกขวดพลาสติก กระดาษหนังสือ รวมทั้งหลอดไฟหรือวัตถุอันตรายอื่นๆ แถมยังทำให้มีพื้นที่มากขึ้นอีก จะเอาไว้เก็บของอย่างอื่นด้วยก็ได้ หรือใครมีตู้ลิ้นชักว่างจะซื้อกล่องหรือถังมาแบ่งพื้นที่ภายในลิ้นชักเพื่อแยกขยะได้ สะดวกแถมไม่เปลืองพื้นที่เพิ่มช่วยหลบสายตาในการเห็นขยะด้วย 2. แยกประเภทของขยะที่แยกได้ง่ายๆ ฉบับคนอยู่คอนโด ขยะรีไซเคิล ขยะแห้ง รีไซเคิล คือการ นำกลับมาใช้ใหม่ ดังนั้นขยะรีไซเคิลก็คือขยะที่เราทิ้งไปแล้วสามารถนำกลับมาใช้ซ้ำอีกครั้งได้ ไม่ใช่ใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง ขยะรีไซเคิลมีอะไรบ้าง : ขวดพลาสติก, ถุงพลาสติก, ขวดแก้ว, กระป๋อง, กล่องกระดาษ, กระดาษ ก่อนทิ้งควรจะ: ทำความสะอาดก่อนคัดแยกขยะทิ้ง เพื่อง่ายในการจัดการต่อ เช่น เทน้ำที่เหลือและล้างออกด้วยน้ำเปล่า, นมกล่องดื่มหมดแล้วก่อนทิ้งก็ควรผ่าล้างทำความสะอาด ขยะทั่วไป ขยะประเภทนี้มักจะย่อยสลายไม่ได้ มีลักษณะย่อยสลายยากแต่ไม่เป็นพิษและไม่คุ้มค่าต่อการรีไซเคิล จำเป็นต้องหาวิธีกำจัดอย่างถูกวิธี ขยะทั่วไปมีอะไรบ้าง : ซองขนม กล่องโฟม ถุงพลาสติก ภาชนะปนเปื้อนอาหาร กระดาษชานอ้อย ขยะอินทรีย์ ขยะเปียก คือ ขยะที่เน่าเสียและย่อยสลายได้เร็ว อะไรบ้างที่เป็นขยะอินทรีย์: เศษอาหาร เปลือกผลไม้ เศษผัก เนื้อสัตว์ เศษใบไม้แห้ง  ก่อนทิ้งก่อนทิ้งควรจะ: สำหรับเศษอาหาร ให้แยกส่วนที่เป็นน้ำ ทิ้งลงอ่างล้างจานก่อน ส่วนน้ำมันทอดอาหาร ควรรอให้เย็นตัวลงและเทใส่ขวดพลาสติกแยกลงในถังขยะประโยชน์จากการแยกขยะ: นำไปทำปุ๋ยหมักชีวภาพ ใส่ต้นไม้ แปลงผักสวนครัว ขยะอันตราย คือ ขยะที่มีองค์ประกอบหรือปนเปื้อนวัตถุอันตรายชนิดต่างๆ อะไรบ้างที่เป็นขยะอันตราย: ถ่านไฟฉาย, อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์, ยาหมดอายุ, วัตถุไวไฟ, กระป๋องเสปรย์ ขยะติดเชื้อ คือ สิ่งที่สัมผัสกับสารคัดหลั่งของผู้ป่วย ไม่ว่าจะเป็น น้ำมูก น้ำลาย เลือด…

12 เช็คลิสต์ในบ้านที่ควรทำความสะอาดเป็นประจำ

การดูแลรักษาทำความสะอาดบ้านและคอนโดเป็นประจำก็เป็นส่วนนึงที่จะช่วยให้มีสุขภาพที่ดีและมีบ้านที่น่าอยู่ วันนี้พลัสฯจึงมีเคล็ดลับการทำความสะอาดที่ควรทำเป็นประจำมาฝาก จะมีอะไรบ้างนั้นมาดูกันเลยครับ สิ่งที่ควรทำความสะอาดเป็นประจำทุกวัน 1. กระเบื้องในห้องน้ำ เนื่องจากเป็นห้องที่ใช้ทุกวัน ควรใช้ไม้ทำความสะอาดหุ้มยางที่ใช้สำหรับเช็ดหน้าต่างเช็ดคราบเพื่อป้องกันการเกิดเชื้อรา 2. จานอาหารที่ใช้แล้ว ไม่ควรวางทิ้งไว้ข้ามคืน เพราะจะทำให้เกิดเชื้อแบคทีเรีย 3. โต๊ะทานอาหาร เคาน์เตอร์ครัว ควรใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆ เช็ดคราบสกปรกให้สะอาดหลังจากใช้งานเสร็จทุกครั้ง สิ่งที่ควรทำความสะอาดสัปดาห์ละ 1 ครั้ง 4. ผ้าปูที่นอน หมอน ผ้าห่ม หรือตุ๊กตาที่อยู่บนเตียง ก็ควรซัก หรือนำมาตากแดดเพื่อฆ่าเชื้อแบคทีเรีย และไรฝุ่น 5. พื้นบ้าน หากคุณมีเด็กเล็กหรือสัตว์เลี้ยง ควรจะทำความสะอาดพื้น 3 ครั้งต่อสัปดาห์ 6. เฟอร์นิเจอร์ สิ่งที่ควรทำก็คือการปัดฝุ่นและเช็ดทำความสะอาด เพื่อไม่ให้ฝุ่นจับจนส่งผลให้บรรยากาศในบ้านดูเก่าหมองไม่น่าอยู่ สิ่งที่ควรทำความสะอาดเดือนละ 1 ครั้ง 7. ล้างเครื่องซักผ้า เครื่องซักผ้าส่วนใหญ่จะมีโปรแกรมล้างถังซักอยู่แล้ว หลังล้างถังซักผ้า จะมีคราบสกปรกหลุดออกมา ให้ใช้ฟองน้ำเช็ดคราบสกปรกในถังออกอีกครั้ง และเปิดถังให้ระบายความชื้น 8. ไมโครเวฟ ใช้เบคกิ้งโซดาในการเช็ดทำความสะอาดเพื่อช่วยลดกลิ่นอาหารที่หลงเหลืออยู่ 9. พัดลม เช็ดตัวพัดลมให้สะอาด ส่วนตะแกรงและใบพัด ให้ถอดออกแล้วเช็ดด้วยน้ำเปล่าหรือล้างด้วยน้ำยาล้างจาน เสร็จแล้วตากแดดหรือเช็ดให้แห้ง เพื่อการทำงานที่มีประสิทธิภาพ ช่วยยืดอายุการใช้งาน และยังช่วยทำลดการกระจายตัวของฝุ่น สิ่งที่ควรทำความสะอาดทุก 6 เดือนครั้ง 10. ล้างแอร์จะทำให้แอร์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยประหยัดค่าไฟอย่างน้อย 10% ยืดอายุการใช้งาน และยังช่วยป้องกันเชื้อโรคอีกด้วย 11. ซักพรมและเบาะ ควรใช้น้ำยาทำความสะอาดสำหรับพรม