ฮวงจุ้ยห้องนอน ที่ดีเป็นยังไง? แนะ 10 วิธีจัดห้องนอนตามฮวงจุ้ย

ความสำคัญของการจัดฮวงจุ้ยภายในบ้านอยู่ที่การสร้างสมดุลและความกลมกลืนในพื้นที่อยู่อาศัย เพื่อส่งเสริมพลังงานบวกและความเป็นอยู่ที่ดี การจัดวางเฟอร์นิเจอร์และองค์ประกอบต่างๆ ตามหลักฮวงจุ้ยเชื่อว่าจะช่วยเพิ่มความสุข สุขภาพ และความมั่งคั่งให้กับผู้อยู่อาศัย โดยเฉพาะการจัดฮวงจุ้ยห้องนอน เพราะเป็นหนึ่งในห้องที่สำคัญที่สุดของบ้าน วิธีจัดห้องนอนตามหลักฮวงจุ้ย คนส่วนใหญ่ใช้เวลาอยู่ในห้องนอนประมาณ 6 – 8 ชั่วโมงต่อวัน ซึ่งเป็นช่วงเวลาของการฟื้นฟูทั้งร่างกายและจิตใจ โดยการจัดห้องนอนให้ตรงตามหลักฮวงจุ้ยเพื่อคุณภาพความเป็นอยู่ที่ดีของผู้อยู่อาศัย และความเป็นสิริมงคลมีวิธีการ ดังนี้ 1. ลักษณะและทิศของห้องนอน อ้างอิงจากภูมิศาสตร์ของประเทศไทย ห้องนอนที่ดีควรตั้งอยู่ทางทิศใต้หรือตะวันตกเฉียงใต้ เพราะเป็นทิศทางลม ซึ่งจะช่วยให้อากาศถ่ายเทได้ดี ส่วนห้องนอนที่ตั้งอยู่ทางทิศเหนือหรือทิศตะวันออกจะตรงกับตำแหน่งรับแสงแดด โดยจะได้รับแสงแดดในยามเช้า และไม่ทำให้อุณหภูมิภายในห้องร้อนจนเกินไป 2. ตำแหน่งห้องนอนเจ้าของบ้าน ห้องนอนเจ้าของบ้านควรตั้งอยู่ด้านหลังสุด เพราะตามหลักฮวงจุ้ยที่เป็นตำแหน่งประธาน ในขณะที่ห้องนอนด้านเป็นตำแหน่งบริวาร 3. ตำแหน่งหัวเตียง ตำแหน่งหัวเตียงแต่ละทิศมีความหมายที่แตกต่างกันออกไป อาทิ ทิศใต้ส่งเสริมชื่อเสียงและเกียรติยศ ทิศตะวันออกเฉียงเหนือส่งเสริมหน้าที่การงาน ทิศตะวันตกเฉียงเหนือส่งเสริมด้านบริวาร 4. ใต้เตียงต้องสะอาด หากใต้เตียงไม่สะอาดหรือมีสิ่งของอยู่ ตามหลักฮวงจุ้ยจะถือว่า พลังงานของผู้อยู่อาศัยไม่สามารถไหลเวียนได้สะดวก และทำให้รู้สึกพักผ่อนไม่เต็มที่ โดยใต้เตียงที่สะอาดเรียบร้อยจะช่วยลดการสะสมของฝุ่นและสิ่งสกปรก 5. ไม่ควรมีเครื่องใช้ไฟฟ้า ห้องนอนที่ดีควรมีเครื่องใช้ไฟฟ้าให้น้อยที่สุด เพราะจะช่วยให้นอนหลับพักผ่อนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่า เมื่อเทียบกับห้องนอนที่มีโทรทัศน์ ตู้เย็น และอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ 6. เลือกใช้โทนสีที่สบายตา สีกับลวดลายของผนังห้อง และเฟอร์นิเจอร์ที่สบายตาจะช่วยสร้างความรู้สึกผ่อนคลาย ลดความเครียด และทำให้นอนหลับพักผ่อนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น อาทิ สีขาว สีครีม และสีเทาอ่อน 7. ตั้งโต๊ะข้างเตียง 2 ตัวดีกว่าตัวเดียว การมีโต๊ะข้างเตียง 2 ตัว จะช่วยสร้างความสมดุลให้กับภาพรวมของห้องนอน อีกทั้งยังช่วยส่งเสริมพลังงานความรักให้กับคนมีคู่ด้วย 8. เอาหนังสือออกจากห้องนอน ตามหลักฮวงจุ้ยถือว่า หนังสือมีพลังงานกระตุ้นจิตใจ ซึ่งอาจทำให้จิตใจว้าวุ่น และพักผ่อนได้ไม่เพียงพอ โดยแนะนำให้เก็บไว้ในห้องนอนเฉพาะหนังสือที่กำลังอ่านอยู่ 9. เก็บอุปกรณ์ออกกำลังกายออกจากห้องนอน ห้องนอนเป็นสถานที่ที่ต้องการพลังงานแห่งความสงบ ในขณะที่อุปกรณ์ออกกำลังกายมีพลังงานแห่งความกระตือรือร้น โดยเชื่อว่า การเก็บอุปกรณ์ออกกำลังกายไว้ในห้องนอนจะทำให้นอนหลับยาก 10. ห้ามเอางานมาทำในห้องนอน การนำงานหรืออุปกรณ์ทำงานมาไว้ในห้องนอนจะทำให้พักผ่อนได้ไม่เต็มที่ เพราะจะทำให้คิดถึงแต่งานตลอดเวลา อย่างไรก็ตาม การจัดฮวงจุ้ยห้องนอนที่เหมาะสมควรคำนึงถึงความต้องการใช้งานของผู้อยู่อาศัยด้วย เพราะบ้านที่ดี คือ บ้านที่ผู้อยู่อาศัยมีความสุข ข้อห้ามทำสำหรับการจัดห้องนอนตามฮวงจุ้ย การจัดห้องนอนตามหลักฮวงจุ้ยมีข้อห้ามที่ควรคำนึงถึง 4 ประการหลัก คือ 1. ไม่ควรวางเตียงนอนหันหัวไปทางทิศตะวันตก ทิศตะวันตกเป็นทิศแห่งการดับสูญหรือทิศของผู้เสียชีวิต โดยการหันหัวเตียงไปทางทิศตะวันตกจะทำให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกอ่อนเพลีย และไม่เป็นมงคลต่อชีวิต 2. การมีหัวเตียงแสดงถึงความมั่นคง ควรเลือกใช้เตียงนอนที่มีหัวเตียง โดยเฉพาะหัวเตียงที่มีลักษณะทึบและแข็งแรง เพราะหัวเตียงเปรียบเสมือนภูเขา ซึ่งจะช่วยปกป้องผู้อยู่อาศัยจากภัยอันตราย และทำให้ชีวิตมีความมั่นคง 3. ไม่ตั้งโต๊ะเครื่องแป้งตรงกับประตูห้อง หากตั้งโต๊ะเครื่องแป้งตรงกับประตูห้องนอน เมื่อมีคนในบ้านเดินเข้า-ออกอาจทำให้เสียสมาธิระหว่างแต่งหน้าได้ 4. ไม่วางเตียงนอนไว้ตรงกับกระจก หรือตรงกับประตู การวางเตียงนอนไว้ตรงกับกระจก หรือตรงกับประตูจะทำให้เจ้าของห้องรู้สึกไม่สงบ…

