เทคนิคแต่งคอนโด 2 ห้องนอน ให้สวยน่าอยู่เหมือนบ้าน

โดยทั่วไปคอนโดมีพื้นที่ค่อนข้างจำกัด เมื่อเทียบกับบ้านหลังใหญ่ที่มีพื้นที่มากกว่า แต่การตกแต่งที่เหมาะสมสามารถช่วยให้คอนโดดูกว้างขึ้น ตอบโจทย์การใช้งาน และให้ความรู้สึกอบอุ่นได้ไม่ต่างจากบ้าน ในบทความนี้ พลัสฯ จะพามาเปิดเทคนิคแต่งคอนโด 2 ห้องนอน ให้สวยน่าอยู่เหมือนบ้าน เทคนิคแต่งคอนโด 2 ห้องนอน การตกแต่งคอนโด 2 ห้องนอน ให้สวยน่าอยู่สามารถทำได้ไม่ยาก เพียงทำตาม 5 เทคนิค ได้แก่ 1. แบ่งสัดส่วนห้องอย่างชัดเจน โดยปกติคอนโด 2 ห้องนอน มักมีการสร้างกำแพง และติดตั้งประตู เพื่อแบ่งห้องนอนออกเป็น 2 ห้องอยู่แล้ว แต่บางโครงการอาจไม่ได้มีการแบ่งพื้นที่หรือกั้นห้องครัว ห้องนั่งเล่น และห้องรับประทานอาหารมาให้ด้วย ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้พื้นที่โดยรวมดูคับแคบ ไม่เป็นระเบียบ และไม่ตอบโจทย์การใช้งาน อย่างไรก็ตาม โครงการส่วนใหญ่ไม่อนุญาตให้มีการสร้างกำแพงขึ้นมาใหม่ เพื่อแบ่งพื้นที่ใช้งานภายในยูนิตห้อง เพราะอาจส่งผลกระทบต่อโครงสร้างอาคารโดยรวม แต่ผู้อยู่อาศัยสามารถแบ่งพื้นที่การใช้งานได้ด้วยเทคนิค ดังนี้ ใช้ชั้นวางของ/หนังสือที่มีความสูงเหนือศีรษะเป็นตัวแบ่งพื้นที่การใช้งาน ติดตั้งบานกระจกแบบเลื่อนได้ ติดตั้งผ้าม่านที่มีความยาวตั้งแต่เพดานจรดพื้น 2. เลือกผนังหรือวอลล์เปเปอร์สีอ่อน การทาสีภายในหรือติดตั้งวอลล์เปเปอร์สีอ่อนสามารถช่วยให้ห้องดูกว้าง และโล่งโปร่งมากยิ่งขึ้น เช่น สีขาว สีเบจ สีครีม และสีเทาอ่อน แต่หากต้องการให้ภายในยูนิตห้องมีบรรยากาศอบอุ่นร่วมด้วย แนะนำให้เลือกใช้สีอ่อนโทนอุ่น เช่น สีเหลืองพาสเทล สีเบจ และสีครีม 3. เน้นใช้เฟอร์นิเจอร์ Multi-function เฟอร์นิเจอร์ Multi-function จะช่วยประหยัดพื้นที่ และทำให้ห้องดูเป็นระเบียบมากยิ่งขึ้น เช่น เตียงนอนเก็บของได้ ชั้นวางทีวีแบบมีลิ้นชัก ตู้เสื้อผ้าพร้อมกระจก และอื่นๆ โดยแนะนำให้เลือกสีเฟอร์นิเจอร์ที่เข้ากับสีผนัง เช่น หากต้องการคุมโทนห้องสีขาว แนะนำให้เลือกเฟอร์นิเจอร์สีขาวคู่กับผนังสีขาว ต้องการให้ห้องดูอบอุ่นอาจเลือกเฟอร์นิเจอร์สีน้ำตาลอ่อน สีครีม และใช้ผนังเป็นสีเบจ 4. เลือกใช้ผ้าม่านและพรมสีอ่อน ผ้าม่าน และพรมสีอ่อนช่วยพรางตาให้ห้องดูโล่งโปร่งมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม ควรหลีกเลี่ยงการใช้ผ้าม่านแบบบาง เพราะอาจป้องกันความร้อนจากภายนอกได้ไม่ดีนัก โดยเฉพาะยูนิตห้องที่อยู่ชั้นสูง ซึ่งถูกแสงแดดส่องเกือบตลอดทั้งวัน แต่หากต้องการใช้ผ้าม่านแบบบางเพื่อรับแสงแดดธรรมชาติบ้าง แนะนำให้เลือกผ้าม่าน 2 ชั้น ที่มาพร้อมผ้าม่านโปร่งสำหรับรับแสงแดดและผ้าม่านปกติที่อาจเป็น Dim Out หรือ Black Out สำหรับกันแดดและแสงยูวี เพื่อการใช้งานที่ยืดหยุ่นต่อสภาพอากาศและแสงแดด 5. เลือกใช้พื้นไม้ ด้วยคุณลักษณะของพื้นไม้ที่ช่วยทำให้บรรยากาศดูอบอุ่น การเลือกพื้นไม้จึงเป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่ทำให้ห้องน่าอยู่มากขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องรื้อพื้นเก่าที่โครงการให้มา เพราะสามารถติดตั้งพื้นไม้เทียมหรือกระเบื้องลายไม้แทนได้ อย่างไรก็ตาม การตกแต่งคอนโด 2 ห้องนอน ด้วยตนเองต้องอาศัยทั้งเวลา และงบประมาณค่อนข้างมาก ส่งผลให้ผู้อยู่อาศัยหลายคนเลือกซื้อคอนโด 2 ห้องนอน ตกแต่งสวยพร้อมอยู่ ซึ่งถือเป็นอีกทางเลือกของผู้ที่ไม่สะดวกตกแต่งคอนโดด้วยตนเอง แนะนำคอนโด 2 ห้องนอน ตกแต่งสวยพร้อมอยู่ รวม…