และเบาะโดยเฉพาะ เพื่อขจัดคราบสิ่งสกปรก โดยเฉพาะพรม คือแหล่งสะสมฝุ่นเเละไรฝุ่น 12. ผ้าม่าน เป็นเเหล่งสะสมของไรฝุ่นและเชื้อโรคต่างๆ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ ความสะอาดเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้บ้านน่าอยู่ พลัสฯหวังว่าเคล็ดลับที่นำมาฝาก นอกจากจะช่วยให้คุณทำความสะอาดบ้านได้อย่างเหมาะสม ยังช่วยให้คุณมีสุขภาพที่ดียิ่งขึ้นอีกด้วย บทความที่เกี่ยวข้อง: 7 เรื่องห้ามลืม ก่อนปิดบ้านไปเที่ยววันหยุดยาว 7 เรื่องควรรู้ของชาวคอนโด เพื่อความน่าอยู่ที่มากขึ้นกว่าเดิม 10 วิธีซ่อมแซมของใช้ในบ้านแบบง่ายๆ ไม่ต้องง้อช่าง พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร รับบริหารจัดการโครงการที่พักอาศัยและเพื่อการพาณิชย์ ด้วยทีมงานระดับคุณภาพกับประสบการณ์ที่มากกว่า 20 ปี เติมเต็มทุกความต้องการอย่างแท้จริง   หาข้อมูลคอนโดที่คุณต้องการได้ที่นี่: คอนโดสุขุมวิท, คอนโดให้เช่า, คอนโดจตุจักร, ขายคอนโด, คอนโดทองหล่อ, ทรัพย์สินรอการขาย, คอนโดพระราม 4, ระบบรักษาความปลอดภัย, บ้านหรู, คอนโดหรู สนใจติดต่อเพื่อรับข้อมูลด้านบริหารโครงการได้ที่ 02 688 7555 หรือ คลิกที่นี่ เพื่อศึกษาข้อมูลการบริการของเราเพิ่มเติมครับ

10 วิธีซ่อมแซมของใช้ในบ้านแบบง่ายๆ ไม่ต้องง้อช่าง

ที่อยู่อาศัยของเรานั้น ไม่ว่าจะเป็นบ้าน หรือคอนโด ย่อมมีปัญหาต่างๆ เกิดขึ้นบ้าง เมื่อเวลาผ่านไปข้าวของอุปกรณ์เครื่องใช้ในบ้านหรือคอนโดเรา ก็ย่อมเสื่อมสภาพไปตามเวลาและการใช้งาน จึงต้องมีการเปลี่ยนของใหม่ หรือซ่อมของเก่าที่มีอยู่เป็นธรรมดา แต่ในบางครั้งการซ่อมแซมอะไรเล็กๆ น้อยๆ ก็ไม่จำเป็นจะต้องรอช่างเสมอไป หากเรารู้วิธีการซ่อมที่ถูกต้อง ก็จะช่วยให้ประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่ายไปในตัว ส่วนปัญหาสุดเบสิคที่แทบทุกบ้านอาจพบเจอ คงจะหนีไม่พ้น แอร์ไม่เย็น ฝักบัวไหลไม่แรง เปลี่ยนสายชำระ ตั้งรหัสประตูดิจิตอล ชักโครกตัน ท่อน้ำตัน เปลี่ยนหลอดไฟ ตู้ไขไม่แน่น รวมถึงความยากในการทำความสะอาดร่องประตูเล็กๆ ฯลฯ แต่วันนี้ปัญหาเหล่านั้นจะหมดไป เพราะพลัสฯ มี 10 วิธีซ่อมแซมของใช้ในบ้านแบบง่ายๆ มาบอกต่อ ที่คุณเองก็สามารถจัดการได้ด้วยตัวเอง ไม่จำเป็นต้องรอช่างให้กังวลใจมาฝากกันครับ 1. วิธีปรับแอร์ยังไงให้เย็น ทำไมแอร์ไม่เย็น?!! ปัญหาแอร์ไม่เย็นคงจะเป็นปัญหากวนใจสุดฮิตของหลายๆ คน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงหน้าร้อน ก่อนอื่นเลยต้องกลับมาดูที่การตั้งค่าของรีโมทแอร์ก่อนว่าเราเลือกโหมดการทำงาน (MODE) ไว้ถูกต้องแล้วหรือยัง ทีนี้มารู้จักแต่ละโหมดกันก่อน โหมด Auto หรือ โหมด I FEEL หากเลือกโหมดนี้แอร์จะตั้งอุณหภูมิและความเร็วพัดลมโดยอัตโนมัติ ระบบจะเป็นฝ่ายกำหนดอุณหภูมิและความเร็วพัดลมให้เอง ขึ้นอยู่กับอุณหภูมิห้องที่เซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิตรวจพบได้ในขณะนั้น โหมด Cool หรือโหมดทำความเย็น เป็นโหมดการทำงานที่นิยมใช้กันมากที่สุด โดยเมื่อกดปุ่ม แอร์จะเข้าสู่รูปแบบการทำงานสำหรับทำความเย็น และคงระดับอุณหภูมิให้อยู่ในขอบเขตที่เรากำหนด โหมด Dry หรือโหมดลดความชื้น ซึ่งแทนด้วยสัญลักษณ์รูปหยดน้ำ แอร์จะทำหน้าที่เป็นเหมือนเครื่องลดความชื้นมากกว่า โหมด Fan หรือโหมดพัดลม ระบบจะตัดการทำงานในส่วนของชุดคอนเด็นซิ่งยูนิตที่อยู่นอกอาคารออกไป เหลือไว้แต่เพียงชุดแฟนคอยล์หรือคอยล์เย็นในอาคารที่จะยังคงทำงานอยู่ พัดลมคอยล์เย็นจะยังคงทำงานอยู่ ผู้ใช้งานสามารถปรับความเร็วพัดลมได้ แต่ไม่สามารถตั้งอุณหภูมิได้ จบคอร์สการตั้งค่าโหมดต่างๆ เรียบร้อยแล้วแต่แอร์ก็ยังไม่เย็นแสดงว่าการปรับอุณหภูมินั้นไม่ได้ช่วยนัก แต่ปัญหาที่แท้จริงนั้นอาจจะเกิดจากการที่ฝุ่น และสิ่งสกปรกต่างๆ เข้าไปอุดตันข้างใน ทำให้ลมแอร์ไม่เป่าออกมาเท่าที่ควรดังนั้นเราจึงต้องนำฟิลเตอร์แอร์หรือแผ่นกรองอากาศออกมาทำความสะอาดด้วย ทำได้ง่ายๆ แค่ 3 ขั้นตอน ขั้นตอนการทำความสะอาดและดูแลรักษาฟิลเตอร์แอร์ Step1 ถอดตัวฟิลเตอร์แอร์ออกมาจากตัวเครื่องปรับอากาศ Step2 ทำความสะอาดฟิลเตอร์แอร์ โดยการล้างด้วยน้ำเปล่า หรืออาจใช้น้ำยาทำความสะอาดร่วมด้วย Step3 ตากฟิลเตอร์แอร์ให้แห้งสนิท และนำใส่กลับเข้าไปในเครื่องปรับอากาศเหมือนเดิม 2. วิธีกำจัดฝุ่นและคราบสกปรกจากรางประตู ซอกเล็กๆ ก็ล้างออกได้ง่าย รู้หรือไม่ว่ารางประตูเป็นจุดนึงที่สกปรกที่สุดของบ้าน?! สาเหตุนั้นมากจากการทำความสะอาดที่ยากลำบาก ทำให้ไม้กวาดหรือเครื่องดูดฝุ่นก็ไม่สามารถเข้าถึงทุกซอกทุกมุมในรางเล็กๆ นี้ให้หมดเกลี้ยงได้ วิธีทำความสะอาดถูกต้อง คือการหาอุปกรณ์ ที่มีขนาดพอดีกับรางประตู เพื่อสามารถเข้าถึงทุกซอกทุกมุมได้ อุปกรณ์ที่ต้องใช้ 1). สก๊อตซ์ไบรต์ หรือ ฟองน้ำ 2). ปากกาเมจิก 3). คัตเตอร์ ขั้นตอนการทำความสะอาดรางประตู  Step1 นำฟองน้ำมาวางทาบกับรางประตู และใช้ปากกาเมจิกขีดบนฟองน้ำตามแนวขอบราง เพื่อวัดระยะให้พอดีกับ ขนาดรางประตู Step2 ตัดฟองน้ำให้เป็นร่องตามที่ขีดไว้ เพื่อให้สามารถเสียบพอดีกับร่องประตู Step3 นำฟองน้ำไปชุดน้ำ หรือน้ำยาทำความสะอาด…

คอนโด หมู่บ้าน ต้องมีทีมบริหารแบบไหน ถึงเรียกว่าเป็นมืออาชีพ

การเลือกซื้อคอนโด ซื้อบ้าน หรือแม้แต่การ หาเช่าคอนโด นั้น หลายคนคงคิดว่าโครงการที่ดีต้องเป็นแบรนด์ชื่อดัง ดีไซนล้ำ ทำเลที่ตั้งดี พื้นที่ส่วนกลางสวย แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว แต่สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงแค่ภาพรวมภายนอกที่ทำให้เราได้ตัดสินใจซื้อในตอนแรก หลังจากเข้าอยู่อาศัยจริงแล้วต่างหากถึงจะสามารถบอกได้ว่า โครงการที่เราอยู่อาศัยนั้น ความสะดวกสบายในการอยู่อาศัยเป็นอย่างไร เหตุผลที่ทำให้เราภูมิใจและรักโครงการนี้ เพราะมีการบริหารจัดการที่ดีเป็นมืออาชีพใช่หรือไม่ แล้ว คอนโด หมู่บ้าน ต้องมีบริษัท บริหารนิติบุคคล แบบไหน ถึงเรียกว่าเป็นมืออาชีพ?  ใช่แล้ว บุคคลผู้ที่ทำหน้าที่ดูแลความเป็นไปทุกอย่างในโครงการให้เป็นไปอย่างเรียบร้อยอยู่อาศัยสุขสบายก็คือ ทีมนิติบุคคลคอนโดอาคารชุด หรือ นิติบุคคลหมู่บ้าน นั่นเอง หากโครงการไหนมีการบริหารจัดการที่ดี โปร่งใส ทำงานควบคู่กับ คณะกรรมการนิติบุคคลได้เป็นอย่างดี ก็มั่นใจได้เลยว่าโครงการนั้นจะเป็นโครงการที่มีคุณภาพ ลูกบ้านอยู่อาศัยสุขสบาย และยังสามารถเพิ่มมูลค่าในอนาคตให้กับโครงการได้อย่างแน่นอน ในขณะเดียวกัน แม้โครงการนั้นๆ จะมีการออกแบบหรูหราสวยแค่ไหน หรืออยู่ในทำเลที่ล้ำเลิศเพียงใด แต่มีทีมบริหารจัดการที่ไม่มุ่งเน้นประโยชน์แก่ลูกบ้านเป็นสำคัญ ลูกบ้านก็อาจจะต้องทนอยู่อาศัยอย่างไม่มีความสุข ทรัพย์สินของโครงการก็จะเสื่อมโทรมด้อยค่าลงไปเรื่อยๆ ดังนั้นในยุคนี้ บริษัทบริหารนิติบุคคล จึงได้กลายเป็นอีกปัจจัยหนึ่งสำคัญของการอยู่อาศัย และความยั่งยืนของโครงการ ทีนี้เรามาหาคำตอบกันว่า ในทีมบริหารนิติบุคคลชุดหนึ่ง ต้องประกอบไปด้วยใครบ้าง? แล้วแต่ละคนจะเข้ามาช่วยให้โครงการบ้านของเราน่าอยู่ขึ้นเพียงใด ตามมาอ่านกันต่อครับ ทำความรู้จักงานบริหารนิติบุคคลกันก่อน งานบริหารนิติบุคคลคืออะไร? งานบริหารนิติบุคคลจะแบ่งเป็น 2 รูปแบบ คือ นิติบุคคลอาคารชุด หรือ คอนโดมิเนียม และ นิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร โดยงานบริหารจัดการนิติบุคคลอาคารชุด คือ งานที่กฎหมายกำหนดให้ทุกโครงการอาคารชุด หรือ คอนโดมิเนียมทุกแห่งต้องดำเนินการนับตั้งแต่วันที่มีการจดทะเบียนจัดตั้งให้เป็นนิติบุคคลอาคารชุด เพื่อให้ทรัพย์สินส่วนกลางได้รับการจัดการและดูแลรักษาหรือเพิ่มมูลค่าอย่างต่อเนื่อง อยู่ในสภาพที่ดีปลอดภัยต่อการใช้งานและสามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างคุ้มค่า ส่วนงานบริหารนิติบุคคลหมู่บ้าน เป็นรูปแบบของการจัดการหมู่บ้านอย่างหนึ่งที่หมู่บ้านจัดสรรสามารถเลือกจัดตั้งได้ตามความใน พ.ร.บ.จัดสรรที่ดิน พ.