รวม 10 ไอเดียแต่งคอนโด ให้ห้องดูกว้างเป็นระเบียบ

คอนโดเป็นอีกหนึ่งทางเลือกการอยู่อาศัยของคนรุ่นใหม่ เพราะอำนวยความสะดวกให้กับชีวิตได้ในหลายๆ ด้าน แต่ด้วยขนาดพื้นที่จำกัดอาจทำให้ห้องดูรกและคับแคบได้ หากไม่ได้รับการจัดระเบียบ และตกแต่งอย่างเหมาะสม ในบทความนี้ พลัสฯ ขอมาเอาใจชาวคอนโดด้วย 10 ไอเดียแต่งคอนโด เพื่อช่วยให้ห้องดูกว้าง เป็นระเบียบ และน่าอยู่มากยิ่งขึ้น พร้อมแนะนำ 5 คอนโดตกแต่งครบ พร้อมอยู่   รวม 10 ไอเดียแต่งคอนโด การแต่งคอนโดสวยๆ สามารถทำได้ไม่ยาก เพียงทำตาม 10 ไอเดีย ดังนี้ 1. เลือกใช้สีผนังห้องโทนกลาง-โทนสว่าง การเลือกใช้สีผนังโทนกลาง-สว่างจะช่วยให้ห้องดูโล่งโปร่ง สบายตา และอบอุ่นมากกว่าผนังสีโทนทึบ ยกตัวอย่างสีขาว สีเบจ สีเทาอ่อน และสีฟ้าอ่อน เป็นต้น โดยสามารถเปลี่ยนสีผนังได้ 2 วิธี คือ ใช้สีทาภายใน และติดวอลล์เปเปอร์ผนัง ซึ่งการติดวอลล์เปเปอร์จะช่วยให้การเปลี่ยนสีผนังภายในอนาคตสะดวกมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังสามารถเข้าอยู่ได้เลย ไม่ต้องรอสีแห้งและไม่ทิ้งกลิ่นสี 2. เลือกเฟอร์นิเจอร์ Multi-Function เฟอร์นิเจอร์ Multi-Function เป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน เช่น เตียงนอนที่มีลิ้นชักเก็บของด้านใต้ ตู้เสื้อผ้าที่มาพร้อมโต๊ะเครื่องแป้ง เก้าอี้มีช่องเก็บของด้านใน และอื่นๆ โดยการใช้เฟอร์นิเจอร์เหล่านี้จะช่วยให้เก็บของได้อย่างมีระเบียบมากยิ่งขึ้น พร้อมลดการวางของกระจัดกระจายที่ทำให้ห้องดูรกและแคบ 3. เลือกใช้ผ้าม่าน 2 ชั้น (ผ้าม่านทึบ-ผ้าม่านโปร่ง) ข้อดีของผ้าม่าน 2 ชั้น คือ สามารถเลือกปิดผ้าม่านทึบได้ในเวลากลางวันที่แดดจัด และสามารถเลือกปิดผ้าม่านโปร่งได้ในช่วงเย็น-กลางคืน ซึ่งผ้าม่านทึบจะช่วยลดความร้อน และรังสียูวีที่เข้ามาในห้อง ในขณะที่ผ้าม่านโปร่งจะช่วยให้ห้องดูโล่ง สบายตา และทำให้แสงธรรมชาติเข้ามาในห้องได้มากยิ่งขึ้น 4. ตกแต่งผนังด้วยกระจกเงา การตกแต่งผนังด้วยกระจกเงาจะช่วยพรางตาให้ห้องดูมีพื้นที่มากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นวิธีที่นิยมใช้ในการตกแต่งคอนโดขนาดเล็ก และอะพาร์ตเมนต์ที่มีพื้นที่จำกัด 5. กั้นห้องด้วยกระจกใส การกั้นห้องจะทำให้พื้นที่อยู่อาศัยเป็นสัดส่วนมากยิ่งขึ้น โดยให้เลือกใช้บานเลื่อนที่เป็นกระจกใสแทนประตูไม้ หรือประตูพลาสติกที่มีความทึบ เพราะกระจกใสมีความโปร่งแสง ซึ่งจะทำให้ห้องดูกว้างขึ้นและไม่อึดอัด 6. เลือกใช้โต๊ะ ตู้ และชั้นวางของติดผนัง นอกจากโต๊ะ ตู้ และชั้นวางของติดผนังจะช่วยเพิ่มพื้นที่จัดเก็บของใช้ต่างๆ ได้แล้ว ยังช่วยให้ไม่เปลืองพื้นที่บนพื้น ส่งผลห้องดูกว้างขึ้น 7. จัดเฟอร์นิเจอร์เข้ามุม การจัดเฟอร์นิเจอร์เข้ามุมจะช่วยเพิ่มพื้นที่ให้ห้องได้มากกว่าการจัดเฟอร์นิเจอร์ไว้ตรงกลางห้อง ส่งผลให้ห้องดูเป็นระเบียบ กว้างขวาง และสามารถใช้งานเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ได้อย่างสะดวก 8. ไม่ตกแต่งผนังเยอะจนเกินไป การตกแต่งผนังเยอะจนเกินไปอาจทำให้ห้องดูรกและคับแคบ อีกทั้งยังช่วยให้ทำความสะอาดได้ง่าย และสะดวกต่อการเปลี่ยนสไตล์การตกแต่งห้อง 9. เลือกใช้ไฟดาวน์ไลท์ แทนการใช้โคมระย้า หรือโคมไฟตั้งพื้น ไฟดาวน์ไลท์ คือ ไฟที่ออกแบบมาสำหรับการติดตั้งบนฝ้าเพดาน เพื่อให้แสงสว่างส่องลงมาบนพื้น ซึ่งช่วยประหยัดพื้นที่ห้องได้มากกว่าโคมไฟแบบตั้งพื้น ในขณะที่โคมระย้า หรือแชนเดอเลียร์จะทำให้เพดานห้องดูต่ำและคับแคบ…

