พาส่องโครงการคอนโดหรูย่านถนนวิทยุ “อัญมณีแห่งมหานคร”

ไม่ว่าใครก็ใฝ่ฝันถึงการได้ใช้ชีวิตท่ามกลางความสงบพร้อมกับความสะดวกสบายรอบด้าน บวกกับการมีพื้นที่สีเขียวอันร่มรื่นให้ได้สดชื่นในทุกเช้าหลังตื่นนอน เชื่อว่าหากได้ที่อยู่ที่เพียบพร้อมตามคุณสมบัติที่ว่ามานี้ คงจะเป็นชีวิตสุดเพอร์เฟคที่แทบจะไม่ต้องการสิ่งอื่นใดมาเติมเต็มอีกแล้ว แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะค้นหาพื้นที่ที่สมบูรณ์แบบได้ขนาดนี้ และที่ยากยิ่งกว่าคือการได้มาไว้ในครอบครอง หากพูดถึงพื้นที่ที่มีความลงตัวในทุกด้านอย่างที่หลายคนใฝ่ฝัน สำหรับในบ้านเราย่านหนึ่งที่มีพร้อมทุกสิ่งของชีวิตในฝัน ก็คือย่านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองหลวงนั่นคือ “ถนนวิทยุ” พื้นเล็กๆ อันล้ำค่า โดดเด่นในตัวเอง และเต็มไปด้วยความรุ่งเรืองมั่งคั่ง และยังคงเป็นย่านที่รอการไขว่คว้าการสัมผัสกับความสมบูรณ์แบบที่หาจากย่านอื่นไม่ได้ มารู้จักกับย่านนี้ไปพร้อมกับ พลัสฯ ที่จะพามาเปิดโลกแห่งความเป็นจริงในจินตนาการของใครหลายๆ คนกับคอนโดหรูที่น่าอยู่ที่สุดย่านถนนวิทยุ “อัญมณีแห่งมหานคร” แห่งนี้ “ถนนวิทยุ” ทำเลหลักร้อยล้าน ใจกลางมหานคร ถนนวิทยุ ถนนสายที่แม้จะไม่ยาวมากนักใจกลางกรุงเทพมหานคร แต่ก็เต็มไปด้วยความรุ่งโรจน์ที่ไม่เคยเปลี่ยนตั้งแต่อดีตมาจนกระทั่งปัจจุบัน เพราะเป็นถนนที่รายล้อมไปด้วย แหล่งศูนย์การค้าชั้นนำ ร้านอาหารมีระดับ โรงแรม สำนักงานและคอนโดหรู และยังมีอาคารสำคัญทางประวัติศาสตร์ บ่งบอกถึงการเป็นถนนสายเก่าแก่ที่ยังคงตั้งตระหง่านไว้ซึ่งความเป็นเอกลักษณ์ของการเป็นมรดกทางวัฒนธรรม ความพิเศษอีกประการของถนนสายนี้ยังรวมไปถึงการเป็นที่ตั้งของสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลของหลายๆ ประเทศเอาไว้อีกด้วย จึงทำให้บางคนมองว่าถนนวิทยุมีส่วนผสมที่ลงตัว จนเทียบได้กับย่านฟิฟท์ อเวนิว (Fifth Avenu) ในมหานครนิวยอร์ก ซึ่งไม่เกินจริงนัก เพราะถนนวิทยุสายนี้มีส่วนผสมของสิ่งที่ครบครันที่หาได้ยาก จึงไม่แปลกที่ทำให้ถนนสายนี้ ก้าวขึ้นเป็นทำเลหลักร้อยล้าน ใจกลางมหานคร ที่ใครๆ ก็ใฝ่ฝันถึง เบื้องหลังของการก้าวขึ้นเป็นย่านที่มีทำเลประดุจเพชรน้ำหนึ่งคือ พระยาภักดีนรเศรษฐ (นายเลิศ เศรษฐบุตร) เป็นผู้ที่ทำการพัฒนาพื้นที่ในย่านวิทยุและเพลินจิต นับตั้งแต่ได้รับที่ดินผืนนี้มาในพ.ศ. 2458 ด้วยการริเริ่มการจัดสรรที่ดินและทำการแบ่งขาย ซึ่งหนึ่งในผู้ที่ทำการซื้อที่ดินที่สำคัญคือ รัฐบาลอังกฤษในการใช้สร้างสถานเอกอัครราชทูตเมื่อพ.ศ. 2465 นอกจากนั้นยังมีนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์หลายครอบครัวเข้ามาซื้อที่ดินในย่านนี้และได้รับการพัฒนามาจนถึงรุ่นปัจจุบัน โดยถนนได้ถูกสร้างตัดผ่านในย่านวิทยุ เพื่อเป็นการเชื่อมต่อกับถนนพระราม 4 เข้ากับถนนเพชรบุรีและถนนเพลินจิต ที่โดดเด่นไปกว่านั้นคือยังเป็นย่านที่มีการสร้างสวนสาธารณะแห่งแรกของไทยอย่างสวนลุมพินีที่ถูกสร้างขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ซึ่งที่มาของชื่อถนนวิทยุ ก็ได้มาจากการพระราชทานนามตามสถานที่ตั้งของสถานีวิทยุแห่งแรกในไทย ที่ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับสวนลุมพินีในย่านนี้นั่นเอง สวนลุมพินี ด้วยการเป็นแหล่งที่ตั้งของสถานที่สำคัญในระดับชั้นนำต่างๆ ของประเทศมากมายนับตั้งแต่อดีต ไม่ว่าจะเป็นที่พักของชนชั้นนำที่โดดเด่นคือ วังคันธวาส ที่ปัจจุบันถูกแปรเปลี่ยนให้เป็นโรงแรมพลาซ่า แอทธินี รอยัล เมอริเดียน หนึ่งในโรงแรมชั้นนำของย่าน รวมทั้งสถานีวิทยุแห่งแรก สมาคมกีฬาชั้นสูงอย่างสมาคมราชกรีฑาสโมสรโปโลคลับ และยังเป็นย่านที่มีสถานที่สำคัญระดับนานาชาติอย่างสถานเอกอัครราชทูต ที่ปัจจุบันมีมากกว่า 22 ประเทศด้วยกัน ซึ่งเป็นประเทศสำคัญทั้งสิ้น เช่น สถานทูตสหรัฐอเมริกา สถานทูตอังกฤษ สถานทูตญี่ปุ่น เป็นต้น ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ถนนวิทยุ เป็นย่านที่รายล้อมไปด้วยความสะดวกสบาย ทันสมัย ในขณะเดียวกันก็เป็นพื้นที่แห่งความสงบ ร่มรื่น มีความเป็นส่วนตัวสูง ที่ซุกตัวอยู่อย่างกลมกลืนใจกลางมหานคร ที่เมื่อรวมไปถึงย่านราชดำริบริเวณข้างเคียงแล้ว นับเป็นพื้นที่ที่มีอัตราการเติบโตของราคาประเมินเฉลี่ยมากถึงปีละประมาณ 70% ซึ่งถือเป็นราคาที่สูงที่สุดเมื่อเทียบกับพื้นที่ใจกลางเมืองบริเวณอื่นๆ เลยทีเดียว แนะนำคอนโดหรูใจกลางเมืองย่านถนนวิทยุ “เหนือล้านยังมีร้อยล้าน” 98 Wireless 98 Wireless (ไนน์ตี้เอท ไวร์เลส) หนึ่งในโครงการคอนโดหรูที่สุดของแสนสิรินับตั้งแต่ที่เคยทำมา บนทำเลที่ดีที่สุดใจกลางกรุงเทพมหานครติดถนนวิทยุ เป็นโครงการ Flagship ที่ใส่ใจในรายละเอียดในการออกแบบ เพื่อให้ได้องค์ประกอบต่างๆ ที่มีความประณีตสวยงาม…
เคล็ดลับเพิ่มมูลค่าอสังหาฯ เพื่อการลงทุนในคอนโดหรู

การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ถือเป็นอีกวิธีที่นักลงทุนหลายคนสนใจ เนื่องจากเป็นการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงจึงดึงดูดให้นักลงทุนหน้าใหม่เริ่มหันมาศึกษาและสนใจกันมากขึ้น ยิ่งกับกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ระดับสูงอย่าง “คอนโดหรู” ที่มีกลุ่มตลาดรองรับชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นการเก็งกำไรจากการขายคอนโดหรูพร้อมอยู่หรือการปล่อยคอนโดหรูให้เช่าเพื่อสร้าง Passive Income ในระยะยาว ซึ่งถือเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงน้อยกว่ารูปแบบอื่น ดังนั้นพลัสฯ ขอพาทุกคนมารู้จักข้อดีของการลงทุนคอนโดหรู รวมถึงเคล็ดลับในการเพิ่มมูลค่าให้กับคอนโดหรู และแนะนำโครงการคอนโดหรูเหมาะกับการลงทุนใช่วงสิ้นปีนี้ การลงทุนในกลุ่มคอนโดหรู สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ลักษณะ คือ การลงทุนแบบเก็งกำไร เป็นการลงทุนที่ใช้เงินจำนวนหนึ่งและต้องการผลตอบแทนเร็ว จะมีทั้งการขายใบจองคอนโดหรือการลงทุนซื้อคอนโดหรูมือสองที่นำมารีโนเวทเพื่อการขาย ซึ่งอาจมีความเสี่ยงสูงกว่ารูปแบบอื่น การลงทุนปล่อยเช่า เหมาะกับผู้ที่ต้องการความเสี่ยงต่ำ เนื่องจากสามารถสร้างรายได้อย่างสม่ำเสมอหรือที่เรียกว่า Passive Income ได้ แต่กำไรอาจไม่มากเท่าในรูปแบบแรก แต่อย่างไรก็ตาม จะเป็นการลงทุนในลักษณะใด จำเป็นที่จะต้องศึกษากลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน แหล่งเงินทุน สภาพคล่องทางการเงิน ทำเลที่ตั้ง กำไร และปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ควบคู่กันไปก่อนจะลงทุนเสมอ เคล็ดลับเพิ่มมูลค่าการลงทุนคอนโดหรู ทำอย่างไร? ความนิยมในการลงทุนอสังหาริมทรัพย์มีเพิ่มขึ้นจากเดิม ทำให้ผู้ลงทุนต่างต้องมองหาวิธีการเพิ่มมูลค่าของคอนโดหรูยิ่งขึ้น เพื่อสร้างกำไรให้กับตนเอง โดยพลัสฯ ขอมาแนะนำเคล็ดลับดังต่อไปนี้ เลือกทำเลทองที่เพิ่มกำไรระยะยาว กล่าวได้ว่า ทำเลถือเป็นองค์ประกอบสำคัญสำหรับคอนโดหรูเลยก็ว่าได้ เพราะการอาศัยอยู่ภายในคอนโดหรู ผู้อาศัยย่อมต้องการยกระดับการใช้ชีวิตให้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น จึงไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมเหล่าโครงการระดับ Luxury มักเลือกทำเลทอง อย่างจุดที่มีรถไฟฟ้าผ่าน อยู่ใกล้อาคารสำนักงานนานาประเทศ มีแหล่งช้อปปิ้งหรือคอมมูนิตี้ อยู่ใกล้โรงพยาบาลและสถานศึกษา สวนสาธารณะ ตลอดจนกำลังมีการพัฒนาโครงการมิกซ์ยูสต่างๆ ซึ่งแสดงถึง ศักยภาพของพื้นที่ในการเติบโต หมายถึง มูลค่าพื้นที่ที่เพิ่มขึ้นตามไปอีก โดยทำเลที่น่าจับตามองหนีไม่พ้นเส้นสุขุมวิทตอนกลาง คือ โซนทองหล่อ-อโศก ที่เป็นย่านธุรกิจที่แทรกซึมไปด้วยแหล่งคอมมูนิตี้ต่างๆ นั่นเอง เลือกคอนโดหรูที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน สิ่งอำนวยความสะดวกเป็นจุดขายของคอนโดหรู ซึ่งจะต้องยกระดับคุณภาพชีวิตที่เหนือระดับและมอบความเป็นส่วนตัวให้กับผู้อยู่อาศัย อย่างการมีพื้นที่ส่วนกลางเพื่อการใช้สอยและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ต่างๆ เช่น Rooftop, Co-working Space, Outdoor Kitchen สระว่ายน้ำหรือสปา ตลอดจนการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาอำนวยความสะดวกอย่างการใช้แอปพลิเคชันสั่งการควบคุมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ภายในห้อง หรือจองพื้นที่สวนกลางต่างๆ รวมไปถึงคอนโดหรูในปัจจุบันที่ต้องมีจุดชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า หรือ EV Charger อีกด้วย การปรับปรุงหรือรีโนเวท การปรับปรุงและรีโนเวทสามารถเพิ่มมูลค่าให้กับคอนโดหรูยิ่งขึ้นได้ ไม่ว่าจะเป็นการปล่อยเช่าหรือการขายเก็งกำไร เพราะสามารถดึงดูดกลุ่มลูกค้าที่ต้องการคอนโดหรูพร้อมอยู่อาศัยได้ทันที เนื่องจากลูกค้าไม่จำเป็นที่จะต้องมาเสียเวลาดูแล ตกแต่ง ปรับปรุงคอนโด หรือเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์และขนย้ายเข้ามา จึงมอบความสะดวกสบายให้กับลูกค้ายิ่งขึ้น และยังสร้างความโดดเด่นได้เมื่อนำไปประกาศลงขายหรือเช่า อีกทั้งคอนโดหรูที่มีการปรับปรุงรีโนเวทให้มีสไตล์ยังสามารถที่จะตั้งราคาให้สูงกว่าราคาทั่วไปได้อีก เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ไม่อยากตกแต่งหรือรีโนเวทแบบจัดเต็ม ก็อาจเข้าตรวจดูและทำความสะอาดเบื้องต้นให้พร้อมเข้าพัก รวมถึงการซื้อและจัดวางเฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่จำเป็นต่อการดำเนินชีวิตเบื้องต้นก็สามารถช่วยเพิ่มมูลค่าได้แล้วเช่นกัน คนกลางในการซื้อหรือหาผู้เช่า ตัวแทนด้านอสังหาริมทรัพย์ คือ ผู้ที่เข้ามาจับคู่ระหว่างเจ้าของทรัพย์สินกับผู้ที่ต้องการเช่า-ซื้อ โดยเอเจนต์จะคอยให้คำแนะนำกับนักลงทุนว่าควรปรับปรุงในส่วนไหนหรือควรทำอย่างไรเพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับห้องพัก อีกทั้งด้วยความเชี่ยวชาญของตัวแทนยังช่วยอำนวยความสะดวกด้านต่างๆ ทั้งประสานความเข้าใจที่ถูกต้องให้กับผู้สนใจ ดูแลเอกสารต่างๆ ช่วยให้การซื้อ-เช่าคอนโดหรูเป็นไปได้อย่างราบรื่นที่สุด ✅ สำหรับนักลงทุนที่ต้องการหาตัวแทนด้านอสังหามาดูแลและช่วยเพิ่มมูลค่า ทางพลัส พร็อพเพอร์ตี้และทีมงานระดับคุณภาพ พร้อมช่วยเหลือดูแลในการรับฝากขายหรือปล่อยเช่าครบทุกขั้นตอนอีกด้วย ทั้ง 4 เคล็ดลับที่เราแนะนำไป คือ วิธีในการเพิ่มมูลค่าให้กับคอนโดหรูในการลงทุน หากใครที่เริ่มอยากมองหาคอนโดหรูไว้ลงทุนแล้ว ต้องห้ามพลาดโครงการคอนโดหรูในทำเลทองคำย่านทองหล่อ-อโศกจากแสนสิริกัน แนะนำโครงการคอนโดหรูจากแสนสิริเหมาะกับการลงทุน…
ส่อง 3 โครงการคอนโดหรูใจกลางเมือง คุ้มค่า! น่าลงทุน!