รู้ก่อนเลี้ยง เตรียมตัวให้พร้อมก่อนเลี้ยงสัตว์ในบ้านและคอนโด

‘รักเขาเหมือนลูก’ ‘รักเขาเหมือนคนในครอบครัว’ คำนี้ไม่เกินจริง สำหรับกลุ่มคนที่รักสัตว์และมีสัตว์เลี้ยงอย่างแน่นอน นับตั้งแต่การระบาดของโควิด-19 การกักตัวและมาตรการการล็อกดาวน์ (Lockdown) ส่งผลให้ผู้คนจำนวนมากหันมาเลี้ยงสัตว์มากขึ้นเนื่องจากเป็นที่พึ่งคลายเหงาได้ดี ในวันที่ไม่สามารถพบเจอใครได้ แม้จะผ่านมาแล้วกว่า 2 ปี แต่อัตราการเลี้ยงสัตว์กลับสูงขึ้นต่อเนื่อง จนเกิดเป็น ‘Pet Humanization’ หรือการเลี้ยงสัตว์แบบสมาชิกในครอบครัวอย่าง ‘Pet Parenting’ ทำให้หลายคนหันมาเลี้ยงสัตว์ และอยากมีสัตว์เลี้ยงเพิ่มขึ้นด้วย แต่บางครั้งก็ติดปัญหาเรื่องที่อยู่อาศัย ทำให้ปัจจุบัน เทรนด์ที่อยู่อาศัยแบบเอื้อต่อสัตว์เลี้ยงมีเพิ่มมากขึ้นเพื่อตอบโจทย์ Pet Lover แต่ก็มีบางครั้งที่เจ้าของมักแอบเลี้ยงเหล่าสัตว์เลี้ยงแสนรักแม้จะไม่ได้รับอนุญาต และก็ยังมีปัญหาอีกมากของการอยู่ร่วมกับระหว่างคนที่เลี้ยงและไม่ได้เลี้ยงสัตว์ แล้วต้องเลี้ยงอย่างไร? อยู่แบบไหน? ต้องมีกฏระเบียบอย่างไรถึงจะมีความสุขทั้งคนและสัตว์เลี้ยงแสนรัก หาคำตอบของการอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขได้ในบทความนี้ แอบเลี้ยงสัตว์ส่งผลเสียอย่างไร มาเริ่มกันที่ข้อเสียของการแอบเลี้ยงสัตว์ นับเป็นเรื่องคลาสสิกที่ทำให้ทั้งคนเลี้ยงและคนรอบข้างได้รับความเดือดร้อนไปตามๆ กัน ส่วนมากการแอบเลี้ยง มักจะเป็นการแอบเลี้ยงของเจ้าของที่อาศัยอยู่คอนโด นอกจากผิดกฎแล้ว ลองมาดูกันว่ามีข้อเสียอะไรอีกบ้าง 1. ปัญหาเรื่องของกลิ่น การจัดการสิ่งปฏิกูล และเสียงของสัตว์เลี้ยง นับเป็นปัญหาใหญ่สำหรับเรื่องของสุขอนามัย อาจทำให้เกิดการปนเปื้อน แย่กับสุขภาพทั้งเจ้าของและเหล่าน้องๆ แสนรัก อีกทั้งกลิ่นและเสียงอาจรบกวนเพื่อนบ้าน จนสร้างบรรยากาศการอยู่อาศัยที่ไม่ดีให้แก่กัน 2. เพื่อนบ้านที่แพ้ขนสัตว์ แม้จะไม่เจอ หากข้างห้องและเพื่อนร่วมชั้นเป็นภูมิแพ้ เจ้าสารก่อภูมิแพ้สามารถลอยในอากาศจนไปกระตุ้นให้เกิดการแพ้ขึ้นได้ นำไปสู่การถูกจับได้ในที่สุด 3. สัตว์เลี้ยงและเจ้าของเกิดความเครียด ในตอนที่ต้องพาไปหาหมอ ก็ต้องแอบนำน้องใส่กระเป๋าเงียบๆ หากมีคนเข้าลิฟต์แล้วน้องส่งเสียงล่ะ? จะเกิดอะไรขึ้น? เพราะการแอบเลี้ยงสัตว์ในคอนโดที่ห้ามเลี้ยง เป็นการฝ่าฝืนกฎและอาจถูกปรับหรือต้องนำน้องไปอยู่ที่อื่นได้ ความกดดันจากเรื่องของกลิ่นและเสียงที่อาจรบกวนข้างห้อง อาจทำให้เจ้าของเกิดความเครียด ยิ่งเวลาที่จะต้องออกจากห้องแล้วทิ้งสัตว์เลี้ยงให้อยู่เพียงลำพัง ก็กังวลว่าน้องส่งเสียงรบกวนหรือไม่ ยิ่งไปกว่านั้นพื้นที่ที่จำกัด สำหรับน้องๆ บางตัวอาจทำให้รู้สึกอึดอัดจนเกิดความเครียดจนอาจ ทำลายข้าวของ กัดเฟอร์นิเจอร์ได้ 4. ผิดกฎระเบียบ ถูกปรับ หรือต้องย้ายออก แม้การฝ่าฝืนกฎหรือข้อบังคับคอนโดจะไม่ได้เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย แต่การแอบเลี้ยงสัตว์ในคอนโด ก็ยังเป็นเรื่องที่ผิดอยู่ดี แม้สัตว์ที่เราเลี้ยงจะไม่มีพิษ และไม่สามารถลอดช่องประตูออกมาได้ แต่หากข้างห้องผู้แพ้ขนสัตว์ร้องเรียน อาจลุกลามบานปลายเป็นเรื่องใหญ่ได้ ทำให้ต้องใช้นิติบุคคลเข้ามาไกล่เกลี่ย แต่ในเมื่อผิดข้อบังคับตั้งแต่แรก การโต้แย้งของคุณก็อาจไม่มีน้ำหนักมากพอนั่นเอง เห็นได้ชัดว่าการแอบเลี้ยงสัตว์ในคอนโด แม้จะไม่ผิดกฎหมาย แต่ก็สร้างความเดือดร้อนรำคาญใจให้กับทั้งตัวเจ้าของ น้องๆ และผู้อาศัยร่วมด้วยนั่นเอง รักต้องรู้ เตรียมตัวให้พร้อมก่อนเลี้ยงสัตว์ หลังจากทราบข้อเสียของการแอบเลี้ยงสัตว์ในคอนโดไปแล้ว มาดูกันว่า หากเราต้องการเลี้ยงสัตว์ในคอนโด เราต้องเลือกคอนโดแบบไหน มีคุณสมบัติอะไรบ้าง เพื่อให้เราและน้องๆ ได้อยู่แบบมีความสุข ไม่เดือดร้อนเพื่อนบ้านและไม่ต้องหลบๆ ซ่อนๆ 1. หากจะอยู่คอนโดต้องเลือกคอนโดที่เลี้ยงสัตว์ได้ หากจะอยู่คอนโดสำคัญที่สุดและเป็นข้อแรกที่ต้องคำนึงก่อนเลือกซื้อคอนโด หรือเช่าคอนโด ต้องหาคอนโดที่อนุญาตให้สามารถเลี้ยงน้องสัตว์ได้ โดยอาจเลือกจาก คอนโดที่มีประกาศ หรือชี้แจงอย่างเป็นทางการ ไม่ว่าด้วยการโฆษณาเปิดโครงการ หรือข้อมูลทางเว็บไซต์ที่เราเห็นได้อย่างชัดเจนว่า ทางโครงการนี้อนุญาตให้เลี้ยงสัตว์เลี้ยงได้ เพราะนอกจากจะทำให้ คนที่เลือกซื้อ หรือเช่าคอนโดนี้ทุกคนรับทราบและยอมรับได้ที่มีเพื่อนบ้านเลี้ยงน้องหมาหรือแมว โดยปกติแล้วคอนโดเลี้ยงสัตว์ได้จะมีเงื่อนไข กฎการอยู่อาศัยร่วมกัน ดังนี้ ส่วนใหญ่จะไม่ให้เลี้ยงพันธุ์ที่มีพฤติกรรมดุร้าย และอนุญาตเลี้ยงสัตว์พันธุ์เล็กเท่านั้นเช่นสุนัขพันธุ์…