ค่าส่วนกลางคอนโด คืออะไร ? ต้องจ่ายเท่าไหร่บ้าง

สำหรับใครที่อยากเป็นเจ้าของคอนโดสักแห่ง ค่าส่วนกลางคอนโด ถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ควรคำนึงถึง และเป็นค่าใช้จ่ายที่จะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน ที่นอกเหนือจากค่าใช้จ่ายในการซื้อ ภาษี และการโอนกรรมสิทธิ์ แต่เราทุกคนรู้หรือเปล่า ว่าค่าส่วนกลางที่ว่านั้นคืออะไร คำนวณจากอะไร และใครเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายส่วนนี้ ต้องติดตามในบทความนี้เลย ค่าส่วนกลางคอนโด คืออะไร? ค่าส่วนกลางคอนโด คือ ค่าใช้จ่ายที่ผู้อยู่อาศัยในคอนโดหรือเจ้าของกกรรมสิทธิ์คอนโดจะต้องจ่ายให้กับนิติบุคคลอาคารชุด เพื่อที่นิติฯ จะนำเงินในส่วนนี้ไปใช้ดูแลและจัดการพื้นที่ส่วนกลางต่างๆ ซึ่งต่อให้เราจะซื้อเพื่อปล่อยเช่า ซื้อแล้วอยู่เองหรือปล่อยว่าง ในฐานะเจ้าของกรรมสิทธิ์ห้องคอนโดนั้น จำเป็นที่จะต้องชำระค่าส่วนกลางอยู่ดี เพราะค่าส่วนกลางนั้นมีระบุอย่างชัดเจนในกฎหมายพ.ร.บ. อาคารชุด พ.ศ.2522 มาตรา 18 ว่าค่าส่วนกลางเป็นหนี้ที่เกิดตามกฎหมาย ดังนั้นหากไม่มีการชำระเงินค่าส่วนกลาง นิติบุคคลมีสิทธิ์ที่จะตัดสิทธิ์บางอย่างได้ และสามารถที่จะดำเนินการทางกฎหมายโดยการยื่นฟ้องศาลได้เช่นกัน สำหรับใครที่สงสัยว่าการเรียกเก็บค่าส่วนกลางคอนโดแล้วจะต้องเอาไปทำอะไรบาง ส่วนมากแล้ว 65% ของค่าส่วนกลางจะแบ่งออกมาใช้ในการบริหารโครงการ ค่าใช้จ่ายในการรักษาความปลอดภัย ค่าจ้างทำความสะอาด 20% ต่อมาจะเป็นค่าสาธารณูปโภคพื้นฐาน 10% จะเป็นค่าซ่อมบำรุงรักษาต่างๆ และ 5% ที่เหลือจะเป็นการจ่ายกิจกรรมและเบ็ดเตล็ดๆ ซึ่งนิติบุคคลถือเป็นองค์กรไม่แสวงหากำไร ดังนั้นการเรียกเก็บค่าส่วนกลางคอนโดนั้นจะต้องไม่ได้มุ่งหวังเพื่อกำไรเป็นหลัก ค่าส่วนกลางคอนโด คิดยังไง ? ค่าส่วนกลางคอนโดถือเป็นการชำระแบบราคาเฉลี่ย ซึ่งจะมีการเรียกเก็บจากลูกบ้านทุกคน และจัดเก็บโดยคิดจากขนาดพื้นที่ของห้องชุด เช่น ค่าส่วนกลางคอนโดแห่งหนึ่งจะมีการคิดในอัตรา 40 บาท/ตารางเมตร/เดือน ถ้าห้องขนาด 30 ตารางเมตร เท่ากับจะเสียค่าส่วนกลาง 1,200 บาท/เดือน แต่นิติบุคคลอาจเรียกเก็บล่วงหน้า 1-2 ปีเท่ากับจะต้องเสียปีละ 14,400 บาท สำหรับการคำนวณนั้นนอกจากการ ปัจจัยยูนิตที่มีซึ่งถ้าเป็นโครงการ High Rise ที่มีจำนวนยูนิตมากกว่าโครงการ Low Rise ก็จะมีหน่วยในการหารมากกว่า ขนาดของห้องชุดแล้ว อีกหนึ่งข้อสำคัญที่ต้องนำมาคิดเลยคือ สิ่งอำนวยความสะดวกที่พื้นที่ส่วนกลางมีให้ หากเป็นโครงการระดับพรีเมี่ยม ที่มีสิ่งอำนวยความสะอาดชั้นนำต่างๆ หรือมีจำนวนมาก ก็หมายถึงค่าดูแลรักษาที่มากขึ้นนั่นเอง โดยชื่อเสียงและประสบการณ์ของนิติบุคคลก็มีผลต่อค่าใช้จ่ายส่วนนี้ได้เช่นกัน นอกจากนี้ ค่าใช้จ่ายส่วนกลางยังสามารถเพิ่มขึ้นได้ตามอัตราเงินเฟ้ออีกด้วย ดังนั้นไม่ต้องแปลกใจหากในช่วงปีแรกอาจจะมีค่าใช้จ่ายที่น้อยกว่าปีหลังๆ ซึ่งค่าส่วนกลางคอนโดในกรุงเทพประมาณกี่บาท? นั้น คำตอบคือ เฉลี่ยอยู่ที่ 35-45 บาทต่อตารางเมตร สูงสุดใน Segment Ultimate จะอยู่ที่ประมาณ 95-150 บาท พอทราบแล้วว่าค่าส่วนกลางคอนโดในประมาณกี่บาท อีกหนึ่งเรื่องที่เราควรรู้คือกำหนดระยะเวลาในการจ่ายนั้นจะแตกต่างกันขึ้นอยู่กับแต่ละโครงการ บางโครงการคอนโดอาจมีข้อเสนอที่น่าดึงดูดอย่างฟรีค่าส่วนกลางปีแรก บางแห่งอาจมีการเรียกเก็บรวมไปตั้งแต่แรกเลย เพราะจะมีเรียกเก็บล่วงหน้า 1-3 ปี ซึ่งหลังจากหมดช่วงดังกล่าว นิติบุคคลจะมีการเรียกเก็บที่แตกต่างกัน บางแห่งอาจกำหนดจ่ายรายปี ทุกครึ่งปี หรือจะทุก 3 เดือนก็ได้ ดังนั้นหลังจากซื้อคอนโดและได้เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์พื้นที่ดังกล่าวแล้ว จำเป็นที่จะต้องคำนวณเพื่อเตรียมเงินเหล่านี้ไว้ด้วย เพราะถ้าไม่จ่ายค่าส่วนกลางนี้ ถือว่ามีความผิดตามกฎหมมาย โดยนิติบุคคลสามารถคิดค่าปรับล่าช้าหรือดอกเบี้ยได้ในอัตรา 12-20% รวมถึงนิติบุคคลสามารถฟ้องร้องเพื่อบังคับคดีให้ชำระหนี้ได้ และนอกจากนั้นยังไม่มีสิทธิ์ในการออกเสียงในที่ประชุมและไม่สามารถโอนกรรมสิทธิ์ได้…

