รวม 5 คอนโด ราคา 5 ล้าน ย่านธุรกิจในกรุงเทพฯ น่าซื้อ

รวมคอนโดราคา 5 ล้าน ย่านธุรกิจ CBD ทำเลในกรุงเทพฯ สำหรับซื้อเพื่ออยู่อาศัย หรือลงทุน ก็คุ้มค่า ตอบโจทย์ความต้องการชีวิตประจำวันได้ครบ ย่านธุรกิจหรือ Central Business District (CBD) เป็นหนึ่งทำเลที่ใครหลายคนหมายปอง เพราะสำหรับคนที่จะซื้อเพื่ออยู่อาศัยเอง ก็เดินทางไปทำงานได้สะดวก มีสิ่งอำนวยความสะดวก สถานที่สำคัญที่ตอบโจทย์ความต้องการของชีวิตประจำวันได้ครบ สำหรับคนที่อยากซื้อคอนโดเพื่อการลงทุนเพื่อเก็งกำไร ก็เรียกว่าเป็นทำเลที่ได้มูลค่า มีศักยภาพสูง หรือลงทุนเพื่อปล่อยเช่าก็มีความต้องการที่เข้ามาอยู่เรื่อยๆ ทำให้โอกาสในการปล่อยเช่าเป็นไปได้ง่าย แน่นอนว่าทำเลคือปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ราคาคอนโดนั้นสูงหรือต่ำ แต่เรื่องนี้ก็อาจจะไม่ถูกเสมอไป ถ้ามองหาคอนโดมือสอง งบไม่เกิน 5 ล้านก็มีอยู่ไม่น้อย วันนี้พลัส พร็อพเพอร์ตี้ขอนำเสนอคอนโดมือสองน่าซื้อ งบ 5 ล้าน ก็ได้ทำเลย่านธุรกิจ มาลองดูกันว่ามีอะไรบ้าง คอนโดโซนสีลม–สาทร ราคาไม่เกิน 5 ล้าน สีลม-สาทรขึ้นชื่อว่าเป็นโซนที่มีออฟฟิศ และบริษัทมากมายทั้งไทย และต่างประเทศ เป็นจุดศูนย์รวมแหล่งคนทำงานที่มากมายหลากหลาย ตั้งแต่เอเยนซี่ บริษัทนานาชาติ ไปจนถึงบริษัททางการเงิน การได้ซื้อคอนโดไม่เกิน 5 ล้าน ย่านสีลม-สาทรอยู่นั่น คงจะดีมากสำหรับคนทำงาน เพราะไม่ต้องใช้เวลาบนถนนนานจนเกินไป มีตัวเลือกด้านการเดินทางอยู่หลายทาง ไม่ว่าจะรถไฟฟ้า รถโดยสารประจำทาง รถตู้ ฯลฯ นอกจากจะทำงานแล้ว จะเดินทางเข้าเมือง หรือออกนอกเมืองไปทางฝั่งพระนครเก่า (ฝั่งธนบุรี) ก็ไม่ใช่เรื่องยาก ในอนาคตก็จะมีส่วนต่อขยายที่ช่วยให้การเดินทางไปนอกเมืองสะดวกสบายมากยิ่งขึ้นด้วย 1. ทีล สาทร-ตากสิน คอนโดมือสองราคาไม่เกิน 5 ล้าน ที่สร้างขึ้นภายใต้คอลเลคชัน Live with Attitude จากแสนสิริ ภายใต้แนวคิดสร้างสมดุลให้ชีวิต ด้วยชีวิตใกล้ชิดธรรมชาติ สร้างแล้วเสร็จในปี 2555 เป็นคอนโดมือสอง ใกล้สถานีรถไฟฟ้าวงเวียนใหญ่ บนเนื้อที่โครงการ 2-2-15 ไร่ นอกจากเดินทางสะดวก มีร้านค้าและร้านอาหารตลอดเส้นทางถนนกรุงธนบุรีแล้ว ยังเป็นคอนโดมือสอง แถววงเวียนใหญ่ที่ราคาเริ่มต้น 4 ล้านบาทเท่านั้น อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ คอนโดโซนอโศก–รัชดา ราคราไม่เกิน 5 ล้าน