คอนโด 2 ชั้น มีกี่แบบ? แนะนำ 5 คอนโด 2 ชั้นให้เช่า

แม้คอนโดจะได้รับความนิยมเป็นตัวเลือกที่อยู่อาศัยของกลุ่มคนรุ่นใหม่ แต่หลายคนยังมองหาพื้นที่การใช้ชีวิตที่กว้างขวาง และให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน ส่งผลให้คอนโด 2 ชั้น ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น ในบทความนี้ พลัสฯ จะพาไปส่องประเภทของคอนโด 2 ชั้น พร้อมแนะนำ 5 พิกัด คอนโด 2 ชั้นให้เช่า ข้อดีของคอนโดสองชั้น คอนโด 2 ชั้น คือ ยูนิตอยู่อาศัยที่แบ่งออกเป็น 2 ระดับ และมีบันไดเชื่อมต่อระหว่างชั้นบนกับชั้นล่างอยู่ภายในยูนิต ซึ่งมีข้อดีเหนือกว่าคอนโด 1 ชั้น (Simplex) อยู่หลายด้าน เช่น 1. ความสูงจากพื้นถึงเพดานมากกว่า ด้วยระดับความสูงจากพื้นถึงเพดานที่มากกว่า ส่งผลให้บรรยากาศพื้นที่ภายในดูโล่งโปร่ง และแสงธรรมชาติสามารถเข้ามาได้มากกว่า ซึ่งช่วยสร้างความรู้สึกผ่อนคลายให้กับผู้อยู่อาศัย 2. พื้นที่ใช้สอยมากกว่า คอนโด 2 ชั้น มีพื้นที่ใช้สอยโดยรวมที่มากกว่าคอนโด 1 ชั้น แม้จะมีจำนวนห้องนอน และห้องน้ำเท่ากัน ซึ่งช่วยให้ผู้อยู่อาศัยไม่รู้สึกแออัดจนเกินไป และสามารถเก็บของใช้ต่างๆ ได้มากขึ้น 3. จัดสรรพื้นที่ได้มากขึ้น โดยทั่วไปคอนโด 2 ชั้น จะมีพื้นที่ส่วนกลางมากกว่าคอนโด 1 ชั้น เช่น ห้องนั่งเล่น ห้องครัว ห้องรับประทานอาหาร และอื่นๆ ซึ่งช่วยสร้างบรรยากาศที่ดูเป็นบ้านมากยิ่งขึ้น ข้อดีทั้งหมดนี้ทำให้คอนโด 2 ชั้น ได้รับความนิยมมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ ครอบครัวขนาดเล็ก และคู่รัก ประเภทของคอนโด 2 ชั้น คอนโด 2 ชั้น มีหลากหลายประเภท ขึ้นอยู่กับเอกลักษณ์ด้านการออกแบบ โดยคอนโด 2 ชั้น ที่ได้รับความนิยมในประเทศไทยมีทั้งหมด 3 ประเภท คือ 1. Duplex คอนโด Duplex เป็นประเภทคอนโด 2 ชั้น ที่พบเห็นได้มากที่สุด โดยมีทางเข้าจากภายนอกยูนิตอยู่ที่ชั้น 1 และมีบันไดอยู่ภายในสำหรับเชื่อมชั้นบนกับชั้นล่าง ทั้งนี้ คอนโด Duplex มักออกแบบให้พื้นที่ใช้สอยชั้น 1 เป็นพื้นที่ส่วนกลาง เช่น ห้องครัวหรือห้องนั่งเล่น 2. Maisonette คอนโด Maisonette มีความคล้ายคลึงกับคอนโด Duplex แต่มีทางเข้าจากภายนอกยูนิต 2 ทาง ทั้งจากชั้น 1 และชั้น 2…

ย้ายทะเบียนบ้านออนไลน์ใน 6 ขั้นตอนปี 2567

ในปัจจุบันไม่ว่าเรื่องอะไรก็ต้องการความสะดวก รวดเร็ว แต่การติดต่อขอดำเนินการทางเอกสารบางอย่าง เช่น “การย้ายทะเบียนบ้าน” บางครั้งก็ต้องใช้เวลานานเหลือเกิน แต่หายห่วง! เพราะตอนนี้สามารถย้ายทะเบียนบ้านออนไลน์ได้แล้ว ไม่ต้องไปสำนักงาน ไม่ต้องนั่งรอคิวเป็นชั่วโมง ทำด้วยตัวเอง ที่ไหนก็ได้ สะดวกสุดๆ ย้ายทะเบียนบ้านออนไลน์ทำได้ไหม? หากมีการย้ายทะเบียนบ้านออนไลน์ต้องทำอย่างไร? การย้ายทะเบียนบ้านออนไลน์จะยุ่งยากหรือเปล่า? บทความนี้จะคลายทุกข้อสงสัย จะมีขั้นตอนอะไรบ้างสำหรับการย้ายทะเบียนบ้านออนไลน์ ตามมาดูกัน ขั้นตอนการย้ายทะเบียนบ้านออนไลน์ การย้ายทะเบียนบ้านออนไลน์ทำได้ง่ายๆด้วย “แอปพลิเคชั่น ThaiD ” ที่ถูกพัฒนาขึ้นโดย กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ดังนั้น ก่อนอื่นต้องดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นและทำการลงทะเบียนให้เรียบร้อยก่อน (ทางฝั่งเจ้าบ้านก็ต้องทำการลงทะเบียน ThaiD เพื่อกดยืนยันข้อมูลการแจ้งย้ายเข้าด้วยเช่นกัน) วิธีลงทะเบียนใช้งาน THAID ด้วยตนเอง เตรียมพร้อมย้ายทะเบียนบ้านออนไลน์ 1. เข้าแอปพลิเคชัน “THAID” (ไทยดี) กด “เริ่มต้นใช้งาน” 2. กด “เลือกลงทะเบียนด้วยตนเอง” หลังจากอ่านเงื่อนไขการใช้บริการต่างๆ เรียบร้อยแล้ว “กดปุ่มยอมรับ” และ “กดถัดไป” 3. “ถ่ายรูปหน้าบัตรประจำตัวประชาชนและหลังบัตรฯ” เมื่อตรวจสอบความเรียบร้อยเสร็จแล้วให้ “กดปุ่มยืนยัน” 4. ตรวจสอบข้อมูลให้ถูกต้อง หากไม่ถูกต้อง แก้ไขให้เรียบร้อย แล้วกดยืนยัน 5. ถ่ายรูปให้ตรงตามคำแนะนำที่ขึ้น เมื่อเรียบร้อยแล้ว “กดปุ่มยืนยัน” 6. สร้างรหัสเพื่อความปลอดภัยด้วยเลข 8 หลัก และกดยืนยันอีกครั้ง ห้ามใช้ตัวเลขเรียงกันหรือใช้ซ้ำเกินได้ไม่เกิน 4 ตัว เช่น 1234, 1111, 2222 เป็นต้น จากนั้นยืนยันการสร้างสิ่งแทนดิจิทัล แล้วจึงกดรหัสความปลอดภัยที่เราพึ่งสร้าง เพื่อยืนยัน ลงทะเบียนใช้งาน แอป THAID เรียบร้อย! เตรียมพร้อมสำหรับการย้ายทะเบียนบ้านออนไลน์   วิธีย้ายทะเบียนบ้านออนไลน์ด้วย ThaiD 1. เข้าแอป ThaiID เลือก “การแจ้งการย้ายที่อยู่” 2. กรอก เลขบัตรประชาชนของเจ้าบ้านที่เราจะย้ายเข้าไป 3. กดส่งคำร้องขอเจ้าบ้าน 4. จากนั้นจะมีข้อความ (SMS) ให้ทำการยืนยันตัวตนและให้ความยินยอมยืนยันส่งไปที่เจ้าบ้าน 5. เมื่อเจ้าบ้านกดยืนยันและยินยอมจากนั้นข้อมูลก็จะส่งไปยังนายทะเบียนของสำนักงานเขตหรืออำเภอที่อยู่ปลายทางที่ทำการแจ้งย้ายเอาไว้ 6. นายทะเบียนจะดำเนินการอนุมัติการแจ้งย้าย และแจ้งผลการอนุมัติให้กับผู้ขอย้ายและเจ้าของบ้านทราบ โดยการย้ายทะเบียนบ้านนั้นจะสำเร็จก็ต่อเมื่อเจ้าของบ้านที่เราจะย้ายเข้าไปกดยินยอม เพียง 6 ขั้นตอนง่ายๆ ก็สามารถย้ายทะเบียนบ้านออนไลน์ได้แล้ว คลายข้อสงสัย Q: ย้ายทะเบียนบ้านออนไลน์ทำได้ไหม?  คำตอบคือ การย้ายทะเบียนบ้านออนไลน์สามารถทำได้ และไม่ยุ่งยากเลย เพียงแค่ทำตามขั้นตอนข้างบน เท่านี้ก็สามารถย้ายทะเบียนบ้านออนไลน์ได้แล้ว การย้ายทะเบียนบ้านออนไลน์สามารถทำได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องลางาน ไม่ต้องต่อคิว…