Good MOOD ก็ Good VIBES เมื่อความสุขอยู่รอบตัว

‘เมื่อห้องเป็น comfort zone ในบางครั้งวันอันแสนวุ่นวายจึงมักจบลงเมื่อก้าวเท้าเข้าประตูห้อง’ เพียงแค่ได้กลับมาถึงห้องสัมผัสบรรยากาศ กลิ่นที่คุ้นเคย หรือเพียงแค่ได้ทิ้งตัวลงบนเตียงที่รักก็นับว่าเป็นการพักใจหลังจากเผชิญเรื่องราวระหว่างวัน ไม่ว่าจะจากที่ทำงาน โรงเรียน การเดินทางและอีกมากมาย นับเป็นการชาร์จแบตเตอรี่ให้ร่างกายได้ไม่น้อยเลยทีเดียว การเลือกที่อยู่อาศัยที่ถูกใจจึงไม่ได้เป็นเพียงแค่ความพึงพอใจ แต่ในอีกแง่หนึ่ง การเลือกซื้อคอนโด เช่าคอนโด หรือการซื้อบ้าน เช่าบ้าน ก็ยังเป็นการสะท้อนตัวตนของผู้อยู่อาศัย เนื่องจากบ้าน(และคอนโด)นั้นมีความหมายนอกเหนือจากเรื่องกายภาพ แต่ยังเป็นเรื่องของจิตใจ การเลือกบ้านและคอนโด รวมถึงการตกแต่งในหลายครั้งจึงเกี่ยวข้องกับการถ่ายทอดตัวตนในจิตใจออกมาให้ชัดเจนอีกด้วย   เลือกห้องที่ถูกใจอาจต้องใช้เวลา ‘คับที่อยู่ง่าย คับใจอยู่ยาก’ ดูเหมือนจะเป็นจริงตามคำกล่าวนี้ หากได้บ้าน หรือ คอนโดที่ถูกใจ ขนาดพื้นที่ก็ดูจะไม่มีผลเท่าไหร่นัก อีกทั้งหากได้วิวที่ดี จะยิ่งจรรโลงใจขึ้นเป็นเท่าตัว ซึ่งในบางครั้งการเลือกซื้อคอนโด เช่าคอนโด หรือการซื้อบ้าน เช่าบ้าน ให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์และความต้องการก็อาจเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาในการค้นหา เนื่องจากองค์ประกอบหลายอย่างที่ควรคำนึงถึง เช่น ทำเล กฎการเลี้ยงสัตว์ มาตราฐานโครงการ ระบบรักษาความปลอดภัย พื้นที่จอดรถ เป็นต้น   Tips: หลายคนอ่านกังวลใจในการซื้อคอนโด เช่าคอนโด หรือการซื้อบ้าน เช่าบ้าน สามารถให้ผู้เชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์ที่เชื่อถือได้ช่วยหาห้องในฝันของคุณให้ได้ไวขึ้น หรือให้ผู้เชี่ยวชาญด้านอสังหาฯ ช่วยคัดห้องที่ Match MOOD การอยู่อาศัยของคุณที่นี่ ค้นหาคอนโดโปรดีก่อนสิ้นปี 2565 ที่ถูกใจก่อนปรึกษาพลัสฯ ค้นหา คอนโดโปรโมชันดีๆ | ค้นหา เช่าคอนโด หรืออาจเป็นการทดลองเช่าอยู่ก่อนตัดสินใจซื้อจริงก็เป็นตัวเลือกที่ดีไม่น้อย เนื่องจากคอนโดและบ้านหลายๆ ที่มักมีการตกแต่งในระดับหนึ่งอยู่ก่อนแล้ว ทำให้สามารถเลือกได้หลากหลาย ทั้งนี้การเช่าบ้านหรือเช่าคอนโดยังมีข้อดีคือ ไม่มีผลผูกพันทางการเงินในระยะยาวและสามารถย้ายได้หากยังรู้สึกว่าการเช่าบ้านหรือเช่าคอนโดนั้นยังไม่ตอบโจทย์ ซึ่งในปัจจุบันคอนโดให้เช่าต่างมีมากหมาย นับเป็นตัวเลือกให้ผู้อาศัยได้เป็นอย่างดี   ‘เพราะอารมณ์ที่ดีเริ่มต้นจากที่อยู่อาศัย เมื่อได้บ้านหรือคอนโดที่พึงพอใจจะให้ใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากขึ้น’     สิ่งแวดล้อมต้องได้รับการดูแลเอาใจใส่ ‘เมื่อสบายกาย ก็สบายใจ’ ลองจินตนาการดูว่าในวันที่อากาศดี อยากพักผ่อนสูดอากาศให้ชื่นใจ แต่เจอต้นไม้เหี่ยวเฉาพร้อมสนามหญ้าที่รกรุงรังคงจะไม่สบายใจเท่าไหร่นัก นอกจากห้อง บ้าน คอนโดจะถูกใจแล้ว พื้นที่ส่วนกลางและสิ่งแวดล้อมภายนอกก็สำคัญแม้จะได้ทำเลและยูนิตที่ถูกใจ แต่สำหรับการอยู่อาศัยแล้ว สภาพแวดล้อมนั้นมีผลเป็นอย่างมาก ภาพส่วนกลาง XT Phayathai ที่อยู่อาศัยที่ดีจะต้องมีนิติบุคคลอาคารชุด หรือที่เรียกกันจนติดปากว่า ‘นิติ’ รวมถึงระบบรักษาความปลอดภัยที่ดีด้วยเช่นกัน การบริหารการจัดการที่ดีเป็นสิ่งที่มองข้ามไม่ได้ หากการบริหารจัดกลางส่วนกลางรวมถึงระบบรักษาความปลอดภัยที่แย่แล้ว ก็จะทำให้ส่วนกลางและทรัพย์สินเสื่อมลงตามกาลเวลาและใช้ประโยชน์ได้ไม่เต็มที่ อีกทั้งยังเป็นอันตรายต่อผู้อยู่อาศัยและทรัพย์สิน ดังนั้นการมีนิติบุคคลอาคารชุดที่ดีและระบบรักษาความปลอดภัยที่เยี่ยมยอดจะช่วยทำให้คุณมั่นใจว่าการใช้ชีวิตประจำวันของคุณจะปลอดภัยอย่างแน่นอน ยิ่งไปกว่านั้นการได้บริษัทที่เป็นมืออาชีพและเชี่ยวชาญด้านการบริหารจัดการอาคาร และเข้าใจผู้ยู่อาศัย มารับหน้าที่ปฏิบัติงานบริหารอย่างนิติบุคคลคอนโดฯ จะยิ่งทำให้ MOOD การอยู่อาศัยของคุณราบรื่นยิ่งขึ้นเป็นเท่าตัว ทำความรู้จักกับนิติบุคคลอาคารชุดเพิ่มเติม คณะกรรมการนิติบุคคลอาคารชุดคือใคร นิติบุคคลคอนโด เลือกอย่างไรไม่ให้พลาด แถมลูกบ้านแสนสุข   ปรึกษากูรูให้ผู้รู้จริงช่วย Match! ‘เวลานับเป็นสิ่งที่มีค่า เคยอยากให้เวลามีมากกว่า 24 ชม. ในการทำสิ่งอื่นๆ หรือเปล่า’ หากคุณอยากได้ที่อยู่อาศัยที่โดนใจ มีโครงการในใจแต่ไม่มีเวลทำการบ้าน เจอทำเลที่ใช่แต่ราคายังไม่โดนใจล่ะ ต้องทำอย่างไร? หรือ หากเปลี่ยนที่ทำงานแล้วต้องย้ายที่อยู่แต่ไม่มีเวลาหาคอนโดล่ะ ต้องทำอย่างไร? เพราะสำหรับที่อยู่อาศัยแล้วการได้ห้องที่ถูกใจ ราคาตรงงบ…

รวม 10 คาเฟ่หลากสไตล์ ย่านห้าแยกลาดพร้าว – พหลโยธิน

สายถ่ายรูปห้ามพลาด วันนี้พลัสฯ รวบรวม Cafe Hopping บรรยากาศชิคๆ หลากสไตล์ ใกล้แหล่ง Shopping Center ที่มีการเติบโตแบบร้อนแรงที่สุด อย่างย่านห้าแยกลาดพร้าว – พหลโยธิน มาฝาก ขนม เครื่องดื่ม ชา กาแฟ รับรองได้เลยว่าถ้าได้ไปเช็คอิน ดีต่อใจแน่นอน ไม่ไปไม่ได้แล้ว! ORBiT espresso BKK สายคอกาแฟห้ามพลาดกับคาเฟ่ที่หอมไปด้วยกลิ่นกาแฟและรสสัมผัสละมุน มีบาริสต้าคอยให้ความรู้เป็นกันเอง ราคาเป็นมิตรเน้นคุณภาพ บริการน่าประทับใจบรรยากาศภายในร้านแต่งสไตล์วินเทจ “เมนูแนะนำกาแฟพิสมัย” กลมกล่อมน่าลิ้มลอง เปิด จันทร์-ศุกร์ 7:30 – 18:00 เสาร์-อาทิตย์ 8:00 – 18:00 พิกัด : พหลโยธิน 35 * ขอขอบคุณภาพจากทางร้าน Yellow Teeth sip n’ snap ร้านกาแฟนั่งชิวสบายๆ ดื่มด่ำกับธรรมชาติและบรรยากาศภายในร้านมีการตกแต่งสไตล์ย้อนยุคผสมผสานกับธรรมชาติให้ความรู้สึกผ่อนคลาย มีเมนูให้เลือกได้หลากหลาย เพลงเพราะๆ ฟังชิวๆ มุมถ่ายรูปสุดชิค การตกแต่งตามเทศกาลไม่น่าเบื่อ เปิด 10:00 – 18:00 ยกเว้นวันจันทร์ พิกัด : โชคชัย 4 ซอย 3 * ขอขอบคุณภาพจากทางร้าน Niche Tea BKK สายชาเขียวต้องหลงรักกับคาเฟ่สไตล์เกาหลีพร้อมเมนูคอชาเขียวไม่ว่าจะเป็น Dirty มัชชะ,ชาเขียวโฮจิฉะ และยังมีเมนูของหวานชูครีมหลากหลายรสชาติ สามารถมานั่งชิวจิบชาเขียวให้สบายใจพร้อมถ่ายรูปสวยภายในร้านคลีนๆ โทนสีขาวสไตล์เกาหลี เปิดทุกวัน 9.00 – 18.00 พิกัด : ซอยพหลโยธิน 2 * ขอขอบคุณภาพจากทางร้าน BAKEBURY Espresso Bar คาเฟ่ที่มีกาแฟอร่อย ครัวซองค์ดี ที่จอดรถสะดวกสบาย ภายในร้านตกแต่งสไตล์โมเดิร์นผสมความสตรีทเหมาะกับทุกไลฟ์สไตล์ไม่ว่าจะเป็นสายไหนก็มีเมนูน้ำและเบเกอร์รี่ให้เลือกมากมาย ที่นั่งสบาย Good vibes นั่งทำงานภายในร้านได้อีกด้วย เปิดทุกวัน 07:30 – 18:00 พิกัด : ลาดพร้าวซอย 1 * ขอขอบคุณภาพจากทางร้าน Sunny Bear Coffee Roasters คาเฟ่ที่ออกแบบสไตล์งานไม้ สบายตา ตกแต่งด้วยกระจกใสให้ดูสว่าง โล่ง เดินทางมาง่ายใกล้ BTS มีที่จอดรถ บรรยากาศดีใกล้ชิดธรรมชาติได้ฟีลคาเฟ่เชียงใหม่สามารถนั่งชิวได้ เครื่องดื่มอร่อย…