ศ.2543 ในหมวดที่ 4 โดยจัดตั้งขึ้นเพื่อรับโอนทรัพย์สินที่เป็นสาธารณูปโภคและพื้นที่ส่วนกลางจากผู้พัฒนาโครงการ (ผู้จัดสรรที่ดิน) เพื่อทำหน้าที่จัดการ ดูแลรักษา สาธารณูปโภค และพื้นที่ส่วนกลาง รวมถึงการจัดให้มีบริการสาธารณะหรือบริการส่วนกลางที่เป็นประโยชน์แก่ส่วนรวม และสมาชิกของหมู่บ้าน ปัจจุบันบริษัทบริหารนิติบุคคลมีมากมาย ตั้งแต่บริษัทรายเล็กที่ดูแลโดยทีมงานเพียงไม่กี่คน บริษัทขนาดกลางที่รับบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์โดยเฉพาะ และบริษัทขนาดใหญ่ที่เป็นบริษัทในเครือของบริษัทพัฒนาอสังหาระดับมหาชน ซึ่งจะมีบริษัทแม่ที่เป็นผู้พัฒนาโครงการคอยให้ความรู้ในการบริหารโครงการได้อย่างมีประสิทธิภาพ งานบริหารนิติบุคคล ประกอบไปด้วยตำแหน่งหน้าที่อะไรบ้าง? ในโครงการหนึ่งๆ จะจัดสรรจำนวนบุคลากรแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับลักษณะอาคาร ขนาดพื้นที่ และจำนวนห้องชุด/บ้าน ในแต่ละโครงการ โดยตำแหน่งหลักๆ ที่สำคัญ มีดังนี้ ผู้จัดการอาคาร / ผู้จัดการหมู่บ้าน Key Person คนสำคัญที่จะช่วยให้แต่ละโครงการอยู่ดีมีสุข เพราะมีหน้าที่วางแผนค่าใช้จ่ายในโครงการให้คุ้มค่า มีประสิทธิภาพมากที่สุด และควบคุมการทำงานทุกสิ่งอย่างให้เป็นไปตามมาตรฐาน ไม่ว่าจะเป็นการกำกับงานบริษัทแม่บ้าน บริษัทรักษาความปลอดภัย ผู้รับเหมา เพื่อรักษาผลประโยชน์ของโครงการให้กับลูกบ้าน รวมทั้งยังต้องให้คำปรึกษา และแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นให้เกิดประสิทธิผลสูงสุด ดูแลความเป็นระเบียบเรียบร้อย ให้ผู้พักอาศัยอยู่ในกฎระเบียบของทางนิติบุคคล เพื่อส่งมอบการบริการที่ดีที่สุด ช่างเทคนิค/ช่างอาคาร ทำหน้าที่ดูแลรับผิดชอบงานบำรุงรักษา ระบบไฟฟ้า ประปา สาธารณูปโภค สระว่ายน้ำ และอีกหลายต่อหลายระบบส่วนกลางงานวิศวกรรมต่าง ๆ ทั้งภายในห้องพักอาศัย และพื้นที่ส่วนกลางโครงการ เพื่อให้ลูกบ้านสามารถใช้งานได้อย่างสะดวกสบายไม่ติดขัด และการตรวจสอบกายภาพรอบ ๆ โครงการ…

7 วิธีการดูแลต้นไม้ พื้นที่สีเขียว งานนิติบุคคลคอนโด นิติบุคคลหมู่บ้าน ให้สวยงามน่าอยู่

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าภูมิทัศน์ที่สวยงาม สร้างความประทับใจให้แก่เจ้าของ ผู้อยู่อาศัย และผู้เข้ามาในโครงการ ทำให้บรรยากาศร่มรื่น สร้างความผ่อนคลาย รวมถึงเป็นการดูแลให้เกิดความปลอดภัยในโครงการอีกด้วย ลองคิดดูนะครับ หากเราไม่มีการดูแลพื้นที่สีเขียวในโครงการ ต้นไม้ หญ้า และพืชพรรณต่างๆ ก็จะเป็นที่หลบซ่อนตัวของสัตว์อันตรายหรือแม้แต่ผู้ไม่หวังดีได้ง่าย หรือหากต้นไม้ใหญ่ขาดการดูแลอย่างถูกต้องก็อาจเกิดการหักโค่น ก่อให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สิน หรือแม้กระทั่งเป็นอันตรายต่อชีวิตคน อีกทั้งการดูแลพื้นที่สีเขียวนั้นยังเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับโครงการ ดังนั้นเราจึงต้องมีการจัดสวนและภูมิทัศน์ต่างๆ ภายในโครงการให้คงความเรียบร้อยสวยงามและปลอดภัยอยู่เสมอนั่นเองครับ วิธีการดูแลรักษาพื้นที่สีเขียวในโครงการให้คงความสวยงามอยู่เสมอ 1. การทำความสะอาดพื้นที่ การเก็บและขนขยะ อย่างแรกเลยเราต้องดูแลเก็บกวาดใบไม้ขยะต่างๆ ในพื้นที่รับผิดชอบให้มีความสะอาดเรียบร้อยอยู่เสมอครับ การ ดำเนินการในกิจการต่างๆ เช่น การขนขยะ เศษวัชพืช หรือวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ก็ต้องดำเนินการด้วยความเหมาะสม เป็นไปตามระเบียบข้อบังคับของงานระบบรักษาความปลอดภัย และ จราจร ไม่กีดขวางและรบกวนการทำงานของผู้อื่นและไม่ทำให้พื้นผิวถนนเกิดความสกปรกเสียหาย สวนภายในโครงการทากะ เฮาส์ ที่มีการดูแลความสะอาดเรียบร้อยอยู่เสมอ 2. การดูแลรักษาตันไม้ หลายๆ คนอาจคิดว่าใครจะมาดูแลสวนดูแลต้นไม้ก็เหมือนกัน เป็นงานที่ใครก็ทำได้ แต่จริงๆ แล้วต้นไม้เป็นสิ่งมีชีวิตที่ซับซ้อนกว่าที่เราคิดครับ ต้นไม้เองก็ต้องการการดูแลเอาใจใส่อย่างถูกวิธี และบางครั้งต้นไม้เองก็ป่วยได้ แต่ต้นไม้เขาไม่สามารถบอกเราได้ว่าเขาป่วยที่ตรงไหน ดังนั้นจึงต้องมีทีมคอยสำรวจต้นไม้อยู่ตลอดเวลา ต้นไหนป่วยไหม โดนโรคหรือแมลงอะไรทำลายไหม เมื่อเห็นความผิดปกติเราจะได้รับทำการแก้ไขต่อไป