รู้จักกรรมสิทธิ์คอนโด ซื้อคอนโดได้สิทธิอะไรบ้าง?

เป็นเจ้าของบ้านดีกว่าเป็นเจ้าของคอนโดจริงหรือ? พลัสฯ พามาทำความรู้จักกรรมสิทธิ์คอนโด หรือกรรมสิทธิ์ห้องชุด พร้อมทำความเข้าใจสิทธิที่ได้รับในการเป็นเจ้าของคอนโด แตกต่างจากการเป็นเจ้าของบ้านอย่างไร? หนังสือกรรมสิทธิ์ห้องชุด คืออะไร? เมื่อซื้อบ้านเดี่ยวหรือทาวน์เฮ้าส์ กรรมสิทธิ์ในโฉนดที่ดิน (น.ส. 4) จะถูกโอนมาเป็นชื่อของผู้ซื้อตามกฎหมาย ซึ่งผู้ซื้อจะสามารถใช้ประโยชน์จากที่ดินได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นการขาย จำนอง หรือยกเป็นมรดกให้ลูกหลาน ในขณะที่การซื้อคอนโดมิเนียม ผู้ซื้อจะได้หนังสือกรรมสิทธิ์ห้องชุด (อ.ช. 2) แทน ซึ่งผู้ซื้อจะไม่ถือว่า เป็นเจ้าของโครงการนั้นๆ อย่างสมบูรณ์ แต่จะถูกเรียกว่า เจ้าของร่วม ภาพจากโครงการ เดอะ ไลน์ พหลฯ-ประดิพัทธ์ CD202924 กรรมสิทธิ์คอนโดหรือกรรมสิทธิ์ห้องชุด การถือครองกรรมสิทธิ์คอนโด หรือกรรมสิทธิ์ห้องชุดในฐานะเจ้าของร่วมมีรายละเอียดของสิทธิ ดังนี้ 1.สิทธิในส่วนแบ่งเงินประกัน โดยทั่วไปคอนโดมิเนียมมักมีการทำประกันภัยอาคารชุดเอาไว้อยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นประกันอัคคีภัย ประกันอุทกภัย และอื่นๆ เมื่อตัวอาคารได้รับความเสียหายจากภัยพิบัติเหล่านี้ บริษัทประกันจะทำการจ่ายเงินชดเชยให้กับนิติบุคคลของโครงการคอนโดตามเงื่อนไข ซึ่งเจ้าของร่วมทุกคนมีสิทธิได้รับส่วนแบ่งจากเงินประกันดังกล่าวตามสัดส่วนการครอบครอง 2.สิทธิจัดตั้ง และตรวจสอบการทำงานของนิติบุคคล เจ้าของร่วมทุกคนมีสิทธิในการร่วมกันจัดตั้งคณะกรรมการนิติบุคคลอาคารชุด เพื่อดูแลรักษาและบริหารจัดการทรัพย์สินส่วนกลาง จัดเก็บค่าส่วนกลาง ออกกฎระเบียบและข้อบังคับ รวมถึงการประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ เช่น กรมไฟฟ้า การประปา และอื่นๆ อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการนิติบุคคลอาคารชุดสามารถบริหารงานต่างๆ ได้เอง หรือว่าจ้างบริษัทบริหารจัดการอาคารชุดมืออาชีพเข้ามาทำหน้า ขึ้นอยู่กับข้อตกลงระหว่างคณะกรรมการนิติบุคคลและเจ้าของร่วมท่านอื่นๆ นอกจากนี้ เจ้าของร่วมทุกคนมีสิทธิสอดส่อง และตรวจสอบการทำงานของคณะกรรมการนิติบุคคลได้ด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นงบการเงิน รายงานการประชุม และอื่นๆ หากพบความไม่โปร่งใสในการทำงานของคณะกรรมการนิติบุคคล เจ้าของร่วมมีสิทธิฟ้องร้องหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปสู่การถอดถอน และจัดตั้งคณะกรรมการนิติบุคคลชุดใหม่ ภาพจากโครงการ ไอดีโอ คิว สุขุมวิท 36 CD220913 3.สิทธิตกแต่งภายในห้องชุด เจ้าของร่วมมีสิทธิในการตกแต่งภายในห้องชุดของตนเอง เช่น การทาสี เปลี่ยนวอลล์เปเปอร์ และติดตั้งเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งอาจต้องแจ้งกับนิติบุคคลเรื่องขออนุญาตผู้รับเหมาภายนอกเข้ามาภายในโครงการ และจำเป็นต้องทำภายในช่วงเวลาที่กำหนด ขึ้นอยู่กับกฎระเบียบของแต่ละโครงการ เพื่อไม่ให้เกิดเสียงรบกวนเพื่อนบ้าน ส่วนการตกแต่งภายในที่กระทบต่อโครงสร้างอาคาร เช่น การทุบผนัง เปลี่ยนประตูหน้าต่าง และอื่นๆ จำเป็นต้องทำการขออนุญาตต่อนิติบุคคลก่อน ซึ่งบางโครงการอาจไม่อนุญาต เนื่องจากข้อกังวลเกี่ยวกับความแข็งแรงของโครงสร้างอาคาร และป้องกันความเสียหายจากการเจาะ หรือตัดสายผิดจุด ซึ่งอาจไปโดนท่อประปา สายไฟ และอื่นๆ รวมถึงการใช้ไฟเกินกำหนดที่อาจทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจรด้วย 4.สิทธิเป็นกรรมการนิติบุคคล เจ้าของร่วมมีสิทธิได้รับลงสมัครเป็นคณะกรรมการนิติบุคคล แต่ต้องมีคุณสมบัติตามที่กฎหมายอาคารชุดกำหนด เช่น เป็นผู้มีอายุ 20 ปี บริบูรณ์ขึ้นไป ไม่เป็นบุคคลวิกลจริต ไม่มีประวัติอาชญากรรม และอื่นๆ โดยกรรมการนิติบุคคลจะทำหน้าที่ควบคุมการทำงานของทีมนิติบุคคลอาคารชุด มีอำนาจในการกำหนดนโยบาย กฎระเบียบในโครงการ ตลอดจนการพิจารณาอนุมัติค่าใช้จ่ายและติดสินการดำเนินการต่างๆ ในโครงการ 5.สิทธิในการกำหนดระเบียบคอนโด เจ้าของร่วมมีสิทธิกำหนดกฎระเบียบและข้อควรปฏิบัติต่างๆ ซึ่งเกี่ยวกับการใช้ทรัพย์ส่วนบุคคลและทรัพย์ส่วนกลางของคอนโดที่เหมาะสม และเป็นประโยชน์ต่อผู้อยู่อาศัย โดยจะต้องผ่านการเห็นชอบในที่ประชุมระหว่างเจ้าของร่วมคนอื่นๆ…