ที่ดินใจกลางเมือง ไม่ว่าจะเป็นในย่านถนนวิทยุ สุขุมวิท อโศก ฯลฯ ล้วนเป็นพื้นที่ Prime Area ที่รายล้อมไปด้วยโครงการคอนโดหรูต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นคอนโดสุขุมวิท คอนโดจตุจักร คอนโดทองหล่อ ด้วยทำเลศักยภาพใจกลางย่าน CBD ที่มีแนวโน้มมูลค่าเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ในปี 2022 นี้มีโครงการคอนโดหรูใหม่ๆ ผุดขึ้นมาให้เห็นกันอย่างต่อเนื่อง นอกจากในแง่ของทำเลที่น่าอยู่อาศัยแล้ว ต้องบอกว่าโครงการคอนโดหรูยังเป็นที่น่าจับตามองสำหรับกลุ่มนักลงทุนที่มีกำลังซื้อที่สูง ทำให้ตลาดของอสังหาริมทรัพย์ของโครงการคอนโดใน Segment แบบ Luxury ขึ้นไป กลายเป็นที่ต้องการในตลาดมากขึ้น ฉะนั้นสำหรับใครที่เป็นนักลงทุนหรือกำลังมองหาบ้านหลังใหม่ของคุณให้กับครอบครัวในวันนี้ พลัสฯ ได้รวบรวม ”3 โครงการคอนโดหรูดูแพงใจกลางเมือง” มาอัปเดตให้ทุกคนได้เลือกชมกัน เสน่ห์ของคอนโดหรูใจกลางเมือง โดยส่วนใหญ่โครงการคอนโดในระดับ Luxury ขึ้นไปจะตั้งอยู่ในทำเลที่มีความต้องการสูงหรืออยู่ในย่านใจกลางเมือง สามารถเดินทางสะดวกสบายใกล้รถไฟฟ้า และเอาใจกลุ่มผู้ที่มีกำลังซื้อสูงด้วยการเลือกใช้วัสดุที่มีคุณภาพสูง และเน้นการออกแบบที่แสดงให้เห็นถึงความเป็นเอกลักษณ์ ความเป็นหนึ่งเดียว แตกต่างในทุกมิติแบบ One of a Kind เพื่อให้เกิดความรู้สึกพรีเมียมที่สุดของการอยู่อาศัย และมีบริการสุด Exclusive ที่หาไม่ได้จากคอนโดในระดับทั่วไป ด้วยเหตุผลเหล่านี้จึงทำให้โครงการคอนโดหรูมีการปรับตัวขึ้นในทุกๆ ปี ทำให้นอกเหนือจากเหตุผลในการอยู่อาศัยแล้วก็ยังมีกลุ่มผู้ที่มีกำลังซื้อสูงที่นิยมเข้ามาลงทุนในตลาดอสังหาริมทรัพย์ในโครงการคอนโดหรูอีกด้วย แนะนำ 3 โครงการคอนโดหรู MARQUE Sukhumvit MARQUE Sukhumvit (มาร์ค สุขุมวิท) เป็นโครงการคอนโดมิเนียมในระดับ Ultimate Class จาก Major Development โดยมูลค่าของตัวโครงการทั้งหมดสูงถึง 6.5 พันล้านบาท เป็นคอนโด High Rise 50 ชั้น มีทั้งหมด 147 ยูนิต แบ่งออกเป็น 3 โซน ได้แก่ Legacy Heritage และ Penthouse ตัวโครงการตั้งติดถนนสุขุมวิทและใกล้กับ BTS สถานีพร้อมพงษ์เพียงประมาณ 50 เมตรเท่านั้น ทำให้สะดวกสบายในการเดินทาง แวดล้อมไปด้วยโครงการ The District Em ประกอบไปด้วยห้างดิ เอ็มโพเรียม, ดิ เอ็มควอเทียร์ และดิ เอ็มสเฟียร์ ที่เป็นการรวมตัวกันของ 3 โครงการศูนย์การค้าระดับเวิลด์คลาสใจกลางสุขุมวิท ตัวโครงการมีการออกแบบอาคารทันสมัยและมีความโดดเด่นที่แตกต่างไม่เหมือนใคร อยู่ในคอนเซปต์การออกแบบที่ให้ความหรูหราเปรียบเสมือน ”เพชร” ที่ลบเหลี่ยมเพิ่มมุมให้มีลูกเล่นที่แปลกตา ตัวอาคารที่พักอาศัยใช้เป็นผนังกระจกทั้งหมด มีพื้นที่สีเขียวที่เป็นมุมพักผ่อนภายในโครงการเป็นสวนหน้าโครงการขนาดใหญ่ถึง 400 เมตร สำหรับภายในห้องพักอาศัยทุกโซนจะได้รับการตกแต่งที่หรูหราในสไตล์ Metropolitan Luxe ได้รับการคัดสรรวัสดุอุปกรณ์อย่างพิถีพิถันในทุกรายละเอียด สิ่งอำนวยความสะดวกมากมายทั้งบาร์ซิการ์และไวน์ ห้องสมุด Snnken Deck ห้องแพนทรี่…
พลัสฯ พาชมโครงการบ้านหรูกลางกรุง เบเวอรี่ฮิลล์ เมืองไทย

ในทุกๆ ปีจะมีโครงการบ้านหรูใจกลางเมืองผุดขึ้นมาราวกับดอกเห็ด จึงเกิดเป็นคำถามตัวโตๆ ว่า ทำไมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในระดับกลางถึงระดับบนของประเทศไทย มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสวนทางกับโครงการบ้านหรือคอนโดระดับกลางถึงล่าง ที่ยังคงมีการชะลอตัวอันเนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจ ต้องบอกว่าเหตุผลที่โครงการบ้านหรูมีการเติบโตต่อเนื่องอาจมาจากคนไทยที่มีกำลังซื้อสูงประกอบกับนักลงทุนต่างชาติที่กำลังมีความมั่นใจต่อการลงทุนในตลาดอสังหาริมทรัพย์ของประเทศไทย จึงมองหาโครงการ Segment ในระดับลักซ์ชัวรีขึ้นไป ที่แม้จะมีจำนวนไม่มากแต่สามารถสร้างมูลค่าได้อย่างมหาศาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งในทำเลใจกลางกรุงเทพฯ ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนซื้อบ้านหรูเพื่ออยู่อาศัยเอง หรือซื้อบ้านหรูให้เช่า ด้วยมูลค่าของตลาดอสังหาริมทรัพย์โครงการบ้านหรูที่เติบโตขึ้นในทุกๆ ปี จึงถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งตลาด Niche ที่มีมูลค่าสูงและยังรอคอยผู้ที่มีกำลังซื้อสูงและนักลงทุนที่มองเห็นศักยภาพในการสร้างกำไรอย่างมหาศาล ฉะนั้นในวันนี้ พลัสฯ จะขอมาเปิดโครงการบ้านหรูกลางกรุง ที่เปรียบเสมือนเบเวอรี่ฮิลส์ เมืองไทย มาให้ทุกคนได้รับชมไปพร้อมกัน ไปดูกันเลย จุดเด่นโครงการบ้านหรู ระดับลักซ์ชัวรี 1.ทำเลต้องดี สิ่งแวดล้อมต้องเยี่ยม จุดเด่นอย่างแรกของโครงการบ้านหรูในระดับลักซ์ชัวรีขึ้นไป คือ โครงการต้องมีที่ตั้งในใจกลางเมืองหรือใกล้ชิดเมืองให้มากที่สุด มีความหนาแน่นของที่พักอาศัยอยู่ในเกณฑ์ที่ไม่ทำให้รู้สึกแออัดและต้องสะดวกต่อการเข้าออกเมืองในกรณีที่ตัวโครงการไม่ได้ตั้งอยู่ในใจกลางเมือง ไม่ว่าจะเป็นการใช้ทางด่วนพิเศษหรืออยู่ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าสายต่างๆ นอกจากเรื่องของทำเลที่สะดวกสบายในการเดินทางแล้ว สิ่งแวดล้อมก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญของโครงการบ้านหรู เพราะหนึ่งในปัจจัยสำคัญของการดำเนินชีวิตคือครอบครัว นอกจากสถานที่ทำงานสำหรับผู้ปกครองแล้ว ในครอบครัวที่มีลูกหลานในวัยเรียน ก็จำเป็นต้องมองหาโครงการบ้านที่ใกล้กับสถานศึกษาชั้นนำที่จะช่วยส่งเสริมทักษะให้กับลูกน้อยให้ดีที่สุด ไปจนถึงสถานพยาบาลที่มีมาตรฐาน และศูนย์การค้าหรือห้างสรรพสินค้าชั้นนำใกล้เคียงที่ต้องรองรับการใช้ชีวิตได้หลากหลายไลฟ์สไตล์ เพื่อเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานการใช้ชีวิตให้พร้อม เช่น นาราสิริ กรุงเทพกรีฑา ตั้งอยู่บนทำเลที่เปี่ยมไปด้วยศักยภาพและยังรายล้อมด้วยแหล่งไลฟ์สไตล์มากมาย เนื้อที่บ้านเริ่มต้น 130-150 ตารางวา พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 495-687 ตารางเมตร ดู นาราสิริ กรุงเทพกรีฑา เพิ่มเติม คลิก 2.เพื่อนบ้านที่ไลฟ์สไตล์คล้ายกัน การเลือกซื้อบ้านไม่ใช่เพียงแค่เลือกจากสิ่งอำนวยความสะดวก ดีไซน์ หรือการเลือกใช้วัสดุเพียงอย่างเดียว แต่อีกหนึ่งสิ่งสำคัญคือ “เพื่อนบ้าน” คำพูดที่ว่า “การลงทุนซื้อบ้านหนึ่งหลังกำไรที่ดีที่สุดคือ การได้สังคมเพื่อนบ้านที่มีคุณภาพ” ถือว่าไม่เกินจริงแต่อย่างได้ เพราะโครงการบ้านหรูจะช่วยการันตีเพื่อนบ้านที่ดีได้ในระดับหนึ่ง ไม่ต้องกลัวว่าเพื่อนบ้านจะเอะอะโวยวาย มีเสียงรบกวนในยามวิกาล ชอบสอดส่องความเป็นอยู่ของบ้านข้างๆ หรืออาจสร้างปัญหาอื่นๆ ให้ในระยะยาว อย่าลืมว่าการซื้อบ้านสักหลังไม่ใช่แค่การซื้อเพียงตัวบ้านและสิ่งอำนวยความสะดวกเท่านั้น แต่ยังเป็นการซื้อคุณภาพชีวิตของครอบครัว ที่จะได้บ้านที่อยู่อาศัยแล้วได้พักผ่อนในทุกๆ วัน ไม่ต้องกังวลกับปัญหาอื่นๆ จะได้มีเวลาพักผ่อนอย่างเต็มที่ แถมยังมีโอกาสได้คอนเน็กชันดีๆ จากเพื่อนบ้านอีกด้วย 3.