ต้นไม้ใหญ่ใน โครงการ เวีย โบทานิ ที่พลัสเป็นผู้ดูแลโครงการฯ การให้ความรู้แก่ผู้ดูแลต้นไม้ที่ถูกต้องนั้นถือเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมากนะครับ อย่างเช่นที่พลัสฯ ได้มีการอบรมให้ความรู้แก่พนักงาน โดยผู้เชี่ยวชาญการดูแลต้นไม้ใหญ่ หรือที่เรียกกันว่าหมอต้นไม้ เพื่อที่พนักงานของเราจะได้มีความรู้ความเข้าใจในการตรวจสุขภาพและดูแลจัดการกับต้นไม้อย่างแท้จริง และต้นไม้ฟอกอากาศ เหล่านี้ยังทำให้คุณภาพชีวิตลูกบ้านดีขึ้นด้วย เพื่อให้พนักงานเข้าใจและอนุรักษ์ต้นไม้ใหญ่ในโครงการได้อย่างถูกวิธีครับ โดยพลัสฯ จะขอยกตัวอย่างการดูแลต้นไม้ที่หลายๆ คนมีความเข้าใจผิดนะครับ การดูแลต้นไม้ใหญ่ที่หลายๆ คนเข้าใจผิด 1. การทำไม้ค้ำยัน โดยการตอกกับตัวต้นไม้เลย การทำแบบนี้จะทำให้ต้นไม้ไม่แข็งแรง เพราะทำให้ลำต้นของต้นไม้ติดเชื้อโรคและแมลงเข้าทำลายได้ง่าย 2. การเทคอนกรีตปิดต้นไม้ใหญ่เพื่อความสวยงาม แต่ในความจริงแล้วรากต้นไม้ต้องการน้ำและอากาศ การเทคอนกรีตปิดจะทำให้กระบวนการหายใจของรากแย่ลงจนต้นไม้อ่อนแอ ลองเปลี่ยนมาใช้วัสดุที่โปร่งไม่ปิดทึบเพื่อให้น้ำและอากาศลงสู่รากได้ดูนะครับ 3. การอุดโพรงต้นไม้เพื่อช่วยป้องกันไม่ให้บาดแผลลุกลาม แต่ที่จริงวัสดุอุดโพรงที่เราคุ้นตาอย่างปูนนั้นไม่ยืดหยุ่น เวลาลมพัด ต้นไม้จะบิดตัวจนทำให้ปูนแตกออก เวลาฝนตกน้ำก็เข้าไปขังจนเชื้อโรคเจริญเติบโตได้อยู่ดี การอุดโพรงจึงเป็นแค่การช่วยให้สภาพต้นไม้ดูสวยงามเรียบร้อยขึ้น ทางที่ดีคือดูแลต้นไม้ให้แข็งแรงที่สุด แต่ถ้าโพรงอยู่ในตำแหน่งที่อาจทำให้เกิดอันตราย ต้องตัดลดน้ำหนักต้นไม้เพื่อให้แรงเครียดที่โพรงน้อยลง การฝึกอบรมให้พนักงานประจำโครงการ โซนชะอำ-หัวหิน กับหมอต้นไม้ 3. การดูแลรักษาสนามหญ้า ต้องมีการตัดหญ้าอย่างน้อยเดือนละ 2 ครั้ง พร้อมเล็มขอบหญ้าสนาม ฟุตบาท ขอบทางเท้า ให้ เรียบร้อยสวยงามทั้งพื้นที่ การตัดหญ้าจะต้องคำนึงถึงชนิดของหญ้านั้นๆ โดยหลังจากการตัดหญ้าต้องเก็บเศษหญ้าออกจากสนามและ นำออกไปทิ้งในวันเดียวกับวันที่ตัดหญ้า สำหรับโครงการที่พลัสฯ บริหารดูแลนั้น เราได้มีการใส่ใจดูแลสนามหญ้าอยู่เสมอ เพราะไม่เพียงแต่หมายถึงความสวยงามและหน้าตาของโครงการเท่านั้น แต่ยังไม่ถึงความปลอดภัยของผู้อยู่อาศัยในโครงการอีกด้วย สวนในโครงการเชโลน่า มีการดูแลรักษาให้สวยงามเสมอ 4. การพรวนดิน ต้องพรวนดินก่อนการใส่ปุ๋ย โดยขึ้นอยู่กับขนาดของต้นไม้และเป็นไปตามหลักวิชาการ เพื่อให้พันธุ์ไม้สามารถเจริญเติบโตได้ดียิ่งขึ้น 5.…

ทำความรู้จักงานบริหารของนิติบุคคลคอนโด นิติบุคคลอาคารชุด

คนที่กดเข้ามาอ่านคงมีความสงสัยและสนใจเกี่ยวกับงานบริหารนิติบุคคล การบริหารโครงการที่พักอาศัย การจัดการอาคารชุดว่าคืออะไร ได้ยินคนที่อาศัยอยู่คอนโดจะพูดถึงนิติบุคคลคอนโดอยู่บ่อยๆ แต่ไม่เข้าใจว่าใครเป็นคนดำเนินการ แล้วนิติบุคคลจริงๆ แล้วมีหน้าที่ทำอะไรบ้าง ทำไมต้องมี ถ้าไม่มีจะสามารถอาศัยอยู่ได้หรือไม่ จะซื้อคอนโดหลังแรกในชีวิตอยู่สักหนึ่งห้องหรือเป็นมือใหม่เพิ่งสมัครเป็นชาวคอนโดมาหมาดๆ จำเป็นต้องให้ความสำคัญกับสิ่งเหล่านี้มากน้อยเพียงใด มาหาคำตอบให้หายสงสัยและเตรียมทำความเข้าใจไปพร้อมๆ กันครับ งานบริหารนิติบุคคลอาคารชุดคืออะไร? เริ่มแรกเราต้องรู้จักก่อนว่างานบริหารนิติบุคคลคอนโดฯ นั้นคืออะไร งานบริหารหรือการจัดการนิติบุคคลอาคารชุด คือ งานที่กฎหมายกำหนดให้ทุกโครงการอาคารชุดทุกแห่งต้องดำเนินการนับตั้งแต่วันที่มีการจดทะเบียนจัดตั้งให้เป็นนิติบุคคลอาคารชุด เพื่อให้ทรัพย์สินส่วนกลางได้รับการจัดการและดูแลรักษาหรือเพิ่มมูลค่าอย่างต่อเนื่อง อยู่ในสภาพที่ดีปลอดภัยต่อการใช้งานและสามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างคุ้มค่า รวมถึงดูแลความเป็นระเบียบเรียบร้อยภายในโครงการเพื่อให้เกิดการอยู่อาศัยร่วมกันอย่างสงบสุข นอกจากนี้ยังมีหน้าที่กำหนดนโยบาย ระเบียบการ วางแผน การจัดให้มีการดำเนินงาน/การจัดการงานดูแลทรัพย์สินส่วนกลาง ประเมินสภาพและนำเสนอแผนการปรับปรุงอีกด้วย