คอนโด อโศก-รัชดา เป็นคอนโดที่เรียกว่าอยู่ในย่านที่มีคนให้ความสนใจตลอด เพราะเป็นทั้งย่าน CBD และแหล่งรวมไลฟ์สไตล์ที่ครบทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านธุรกิจ ก็มีออฟฟิศที่หนาแน่นรวมอยู่ด้วยกัน แหล่งร้านค้า สถานบันเทิงก็มีหลากหลายรูปแบบ ทั้งยังเป็นจุดเชื่อมต่อระว่างใจกลางเมือง ไปยังโซน CBD ใหม่อย่าง รัชดา-พระราม9 ที่มีการขยายตัวตามแนวรถไฟฟ้า MRT ทำให้การเดินทางไปมาสะดวกมากยิ่งขึ้นด้วย ซึ่งการซื้อคอนโดมือสองโซนอโศก-รัชดานี้จะเพื่ออยู่เองก็เหมาะสำหรับพนักงานออฟฟิศ หรือจะลงทุนไว้ให้ลูกหลานหรือเปล่าเช่าก็นับว่าเป็นทำเลศักยภาพสูงเลยทีเดียว สำหรับคอนโดมือสอง ย่านอโศก-รัชดา ที่ราคาอยู่ในงบไม่เกิน 5…

4 เทคนิคตกแต่งคอนโดให้เช่า ดูกว้าง สวย ปล่อยห้องได้ไว

สำหรับผู้ที่ลงทุนคอนโดเพื่อหวังผลระยะยาวจากกำไรจากทำคอนโดให้เช่า “เวลา” เป็นสิ่งมีค่าและสำคัญยิ่ง นั่นหมายถึงเวลาที่เสียไปอาจจะทำให้กำไรที่ควรจะได้จากการปล่อยเช่าคอนโดก็ลดน้อยลงไปด้วยเช่นกัน การตกแต่งคอนโดให้เช่า เป็นเรื่องที่นักลงทุนควรให้ความสำคัญเพราะการตกแต่งคอนโดที่มีเอกลักษณ์จะสร้างความประทับใจแรกให้กับผู้เช่า และทำให้ทรัพย์ของเรามีจุดต่างจากห้องเช่ายูนิตอื่นในอาคารเดียวกัน จนผู้เช่าไม่สามารถปฎิเสธได้และวางเงินมัดจำทันที 4 เทคนิคสำคัญในการตกแต่งคอนโดให้ผู้เช่าประทับใจ ทำได้ไม่ยากแค่ทำตามนี้   1.รู้จักห้อง ทุกซอก ทุกมุม ก่อนตกแต่งคอนโดให้เช่า คอนโดในเมืองโดยเฉพาะอย่างยิ่ง คอนโดติดรถไฟฟ้ามักจะมีราคาสูงและมีขนาดเล็ก ดังนั้นการที่จะตกแต่งคอนโดให้เช่า หรืออยู่อาศัยเอง สิ่งแรกที่ต้องรู้ คือ พื้นที่ใช้สอย เริ่มโดยวัดขนาดของห้อง และสำรวจไปถึงซอกหลืบให้ละเอียด วาดแผนผังห้องออกมา และระบุขนาดพื้นที่บริเวณต่างๆ ซึ่งรวมถึงขนาดผนังแต่ละด้าน ขนาดเสา กรอบประตู กรอบหน้าต่าง ไม่ว่าจะเป็นความกว้าง ความยาว ความสูง ความลึกโดยละเอียด เพื่อใช้ในการประกอบการเลือกเฟอร์นิเจอร์ของตกแต่งแต่ละชิ้น และเป็นการช่วยให้เราจัดสรรพื้นที่ได้ง่ายขึ้นด้วย ภาพจากโครงการ คาวะ เฮาส์ 2. ตกแต่งคอนโด ด้วยเฟอร์นิเจอร์สำเร็จรูป หรือ บิ้วท์อิน? หลายคนใช้วิธีตกแต่งคอนโดให้เช่าด้วยเฟอร์นิเจอร์แบบสำเร็จรูปเพราะคิดว่าช่วยประหยัดเวลาในการตกแต่ง ประหยัดแรงและได้คุณภาพที่คงทนยาวนาน