การออกแบบโครงสร้างบ้านและการเลือกใช้วัสดุ อีกหนึ่งจุดเด่นของโครงการบ้านหรูที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือ เรื่องของงานสถาปัตยกรรมและการออกแบบ รวมไปถึงการเลือกใช้วัสดุคุณภาพตรงตามมาตรฐาน ต้องบอกว่าในทุกโครงการบ้านหรูจะมีการใส่ใจในรายละเอียดการออกแบบต่างๆ อย่างพิถีพิถัน อาจมีคอนเซปต์ดีไซน์ตัวโครงการแบบเฉพาะตัว มีเอกลักษณ์แตกต่างไม่ซ้ำใคร ทำให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกถึงความพรีเมียมหรูหรา โดยเฉพาะทางเข้าบ้านที่แต่ละโครงการก็จะมีไฮไลต์ที่แตกต่างกันออกไป และการเลือกใช้วัสดุของโครงการบ้านหรูส่วนใหญ่มักเลือกวัสดุที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องมีความสวยงามโดดเด่น เหนือระดับให้สมกับฐานะของเจ้าของบ้าน 4.สิ่งอำนวยความสะดวก (Facilities) & ระบบความปลอดภัย เรื่องของสิ่งอำนวยความสะดวกและระบบรักษาความปลอดภัยของโครงการบ้านหรู ถือเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นที่หาไม่ได้จากในโครงการบ้านทั่วไป เพราะโครงการบ้านหรูส่วนใหญ่จะมีการจ้างบริษัทบริหารส่วนกลางแบบมืออาชีพให้เข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกให้กับการทำงานของนิติบุคคลของโครงการ ทำให้ลูกบ้านทุกคนมั่นใจได้ว่าสามารถเข้าออกหมู่บ้านได้อย่างปลอดภัย รวมไปถึงสิ่งอำนวยความสะดวกที่โครงการบ้านหรูส่วนใหญ่จะมีคลับเฮาส์หรูหราที่มีฟังก์ชันอันครบครันมาให้ ไม่ว่าจะ Space ในการทำงาน หรือรองรับการออกกำลังกาย พักผ่อน ก็สามารถรองรับทุกความต้องการได้อย่างลงตัว 5.การออกแบบพื้นที่ใช้สอย เหนือสิ่งอื่นใดคือการออกแบบรายละเอียดฟังก์ชันภายในตัวบ้านที่เป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ แต่สำคัญไม่แพ้เรื่องไหนเลย เพราะการออกแบบพื้นที่ใช้สอยภายในตัวบ้านนั้น แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจในรายละเอียดของโครงการ ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบทางลาดเพื่อความปลอดภัยของกลุ่มผู้สูงอายุ หรือการเลือกใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่อย่าง Smart Home ที่จะเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้อยู่อาศัยทุกคน สิ่งเหล่านี้เป็นการแสดงให้เห็นว่าบ้านหลังนี้เหมาะกับผู้อยู่อาศัยทุกคนในบ้านอย่างแท้จริง’ แนะนำโครงการบ้านหรู เบเวอรี่…
พลัสฯ พามารู้จัก 5 ระบบรักษาความปลอดภัยที่คอนโดสมัยใหม่ต้องมี

ปัจจัยสำคัญในการเลือกคอนโดมิเนียมในปัจจุบันหนีไม่พ้นเรื่องของความปลอดภัย แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าระบบรักษาความปลอดภัยของคอนโดสมัยใหม่เป็นอย่างไร พลัสฯ รวบรวมมาให้แล้ว ในปัจจุบัน เชื่อว่าใครหลายคนที่ทำงานในเมืองส่วนใหญ่ คงกำลังมองหาที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตในเมืองอย่างคอนโดมิเนียม ด้วยทำเลที่สะดวกสบายต่อการเดินทาง รวมไปถึงเรื่องของระบบรักษาความปลอดภัยที่ครอบคลุมมากกว่าโครงการที่อยู่อาศัยอื่นๆ ทำให้การไปไหนมาไหนในช่วงวันหยุดยาว ไม่จำเป็นต้องเป็นห่วงว่าจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นกับห้องหรืออันตรายกับตัวเรารึเปล่า แน่นอนว่าระบบรักษาความปลอดภัยคอนโดมีการพัฒนาขึ้นไปตามยุคตามสมัย จากแต่เดิมที่ให้ความสำคัญเพียงแค่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็เริ่มมีการปรับปรุงผ่านการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาใช้มากขึ้น พูดง่ายๆ ว่า คอนโดมิเนียมส่วนใหญ่ในปัจจุบันมีการใช้ระบบรักษาความปลอดภัยยุคใหม่เพื่อให้มั่นใจว่าจะสามารถดูแลความปลอดภัยทรัพย์สินของลูกบ้านทุกคนได้อย่างครอบคลุม และสำหรับใครที่กำลังมองหาโครงการคอนโดมิเนียมอยู่ การเลือกพิจารณาระบบรักษาความปลอดภัยของคอนโดก็ถือเป็นปัจจัยสำคัญ เพื่อตัดโอกาสความเป็นไปได้ที่จะเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงไม่คาดฝันนั่นเอง ฉะนั้นในวันนี้ พลัสฯ จะพาลูกบ้านมือใหม่ทุกท่านมารู้จักระบบรักษาความปลอดภัยคอนโดสมัยใหม่ที่ต้องมี เพื่อนำไปใช้เป็นแนวทางในการเลือกซื้อหรือเช่าคอนโดเพื่ออยู่อาศัยได้อย่างสบายใจ ถ้าพร้อมแล้ว ไปดูกันเลย ภาพจากโครงการ oka HAUS สนใจซื้อ | สนใจเช่า “ระบบรักษาความปลอดภัย” เรื่องที่ไม่ควรมองข้ามของการอยู่อาศัยในคอนโดมิเนียม ด้วยทำเลคอนโดสมัยใหม่ที่เน้นทำเลใจกลางเมือง ทำให้โครงการคอนโดมิเนียมหลายต่อหลายแห่งได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากสามารถตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่ชอบความสะดวกสบายในการเดินทางขณะทำงานในเมือง แถมยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน และแน่นอนว่าอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่ขาดไปไม่ได้คือ “ความชอบส่วนบุคคล ดีไซน์ ภาพลักษณ์” ของโครงการคอนโดมิเนียมที่ในปัจจุบันมีหลากหลายโครงการที่มีความร่วมมือกับบริษัทสถาปนิกชั้นนำต่างๆ ที่ช่วยสะท้อนให้เห็นถึงตัวตนของผู้อยู่อาศัยได้เป็นอย่างดี แต่อย่างไรก็ตาม ในการเลือกที่อยู่อาศัยอย่างคอนโดมิเนียม เชื่อว่าหลายคนคงมองไปที่ทำเลของตัวโครงการ หรือการตกแต่งดีไซน์ต่างๆ เหล่านี้เป็นหลักจนทำให้ลืมเรื่องสำคัญอย่าง ”ระบบรักษาความปลอดภัย” ไป ซึ่งจะต้องคอยตรวจสอบให้ดีเสมอว่าโครงการที่เรากำลังให้ความสนใจอยู่นั้นมีมาตรฐานในการกำกับดูแลมากน้อยแค่ไหน มีการใช้เทคโนโลยีรักษาความปลอดภัยแบบสมัยใหม่เข้ามาช่วยหรือไม่ เพื่อเป็นการตัดโอกาสความเป็นไปได้ที่จะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันต่อคนในครอบครัวของเรานั่นเอง เพราะเพียงแค่ ”เหตุปัจจัยเล็กๆ น้อย ก็สามารถส่งผลร้ายแรงให้กับชีวิตของผู้อยู่อาศัยได้” ไม่ว่าจะเป็น ภัยจากระบบไฟฟ้า เช่น ไฟฟ้าลัดวงจร ไฟฟ้ารั่ว ไฟช็อต ฯลฯ เหตุไม่คาดฝันเหล่านี้อาจเกิดได้จากความประมาท ไปจนถึงระบบรักษาความปลอดภัยของโครงการที่ไม่ได้มาตรฐาน ขาดความรอบคอบที่มากพอ ส่งผลให้เกิดความเสี่ยงต่อชีวิตและทรัพย์สินของผู้อยู่อาศัยโดยตรง ภัยจากน้ำ ไม่ว่าจะเป็นสาเหตุจากปั๊มน้ำรั่ว น้ำไหล ทำให้คอนโดเกิดน้ำรั่วซึม ภัยจากไฟ ความประมาทเปิดเตาทิ้งไว้ หรือแอบสูบบุหรี่บริเวณระเบียง ภัยเกี่ยวกับประตูห้อง เหตุประตูพังจากการใช้งานที่ผิดวิธี ไปจนถึงการถูกงัดแงะ ภัยจากลิฟต์ หากลิฟต์เกิดขัดข้องไม่ว่าจะด้วยเหตุจากกระแสไฟฟ้าลัดวงจร ไฟดับ ระบบควบคุมการทำงานขัดข้อง