นิติบุคคลคอนโดฯ ทำหน้าที่อะไรบ้าง? การจัดการดูแลทรัพย์สินส่วนกลางทั้งหมด  วางแผนงบประมาณค่าใช้จ่ายต่างๆ รวมถึงการหาผลประโยชน์จากทรัพย์สินส่วนกลาง ดำเนินการจัดประชุมในวาระต่างๆ เช่น การจัดประชุมใหญ่ประจำปี และจัดกิจกรรมเพื่อการอาศัยอยู่ร่วมกันของลูกบ้านผู้พักอาศัย จัดทำการประชาสัมพันธ์และสื่อสารประกาศข่าวสารต่างๆ นิติบุคคลคอนโดฯ ดูแลทรัพย์สินส่วนกลางอะไรบ้าง? การจัดการทรัพย์สินส่วนกลางเป็นส่วนงานหลักสำคัญของนิติบุคคลคอนโด เพราะพื้นที่ส่วนกลางเป็นพื้นที่ส่วนรวมขนาดใหญ่ มีคนใช้เป็นจำนวนมาก การที่ฝ่ายจัดการฯ เข้ามาทำหน้าที่ในส่วนนี้เพื่อการสร้างสภาพแวดล้อม และการรักษาสภาพการอยู่อาศัยให้ยั่งยืนในระยะยาว และมีสภาพที่มีคุณภาพตามมาตรฐานอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ โดยงานที่ฝ่ายจัดการฯ มีหน้าที่ดำเนินงานมีดังนี้ 1.  การจัดการดูแลอาคารและพื้นที่ส่วนกลาง อาคารและพื้นที่ส่วนกลางของคอนโดมิเนียมหรืออาคารชุด เป็นพื้นที่ซึ่งมีการใช้งานร่วมกันของเจ้าของร่วมและผู้อยู่อาศัยทุกคน ได้แก่ ผนังโดยรอบอาคาร โครงสร้างอาคารและดาดฟ้า รวมไปถึงโถงทางเข้า โถงลิฟต์และทางเดินประจำชั้นต่างๆ  ซึ่งการดูแลในส่วนนี้จะมีผลต่อภาพลักษณ์ ความรู้สึก และความพึงพอใจในการอยู่อาศัย อีกทั้งยังสะท้อนถึงคุณภาพของการจัดการดูแลอาคารและพื้นที่ส่วนกลางภายในอาคารชุดนั้นๆ ด้วย เพราะสภาพที่ดีของอาคารและพื้นที่ส่วนกลางจะมีผลโดยตรงต่อมูลค่าของอาคารชุด โครงการไหนได้รับการดูแลที่ดีย่อมส่งผลให้มูลค่าของอาคารเพิ่มขึ้นทั้งในแง่ของการซื้อขายต่อและปล่อยเช่าควบคู่ไปกับคุณภาพของโลเคชั่นและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ บริเวณ Lobby จากโครงการ เดอะ ไลน์ สุขุมวิท 71 บริหารจัดการโดยพลัส พร็อพเพอร์ตี้ 2. การจัดการงานบำรุงรักษาระบบประกอบอาคาร ระบบประกอบอาคารนี้นับได้ว่าเป็นหัวใจหลักของคอนโดมิเนียมเพราะเป็นส่วนประกอบสำคัญที่ทำให้อาคารชุดใช้งานได้ มีผลโดยตรงต่อความสะดวกสบายและความปลอดภัยของผู้อยู่อาศัย ทั้งยังสะท้อนถึงภาพลักษณ์และระดับคุณภาพในการดูแลอาคารชุด หากไม่มีการดูแลรักษาระบบประกอบอาคารอย่างมีประสิทธิภาพและต่อเนื่อง อาจส่งผลให้เกิดการชำรุดเสียหายจนไม่สามารถใช้งานต่อได้ และจะสร้างความไม่สะดวกสบายแก่ผู้พักอาศัยเป็นอย่างมากเลยทีเดียว การจัดการงานบำรุงรักษาระบบประกอบอาคารนั้นประกอบไปด้วย ระบบน้ำใช้ ระบบท่อน้ำต้องอยู่ในสภาพสมบูรณ์ ไม่รั่วซึม อุปกรณ์ที่จุดจ่ายน้ำใช้งานได้ สภาพลูกลอยหรือวาล์ว ถังเก็บน้ำ สามารถปิดน้ำได้สนิท ระบบเตือนอัคคีภัย มีการตรวจสอบสถานะการใช้งานอย่างสม่ำเสมอ ต้องให้แน่ใจว่าเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินอุปกรณ์ต่างๆ อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน 100% ระบบไฟฟ้ากำลัง ต้องมีกระแสไฟฟ้าใช้ได้ต่อเนื่องไม่ติดขัดอุปกรณ์ภายในตู้โหลด หม้อแปลง และเครื่องกำเนิดไฟฟ้าสำรอง อยู่ในสภาพดี ห้องเครื่องสะอาดเรียบร้อย ระบบบำบัดน้ำเสีย บ่อบำบัด บ่อดักไขมัน อยู่ในสภาพสมบูรณ์ ไม่แตกร้าว ระบบท่อไม่มีจุดรั่ว ชำรุด เครื่องปั๊มน้ำ และเครื่องเติมอากาศ(ถ้ามี) ต้องใช้งานได้ดี ไม่ผุกร่อน ระบบลิฟต์ พร้อมใช้งานตลอดเวลาที่เปิดใช้ มีการเคลื่อนที่อย่างราบเรียบ และจอดได้ตรงตามชั้น แป้นกดไฟสัญญาณ และอุปกรณ์ฉุกเฉิน ทำงานเป็นอย่างดี ระบบไฟฟ้าแสงสว่าง ดวงโคมส่องสว่างครบถ้วน เสาและดวงโคมไม่ชำรุด ระบบไฟฟ้าสำรอง ตรวจเช็คประสิทธิภาพการใช้งานอยู่เป็นระยะ สามารถใช้งานได้ทันทีเมื่อเกิดไฟฟ้าดับ ภาพการตรวจสอบการทำงานระบบต่างๆ ภายในอาคารชุด  3. การจัดการบริเวณโดยรอบอาคารชุด ผู้พัฒนาโครงการฯ มักออกแบบและตกแต่งพื้นที่ที่เป็นบริเวณโดยรอบบางส่วนให้เป็นพื้นที่ภูมิสถาปัตย์ เช่น น้ำพุ พื้นที่สีเขียว รูปปั้น ฯลฯ เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่งดงาม รวมทั้งเป็นองค์ประกอบที่ส่งเสริมให้คอนโดมิเนียมมีเอกลักษณ์โดดเด่น สวยงาม…

3 ปัญหายอดฮิตของชาวคอนโดกับวิธีรับมือที่ต้องรู้!