บริหารอาคารด้วยใจ ความภาคภูมิใจของ Plus Property ในคุณภาพงานบริการ

นิติบุคคลคอนโด นิติบุคคลหมู่บ้าน และการบริหารอาคาร ล้วนเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการอยู่อาศัย การใช้อาคารอย่างสะดวกสบาย ปลอดภัย และมีความสุข แต่การบริหารอาคารนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย จำเป็นต้องอาศัยความเชี่ยวชาญ ประสบการณ์ ความทุ่มเท และความใส่ใจในรายละเอียด การสร้างความสัมพันธ์อันดีบนพื้นฐานของความไว้วางใจ เข้าใจความต้องการ และตอบสนองความต้องการได้อย่างมีประสิทธิภาพ คิดหา Solution เพื่อแก้ไขปัญหา เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า คือเป้าหมายสำคัญของการมุ่งมั่นพัฒนา ยกระดับการบริหารจัดการ Living Management และ Facility Management จาก Plus Property พบกับ 3 หัวใจหลักของการบริหารอาคารด้วยใจ ผ่านแคมเปญ #NeverEndingCare ดูแลคุณไม่สิ้นสุด ที่ไม่ใช่เพียงคำสัญญาเท่านั้น แต่เป็นดั่งไบเบิลของพนักงานพลัสฯ ที่ต่างมีความตั้งใจเดียวกันคือ ‘คิด’ ‘ทำ’ ‘อยู่เคียงข้าง’ เพื่อหา Solution ที่ดีที่สุด ให้ลูกค้าคนสำคัญ   ช่วย Save ให้คุณเต็มที่ : Quality Excellence Plus Property โฟกัสเรื่องคุณภาพทั้งในด้านบริหาร และการบริการแบบไม่มีที่สิ้นสุด ไม่หยุดพัฒนาในทุกด้าน และยกระดับคุณภาพทัดเทียมสากล การันตีด้วยการได้รับ ISO มากที่สุด ถึง 3 ตัว วางใจได้ว่ามีการควบคุมคุณภาพ โปร่งใสตรวจสอบได้ มีมาตรฐาน วางแผนงานชัดเจน ลงรายละเอียด พนักงานมีความรู้ ความเข้าใจขั้นตอนต่าง ๆ ในการทำงาน รู้เรื่องข้อกำหนดทางกฏหมายที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการอาคาร ด้วยประสบการณ์กว่า 30 ปี ถ่ายทอดจากรุ่นพี่สู่รุ่นน้องเจนใหม่ ทำให้พนักงานมีความเข้าใจที่จะหา Solution ช่วยคิด ปรับเปลี่ยน วิธีการโดยยังคงคุณภาพให้ได้ตามมาตรฐาน เพื่อตอบโจทย์ตามความต้องการของลูกค้าได้ อาทิ ช่วยลดค่าใช้จ่ายประจำเดือนจากการประหยัดพลังงาน, คัดสรร ตรวจสอบ Vendor ให้ทำงานมีประสิทธิภาพ เพื่อการบริหารค่าใช้จ่ายอย่างคุ้มค่า มีคุณภาพ, ประหยัดค่าใช้จ่ายการซ่อมแซมระยะยาวที่ต้องใช้งบประมาณก้อนใหญ่ด้วยการหมั่นซ่อมบำรุงอุปกรณ์เครื่องจักรด้วยการทำ Preventive Maintenance ฯลฯ   จัดการให้ทุกอย่างพร้อมใช้ : Expert Teams Plus Property มีทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ในการบริหารอาคารทุกรูปแบบ มั่นใจทุกระบบดูแลอาคาร ยกระดับมาตรฐานการบริการลูกค้าในงานบริหารอาคาร ด้วยการนำเทคโนโลยี และนวัตกรรมมาประยุกต์ใช้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของงานบริหารและการดูแล มอบประสบการณ์ที่สะดวกสบาย รวดเร็ว และปลอดภัย Plus Property เรามีทีมสนับสนุนเป็นวิศวกรและช่างผู้ชำนาญการจากศูนย์กลางพร้อมเข้าช่วยเหลือให้คำปรึกษา เพื่อให้เครื่องจักร และสิ่งอำนวยความสะดวกพร้อมใช้งานตลอดเวลา ช่วยแก้ปัญหา แม่นยำ ว่องไว อยู่เคียงข้างไม่สิ้นสุดในทุกช่วงเวลา ทุกสถานการณ์ นอกจากนี้ยังมีการสร้างมาตรฐานการทำงานพัฒนาทักษะของบุคลากร…