แจกพิกัด 10 คาเฟ่ยอดฮิต ถนนเพชรบุรีตัดใหม่-ทองหล่อ รวมมิตรมาให้แล้ว

ถนนเพชรบุรีตัดใหม่-ทองหล่อ ถือเป็นย่านที่รวมทั้งแหล่งกิน แหล่งเที่ยว แหล่งบันเทิง รวมถึงแหล่งโครงการคอนโดมิเนียมที่น่าสนใจอย่างเช่น THE BASE เพชรบุรี-ทองหล่อ  oka HAUS หรือจะ taka HAUS รวมไว้ในที่เดียวกันและถ้าจะไม่พูดถึงคาเฟ่ ก็ไม่ได้เพราะย่านนี้ก็มีคาเฟ่ที่น่านั่งอยู่มากมาย ไม่แพ้ที่อื่นกันเลยทีเดียว วันนี้พลัสฯ จะมาเอาใจสายสร้างคอนเทนต์ พามาอัพเดต “คาเฟ่ชิคๆ คูล” ที่จะนั่งชิลทำงาน หรือจะถ่ายรูปอัพลงโซเชี่ยลก็เรียกยอดไลค์กระจาย ตามมาดูกันเลยดีกว่าว่าจะมีคาเฟ่ไหนที่ควรปักหมุดแล้วไปเช็คอินบ้าง เราได้คัดมาให้สำหรับคนที่กำลังมองหาร้านกาแฟใหม่ๆ นั่งจิบกาแฟ ทานขนมอร่อย หรือหามุมสบายนั่งทำงาน อีกทั้งในแต่ละร้านก็ยังมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นไม่แพ้กันเลยทีเดียว 1. NIWO cafe พลาดไม่ได้สายครัวซองค์หอมอร่อยเกินราคาและเครื่องดื่มกาแฟคั่วพิเศษกับร้านสไตล์มินิมอลโทนสีขาว บรรยากาศ feel good อีกทั้งพนักงานบริการดีเลิศ บาริสต้าที่ใส่ใจทุกเมนูเครื่องดื่มสุด ขอบคุณรูปภาพจากจาก Facebook เพจ: niwo cafe เวลาเปิด ทุกวัน เวลา 07:00-19:00 น. 📌 พิกัด: ซอยสุขุมวิท 39 2. Flat+white Cafe เอาใจสายหวานชอบรับประทานเค้กตกแต่งสไตล์เกาหลี คาเฟ่โทนสีขาวถ่ายรูปชุดไหนก็เอาอยู่หรูหรา เครื่องดื่มโกโก้อร่อยมีเอกลักษณ์ อีกทั้งมีเมนูน่าลองอย่างโฮจิฉะ+เฮเซลนัท ใส่ใจสุขภาพที่สุด ขอบคุณรูปภาพจากจาก Facebook เพจ: Flat+white cafe เปิดทุกวันเวลา 09:00-18:00 น. 📌 พิกัด: ทองหล่อ 3. Paco.Bangkok คาเฟ่สไตล์เมืองนอกเมนูสายคลีนกับโยเกิร์ตและผลไม้เปรี้ยวหวานสุดชื่นใจ คัดสรรวัตถุดิบดีเยี่ยมมากไปกว่านั้นยังมีเมนูของคาวด้วยนะ บรรยากาศภายในร้านเหมือนไม่ได้อยู่ประเทศไทยเลย มุมถ่ายรูปเก๋มาก ขอบคุณรูปภาพจากจาก Facebook เพจ: Paco Bangkok เปิดทุกวันเวลา 10:00-20:00 น. 📌 พิกัด: สุขุมวิท49 4. MooMin cafe คาเฟ่ Moominสไตล์เกาหลีน่ารักมาก ยกเหล่าตัวการ์ตูนมาไว้ที่คาเฟ่เอาใจคนรักMoomin เมนูน่ารับประทานไม่ว่าจะเป็นคัพเค้กของหวานและเมนูน้ำลาเต้ โกโก้ ก็อร่อยไม่แพ้กัน พนักงานในร้านก็เอาใจใส่ต้อนรับเป็นกันเอง ขอบคุณรูปภาพจากจาก Facebook เพจ:Moomin Thailand เปิดทุกวันเวลา 10:00-20:00 น. 📌 พิกัด: ตึกSingha complex เพชรบุรีตัดใหม่ 5. ThinkLab creative space and cafe คาเฟ่เปิดใหม่กลิ่นกาแฟหอมในยามเช้าก่อนไปทำงานเพราะว่าทางร้านคัดสรรเมล็ดกาแฟอย่างดี สำหรับใครที่ไม่ชอบกาแฟก็ยังมีเมนูมัทฉะให้ลิ้มลองกันด้วยนะ บรรยากาศในร้านมีพื้นที่ให้ทำงานมุมดีมุมสบายสุด ๆ ใครที่กำลังทำงาน work form home แนะนำมาร้านนี้เลย…

พาชมสวนป่าเบญจกิติ ป่าใหญ่ใจกลางกรุง สวนสาธารณะแลนด์มาร์คใหม่ใกล้ อโศก สุขุมวิท พระราม 4