รวบรวม 3 ปัญหาคอนโดหลักๆ ที่ส่วนใหญ่พบเจอ ทั้งจากเว็บบอร์ดชื่อดังอย่าง pantip.com และกรณีศึกษาจากลูกบ้านที่พลัสฯ บริหารนิติบุคคลอาคารชุด พร้อมมีวิธีแก้ไขมาแบ่งปันให้ได้ทุกคนได้ศึกษาและเตรียมไว้เป็นเกราะป้องกันตามมาเช็ควิธีรับมือกันด่วนๆ จะได้ไม่มีเรื่องปวดหัวน่ากังวลใจตามมา การอยู่คอนโดเป็นทางเลือกที่มาแรงมากในปัจจุบัน เนื่องจากคอนโดในสมัยนี้ล้วนอำนวยให้การเดินทางเป็นเรื่องง่าย สะดวกสบาย ไม่ว่าจะเป็นคอนโดชานเมืองทำเลดีติดเส้นทางรถไฟฟ้า หรือคอนโดในตัวเมืองใกล้ที่ทำงานประหยัดค่าเดินทางที่เพียงเดินไปก็ถึง อีกทั้งพื้นที่ส่วนกลางต่างๆ ที่โครงการให้มาก็ถือว่าคุ้มค่า เป็นชีวิตดีๆ ที่ลงตัวก็ว่าได้ แต่ใครจะไปคิดว่าชีวิตดีๆ ที่ลงตัว อยู่ดีๆ อาจจะกลายเป็นชีวิตที่คิดผิดแบบไม่รู้ตัว กับปัญหายอดฮิตที่มักเจอภายในคอนโด แน่นอนว่าปัญหาบางเรื่องเราก็อาจจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่สามารถป้องกันและแก้ไขมันได้ ข้อมูลจาก pantip.com 1. ปัญหาที่จอดรถไม่เพียงพอ ปัญหาที่จอดรถถือเป็นปัญหาใหญ่ชาวคอนโดอยู่เหมือนกัน หลายต่อหลายครั้งต้องวนหาที่จอดไปเรื่อยๆ และยิ่งเจ็บใจที่เห็นว่ารถที่จอดอย่างอยู่นั้นไม่ใช่รถของลูกบ้านในโครงการเนื่องจากไม่มีสติ๊กเกอร์ หากเจอแบบนี้เราสามารถทำอย่างไรเพื่อแก้ไขปัญหาไม่ให้เกิดขึ้นได้บ้าง? การแก้ปัญหาในเรื่องที่จอดรถไม่เพียงพอไม่มีสูตรสำเร็จแบบตายตัว เพราะบางโครงการมีที่จอดรถเพียงน้อยนิด แต่ก็ไม่ได้เป็นปัญหากับผู้อยู่อาศัย แต่ในขณะที่บางโครงการมีที่จอดรถให้ร้อยเปอร์เซนต์แต่กลับมีปัญหามากกว่า เพราะว่าคอนโดมิเนียมแต่ละแห่งนั้นเลือกใช้วิธีบริหารจัดการที่แตกต่างกันออกไป อาจต้องย้อนกลับไปในช่วงที่ซื้อคอนโดก่อนว่า ทำเลที่ตั้งของคอนโดมิเนียมที่เลือกซื้อนั้นเป็นอย่างไร เพราะหากเลือกซื้อคอนโดมิเนียมที่สามารถเดินถึงระบบขนส่งทางราง เช่น BTS หรือ MRT ก็จะพบว่าคอนโดมิเนียมเหล่านี้มีปริมาณรถที่มาจอดไม่หนาแน่นเท่ากับคอนโดมิเนียมที่อยู่ไกลจากระบบขนส่งสาธารณะไม่สามารถเดินถึงได้ แต่สิ่งสำคัญมากที่สุดก็คือการบริหารจัดการของนิติบุคคลที่มีประสิทธิภาพถือว่ามีผลต่อภาพรวมของการดูแลคอนโดมิเนียมทั้งระบบต่างหากครับ ปัญหาคอนโดเรื่องที่จอดรถสุดคลาสสิคที่มักเจอได้แก่ ปัญหาจอดรถซ้อนคันแล้วดึงเบรกมือ หรือมีรถอื่นที่ไม่ใช่รถลูกบ้านที่มีสิทธิ์จอดแอบอ้างมาจอด จอดรถมากกว่า 1 คันตามสิทธิ์ที่ควรจะได้ ปัญหาคอนโดเหล่านี้แนะนำให้แจ้งนิติบุคคล โดยวิธีแก้ปัญหาเรื่องพื้นที่จอดรถของคอนโดมิเนียมที่ฝ่ายจัดการฯ นิยมใช้คือเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบและคัดกรองรถบุคคลภายนอกอย่างรอบคอบ รวมไปถึงการออกกฎและค่าปรับต่างๆ หากใครฝ่าฝืนอาจมีการล็อคล้อและเสียค่าปรับเพื่อนำเงินส่วนนี้มาบำรุงส่วนกลาง หรือการเปิดลงทะเบียนทำสติ๊กเกอร์  โดยให้นำเล่มทะเบียนรถยนต์มาด้วยเพื่อนับจำนวนรถจริงๆ นอกจากนี้นิติบุคคลต้องกำหนดรหัสในสติ๊กเกอร์ในแต่ละใบ เพื่อป้องกันการทำสติ๊กเกอร์ปลอม รวมถึงต้องกำหนดโทษปรับสำหรับผู้ที่ทำสติ๊กเกอร์ปลอมที่รุนแรง เช่น  มีการปรับเป็นจำนวนเงินที่สูงมาก เป็นต้น 2. สารพัดปัญหาเพื่อนบ้าน ปัญหาเพื่อนบ้านเป็นอีกหนึ่งปัญหาคอนโดสุดฮิตไม่ว่าจะเป็นเรื่องส่งเสียงดัง จัดปาร์ตี้แบบไม่เกรงใจ ทะเลาะมีปากเสียงกัน ตกแต่งต่อเติมห้อง หรือ กลิ่นไม่พึงประสงค์ต่างๆ ทั้งกลิ่นอาหาร กลิ่นบุหรี่ และอื่นๆ อีกมากมาย ปัญหาคอนโดเหล่านี้อาจจะเป็นเรื่องที่เราไม่อาจคาดเดาได้ว่าข้างๆ ห้องของเรานั้นจะเจอพฤติกรรมรูปแบบไหน แต่เมื่อเกิดปัญหาขึ้นแล้ววิธีแก้ไขคือ หลีกเลี่ยงหลีกการปะทะกันทุกรูปแบบ ทางที่ดีที่สุดคือการแจ้งนิติบุคคลคอนโดให้ขึ้นมาจัดการ เป็นคนกลางผู้ประสาน ไกล่เกลี่ยปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น เพราะนิติบุคคลคอนโด สามารถใช้ระเบียบวิธีการ ข้อกำหนดกฏเกณฑ์ ต่างๆ เป็นเครื่องมือในการพูดคุย ช่วยระงับปัญหาที่เกิดขึ้นได้ โดยเราไม่จำเป็นต้องแสดงตัวให้อีกฝ่ายรับรู้ว่าเราเป็นผู้แจ้ง แต่ยังมีอีกหนึ่งหนทางออกที่ดีที่สุดคือ การที่เราเข้าไปทำความรู้จักแสดงมิตรไมตรีที่ดีต่อกันกับเพื่อนรอบๆ ห้อง ทั้งซ้าย ขวา ห้องตรงข้าม หรือห้องข้างบน และห้องข้างล่าง หากเราเป็นเพื่อนบ้านที่รู้จักกัน เคยทำกิจกรรมร่วมกัน หรือเคยพูดคุยทักทายกันบ่อยๆ พฤติกรรมแย่ๆ ก็อาจจะลดน้อยลงเพราะความเกรงใจจะเพิ่มมากขึ้นครับ 3. ปัญหาท่อน้ำตัน น้ำรั่วซึม เจอปัญหาคอนโดนี้เข้าไปคนอยู่อาศัยอาจจะซึมแข่งกับท่อน้ำในห้องเลยก็ว่าได้  