แต่อย่าลืมว่าวัตถุประสงค์หลักของการแต่งคอนโดเพื่อทำกำไรจากการปล่อยเช่านั้น เวลาและต้นทุนถือเป็นหัวใจหลักของการทำกำไร นอกจากว่าคุณซื้อคอนโดที่มีเฟอร์นิเจอร์บิ้วท์อินให้อยู่แล้ว แบบนี้ก็ถือเป็นกำไร แต่สำหรับห้องที่ไม่มีการตกแต่งและต้องการปล่อยให้เช่า การใช้เฟอร์นิเจอร์แบบบิ้วท์อินต้องใช้เวลามากในการออกแบบ ก่อสร้าง และตกแต่ง นอกจากนี้หากมีการทรุดโทรมตามการใช้งาน 5 – 7 ปี ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการรื้อและสร้างใหม่ ใช้ต้นทุนและเวลามากกว่าซื้อเฟอร์นิเจอร์สำเร็จรูปใหม่ยกเซตก็เป็นได้ หากมีการวางแผนเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์สำเร็จรูปเป็นอย่างดีแล้ว นอกจากประหยัดเงิน ยังช่วยประหยัดเวลาอีกด้วย 3. ตกแต่งคอนโดให้กว้าง ด้วยเครื่องใช้สารพัดประโยชน์ คอนโดปล่อยเช่า ก็เปรียบเสมือนบ้านหลังใหญ่ที่ถูกย่อส่วนลงมาแต่ยังคงไว้ทุกฟังค์ชั่นการใช้งาน ดังนั้นการเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้าเพื่อตกแต่งคอนโด จะต้องมีการจัดสรรพื้นที่ให้ลงตัวและอำนวยความสะดวกอย่างครบครัน เช่น เลือกใช้โต๊ะติดผนังที่สามารถพับขึ้นลงได้แทนโต๊ะแบบทั่วไปเพื่อประหยัดพื้นที่ โดยสามารถเป็นโต๊ะทำงานหรือทานข้าวในเวลาเดียวกัน นอกจากเครื่องใช้ไฟฟ้าหลักๆ อย่าง แอร์ ตู้เย็น โทรทัศน์ เครื่องทำน้ำร้อน ที่จำเป็นต้องมีแล้ว การลงทุนสำหรับสิ่งเล็กๆ น้อยๆ อย่างเตาอบไมโครเวฟ ที่เป็นการอำนวยความสะดวกสำหรับการใช้ชีวิตประจำวันแก่ผู้เช่า ก็สามารถทำให้ห้องของคุณมีค่าเพิ่มมากขึ้น และสามารถปล่อยเช่าห้องได้ราคาสูงกว่าเมื่อเทียบกับห้องอื่นๆ ที่มีการตกแต่งคอนโดแบบธรรมดา เพราะผู้เช่ามองว่าห้องที่มีการตกแต่งและให้สิ่งอำนวยความสะดวกมาด้วยนั้น คุ้มค่าต่อราคาค่าเช่ามากกว่า ภาพจากโครงการ THE LINE Phahon-Pradipat 4. ตกแต่งคอนโดให้สวย ใช้โทนสีสร้างความประทับใจ การแต่งคอนโดโดยใช้โทนสีแบบเอิร์ธโทนจะทำให้ห้องมีความเป็นกลาง ไม่ว่าผู้หญิงหรือผู้ชายก็สามารถประทับใจได้ ทำการบ้านด้วยการเลือกโทนสีสำหรับตกแต่งห้องในคอนโดและการจับคู่สีสามารถหา Reference จากแหล่งข้อมูลด้านการตกแต่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นหนังสือตกแต่งบ้าน หรือ เว็บไซต์ไอเดียต่างๆ เช่น Pinterest เพื่อให้การเลือกเฟอร์นิเจอร์แต่ละชิ้นเข้ากันมากขึ้น   การใช้สีสันที่ฉูดฉาด โทนสีร้อน