หรืออุปกรณ์นิรภัยตรวจพบสิ่งผิดปกติ ก็อาจส่งผลให้ลูกบ้านตกอยู่ในความเสี่ยงที่อาจส่งผลถึงชีวิตได้ ภัยจากบุคคลภายนอก อาจจะเป็นเหตุที่สืบเนื่องมาจากการที่โครงการมีระบบความปลอดภัยที่ไม่ได้มาตรฐาน ทำให้เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นไม่มีใครสามารถช่วยเหลือได้ 5 ระบบรักษาความปลอดภัยที่คอนโดสมัยใหม่ต้องมี 1. ระบบการเข้าออกคอนโด สิ่งแรกที่จะขาดไปไม่ได้เลยสำหรับโครงการคอนโดมิเนียมสมัยใหม่ที่ต้องมีคือ “ระบบเข้า-ออกคอนโด” ที่ต้องมีความรัดกุมด้านความปลอดภัยและได้มาตรฐาน ไม่ว่าจะเป็นระบบการแลกบัตรผ่านเข้าออกบริเวณป้อมยาม การใช้คีย์การ์ดหรือระบบสแกนนิ้วมือ ไปจนถึงระบบล็อกชั้นของลิฟต์บริเวณภายในตัวอาคารเพื่อให้ความสำคัญกับความปลอดภัยแก่ลูกบ้านทุกคน และที่สำคัญคือต้องมีพนักงานรักษาความปลอดภัยที่ต้องคอยตรวจตราสลับเวรยามตลอด 24 ชั่วโมง 2. กล้องวงจรปิด โดยส่วนใหญ่แล้วหากเป็นโครงการที่อยู่อาศัยทั่วไปจะมีการติดตั้งกล้องวงจรปิดเฉพาะบริเวณสำคัญๆ เท่านั้น ทำให้หากต้องการความปลอดภัยที่เพิ่มเติมจำเป็นจะต้องเสียเงินเพื่อติดตั้งเพิ่มเองแถมในบางครั้งยังต้องวุ่นวายไปกับการเดินเรื่องในขั้นตอนต่างๆ แต่สำหรับโครงการคอนโดมิเนียมสมัยใหม่ที่มีระบบรักษาความปลอดภัยที่ได้มาตรฐาน นอกจากที่จะมีกล้องวงจรปิดตั้งแต่หน้าทางเข้าตัวโครงการแล้ว ยังมีกล้องเพิ่มเติมที่ถูกติดตั้งบริเวณภายนอกอาคารที่เป็นจุดอับสายตา และภายในโครงการตั้งแต่หน้าประตู ภายในลิฟต์ และในโถงทางเดิน พร้อมกับมีเจ้าหน้าที่คอยมอนิเตอร์ความผิดปกติและพร้อมรับมือกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันตลอดเวลา 3. นิติบุคคลประจำคอนโดที่ได้มาตรฐาน ใครที่เคยอยู่อาศัยในโครงการคอนโดมิเนียมคงเคยได้ยินกับคำพูดที่ว่า ”คอนโดไหนมีนิติบุคคลที่ดีถือว่ามีชัยไปกว่าครึ่ง” ต้องบอกเลยว่าคำพูดนี้ไม่เกินจริงแต่อย่างใด เพราะด้วยรูปแบบของโครงการคอนโดมิเนียมที่มีลักษณะของการอยู่อาศัยโดยต้องใช้พื้นที่ส่วนกลางร่วมกัน ทำให้โครงการคอนโดมิเนียมจำเป็นต้องมีทีมบริหารส่วนกลางที่ทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการดูแล จัดการ ดำเนินการเรื่องต่างๆ ซึ่งก็คือกลุ่มกรรมการนิติบุคคลประจำคอนโดนั่นเอง นอกจากกลุ่มกรรมการนิติบุคคลประจำคอนโดแล้ว ทีมบริหารนิติบุคคลก็ถือว่ามีความสำคัญไม่แพ้กันโดยมีหน้าที่ในการวางแนวทางการดูแลบริหารโครงการไปตามเป้าหมายเพื่อให้เกิดผลสำเร็จอย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นโครงการคอนโดมิเนียมที่ดีควรที่จะมีการเลือกบริษัทบริหารนิติบุคคลที่ได้มาตรฐาน เพื่อสามารถให้ความรู้และให้คำปรึกษาแก่คณะกรรมการนิติบุคคลได้ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของข้อกฎหมาย วิศวกรรม ระบบรักษาความปลอดภัย มีทีม Audit ช่วยในเรื่องความโปร่งใส ทั้งหมดก็เพื่อให้แน่ใจว่าลูกบ้านทุกคนจะได้รับผลประโยชน์สูงสุดนั่นเอง…
ป้องกันภัยแบบรอบทิศ ผ่านระบบรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน LIV-24

ในปี 2022 นับได้ว่าเป็นปีทองสำหรับผู้ที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยอย่างแท้จริง โดยภาพรวมถือว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยในปีนี้มีการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องหลังเผชิญกับปัญหาซบเซาจากพิษโควิด-19 มาอย่างยาวนาน เชื่อว่านักลงทุนหรือใครที่กำลังมองหาอสังหาริมทรัพย์ในฝันสักหลัง คงมีโครงการบ้านหรูในใจอยู่แล้ว แต่รู้หรือไม่ว่านอกเหนือจากปัจจัยในเรื่องของดีไซน์ความสวยงามและความสะดวกสบายที่เป็นองค์ประกอบสำคัญในการตัดสินใจเลือกที่อยู่อาศัยแล้ว เรื่องของระบบรักษาความปลอดภัยก็ถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ควรให้ความสำคัญไปไม่น้อยกว่ากัน เพราะความปลอดภัยเป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงความเอาใจใส่ของตัวโครงการต่อผู้อยู่อาศัยได้เป็นอย่างดี หากโครงการบ้านจัดสรรหรืออาคารชุดมีมาตรฐานความปลอดภัยที่ต่ำเกินเกณฑ์ อาจทำให้เกิดความเสี่ยงอันตรายจนถึงขั้นก่อให้เกิดความสูญเสียในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นทรัพย์สินเพียงเล็กน้อยหรือสูญเสียจนถึงแก่ชีวิต ฉะนั้นในวันนี้พลัสฯ ขอพามารู้จักระบบรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน LIV-24 ที่ใช้เทคโนโลยีรักษาความปลอดภัยที่ประกอบไปด้วย Machine Learning แบบเดียวกับที่ถูกใช้ในกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีระดับโลกอย่าง Google และ Amazon รายละเอียดจะเป็นอย่างไร พลัสฯ เตรียมคำตอบไว้ให้คุณแล้ว มาทราบไปพร้อมๆ กัน ความสำคัญของการรักษาความปลอดภัยภายในหมู่บ้าน ก่อนจะไปรู้จักระบบรักษาความปลอดภัย LIV-24 พลัสฯ ขอเริ่มต้นพามาทำความเข้าใจกับความสำคัญของการรักษาความปลอดภัยภายในหมู่บ้านกันก่อน หลายคนที่มีประสบการณ์พักอาศัยในโครงการบ้านจัดสรรหรืออาคารชุดคงทราบกันดีอยู่แล้วว่า ชีวิตครึ่งหนึ่งของเจ้าบ้านนั้นต้องอาศัยการพึ่งพา ”นิติบุคคล” กว่า 50% ทั้งในการจัดหาสิ่งอำนวยความสะดวกหรือดูแลรักษาทรัพย์สินส่วนกลางให้พร้อมใช้งาน รวมไปถึงการว่าจ้างบริษัทรักษาความปลอดภัยมาดำเนินการและหน้าที่อื่นๆ อีกมากมาย ฟังดูแล้วคงนึกภาพตามกันออกใช่ไหมว่า เมื่อเริ่มคิดที่จะลงทุนซื้ออสังหาริมทรัพย์สักหลัง ก็สมควรที่จะฝากฝังครอบครัวไว้กับโครงการที่อยู่อาศัยที่ไว้ใจได้ ในแบบที่สามารถให้ความปลอดภัยและอุ่นใจได้ตลอด 24 ชั่วโมง ดังนั้นทางโครงการส่วนมากมักจะมีการจัดตั้งนิติบุคคล โดยพื้นฐานแล้วความปลอดภัยในหมู่บ้านหรืออาคารชุดจะแบ่งออกได้เป็น 2 กรณี ดังนี 1.การป้องกันเหตุจากภายนอกหมู่บ้าน ระบบรักษาความปลอดภัยที่ดีจะต้องเริ่มต้นตั้งแต่ทางเข้า โดยเมื่อใดก็ตามที่มีบุคคลภายนอกมีความประสงค์ที่จะเข้ามาเพื่อทำกิจธุระใดก็ตาม จะต้องผ่านการตรวจสอบจากทีมงานรักษาความปลอดภัยให้เรียบร้อยก่อน อาจจะมีการแลกบัตร หรือปั๊มตรา ตามมาตรการที่ถูกกำหนดไว้ เพื่อเป็นการป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นภายในโครงการ 2.