สวนป่าเบญจกิติ สวนสาธารณะรูปแบบใหม่ย่านอโศก-รัชดา เมื่อเร็วๆ นี้ ชาวกรุงเทพฯ ได้รับมอบสวนสาธารณะที่เพิ่งเปิดตัวใหม่ในย่านอโศก-รัชดา นั่นคือสวนป่าเบญจกิติเฟส 2-3 ที่จะเข้ามาเป็น “ระบบนิเวศ” แห่งใหม่ใจกลางกรุง เพราะที่นี่จะไม่ใข่แค่สวนสาธารณะ แต่จะเข้ามายกระดับสภาพแวดล้อม และมอบคุณค่าแก่ชาวเมือง ทั้งในแง่การพักผ่อนหย่อนใจ การศึกษาธรรมชาติ และการเป็นพื้นที่ช่วยลดภัยธรรมชาติในอนาคตข้างหน้าอีกด้วย จากโรงงานยาสูบสู่สวนสาธารณะ สวนเบญจกิติแต่เดิมเป็นพื้นที่ตั้งของโรงงานยาสูบ ซึ่งหลังจากโรงงานได้ย้ายไปอยู่ที่จังหวัดอยุธยา พื้นที่นี้จึงได้รับการปรับเปลี่ยนให้เป็นสวนสาธารณะที่มีขนาดกว่า 450 ไร่ โดย “สวนเบญจกิติ” เปิดให้บริการตั้งแต่ปี 2547 มีบึงใหญ่อยู่ตรงกลางล้อมรอบไปด้วยพื้นที่สำหรับวิ่ง เดิน ปั่นจักรยาน ซึ่งพื้นที่เฟสใหม่ที่เรากำลังจะกล่าวถึงนี้ ได้รับการพัฒนาให้เป็น “สวนป่าเบญจกิติ” และเพิ่งได้มีการเปิดให้เข้าชมได้เมื่อปลายปีที่ผ่านมา ระบบนิเวศที่หล่อเลี้ยงตัวเองได้ ขอบคุณภาพจาก wikipedia สำหรับแนวคิดการพัฒนาสวนป่าเบญจกิติเฟส 2-3 นี้เรียกได้ว่ามีความพิเศษกว่าที่อื่นๆ เพราะถือเป็นการสร้างนิยามใหม่ของสวนสาธารณะที่ไม่ใช่แค่การจัดสวนตาม Landscape เท่านั้น แต่ที่นี่ยังถูกออกแบบให้เป็น “ป่าขนาดย่อม” ที่สามารถเจริญเติบโตไปพร้อมกับเมือง และเน้นสะท้อนความจริงของธรรมชาติ ตัวอย่างเช่น พันธ์ไม้ที่จะผลัดใบและเปลี่ยนสีสันตามฤดูกาลและสภาพแวดล้อม โดยไม่จำเป็นต้องเขียวชอุ่มตลอดปี แถมยังมีพื้นที่จัดไว้สำหรับ “เกาะต้นไม้กลางบึง” ที่มีร่องน้ำไว้ทำหน้าที่กักเก็บและบำบัดน้ำเสีย พร้อมให้รากต้นไม้ดูดซับน้ำไปใข้หล่อเลี้ยงตัวเองได้ และพื้นที่ชุ่มน้ำส่วนนี้ยังสามารถรองรับน้ำฝนเพื่อป้องกันอุทกภัยที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตได้อีกทางหนึ่งด้วย แหล่งแฮงเอาท์ใหม่ฟังก์ชันจัดเต็ม ขอบคุณภาพจาก City Cracker นอกจากพื้นที่สีเขียวแล้ว สวนป่าเบญจกิติเฟส 2-3 ยังออกแบบสิ่งปลูกสร้างให้เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจที่แท้จริงของคนเมือง ไม่ว่าจะเป็น Skywalk ที่ออกแบบให้มีความต่างระดับ ลาดชันบ้าง คดเคี้ยวบ้าง เพื่อเปิดมุมมองให้คนได้เดินชมสวนป่าแบบสมจริง พร้อมจุดถ่ายรูปวิว Panorama ให้แชะแชร์ผ่านโซเชียล และในส่วน Pavilion หรือศาลาชมวิว ที่สร้างไว้ตามจุดต่างๆ ให้เป็นพื้นที่พูดคุยสันทนาการและยังสามารถมองเห็นวิวสวนป่าและบรรยากาศโดยรอบได้ แถมยังมี Amphitheatre หรือ อัฒจันทร์อเนกประสงค์กลางแจ้ง ที่ให้คนมาทำกิจกรรมได้อย่างไม่จำกัด ไม่ว่าจะเป็นการเล่นดนตรี หรือ จัดอีเวนท์ต่างๆ ด้วยขนาดที่สามารถรองรับได้มากถึง 15,000 คน ซึ่งสิ่งปลูกสร้างทั้งหมดทั้งมวลนี้ถูกออกแบบในแนวคิด Universal Design ให้เด็ก ผู้สูงอายุ หรือผู้พิการ สามารถเข้ามาใช้พื้นที่ได้โดยไม่มีอุปสรรค ส่วนอาคารที่เป็นโรงงานยาสูบเก่าจะถูกปรับพื้นที่ให้เป็นโซนกีฬาในร่ม พิพิธภัณฑ์ และยังจะมี Bike Hub โซนขายอุปกรณ์และซ่อมจักรยานอีกด้วย สะพานเขียวเชื่อมสวมลุมฯ ขอบคุณภาพจากเพจ Travelเหรอ ความพิเศษยังไม่หมด เพราะสวนป่าเบญจกิติยังมีการปรับปรุงสะพานเขียวใหม่ เพื่อใช้เป็นทางเดิน วิ่ง และจักรยานที่เชื่อมต่อกับสวนลุมพินีโดยมีระยะทางประมาณ 1.6 กิโลเมตร พร้อมวิวด้านล่างที่สามารถซึมซับบรรยากาศชุมชนที่มีเสน่ห์เป็นเอกลักษณ์ ใครที่ยังไม่เคยลองเดินเชื่อมสวนใหญ่ 2 แห่งนี้ เราแนะนำให้มาลองดูกัน แต่อาจต้องเตรียมแรงเอาไว้หน่อย เพราะมีบันไดให้วัดกำลังขาอยู่เรื่อยๆ ตลอดทาง สวนป่าเบญจกิติถือได้ว่าเป็นสถานที่เหมาะเจาะกับการพักร่างพักใจได้เป็นอย่างดี หรือใครที่เบื่อกับการเดินห้าง ที่นี่ก็สามารถเป็นแหล่งแฮงค์เอาท์ใหม่สำหรับสายรักธรรมชาติ หรือหากต้องการสูดอากาศบริสุทธิ์ก็สามารถเข้ามาได้เลยโดยที่ไม่จำเป็นต้องเดินทางไปถึงต่างจังหวัด การเดินทางสู่สวนป่าเบญจกิติ สำหรับการเดินทางสู่สวนป่าเบญจกิตินั้นมีความสะดวกสบาย ด้วยแนวคิดที่ให้เมืองและชุมชนสามารถเชื่อมต่อกับสวนป่าเบญจกิติแห่งนี้ได้อย่างไร้รอยต่อ โดยเราขอแนะนำการเดินทางหลักๆ ออกเป็น 2…

“ให้ธรรมชาติเยียวยา” ทำไมมนุษย์ยังโหยหาพื้นที่สีเขียวในที่อยู่อาศัยใจกลางเมืองกรุง?