เจาะลึกงานบริหารนิติบุคคลคอนโด หมู่บ้าน ผู้อยู่เบื้องหลังการอยู่อาศัย

เมื่อคอนโด หมู่บ้าน มีระบบการจัดการดี คนดูแลที่เก่ง ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ “น่าอยู่” เสมอ  แต่รู้หรือไม่การบริหารงานนิติบุคคลที่ต้องดูแลลูกบ้านเป็นจำนวนมาก ไม่อาจทำได้จากฝ่ายจัดการฯ โครงการเพียงเท่านั้น แต่ต้องอาศัยทีมสนับสนุนส่วนกลางที่คอยช่วยวางกลยุทธ์ จัดการประเมินความเสี่ยง ตรวจสอบศักยภาพโครงการ รวมถึงออกแบบมาตรฐานในทุกด้านของการบริหารอาคาร ไม่ว่าจะเป็น งานบริการ การบริหารจัดการพื้นที่ภายในโครงการ ระบบวิศวกรรมอาคาร ภูมิทัศน์ การบริหารงบประมาณ รวมทั้งกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่างๆ และอื่นๆ อีกมากมาย เพื่อให้ฝ่ายจัดการฯ ที่ประจำแต่ละโครงการสามารถจัดการรายละเอียดการบริหารโครงการได้อย่างเป็นมืออาชีพ มาเจาะลึกงานบริหารนิติบุคคลคอนโด หมู่บ้าน ของ Plus Living Management ที่มีมากกว่าฝ่ายจัดการฯ ประจำโครงการคุณภาพ แต่ยังมีทีมสนับสนุนส่วนกลางผู้อยู่เบื้องหลังการทำงาน ที่ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้ฝ่ายจัดการฯ ในการดำเนินงานครอบคลุมในทุกด้านของการบริหารอาคาร   PROPERTY SOLUTION EXPERT ยืนหนึ่งเรื่องบริหารโครงการ ถ้าเป็นเรื่องนิติคอนโด ทาวน์โฮม หมู่บ้าน ไม่แพ้ใคร จากประสบการณ์กว่า 27 ปี ดูแลที่พักอาศัยชั้นนำมากกว่า 300 โครงการด้วยทีมผู้เชี่ยวชาญระดับมืออาชีพ ออกแบบการจัดการได้ตรงตามความต้องการของโครงการที่แตกต่างกัน ตั้งแต่ต้นจนจบ เมื่อได้รับมอบบริหารโครงการจากบริษัทเดิม พลัสฯ มีฝ่ายปฏิบัติการ Set up โดยเฉพาะ ที่มีหน้าที่ช่วยให้การรับมอบงานครบถ้วน อบรมฝ่ายจัดการฯ ประจำโครงการให้พร้อมปฏิบัติงานอย่างราบรื่น ไม่ว่าจะเป็นงานเอกสาร การประสานงานกับส่วนต่างๆ ระเบียบอาคาร ฯลฯ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกบ้านได้ทันที โดยไม่รู้สึกติดขัด   PEOPLE & EXPERIENCES EXPERT เสริมทักษะ เพิ่มความสุขพนักงาน เพื่อให้ลูกบ้านได้รับประสบการณ์ที่ดี พลัสฯ มุ่งมั่นในการให้บริการที่มีประสิทธิภาพ ส่งเสริมการใช้ชีวิตและประสบการณ์การอยู่อาศัยที่ดีให้กับลูกบ้านและผู้พักอาศัยในทุกๆ โครงการ เราจึงให้ความสำคัญกับคุณภาพของพนักงานที่มีความใกล้ชิดในการบริการลูกค้า เพื่อให้มั่นใจได้ว่าพนักงานที่มีความสุขจะส่งต่อประสบการณ์ดีๆ และสร้างสรรค์งานบริการที่ยอดเยี่ยมให้กับลูกค้าอยู่เสมอ สถาบัน Plus Eduplex เป็นหน่วยงานภายในที่สร้างขึ้นมาโดยเฉพาะเพื่อพัฒนาบุคลากร ด้วยการเพิ่มทักษะความเชี่ยวชาญอย่างต่อเนื่อง ช่วยอบรม และเสริมความรู้ ให้พนักงานมีความรอบรู้ในตำแหน่งงานของตัวเอง และข้ามสายงาน พร้อมทั้งดูแลความสุขของพนักงาน เพื่อส่งต่อการดูแลและประสบการณ์ที่ดีให้แก่ลูกบ้านได้ครบทุกมิติการอยู่อาศัย   OPERATION & QUALITY CONTROL EXPERT บริการด้วยใจ ใส่ใจทุกรายละเอียด ไม่หยุดพัฒนารักษามาตรฐาน ดูแลสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ในโครงการให้พร้อมใช้งาน เน้นงานบริการที่ให้ “ผู้คน” เป็นศูนย์กลาง ดูแลอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวันใส่ใจในรายละเอียด พร้อมให้บริการอย่าง “ทันท่วงที” จัดการไปรษณีย์ รับ-บันทึก-จัดเก็บ-แจกจ่าย ให้สะดวกที่สุด ดูแลแก้ปัญหากฏระเบียบการอยู่อาศัยร่วมกัน ช่วยดูแลช่วยเหลือเมื่อเกิดกรณีเจ็บป่วย ฉุกเฉิน มีบริการ In room service ดูแลอุปกรณ์ในห้องพัก รวมทั้งมีกระบวนการตรวจสอบความเรียบร้อยภายใน…

ส่องเลย ธุรกิจมาแรงที่น่าสนใจปี 2565 มือใหม่ก็ศึกษาได้!