การป้องกันเหตุจากภายในบ้าน สำหรับการป้องกันเหตุจากภายใน จะดูแลความปลอดภัยภายในโครงการ ไม่ว่าจะเป็นการตรวจตราดูความเรียบร้อยของบ้านทุกหลัง พร้อมกับการตรวจสอบบุคคลภายนอกที่ต้องเข้ามาทำงานภายใน เช่น บริษัทรักษาความสะอาด ผู้รับเหมาที่เข้ามาซ่อมแซมภายใน เป็นต้น ประโยชน์ของระบบรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านที่ลูกบ้านได้ประโยชน์ ไม่ว่าจะด้วยเหตุภัยคุกคามจากผู้ประสงค์ร้าย หรือเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดคาดฝันที่อาจเกิดขึ้นกับลูกบ้านภายในโครงการ หากโครงการที่พักอาศัยมีระบบรักษาความปลอดภัยที่ดีผ่านเกณฑ์มาตรฐาน ก็สามารถป้องกันเหตุอันไม่สมควรที่อาจสร้างความเสียหายที่ไม่อาจประเมินได้ อีกทั้งยังสร้างความรู้สึกอุ่นใจให้กับคนในครอบครัวได้มากขึ้น ลองมาดูกันดีกว่าว่าประโยชน์ที่ลูกบ้านจะได้ของโครงการที่พักอาศัยที่มีระบบรักษาความปลอดภัยที่ดีมีอะไรบ้าง ป้องกันภัยอันตราย เป็นหนึ่งในหน้าที่หลักของระบบรักษาความปลอดภัย ด้วยเป็นการป้องกันภัยอันตรายต่างๆ จากบุคคลภายนอกในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นการป้องกันทรัพย์สินของลูกบ้าน ร่างกาย รวมไปถึงการป้องกันอัคคีภัย หรือเหตุไฟฟ้าลัดวงจร เป็นต้น สามารถบันทึกข้อมูลเป็นสำเนาหลักฐานได้ ต้องบอกว่าในปัจจุบันเทคโนโลยีมีการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด ไม่เว้นแม้แต่ระบบรักษาความปลอดภัยที่ในปัจจุบันมีความทันสมัยเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นระบบสแกนบัตร/สแกนลายนิ้วมือ การติดกล้อง CCTV โดยรอบ และเซนเซอร์ตรวจจับอื่นๆ ด้วยการอาศัย Security System เหล่านี้ส่งผลให้สามารถช่วยบันทึกข้อมูลต่างๆ ได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น หากเกิดเหตุหรือปัญหาในกรณีที่ต้องใช้ข้อมูลเป็นหลักฐานก็สามารถทำได้ทันที เพิ่มความสะดวกสบาย ยิ่งระบบรักษาความปลอดภัยของโครงการมีความทันสมัยมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งทำให้ลูกบ้านมีความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตมากขึ้นเท่านั้น อย่างเซ็นเซอร์ตรวจจับข้อมูลต่างๆ ระบบอ่านป้ายทะเบียนรถอัตโนมัติ ทำให้การเข้าออกโครงการรวดเร็วแม่นยำและปลอดภัย เพิ่มมูลค่าให้กับโครงการ อย่างที่บอกว่าความปลอดภัยของโครงการบ้านจัดสรรหรืออาคารห้องชุดสามารถสะท้อนให้เห็นถึงอัตลักษณ์ของโครงการและความเอาใจใส่ต่อลูกบ้านได้เป็นอย่างดี ยิ่งระบบมีความทันสมัยได้มาตรฐานสามารถอำนวยความสะดวกสบายให้กับลูกบ้านมากแค่ไหน มูลค่าของตัวโครงการก็มีโอกาสเพิ่มขึ้นมากขึ้นเท่านั้น LIV-24 ระบบรักษาความปลอดภัย มีอะไรบ้าง ในปัจจุบันระบบรักษาความปลอดภัยที่ดีนั้นต้องไม่ได้ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยเพียงแค่มิติเดียว แต่ยังต้องสะท้อนให้เห็นถึงรูปแบบการใช้งานที่ตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์ของผู้คนในยุคปัจจุบัน พลัสฯ ขอแนะนำ ระบบรักษาความปลอดภัย LIV-24 ให้บริการดูแลความปลอดภัยจากศูนย์ควบคุมแบบเรียลไทม์ 24 ชั่วโมง มีเทคโนโลยีที่เชื่อมต่อในการรักษาความปลอดภัยและควบคุมอาคารอย่างเต็มรูปแบบ ยกระดับความปลอดภัยด้วยการใช้ระบบ Machine Learning เพื่อสร้างความพอใจระดับสูงสุดให้กับลูกบ้านภายในโครงการทุกหลัง ยกระดับความปลอดภัยให้กับลูกบ้านทุกคนด้วยการวางแผนเชื่อมต่อระบบบริหารจัดการความปลอดภัย (Security…
Branded Residence คอนโดหรูที่มอบประสบการณ์ที่แตกต่าง

ในช่วงครึ่งหลังของปี 2022 หลังจากผ่านพ้นช่วงการแพร่ระบาดโควิด-19 ทำให้ในปีนี้เป็นอีกหนึ่งปีทองสำหรับตลาดอสังหาริมทรัพย์อย่าง “คอนโดหรู” เนื่องจากสามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้อยู่อาศัยที่ต้องการความเป็นส่วนตัว ไม่วุ่นวายและไม่แออัด ทำเลคุณภาพตั้งอยู่ใจกลางเมืองและมีพื้นที่ใช้สอยสำหรับกิจกรรมที่หลากหลาย โดยความต้องการในคอนโดหรูที่เพิ่มขึ้นนี้ ยังรวมไปถึงกลุ่มนักลงทุนอสังหาริมทรัพย์ที่กำลังมองหาโครงการ Segment คอนโดราคา 20 ล้านขึ้นไปได้เป็นอย่างดี แน่นอนว่าเมื่อ อุปสงค์ (Demand) และ อุปทาน (Supply) สูงขึ้น ก็ย่อมส่งผลให้โครงการต่างๆ เริ่มมีการนำเสนอเอาจุดเด่นต่างๆ มาเป็นจุดขาย โดยหนึ่งในนั้นคือคอนโดแบบ Branded Residence ที่มีจุดเด่นในการมอบบริการเซอร์วิสสุดพิเศษให้กับผู้อยู่อาศัย และสามารถตอบสนองความต้องการในด้าน Super Luxury Lifestyle ของลูกค้าได้อย่างลงตัว ดังนั้นในวันนี้ พลัสฯ จะพามารู้จักกันว่าคอนโดแบบ Branded Residence คืออะไร แตกต่างกับคอนโดหรูแบบอื่นอย่างไร และข้อดีในการลงทุนคอนโดแบบ Branded Residence นั้นคุ้มค่าหรือไม่ ถ้าพร้อมแล้ว ไปดูกันเลย Branded Residence คืออะไร? ใครที่สงสัยว่าคอนโดแบบ Branded Residence คืออะไร? ในวันนี้พลัสฯ จะมาช่วยไขข้อสงสัยให้ฟัง สำหรับคอนโดแบบ Branded Residence คือโครงการที่พักอาศัยแบบคอนโดมิเนียมที่เกิดขึ้นจากการร่วมมือระหว่างผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์และแบรนด์โรงแรมชั้นนำ มาพัฒนาตัวโครงการและบริหารร่วมกัน เพื่อยกระดับการให้บริการแก่ผู้อยู่อาศัย ทำให้ตัวโครงการอยู่ในระดับ Super Luxury ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการเลือกใช้ Furniture Brand ไปจนถึงคอนเซปต์ดีไซน์การออกแบบ วัสดุอุปกรณ์การก่อสร้างที่มีคุณภาพและแน่นอนว่าในเรื่องของเซอร์วิสหรือการให้บริการที่พร้อมมอบประสบการณ์ประดุจเข้าพักที่โรงแรมชั้นนำ 5 ดาว โดยในปัจจุบันโครงการที่อยู่อาศัยแบบ Branded Residence แบ่งเป็น 2 แบบ ด้วยกัน คือ Hotel Brand Residence เป็นการร่วมมือกันระหว่างโครงการคอนโดและแบรนด์โรงแรมชั้นนำที่เข้ามาช่วยกันดูแลและบริหารโครงการ โดยตัวโครงการคอนโดอาจจะตั้งแบบ Stand Alone หรืออยู่ร่วมกันกับโรงแรมก็ได้ Non-Hotel Branded Residence จะแตกต่างจาก Hotel Brand Residence ที่เป็นการร่วมมือกันระหว่างโครงการคอนโดกับแบรนด์อื่นๆ ที่ไม่ได้อยู่ในเครือโรงแรม ตัวอย่างเช่น อาจเป็นแบรนด์ดีไซน์ชั้นนำที่เข้ามาช่วยออกแบบโครงการ แต่ยังคงคอนเซปต์การให้บริการระดับโรงแรมเช่นเดียวกัน เหล่านี้จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ตัวโครงการมีมูลค่าสูงตอบโจทย์สำหรับผู้ซื้อที่ต้องการพื้นที่อยู่อาศัยที่สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์แบบหรูหรา รวมถึงนักลงทุนที่กำลังมองหาอสังหาริมทรัพย์ที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นในระยะยาวได้เป็นอย่างดี Branded Residence แตกต่างกับคอนโดหรูแบบอื่นอย่างไร? อย่างที่กล่าวไปในข้างต้นว่าโครงการที่พักอาศัยแบบ Branded Residence จะมีมูลค่าโครงการที่สูง เทียบได้กับคอนโดที่อยู่ใน Segment แบบ Super Luxury ขึ้นไป ด้วยการที่ตัวโครงการอยู่ในความร่วมมือกันระหว่างตัวโครงการคอนโดและแบรนด์โรงแรมชั้นนำ ทำให้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกใหม่สำหรับกลุ่มผู้ซื้อที่ต้องการไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยแบบหรูหรา สะดวกสบายในแบบที่มีเซอร์วิสเสมือนอยู่โรงแรม 5 ดาว ตัวอย่างบริการสุดพรีเมียมได้แก่ Exclusive Juristic Person ใครที่เคยเข้าพักโรงแรมหรูคงคุ้นเคยกับพนักงานเปิดประตู มีทีมทำความสะอาดและคอยดูแลเรื่องการซ่อมบำรุงต่างๆ…