ในขณะที่เรากำลังนั่งทำงาน Work from home อยู่กับบ้าน หรือใครที่เริ่มไปทำงานที่ออฟฟิศบ้างแล้ว ก็ต้องเจอกับแสงนีออนและแสงสีฟ้าจากหน้าจอคอมพิวเตอร์อยู่เป็นประจำ “พื้นที่สีเขียวจากธรรมชาติ” ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้เราสามารถหลุดพ้นจากสภาพแวดล้อมเดิมๆ ได้ เรียกได้ว่ามนุษย์นั้นมักจะโหยหาสิ่งที่เรียกว่าสภาพแวดล้อมธรรมชาติ ให้กับตัวเองอยู่เสมอจนเป็นเรื่องปกติ ยิ่งเมื่อเกิดวิกฤติการแพร่ระบาดของ COVID-19 และการต้องล็อกดาวน์อยู่กับบ้านโดยที่ไม่ได้ออกไปไหนในช่วงปีที่ผ่านมา ก็ยิ่งทำให้เราต่างก็โหยหาความต้องการพื้นที่สีเขียวจากธรรมชาติยิ่งกว่าที่คิด ซึ่งแม้การพยายามพาตัวเองออกเดินทางไปท่องเที่ยวจะช่วยได้บ้าง แต่จะดีกว่าไหม ถ้าเราสามารถใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับธรรมชาติได้ใกล้ๆ ตัว แม้จะอยู่ท่ามกลางเมืองหลวงที่เต็มไปด้วยความเจริญก็ตาม ประโยชน์ของพื้นที่สีเขียวจากธรรมชาติส่งผลดีกับคนอย่างเราในแง่มุมไหนบ้าง? ถ้าจะถามว่าธรรมชาติส่งผลยังไงกับคนเมืองอย่างเราๆ ในแง่ของการศึกษาวิจัยทางวิชาการแล้ว Edward Osborne Wilson นักชีววิทยาชาวอเมริกันได้ให้คำนิยามของมนุษย์ว่า เราทุกคนต่างก็มีความเป็น “Biophilia” ซึ่งก็คือสัญชาติญาณความต้องการในการใฝ่หาชีวภาพให้กับชีวิต ซึ่งเจ้าสัญชาติญาณนี่เอง ที่ทำให้มนุษย์อย่างเรามักจะรู้สึกสดชื่น เบิกบานใจราวกับได้ทุกปลดปล่อยทุกครั้งเมื่อได้สัมผัสกับธรรมชาติที่บริสุทธิ์ หากเราสลับมุมมองมาดูในแง่ทางวิทยาศาสตร์บ้าง ก็อย่างที่รู้กันว่า ประโยชน์ของต้นไม้ ธรรมชาติ และพื้นที่สีเขียวนั้น ก็คือความสามารถในการปรับปรุงคุณภาพอากาศให้ดียิ่งขึ้น เนื่องจากต้นไม้จะคอยช่วยดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) เพื่อใช้ในกระบวนการสังเคราะห์แสง ซึ่งจะได้ผลลัพธ์เป็นการปลดปล่อยก๊าซออกซิเจน (O2) ซึ่งจำเป็นต่อการหายใจของเราออกมา ยังไม่รวมถึงคุณสมบัติของต้นไม้ ที่สามารถช่วยลดอุณหภูมิของพื้นที่เมืองโดยรอบได้จากร่มเงา และการดูดซับเพื่อคายความชื้นออกมา และอีกประเด็นที่สำคัญก็คือ ถ้าเรามองในแง่ของจิตวิทยาแล้ว ประโยชน์ของพื้นที่สีเขียวที่ส่งผลต่อคนเมืองอย่างเรานั้น ก็คือผลลัพธ์ที่เกิดจากการรับรู้สี และสีเขียวของต้นไม้เป็นสีที่ให้ความรู้สึกสบายตา ไม่ดูร้อนแรง ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่เพิ่มประโยชน์ให้กับพื้นที่สีเขียวจากธรรมชาติได้โดยไม่มีข้อโต้แย้ง พื้นที่สีเขียวจากธรรมชาติ ส่งผลต่อชีวิตคนเมืองของเรายังไงบ้าง? สำหรับเมืองหลวงที่มีประชากรอยู่กันหนาแน่นนั้น นักวิชาการได้มีการกำหนดดัชนีชี้วัดความอยู่ดีมีสุขของประชากร (Well-being indicator) ขึ้นมา ซึ่งการที่ดัชนีนี้จะเพิ่มขึ้นได้นั้น หนึ่งในปัจจัยสำคัญก็คือ เมืองแห่งนั้นจะต้องมี “พื้นที่สีเขียวจากธรรมชาติ” ที่มีคุณภาพ ในปริมาณที่เหมาะสม ตั้งอยู่ใกล้กับแหล่งที่อยู่อาศัย ทั้งยังต้องเดินทางสะดวกไปพร้อมกัน ข้อดีของพื้นที่สีเขียวจากธรรมชาติที่ส่งผลต่อผู้อยู่อาศัยในสังคมเมือง พื้นที่สีเขียวส่งผลดีต่อสุขภาพร่างกายและจิตใจของผู้อยู่อาศัย ต้นไม้และพืชที่มีเพียงพอ จะช่วยลดอุณหภูมิของเมืองลงได้ ทั้งยังลดมลภาวะทางเสียงได้ หากมีพืชที่หนาแน่นเพียงพอ ช่วยลดมลพิษทางอากาศ อันเกิดจากการสะสมของฝุ่นควันในเมือง ช่วยสร้างระบบนิเวศที่ดี จากการเข้ามาอยู่อาศัยของนก ปลา แมลง และสัตว์อื่นๆ ต้นไม้ขนาดใหญ่จะช่วยป้องกันการกัดเซาะพังทลายของดินได้ สามารถช่วยปรับปรุงระบบการบำบัดน้ำเสียได้ในระดับหนึ่ง เป็นพื้นที่ ที่เป็นแหล่งเชื่อมโยงผู้คนเข้าด้วยกัน สามารถทำกิจกรรมร่วมกัน และสัมผัสกับธรรมชาติได้โดยไม่ต้องลำบาก เป็นพื้นที่สำหรับให้ผู้อยู่อาศัยสามารถมาออกกำลัง ขยับร่างกายได้มากขึ้น เป็นการส่งเสริมการมีสุขภาพดีของคนเมืองในทางอ้อมได้ แต่ก็อย่างที่เรารู้กันว่า พื้นที่สีเขียวในเมืองนั้นเป็นของหายาก โดยเฉพาะในเมืองหลวงที่มูลค่าของที่ดินมีการเติบโตอยู่ในทุกๆ ปี ทำให้โอกาสที่คนทั่วไปจะได้สัมผัสกับพื้นที่สีเขียวที่ได้คุณภาพในเมืองนั้นจึงมีน้อยตามไปด้วยนั่นเอง พื้นที่สีเขียวที่ขึ้นชื่อว่าเป็น “ปอดของกรุงเทพฯ” มีที่ไหนบ้าง?  แต่อย่างไรก็ดี สำหรับใครที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ และโหยหาพื้นที่สีเขียวนั้น ก็ไม่ถือว่าไร้โอกาสจนเกินไปนัก เนื่องจากทางรัฐบาลเองก็ได้เล็งเห็นความสำคัญ และส่งเสริม รวมถึงดูแลรักษาพื้นที่สีเขียวขึ้นภายในเมืองอย่างต่อเนื่อง (แม้จะมีสัดส่วนน้อยมากเมื่อเทียบกับจำนวนประชากร) โดย จากข้อมูลการจัดอันดับของ Tripadvisor ได้ระบุว่า สวนสาธารณะที่เป็นพื้นที่สีเขียวซึ่งเปรียบเสมือนกับปอดของคนกรุง ที่ได้รับความนิยมที่สุด มีดังนี้ สวนลุมพินี (สีลม)  ถือเป็นสวนสาธารณะแห่งแรกของกรุงเทพฯ ตั้งอยู่ในเขตปทุมวัน จุดเด่นของสวนลุมพินีนั้น ก็คือความสะดวกสบายในการเดินทาง รวมถึงความร่มรื่นที่มาพร้อมสระน้ำขนาดใหญ่ สามารถเดินทางได้ง่ายๆ…