พฤติกรรมผู้บริโภคนั้นได้เปลี่ยนไป หลายธุรกิจต้องเผชิญกับโจทย์ใหม่ที่ท้าทายยิ่งขึ้นหลังยุคโควิด-19 นอกจากเลือกทำเลทำธุรกิจให้ดีแล้ว มีธุรกิจอะไรบ้างที่จะสามารถมัดใจผู้บริโภคได้? ไม่ว่าจะทั้งจากวิกฤตเงินเฟ้อ อีกทั้งสถานการณ์ต่างๆ รอบโลก ล้วนแต่มีอิทธิพลต่อการจับจ่ายซื้อของทั้งสิ้น ส่งผลให้การดำเนินธุรกิจในบางครั้งเหมือนคลื่นลมทะเลแรง ด้วยพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปและการไหลของกระแสต่างๆ เป็นปัจจัยให้เจ้าของธุรกิจต้องปรับตัว หลายธุรกิจได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น ในทางกลับกันหลายธุรกิจก็ซบเซาลงเช่นกัน แล้วมีธุรกิจอะไรบ้างที่น่าสนใจในปี 65 นี้?  พลัสฯ จะพามาดูแนวโน้มธุรกิจที่น่าสนใจ จะมีอะไรบ้าง มาดูกัน! 10 ธุรกิจที่น่าจับตามอง 1) ธุรกิจ e-Commerce หรือการค้าขายออนไลน์ หลายธุรกิจได้ปรับตัวเข้าสู่ออนไลน์ กระจายไปแต่ละแพลตฟอร์ม เนื่องจากสะดวกและไม่ต้องมีหน้าร้าน สามารถทำที่บ้านได้ ทำให้ธุรกิจการค้าปลีกออนไลน์และแพลตฟอร์มเพื่อการค้าออนไลน์ นั้นเติบโตไวเป็นอย่างมาก เพราะไม่สามารถออกมาจับจ่ายใช้สอยในร้านค้าและสถานบริการได้ตามปกติ ทำให้ผู้บริโภคหันมาใช้บริการออนไลน์เพิ่มสูงขึ้น อีกทั้งการเพิ่มขึ้นของการใช้สื่อสังคมออนไลน์ (Social media) ยังมีอิทธิพลต่อผู้บริโภคเป็นอย่างมาก เรียกได้ว่า Social media เป็นช่องทางธุรกิจยุคใหม่ ไม่ว่าจากทั้งกระแสรีวิวจากผู้ใช้จริง การแจกของสมนาคุณ หรือแม้กระทั่งการใช้ผู้มีอิทธิพลทางโซเชี่ยล (Influencer) นำเสนอสินค้า หลายธุรกิจก็สามารถดังเป็นพลุแตกและสร้างกำไรได้มหาศาลเลยทีเดียว 2) ธุรกิจด้านขนส่ง โลจิสติกส์ กลุ่มธุรกิจนี้เกี่ยวเนื่องและได้รับประโยชน์จากการเติบโตของธุรกิจ e-Commerce ผู้บริโภคปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหันมาซื้อ-ขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น ทำให้มีความต้องการบริการด้านขนส่งโลจิสติกส์มากขึ้นตามไปด้วย และสำหรับใครที่มีตึกแถว อาคารพาณิชย์หรือบ้านที่มีพื้นที่กว้างก็สามารถดัดแปลงให้เป็นจุด Drop-off ได้ Drop off : การพัสดุไปฝากส่งไว้กับผู้ให้บริการด้วยตนเอง มีหลายสาขา ขั้นตอนเหมือนการส่งไปรษณีย์ แต่อยู่ภายใต้การบริการของหลากหลายขนส่งเอกชน การมีขนส่งใกล้ที่อยู่อาศัยเรียกได้ว่าทำให้พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์อุ่นใจมากทีเดียว เนื่องจากจะสามารถทำให้ติดต่อเรื่องพัสดุและส่งสินค้าได้ง่ายขึ้น อีกทั้งในบางพื้นที่ที่มีประชากรเยอะ นักศึกษาและคนทั่วไปที่หารายได้เสริมเริ่มธุรกิจออนไลน์กันเยอะขึ้นเป็นอย่างมาก ร้านประเภท Drop-off เรียกได้ว่า เช็คพัสดุแทบไม่ทันเลยทีเดียว 3) ธุรกิจเวชภัณฑ์และแปรรูปสมุนไพร จากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้จำเป็นต้องพึ่งพาเวชภัณฑ์ รวมทั้งสมุนไพรต่างๆ ที่อาจเป็นทางเลือกในการป้องกันและรักษา ส่งผลให้ธุรกิจกลุ่มนี้มีความต้องการที่สูง แต่ทั้งนี้เวชภัณฑ์หรือแปรรูปสมุนไพรใดๆ ควรมีความรู้ ความเข้าใจในการรักษา งานวิจัยชี้ชัดถึงประโยชน์และโทษของสมุนไพรนั้นๆ อีกทั้งยังต้องผ่านอย.อีกด้วย 4) ธุรกิจด้านเทคโนโลยี หลายธุรกิจหันมาพึ่งพาเทคโนโลยี และซอฟต์แวร์ต่างๆ เพื่อช่วยให้การดำเนินธุรกิจเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งเป็นการเปิดตลาดใหม่ๆ ที่จะส่งเสริมให้ธุรกิจตนสามารถทำกำไรได้เพิ่มขึ้นและต่อเนื่อง ธุรกิจจัดทำโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ธุรกิจจัดทำโปรแกรมเว็บเพจ ธุรกิจบริการเทคโนโลยีสารสนเทศ และธุรกิจบริหารจัดการ/ประมวลผลข้อมูล จึงมีแนวโน้มเติบโตสูง 5) ธุรกิจรีไซเคิล (Recycling) ปัจจุบันผู้บริโภคได้หันมาใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น อีกทั้งสภาพอากาศที่แปรปรวนยังทำให้ผู้คนตระหนักถึงสภาวะโลกร้อน ยิ่งทำให้ผู้คนหันมาใส่ใจในเรื่องของการรีไซเคิลต่างๆ ยิ่งขึ้นอีกด้วย เช่น ธุรกิจ refill station เป็นธุรกิจที่ตอบโจทย์ต่อคนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมคือการได้ลดการใช้พลาสติกลง เพราะนำบรรจุภัณฑ์ของตนเองมาใช้ และยังตอบโจทย์คนที่อยากใช้ผลิตภัณฑ์นั้นๆ แต่ในปริมาณที่น้อยอีกด้วย หรือจะเป็นการแปรรูปสิ่งของธรรมชาติให้เป็นภาชนะ อย่างชามชานอ้อย หรือการนำใบตองมาอัดเป็นภาชนะก็สร้างรายได้ดีเช่นกัน 6) ธุรกิจเครื่องสำอาง และความสวยงาม เทรนด์การดูแลตัวเองและการรักสุขภาพมาแรงขึ้น การออกกำลังกายและการแต่งหน้ายังเป็นการเสริมภาพลักษณ์และสร้างความมั่นใจให้กับตนเอง…

ส่องมาตรฐานงานบริหารอาคาร PROPERTY MANAGEMENT ของบริษัทนิติบุคคลมืออาชีพต้องมีอะไรบ้าง?

การมองหาบริษัทบริหารอาคารชั้นนำมาบริหารโครงการที่พักอาศัย ทั้งคอนโด บ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม ต้องเลือกบริษัทบริหารอาคารมืออาชีพด้าน Property Management เข้ามาช่วยดูแล นอกจากเรื่องความเชี่ยวชาญ และพนักงานมีใจรักบริการแล้ว มาตรฐานงานบริหารอาคารก็เป็นเรื่องสำคัญ จะมีมาตรฐานในเรื่องใดบ้าง ติดตามได้ในบทความนี้เลย ตัวชี้วัดความน่าอยู่ และความสุขของผู้พักอาศัยนอกเหนือจากความสวยงาม การออกแบบโครงการแล้ว อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญคือ การมีบริษัทบริหารอาคาร หรือ บริษัทบริหารนิติบุคคล ที่ผู้พักอาศัยสามารถไว้วางใจ และพึ่งพาได้ เข้ามาบริหารจัดการดูแล จัดการกฎระเบียบ ให้ผู้พักอาศัยสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างราบรื่น สงบสุข การบริหารจัดการอาคารชุด คอนโดมิเนียม หมู่บ้านจัดสรร ทาวน์โฮม เป็นเรื่องจำเป็นที่ต้องการผู้ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์เข้ามาดูแล ทั้งในเรื่องของกายภาพโครงการ ระบบงานวิศวกรรม สิ่งอำนวยความสะดวก ความปลอดภัย กฎระเบียบการพักอาศัย การจัดการด้านงบประมาณ บัญชี การบริการอำนวยความสะดวกให้แก่เจ้าของร่วม ผู้เช่า ผู้พักอาศัย นักลงทุน ฯลฯ และอีกหลายส่วนงานที่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานเอกชน และราชการ ดังนั้นเหล่าคณะกรรมการนิติบุคคล และบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ที่กำลังมองหาบริษัทบริหารอาคาร เข้ามาบริหารจัดการงานนิติบุคคลคอนโด นิติบุคคลหมู่บ้าน สามารถเลือกพิจารณาบริษัทที่มีมาตรฐานงานบริหารอาคารได้ดังนี้ มาตรฐานการจัดตั้ง รับ-ส่งมอบ โครงการ สำหรับการจัดตั้งโครงการใหม่ หรือรับมอบจากบริษัทบริหารชุดเดิม เพื่อให้ผู้ปฏิบัติงานสามารถจัดเตรียมระบบ ข้อมูล สำรวจพื้นที่ และรายการทรัพย์สิน ให้พร้อมก่อนสัญญาการบริหารจะมีผลบังคับใช้ ในส่วนของ Plus Living Management เรามีทีมสนับสนุนส่วนกลางที่จัดตั้งขึ้นมาโดยเฉพาะเรียกว่า SET UP TEAM ทำหน้าที่จัดตั้ง รับ-ส่งมอบ โครงการ พร้อมออกแบบความต้องการในโครงการที่ได้รับมอบหมายให้เข้าไปบริหารในแต่ละโครงการ  มาตรฐานการจัดตั้ง รับ-ส่งมอบ โครงการมีขั้นตอนปฏิบัติ ดังนี้ ร่วมสำรวจพื้นที่ในโครงการที่ได้รับว่าจ้าง จัดทำ กำหนดแผนงาน สำหรับรับมอบโครงการ หลังสำรวจโครงการ จัดเตรียมระบบ และเอกสารการทำงานที่เกี่ยวข้อง ฝึกอบรมระบบมาตรฐานการทำงานให้แก่พนักงานประจำโครงการ บริษัทคู่สัญญา จัดทำรายการทรัพย์สิน และเครื่องจักรส่วนกลาง เพื่อการตรวจสอบ และควบคุม จัดเก็บข้อมูลโครงการ เอกสารสำคัญของโครงการ อาทิ แบบแปลนโครงการ แบบงานระบบอาคาร หนังสือจดทะเบียนนิติบุคคล มาตรฐานการจัดการด้านกายภาพ บทบาทสำคัญของบริษัทบริหารโครงการที่พักอาศัยที่มีหน้าที่โดยตรง คือ การช่วยรักษา และเพิ่มมูลค่าโครงการ บริษัทนิติบุคคลมืออาชีพมีส่วนสำคัญอย่างมากในการดูแล ทำนุบำรุง ภาพรวมกายภาพโครงการ สภาพอาคาร พื้นที่ส่วนกลาง ทรัพย์สินส่วนกลาง สภาพแวดล้อม และภูมิทัศน์โครงการ ให้มีสภาพสวยงาม สะอาด พร้อมใช้งาน และเหมือนใหม่อยู่เสมอ ยิ่งนิติบุคคลมีศักยภาพ และความพร้อมในการดูแลอาคารมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีโอกาสที่จะช่วยรักษา และเพิ่มมูลค่าของโครงการมากเท่านั้น ตัวอย่างมาตรฐานการจัดการด้านกายภาพที่ Plus…