5 ทำเลบ้านหรูในกรุงเทพฯ ที่ควรจับจอง

ปัจจุบันนี้ต้องยอมรับว่าที่ดินเปล่าสำหรับพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยต่างๆ เริ่มลดน้อยลง ไม่ว่าจะเป็นบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม ตลอดจนคอนโดมิเนียมต่างๆ หลากหลายพื้นที่ถูกจับจอง ทำให้หลายครอบครัวที่ต้องการอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่เพียบพร้อมไปด้วยสาธารณูปโภค เช่น ย่านทำเลใจกลางเมืองหรือทำเลที่มีความโดดเด่นในเรื่องของสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เริ่มมองหาโครงการที่อยู่อาศัยที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการพื้นฐานต่างๆ ได้ ซึ่งโครงการบ้านหรูระดับ Super Luxury ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจและได้รับความนิยมสูง อย่างโครงการ Super Luxury Class นาราสิริ กรุงเทพกรีฑา เนื้อที่บ้านเริ่มต้น 130-150 ตารางวา พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 495-687 ตารางเมตร ใกล้สถาบันการศึกษาชั้นนำ โรงพยาบาล คอมมูนิตี้มอลล์และยังรายล้อมด้วยแหล่งไลฟ์สไตล์มากมาย ตอบโจทย์การใช้ชีวิตประจำวันอย่างสมบูรณ์แบบ เยี่ยมชม นาราสิริ กรุงเทพกรีฑา คลิก ตลาดบ้านเดี่ยวระดับ Luxury หลายโครงการก็เริ่มเป็นที่หมายปองของกลุ่มผู้ซื้ออย่างคับคั่ง ฉะนั้นในวันนี้พลัสฯ ได้รวบรวม 5 ทำเลบ้านหรูในกรุงเทพฯ ที่คู่ควรต่อการจับจอง ใครที่กำลังมองหาบ้านหรูกลางเมืองอยู่ ห้ามพลาด ถ้าพร้อมแล้ว ไปดูกันเลย แนะนำ 5 ทำเลบ้านหรูในกรุงเทพฯ ที่ควรจับจอง พาร์ค พรีว่า สำหรับใครที่กำลังมองหาโครงการบ้านเดี่ยวสามชั้นในระดับ Super Luxury ทำเลดีใจกลางเมือง ต้องที่ ‘พาร์ค พรีว่า’ ที่ตั้งอยู่บนถนนเทียมร่วมมิตรในย่าน พระราม 9 ตัวโครงการนั้น รายล้อมไปด้วยอาคารสำนักงานขนาดใหญ่และห้างต่างๆ อย่างเซ็นทรัลพระราม 9 และ Esplanade รวมไปถึงสถานศึกษาอย่างโรงเรียนนานาชาติรีเจ้นท์ เป็นต้น เป็นต้น อย่างที่รู้กันดีว่าในย่านพระราม 9 กำลังมีโครงการไลฟ์สไตล์มอลล์หลากหลายแห่งที่กำลังมีการก่อสร้างเพิ่มเติม จึงนับว่าเป็นอีกหนึ่งทำเลที่กำลังจะกลายเป็นย่าน New CBD (Central Business District) แห่งใหม่ของกรุงเทพฯ นอกจากนี้ ทางโครงการยังมอบความเป็นส่วนตัวแบบขั้นสุด พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ทั้ง สระว่ายน้ำระบบเกลือ ห้อง Fitness ระบบความปลอดภัย CCTV 35 จุด สัญญาณกันขโมย ระบบ Magnetic & Shock Sensor ทุกหลังและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง รับรองว่าเหมาะแก่การอยู่อาศัยหรือจะลงทุนในระยะยาวเพื่อเพิ่มมูลค่าของอสังหาริมทรัพย์ก็ได้เช่นกัน ยูนิตแนะนำ ขนาด 5 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ ขนาดพื้นที่ 462 ตร.ม. คลิกดูเพิ่มเติม ค้นหายูนิต พาร์ค พรีว่า เพิ่มเติมได้ที่นี่ นาราสิริ บางนา หนึ่งในโครงการบ้านหรูของแสนสิริ ด้วยทำเลแห่งอนาคตที่ติดถนนบางนา-ตราด ทำให้สะท้อนถึงศักยภาพของโครงการที่อยู่ท่ามกลางความสมบูรณ์พร้อมในทุกๆ ด้าน ตัวโครงการมีการดีไซน์ที่อยู่ในคอนเซปต์ “A…
เปิดโครงการบ้านหรู 3 สไตล์ใจกลางกรุง พร้อมสระว่ายน้ำ

การซื้อบ้านก็เหมือนการเลือกซื้ออนาคตของครอบครัว เพราะบ้านไม่เพียงเป็นหนึ่งในปัจจัยสี่สำหรับการอยู่อาศัยและให้ความปลอดภัยกับครอบครัวของเราแล้ว แต่บ้านยังเป็นสถานที่ที่เราสามารถกำหนดให้สอดคล้องกับกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสถานที่พักผ่อน สถานที่ทำกิจกรรม สถานที่สานสัมพันธ์ของครอบครัว หรือเป็นแหล่งรวมไลฟ์สไตล์ที่ครบจบในที่เดียว ซึ่งก่อนการเลือกซื้อบ้านสักหลังจำเป็นจะต้องพิจารณาปัจจัยหลายด้าน เช่น ทำเลที่ตั้ง สภาพแวดล้อม ความปลอดภัย ความสะดวกสบาย และสิ่งอำนวยความสะดวกรอบข้าง เพื่อให้ครอบครัวของเราอยู่อาศัยได้อย่างมีความสุขในคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุด สำหรับโครงการบ้านหรูนั้นถือว่าเป็นรูปแบบโครงการที่ช่วยคัดสรรและรวบรวมสิ่งที่ดีที่สุดมาให้ผู้อยู่อาศัยแล้วในระดับหนึ่ง ทำให้ผู้ที่ต้องการอยู่อาศัยพึงพอใจและคลายกังวลได้ในหลายๆ ด้าน อีกทั้งโครงการบ้านหรูนั้นมีข้อดีต่างจากโครงการบ้านเดี่ยวทั่วไปอีกหลายประการ ไม่ว่าจะเป็น ทำเลที่ตั้ง วัสดุที่ใช้ แนวคิดในการออกแบบ เทคโนโลยีความปลอดภัย จำนวนยูนิต ขนาดพื้นที่ใช้สอย เป็นต้น นาราสิริ กรุงเทพกรีฑา อีกหนึ่งโครงการบ้านหรูกลางกรุงที่น่าสนใจ เหนือระดับกว่าด้วย นาราสิริ กรุงเทพกรีฑา คลิก ทำให้บ้านหรูมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่หลักสิบล้านบาทไปจนถึงหลักร้อยล้านบาทเลยทีเดียว ซึ่งจะมีจุดเด่นที่แตกต่างกันไปตามแต่ละโครงการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบ้านราคา 100 ล้านนั้นยิ่งมีความพิเศษมากกว่า เรามาดูกันว่าบ้าน 100 ล้านนั้นจะมีจุดเด่นอะไรกันบ้าง จุดเด่นของโครงการบ้านหรู 100 ล้าน สภาพแวดล้อมและเพื่อนบ้านที่ดี โครงการบ้านหรูหลายโครงการมักจำกัดจำนวนยูนิต เพื่อสร้างความเป็นส่วนตัวให้กับผู้อยู่อาศัย ทำให้มีสภาพแวดล้อมที่หลีกเลี่ยงการมีปัญหากับเพื่อนบ้านได้ดี อีกทั้งราคาของบ้านนั้นค่อนข้างสูง ทำให้ผู้ที่มีกำลังซื้อนั้นมีรูปแบบสังคมและไลฟ์สไตล์ที่ใกล้เคียงกัน และพัฒนาสู่การเป็นเพื่อนบ้านที่ดีต่อกันได้ นอกจากนี้บางโครงการมีระบบในการคัดกรองผู้อยู่อาศัย และตรวจสอบความต้องการของแต่ละคนให้เหมาะสมกันได้อีกด้วย ทำให้สภาพแวดล้อมของโครงการบ้านหรู 100 ล้านนั้น เรียกได้ว่าเป็นระดับพรีเมียมที่ทำให้น่าอยู่อาศัยมากทีเดียว ความปลอดภัยและสุขอนามัย โครงการบ้านหรู เป็นอสังหาริมทรัพย์ที่มีมูลค่าสูง ทำให้มีระบบรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวด ทั้งในส่วนของเทคโนโลยีรักษาความปลอดภัยของโครงการและตัวบ้าน เช่น การมีประตูหลายชั้นเพื่อคัดกรองคนเข้า-ออก การติดเซนเซอร์บริเวณรั้วโครงการ การใช้เทคโนโลยี AI จดจำใบหน้าของผู้อยู่อาศัย และวิเคราะห์หาบุคคลต้องสงสัยกรณีเกิดเหตุร้าย เทคโนโลยีการล็อกของประตูหน้าต่าง สัญญาณกันขโมย ระบบป้องกันเหตุฉุกเฉิน และอื่นๆ นอกจากนี้ยังมีเรื่องของการวางระบบและการจัดการขยะที่ทันสมัย เพื่อสุขอนามัยที่ดีของผู้อยู่อาศัยอีกด้วย สิ่งเหล่านี้จะช่วยเสริมสร้างความมั่นใจให้ผู้อยู่อาศัยสามารถอยู่บ้านได้อย่างปลอดภัยและมีความสุข การพักอาศัยแบบครอบครัวใหญ่ ปกติบ้านหรูจะมีการออกแบบให้มีพื้นที่ใช้สอยทั้งภายนอกและภายในตัวบ้านได้ค่อนข้างมาก ทำให้มีพื้นที่รอบบ้านสำหรับทำกิจกรรมต่างๆ และพื้นที่จอดรถได้จำนวนมาก ภายในบ้านประกอบไปด้วยห้องตั้งแต่ 6-10 ห้องนอน มีห้องทำงาน ห้องออกกำลังกาย และห้องอเนกประสงค์สำหรับกิจกรรมของครอบครัวได้ ซึ่งตอบโจทย์กับการอยู่อาศัยเป็นครอบครัวใหญ่ได้แบบไม่ติดขัด และตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ให้ครบจบได้ในที่เดียว พื้นที่กว้างขวางเป็นส่วนตัวบนทำเลใกล้ใจกลางเมือง จุดเด่นสำคัญของบ้านหรู คือจำนวนพื้นที่ใช้สอยกว้างขวางที่มาพร้อมกับความเป็นส่วนตัวแบบสุดๆ ตั้งแต่ส่วนของโครงการที่มีการสร้างบรรยากาศและการรักษาความปลอดภัยที่ให้ความเป็นส่วนตัวสูง จำนวนยูนิตภายในโครงการมักจำกัดไม่เกินหลักสิบหลังคาเรือน บางโครงการอาจมีเพียง 5-10 ยูนิตเท่านั้น สำหรับตัวบ้านก็มีพื้นที่กว้างขวางและวางตัวอย่างเป็นสัดส่วน มีการใช้วัสดุดูดซับเสียง มอบความเป็นส่วนตัวให้กับทุกหลังคาเรือนได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้อีกจุดเด่นของโครงการบ้านหรูคือทำเลใกล้ใจกลางเมือง โดยขยับออกมาจากส่วนที่มีความวุ่นวาย มาใกล้ธรรมชาติมากขึ้น แต่ก็ยังสามารถเดินทางสะดวกสบายไปได้ทุกทิศทาง ไม่ว่าจะเข้าสู่ย่าน CBD (Central Business District) เข้าย่านแหล่งการค้า ไลฟ์สไตล์ หรือเดินทางออกต่างจังหวัดก็ไปได้อย่างสะดวกสบาย ส่วนกลางหรูหรา พร้อมสระว่ายน้ำส่วนตัว โครงการบ้านหรูมีการออกแบบพื้นที่และจัดเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการมาแบบครบวงจร โดยพื้นที่ส่วนกลางมีทั้งการออกแบบสไตล์หรูหราและฟังก์ชันที่ครบครัน ไม่ว่าจะเป็น คลับเฮ้าส์ สวนสาธารณะขนาดใหญ่ สนามเด็กเล่น ฟิตเนสที่มีอุปกรณ์ครบครัน สระว่ายน้ำ…
“ระบบรักษาความปลอดภัยอาคารเพื่อการพาณิชย์” มอบความปลอดภัยให้พร้อมกับทุกคน

ทำความรู้จักกับระบบรักษาความปลอดภัยอาคารเพื่อการพาณิชย์ ที่ช่วยป้องกันและยับยั้งเหตุร้ายได้อย่างทันท่วงทีด้วย LIV-24 สร้างความไว้วางใจให้กับผู้ที่เข้ามาใช้งานได้อย่างปลอดภัย อาคารเพื่อการพาณิชย์ หรือ Commercial Building คือ สถานที่ที่มีกิจกรรมทางการค้าเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นอาคารห้างสรรพสินค้า ร้านค้าปลีก ร้านอาหาร โรงแรม โรงพยาบาล และยังรวมไปถึงอาคารสำนักงาน โรงงาน โกดัง และโรงเรียนอีกด้วย ซึ่งเป็นสถานที่ในการรองรับคนจำนวนมาก ทำให้ลักษณะอาคารจึงต้องมีการก่อสร้างที่เป็นไปตามมาตรฐานและกฎข้อบังคับ เพื่อให้มีความคงทนแข็งแรงและพร้อมรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา แต่สำหรับโลกในปัจจุบันนั้น ภัยร้ายหรืออันตรายล้วนอยู่รอบตัวเรา ไม่ว่าฝ่ายผู้ดูแล และผู้ใช้งานจะระมัดระวังมากเพียงใด เหตุการณ์อันตรายก็ยังสามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่ ทุกเวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานที่ที่มีผู้คนจำนวนมากอย่างพื้นที่สาธารณะรูปแบบอาคารพาณิชย์ เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นจะยิ่งทวีคูณความเสียหายมากยิ่งขึ้นตามไปด้วย ดังนั้นการมีระบบรักษาความปลอดภัยที่ดี จึงช่วยสร้างความไว้วางใจให้กับผู้ที่เข้ามาใช้บริการหรือทำงานอยู่ภายในอาคารเหล่านั้น และสามารถดำเนินชีวิตประจำวันได้อย่างปลอดภัย ระบบรักษาความปลอดภัยภายในอาคารเพื่อการพาณิชย์คืออะไร? คือ ระบบรักษาความปลอดภัยรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านระบบวิศวกรรมอาคาร ระบบรักษาความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สิน ซึ่งระบบรักษาความปลอดภัยภายในอาคารเพื่อการพาณิชย์นั้น จะมีการวางระบบที่ครอบคลุม จัดให้มีการตรวจตราและตรวจสอบได้ เพื่อเฝ้าระวัง ป้องกัน และพร้อมรับมือทุกเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างทั่วถึง ตลอด 24 ชั่วโมงในทุกวัน ซึ่งจะแตกต่างกับระบบรักษาความปลอดภัยของพื้นที่อยู่อาศัย ตรงที่มีการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวด และรัดกุมกว่า เนื่องจากสถานที่มีขนาดใหญ่และมีผู้คนเข้า-ออกจำนวนมาก ระบบรักษาความปลอดภัยอาคารเพื่อการพาณิชย์ จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้ดูแลและเจ้าของกิจการธุรกิจควรตระหนักถึงความสำคัญ ไม่เพียงแค่มีระบบรักษาความปลอดภัยแบบทั่วไปเท่านั้น แต่ควรมีระบบรักษาความปลอดภัยที่ครอบคลุมมากที่สุด โดยใช้เทคโนโลยีรักษาความปลอดภัย เพื่อป้องกันและยับยั้งความรุนแรงของเหตุการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้น ก่อนจะสร้างความเสียหายขนานใหญ่ ที่ไม่เพียงแค่ทรัพย์สินที่มีมูลค่าเท่านั้นแต่อาจรวมไปถึงชีวิตที่ไม่สามารถประเมินค่าได้อีกด้วย อาคารเพื่อการพาณิชย์ควรมีระบบรักษาความปลอดภัยด้านใดบ้าง? สำหรับอาคารเพื่อการพาณิชย์หรือ Commercial Building ที่ยังให้ความสำคัญด้านระบบรักษาความปลอดภัยไม่มากพอ จะทำให้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันขึ้น ดังจะเห็นได้จากข่าวสารที่พบเห็นในปัจจุบัน อย่างเหตุการณ์กราดยิงในห้างสรรพสินค้า เหตุการณ์โจรกรรมร้านค้าปลีก เหตุการณ์ไฟไหม้โรงงานขนาดใหญ่จากไฟฟ้าลัดวงจร เหตุการณ์ไฟไหม้โรงแรม มีความผิดพลาดเกี่ยวกับสัญญาณจนทำให้เกิดความชุลมุน เหตุการณ์บุกแทง ตลอดจนลักพาตัวนักเรียนภายในโรงเรียน เป็นต้น เหตุการณ์ต่างๆ เหล่านี้สามารถป้องกันได้ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยด้านต่างๆ ดังนี้ การคัดกรองบุคคลเข้า-ออกภายในอาคาร เพื่อป้องกันไม่ให้บุคคลน่าสงสัยเข้าไปในพื้นที่ และตรวจอาวุธหรืออุปกรณ์ที่ใช้ก่อเหตุได้ โดยต้องจัดระบบในการคัดกรองให้มีความละเอียดและแม่นยำ ระบบการตรวจตราภายนอกและภายในอาคาร เช่น การจัด รปภ. เดินตรวจความเรียบร้อยตามเวลาที่กำหนดบริเวณจุดต่างๆ ให้ครอบคลุม รวมถึงการใช้กล้อง CCTV ตรวจสอบ และมีเจ้าหน้าที่คอยมอนิเตอร์ตลอด 24 ชม. ความปลอดภัยของวิศวกรรมอาคาร จะต้องมีการตรวจสอบอุปกรณ์ งานระบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นระบบประปา ระบบไฟฟ้า ระบบปรับอากาศและระบายอากาศ รวมถึงระบบในการแจ้งเตือนภัย เช่น อุปกรณ์ Smoke Detector อุปกรณ์เซนเซอร์ตรวจจับเปลวไฟ อุปกรณ์เสียงแจ้งเตือนเหตุ เป็นต้น ซึ่งจะต้องให้ความสำคัญในการซ่อมบำรุงตามรอบหรือระยะเวลาที่กำหนดเสมอ นอกจากนี้ควรตรวจสอบโครงสร้างว่ามีการแตกร้าว รั่วซึม และอาจก่อให้เกิดอันตรายได้หรือไม่ ระบบประเมินความเสี่ยงและวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อป้องกันและยับยั้งเหตุการณ์ ซึ่งมีการประเมินความเสี่ยงเอาไว้เบื้องต้นแล้ว จะช่วยให้สามารถป้องกันและยับยั้งเหตุได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว จนลดความสูญเสียลงได้ มิติใหม่ของระบบรักษาความปลอดภัยโครงการ Commercial by LIV-24 LIV-24 เทคโนโลยีดูแลความปลอดภัยอัจฉริยะ และจัดการระบบวิศวกรรมอาคารเต็มรูปแบบ เรียลไทม์ตลอด 24 ชั่วโมงจาก แสนสิริ และ PLUS Property…