ล้วงลึกรัชดา-ห้วยขวาง รวมคาเฟ่น่านั่งพร้อมให้ไปโดน

ล้วงลึกรัชดา-ห้วยขวาง รวมคาเฟ่น่านั่งพร้อมให้ไปโดน ย่านรัชดา-ห้วยขวาง ถือได้ว่าเป็นอีกย่านที่มีความคึกคักไม่แพ้ย่านอื่น โดยเฉพาะย่านที่จัดเป็น CBD อย่างอโศก-รัชดา หรือพระราม 9 เพราะนอกจากจะเป็นแหล่งความร้านอาหารและของกินอร่อยๆ แล้ว ยังเต็มไปด้วยคาเฟ่และร้านกาแฟที่แฝงตัวอยู่ตามซอกซอยให้เราไปค้นหา ยิ่งสำหรับหลายๆ ร้านแล้ว ถ้าได้รู้จักก็จะยิ่งพบว่าเป็นร้านที่น่าสนใจไม่แพ้โซนสุขุมวิทหรือสีลมเลยทีเดียว *ขอขอบคุณภาพจากร้าน   Mitta X Sabaijai รัชดา-ห้วยขวาง ทำเลศักยภาพที่มี High Demand ต่อเนื่อง สิ่งที่ทำให้โซนรัชดา-ห้วยขวางมีความน่าสนใจไม่แพ้ย่านอโศก-รัชดา คือตำแหน่งของโซนรัชดา-ห้วยขวางที่ทำการเชื่อมโซนลาดพร้าว และโซนอโศกรัชดาเข้าไว้ด้วยกัน อีกทั้งยังมีใกล้กับสำนักงานใหญ่ที่น่าสนใจอยู่หลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็น AIA Capital Center หรืออาคาร True Tower 1 แถมยังอยู่ไม่ไกลกับ G Tower และอาคารสำนักงานอื่นๆ ในย่านพระราม 9 อีกด้วย Mindscape Café By Bottomless ร้านดังที่ขยายสาขามาจากนนทบุรี ซึ่งร้านต้นสาขานั้นถือกำเนิดจากนักชิมกาแฟที่เริ่มชงกาแฟแก้วแรกในบ้านตนเอง จนต่อมาพัฒนาเป็นโรงคั่วเพื่อนำเข้าเมล็ดกาแฟชั้นดีจากทั่วโลก ก่อนที่จะกลายมาเป็นร้านกาแฟเล็กๆ และเติบโตเป็นสาขาแรกที่ชาวนนทบุรีไม่รู้จักไม่ได้เลยทีเดียว สำหรับที่สาขารัชดาแห่งนี้แม้จะไม่ได้มีพื้นที่ขนาดใหญ่เท่าต้นสาขา แต่ก็มีบรรยากาศที่น่านั่ง ชวนผ่อนคลาย ในสไตล์แบบ Oasis ที่ตัดกับความเป็น Loft ภายในร้านได้อย่างลงตัว ในส่วนของเมนูก็ไว้ใจได้อย่างแน่นอน เพราะแทบจะยกทุกเมนูเด่นมาจากร้านหลัก และที่สำคัญยังมีเมนูพิเศษเฉพาะของร้านนี้ในชื่อ Cloudy, Deeper, และ Ying & Yang ที่ถ้าอยากรู้ว่าเป็นอย่างไร คงต้องตามไปพิสูจน์กัน 📌: MRT ห้วยขวาง ⏲: 7 AM – 6 PM*ขอขอบคุณภาพจากทางร้าน Paul Scones คาเฟ่เล็กๆ น่ารักที่บรรยากาศเหมือนหลุดไปอยู่ในหนังของ Wes Anderson แน่นอนว่าหากดูตามชื่อร้านแล้ว จุดเด่นคงหนีไม่พ้นขนมสโคน (Scone) อย่างแน่นอน แต่นอกจากสโคนแล้ว เมนูกาแฟของที่นี่ก็ดูดีไม่แพ้กัน และที่สำคัญยังมีราคาที่ไม่แพง เพราะทางร้านอยากให้ชาวสุทธิสารได้ดื่มกาแฟดีๆ ในราคาที่คุณภาพคับแก้ว ไม่ว่าจะเครื่องดื่มหรือขนมก็เรียกได้ว่าคุ้มค่าอย่างแน่นอน 📌: MRT สุทธิสาร ⏲: 10 AM – 5.30 PM *ขอขอบคุณภาพจากทางร้าน Big Dog Cafe “คาเฟ่หมาใหญ่ใจดี” เอาใจคนรักน้องหมา กับคาเฟ่หมาชื่อดังของย่าน ที่พิเศษกว่าน้องหมาที่ไหนๆ ตรงที่น้องหมาที่นี่ตัวใหญ่เบิ้มๆ ให้เราได้กอดรัดฟัดเหวี่ยงกันอย่างจุใจ ที่รอให้เราแวะไปเล่น ถ่ายรูป จนถึงป้อนขนมน้องๆ ได้ตามใจชอบ หรือใครที่เลี้ยงน้องหมาอยู่แล้ว…

เที่ยวทิพย์เมืองนอกกันไหม? รวมคลิป Walking Tour ดีต่อใจ เหมือนได้ไปสถานที่จริง

ในช่วงที่สถานการณ์ covid-19 กำลังน่าเป็นห่วงแบบนี้ คงยากที่จะได้ไปเที่ยวเมืองนอกในเร็ววัน แต่ถ้ายิ่งอยู่บ้านแล้วใจยิ่งโหยหาการเที่ยวล่ะก็ เราขอแนะนำคลิปวีดีโอ Walking Tour คลิปเที่ยวแนวใหม่ ที่จะพาเราไปรู้จักกับสถานที่ต่างๆ โดยไม่ต้องขยับเท้าไปไหน Walking Tour คืออะไร Walking Tour คือคลิปวีดีโอที่พาไปท่องเที่ยวในสถานที่ต่างๆ ทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นที่ยอดนิยม หรือที่ที่เราอาจไม่เคยรู้จักมาก่อน สิ่งที่แตกต่างจากคลิปท่องเที่ยว คือคลิป Walking Tour จะเป็นแบบไม่ตัดต่อ ไม่มีเสียงคนบรรยาย หรือพิธีกร หรือดนตรีประกอบ แต่จะเป็นเสียงและบรรยากาศจากสถานที่จริงที่เราจะเห็นไปพร้อมๆ กับเจ้าของช่อง รวมถึงเสียงผู้คนคุยกันเวลาเดินผ่าน เสียงร้านค้าประกาศข้อมูลต่างๆ สิ่งเหล่านี้เองที่ทำให้คลิป Walking Tour รู้สึกสมจริง และเป็นที่นิยมในขณะนี้ โดยวันนี้พลัสฯ จะมาแนะนำช่องที่น่าสนใจ พร้อมรายละเอียดคร่าวๆ ของแต่ละช่องกันครับ ว่าแล้วก็ตามมากันเลยครับ ประโยชน์ของคลิปวีดีโอ Walking Tour – เพิ่มเป้าหมายในการวางแผนเที่ยวในยามที่สถานการณ์ดีขึ้น – สร้างแรงจูงใจในการทำงาน และแรงบันดาลใจใหม่ๆ จากสถานที่ๆ เราไม่เคยเห็นมาก่อน – ช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดผ่านบรรยากาศแบบ Ambience ของสถานที่นั้นๆ – สามารถเปิดคลอไปกับเวลาที่ต้อง Work from Home ได้โดยไม่ทำให้เสียสมาธิ   Tokyo Shibuya Night หนึ่งในหมุดหมายสำหรับชาวไทยตลอดหลายปีที่ผ่านมา ก่อนที่จะเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด คือย่าน Shibuya ในกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เพราะในย่านนี้ เต็มไปด้วยแหล่งช้อปปิ้ง และแฟชั่นล้ำสมัยมากมาย ยังไม่รวมถึงถนนหนทางที่เป็นระเบียบเรียบร้อย รายล้อมไปด้วยคาเฟ่สวยๆ และจุดแลนด์มาร์กที่น่าสนใจอย่างห้างสรรพสินค้า Shibuya 109 หรือรูปปั้นเจ้าหมาฮาจิโกะ และภาพจำที่สำคัญของคนรักญี่ปุ่นคงจะหนีไม่พ้นการข้ามถนนที่บริเวณห้าแยกชิบุย่า ช่อง Rambalac นี้จะพาไปย้อนความตื่นเต้นเหล่านั้นอีกครั้ง ผ่านแลนด์มาร์กต่างๆ ที่เราคุ้นเคยกันดี ผ่านคลิปวีดีโอแบบไม่ตัดต่อ ไม่มีเสียงคนบรรยา หรือดนตรีประกอบ เสมือนว่าเรากำลังเดินด้วยตนเอง ตามไหล่ทางก็ได้ยินชาวญี่ปุ่นพูดคุยกัน รวมถึงเสียงตามสายแจ้งข้อมูลต่างๆ ที่ช่วยแก้คิดถึงได้ไม่น้อยเลยทีเดียว   Berlin, Germany Walking Tour ชมตึกรามบ้านช่องสวยๆ ในกรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนีไปกับช่อง BookingHunter หนึ่งในเมืองหลวงที่เป็นจุดหมายของนักท่องเที่ยวทั่วโลก กรุงเบอร์ลินนับเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศเยอรมนี และยังมีประชากรอยู่อาศัยเยอะที่สุด นอกจากนี้ยังเป็นเมืองยอดฮิตในหมู่ของประชากรในสหภาพยุโรปอีกด้วย ในอดีต หลังการถูกยึดครองจากประเทศที่ได้รับชัยชนะในสงครามโลกครั้งที่ 2 เบอร์ลินถูกแบ่งเป็น 2 ฝั่ง ระหว่างเบอร์ลินตะวันออก และเบอร์ลินตะวันตก โดยมีพรมแดนกั้นเป็นกำแพงเบอร์ลิน ก่อนที่กำแพงดังกล่าวจะถูกยุบในปี 1990 ส่งผลให้เบอร์ลินกลับมาเป็นหนึ่งเดียวกันอีกครั้ง ในคลิปวีดีโอนี้…