วิธีดูแลสนามหญ้าหน้าบ้านให้เขียวขจี พร้อมตัวอย่างพันธุ์หญ้าแต่ละชนิด

การปลูกหญ้าในบริเวณบ้านนอกจากจะช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับส่วนของบ้านแล้ว ยังทำให้บรรยากาศภายในบ้านสดชื่น สบายตา รู้สึกผ่อนคลายและทำให้ได้รู้สึกใกล้ชิดกับธรรมชาติเพิ่มมากขึ้น ในบทความนี้จะยกตัวอย่างพันธุ์หญ้าที่นิยมนำมาปลูกภายในบ้าน และวิธีบำรุงรักษาหญ้าให้เขียวขจีเสมอ ติดตามได้ที่นี่ การปลูกหญ้าเป็นแผ่นๆ ในบ้านที่มีพื้นที่เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวมีหลากหลายวิธีทั้งการปูหญ้าจริง หรือการใช้หญ้าเทียมที่นำมาปูบนพื้นคอนกรีต โดนส่วนมากแล้วการใช้หญ้าจริงจะให้ความรู้สึกที่เป็นธรรมชาติมากกว่า แต่การนำหญ้าจริงมาปลูกนั้นก็ต้องรู้จักวิธีการดูแลรักษาด้วย เพราะหญ้าก็ถือเป็นพืชชนิดหนึ่งที่ต้องการการรดน้ำ ใส่ปุ๋ย ตัดแต่ง เพื่อให้คงความสวยงาม และช่วยสร้างบรรยากาศให้กับสวนสวยๆ ของคุณได้ รู้จักพันธุ์หญ้าแต่ละชนิดที่นิยมนำมาใช้ปลูก พร้อมวิธีดูแล หญ้านวลน้อย (Manila Grass) จัดเป็นหญ้าพื้นเมืองของไทยที่นิยมปลูกมากตามลานหน้าบ้าน แปลงจัดสวน สนามกีฬา สนามกอล์ฟ เป็นสายพันธุ์ที่ได้รับความนิยมในการทำสนามหญ้าทั้งภายในบ้าน สวนสาธารณะ สนามกีฬา ทางเดิน และสนามหญ้าทั่วไป หญ้านวลน้อย เป็นหญ้าที่เติบโตได้ดีในดินเกือบทุกชนิดทั้งดินเหนียว ดินทราย เหมาะกับการปลูกไว้ในบริเวณกลางแจ้งแสงแดดจ้าเท่านั้น หากเป็นพื้นที่ร่ม หญ้านวลน้อยจะไม่เติบโตและค่อย ๆ เหลืองตาย สามารถอยู่ในสภาพแห้งแล้งได้ดี และทนต่อสภาพน้ำขังได้บ้าง รวมถึงเติบโตเร็ว และสามารถขยายไหลเป็นแผ่นที่ครอบคลุมหน้าดินได้เร็ว คุณสมบัติหญ้านวลน้อย ลำต้น และใบยืดหยุ่นตัวได้ดี ทนต่อสภาพการเหยียบย่ำ ไม่ว่าจะเป็นการเหยียบย่ำของคน รถยนต์ หรือวัสดุต่างๆ เวลาเดินเหยียบจะรู้สึกนุ่มเท้า ลำต้น และใบอ่อนนุ่ม ไม่หยาบกร้าน แม้นอนทับจะไม่ค่อยระคายผิวหรือทำให้เกิดอาการคัน ลำต้นไม่ขึ้นสูง และตัดตกแต่งได้ง่าย แลดูคล้ายพรมหลังการตัดแต่ง ลำต้นแตกกอคลุมหน้าดินได้รวดเร็ว ทนต่อสภาพอากาศร้อน และทนต่อสภาพแห้งแล้งได้เล็กน้อย ทนต่อสภาพน้ำขังได้บ้าง เติบโตได้ดีเกือบทุกสภาพดิน ทั้งดินเหนียว ดินทราย ทนต่อดินเปรี้ยวได้ดี ทนต่อดินเค็มได้ดี เพราะใบมีต่อม salt gland ที่สามารถกักเก็บ และขับโซเดียม และคลอรีนออกจากได้ ไม่มีโรค และแมลงกัดกิน ข้อควรระวังของหญ้านวลน้อย ในช่วงแล้งที่มีสภาพอากาศร้อน ไม่มีฝนตก หากหญ้านวลน้อยขาดน้ำนานมากกว่า 1 เดือน จะเหี่ยวแห้ง และตายง่าย ดังนั้น จำเป็นต้องรดน้ำไม่ต่ำกว่า 1 ครั้ง/อาทิตย์ เพื่อป้องกันต้นเหี่ยวตาย การดูแลรักษาหญ้านวลน้อย รดน้ำเป็นประจำ วันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น ใส่ปุ๋ยอาทิตย์ละ 1 ครั้ง โดยใช้สูตร 18-12-6 หรือ 20-20-0 อัตรา 20-40 กิโลกรัม/ไร่ ทั้งนี้ ให้ใส่ปุ๋ยตอนเย็น และตามด้วยการรดพรมน้ำ เพื่อไม่ให้เม็ดปุ๋ยค้างบนใบหญ้า ซึ่งอาจทำให้ใบลวกได้ หญ้าญี่ปุ่น (Japanese Lawn grass) เป็นหญ้าที่เจริญเติบโตได้ดีในพื้นที่เขตร้อน ปลูกในพื้นที่ชื้นแฉะจะไม่ดีนัก สามารถทนต่อพื้นที่ร่มได้ประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์ ในพื้นที่ดินเค็มก็พอจะปลูกได้แต่ไม่ดีนัก…