ทั้งปัญหาท่อน้ำตันบ้าง น้ำรั่วซึมบ้าง น้ำไม่ไหลบ้าง ครั้นจะตามช่างอาคารมาแก้ไขบ่อยๆ ก็ไม่สะดวก ยิ่งหากเป็นผู้หญิงอาศัยคนเดียวด้วยแล้ว จะตามช่างผู้ชายเข้าออกห้องบ่อยๆ ก็ดูท่าจะไม่ปลอดภัยนัก   ในส่วนของปัญหานี้ต้องดูถึงสาเหตุหลัก อย่างเช่นปัญหาน้ำรั่วซึมในบางครั้งอาจเกิดจากพื้นของห้องด้านบนที่ตรงกับเราเกิดยาแนวสึกหรอก็ต้องตามแก้กันที่ต้นเหตุให้นิติบุคคลคอนโดเป็นฝ่ายจัดการแก้ไขให้ ส่วนเรื่องปัญหาท่อตันในบางครั้งอาจเกิดจากการที่ผู้พักอาศัยเองทิ้งขยะชิ้นใหญ่ลงไปส่งผลให้ท่อเกิดการอุดตัน แต่หากเราไม่เคยทิ้งขยะลงท่อน้ำหรือชักโครก ก็ให้แจ้งนิติบุคคลขึ้นมาแก้ไขจัดการให้ หรือคลิกชมวิดีโอ…

สูตรสำเร็จต่อยอดโบนัส ด้วยการลงทุนอสังหาฯ แล้วจ่ายโบนัสให้ตัวเองทุกเดือน

ช่วงต้นปีแบบนี้ สิ่งที่มนุษย์เงินเดือนอย่างเราๆ ตั้งหน้าตั้งตารอคงหนีไม่พ้นโบนัส รางวัลแห่งความทุ่มเทและผลงานในปีที่ผ่านมา เพื่อแลกกับความสุขที่ได้กิน ดื่ม เที่ยว ช้อปกระหน่ำให้สมแก่การรอคอย แต่พอคิดดูอีกทีโบนัสที่เราต้องแลกมาด้วยการทำงานทั้งปีจะหมดไปง่ายๆ แบบนี้ก็อาจจะไม่คุ้มเท่าไร เพราะต้องรออีกตั้งนานกว่าจะได้โบนัสอีกรอบ แต่ถ้าเรายอมอดใจเอาไว้ก่อนแล้วเอาเงินโบนัสนี้ไปลงทุนให้ได้ผลตอบแทนกลับมาเรื่อยๆ เหมือนจ่ายโบนัสให้ตัวเองทุกๆ เดือน แบบนี้น่าสนใจกว่ากันตั้งเยอะจริงไหมครับ การลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำแถมยังให้ผลตอบแทนกลับมาอย่างสม่ำเสมอ ทำให้การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์นั้นน่าสนใจมาก โดยในระหว่างการลงทุนเราก็จะได้รับผลตอบแทนเป็นค่าเช่ากลับมาจากการปล่อยเช่า และแม้ว่าจะขายออกไปในภายหลังก็ยังได้กำไรกลับมาอีกด้วย เมื่อเทียบอัตราผลตอบแทนแล้วก็พอๆ กับการลงทุนในหุ้นเลยครับ เริ่มต้นลงทุนอสังหาฯ ระยะสั้น ต่อยอดโบนัสได้ทันที เงินโบนัสที่ได้นั้นอาจไม่มากมาย เพียงแค่หลักหมื่นก็สามารถลงทุนอสังหาริมทรัพย์ได้แล้ว โดยเริ่มจากการลงทุนระยะสั้นที่ให้ผลตอบแทนสูงตั้งแต่ 20% ขึ้นไป ด้วยการซื้อขายใบจอง ซึ่งกำไรจากการขายใบจองนั้นจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับว่าโครงการที่ลงทุนตั้งอยู่ในทำเลที่มีความต้องการสูงมากน้อยแค่ไหน หากเป็นคอนโดที่ตั้งอยู่ในย่านธุรกิจใจกลางเมือง ในบริเวณที่ที่ดินโดยรอบถูกจับจองพัฒนาไปหมดแล้ว แถมยูนิตที่จองซื้อไว้นั้นยังเป็นห้องที่ตั้งอยู่ในทิศที่มีวิวดีเป็นพิเศษ หรือรูปแบบห้องมีความเฉพาะตัวมีเพียงชั้นละไม่กี่ห้อง กำไรจากการขายใบจองอาจสูงถึง 80% ดังนั้นถ้าเรานำเงินโบนัส 80,000 บาท ไปลงทุนซื้อขายใบจองก็จะสามารถต่อยอดเงินก้อนนี้ได้ตั้งแต่ 96,000 – 144,000 บาท เมื่อเรานำเงินที่ได้กลับไปซื้อขายใบจองอีก 3-4 ครั้ง จากเงินก้อนเล็กๆ นี้เองจะสามารถต่อยอดขึ้นไปได้ถึง 400,000 บาท ณ จุดนี้ถ้ามองย้อนกลับไปจะพบความอัศจรรย์ใจว่าเงินโบนัสที่เราได้มานั้นเพิ่มขึ้นเป็น 5 เท่าตัวจากการลงทุนในระยะเวลาสั้นๆ ลงทุนอสังหาฯ ต่อเนื่องในระยะยาว สร้างรายได้สม่ำเสมอ จากเงินโบนัสที่ถูกต่อยอดด้วยการลงทุนระยะสั้นให้เพิ่มพูนขึ้นเป็นเงินก้อนขนาดกลาง 400,000 บาทนี้ ก็เพียงพอที่จะเริ่มต้นการลงทุนระยะยาวได้แล้ว โดยทั่วไปค่าใช้จ่ายในการดาวน์คอนโดจะอยู่ระหว่าง 20-30% ของราคาคอนโด ดังนั้นเงินจำนวน 400,000 บาทนี้ เราจะสามารถดาวน์คอนโดราคาประมาณ 2 ล้านบาทได้ สำหรับส่วนที่เหลืออีก 1,600,000 บาทนั้น เราสามารถขอสินเชื่อจากธนาคารได้ครับ โดยที่งวดผ่อนธนาคารจะอยู่ที่ประมาณ 9,600 บาท (สัดส่วนวงเงินกู้ต่องวดผ่อนชำระ ประมาณ 1 ล้านบาทต่อ 6,000 บาท) แถมบางธนาคารยังให้กู้เผื่อค่าโอน ค่าประกันและค่าจดจำนองด้วย เรียกได้ว่าแทบจะไม่ต้องควักเงินตัวเองสักบาทเลย หลักการประเมินรายได้จากการปล่อยเช่า แต่ก่อนที่จะลงทุนซื้อคอนโดสักห้องเพื่อมาปล่อยเช่า ผู้ลงทุนควรศึกษาความเป็นไปได้อย่างรอบคอบ เริ่มต้นตั้งแต่ค่าเช่าในทำเลนั้น โดยพิจารณาดูจากค่าเช่าภายในโครงการเดียวกัน และโครงการอื่นๆ ในละแวกใกล้เคียง หรือศึกษาอัตราค่าเช่าในแต่ละพื้นที่ จากข้อมูลตลาด ข่าวสาร งานวิจัยต่างๆ หรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์ เช่น คอนโดของเรา ชื่อโครงการ B ตั้งอยู่ในโซนอ่อนนุช ราคาซื้อมาตอนเปิดตัว 2 ล้านบาท อัตราค่าเช่าอยู่ที่ 520 บาท/ตารางเมตร หากเราเลือกลงทุนคอนโดแบบ 1 ห้องนอน พื้นที่ 30 ตารางเมตรก็จะได้รับค่าเช่าประมาณ 15,600 บาทต่อเดือน จากอัตราค่าเช่าที่ได้นี้ ลองประมาณการค่าเช่าทั้งปีโดยคิดที่…