อาจจะเหมาะกับแค่คนบางกลุ่ม แต่การใช้โทนสีแบบเอิร์ธโทนเรียบง่าย เช่น เทา น้ำตาล ครีม ขาว จะทำให้ห้องดูมีความเป็นธรรมชาติ ให้อารมณ์เหมือนอยู่บ้านและช่วยให้ขนาดห้องขนาดเล็กดูกว้างขึ้นอีกด้วย จากเทคนิคที่กล่าวมาข้างต้น สามารถทำให้ห้องของคุณดูน่าสนใจและสร้างความประทับใจได้โดยไม่ต้องเสียเวลาในการอธิบาย และผู้เช่ามีแนวโน้มที่จะตัดสินใจและวางเงินจองได้ในทันทีเพราะไม่อยากเสียโอกาสในการเป็นเจ้าของ อีกทั้งยังสามารถใช้ชีวิตอยู่ในห้องของคุณได้อย่างสะดวกสบาย บางอย่างอาจจะต้องลงทุนและมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น แต่ถ้าเป็นสิ่งที่สามารถทำให้ผู้เช่าตัดสินใจได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ลังเลแล้ว คุณจะเสียเวลาไปอีก 1 เดือน 2 เดือน หรือมากกว่าโดยไม่ได้รับค่าเช่าไปเพื่ออะไร หากมีคนพร้อมจะควักเงินให้คุณแล้วอยู่ตรงหน้า เริ่มแต่งห้องและจบดีลให้เร็ว เท่านั้นคุณก็นอนรอรับเงินได้อย่างสบายใจหายห่วง   บทความที่เกี่ยวข้อง:…

ชวนคนรักมาเป็นเจ้าของบ้านร่วมกัน ด้วยการรีไฟแนนซ์และกู้ร่วม

ประสบการณ์คนรัก รีไฟแนนซ์กู้ร่วมซื้อบ้าน ซื้อคอนโด มีข้อดีอย่างไร? สำหรับตัวอย่างจากเคสนี้ ลูกค้าเก่าของพลัสฯ ได้ แวะเวียนมาหาเราพร้อมกับคนรู้ใจ มาพร้อมข่าวดีที่กำลังจะสละโสด จึงได้ทราบว่าคอนโดหนุ่มโสดที่ทางเราช่วยสรรหาให้ลูกค้าเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ตอนนี้แปรสภาพกลายเป็นเรือนหอไปแล้ว ด้วยความที่เป็นลูกค้ากับพลัสฯ มานาน จึงมาปรึกษาเราเรื่องของการรีไฟแนนซ์บ้าน (Refinance) และขอกู้ร่วมไปในตัว โดยเราสามารถให้คำปรึกษาได้เบื้องต้น และสามารถแนะนำธนาคารที่ให้ข้อมูลในรายละเอียดได้อย่างดี เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจ ปัจจุบันลูกค้าซึ่งเป็นฝ่ายชายนั้นได้ผ่อนคอนโดมาเป็นระยะเวลา 4 ปี และฝ่ายหญิงอยากมีบทบาทในการช่วยเหลือฝ่ายชายในการผ่อนเรือนหอร่วมกัน ซึ่งลูกค้าผ่อนมาแล้วถึง 4 ปี จึงเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่ลูกค้าจะรีไฟแนนซ์บ้านเพื่อลดอัตราดอกเบี้ยลง และข้อดีอย่างหนึ่งของการรีไฟแนนซ์บ้านก็คือ เป็นโอกาสหนึ่งที่ผู้กู้จะขอเพิ่มผู้กู้ร่วมไปพร้อมๆ กัน เรียกได้ว่ายิงปืนนัดเดียวได้นกถึงสองตัว สำหรับการดำเนินการในส่วนของธนาคารนั้นคือการเพิ่มชื่อผู้กู้ร่วม สามารถทำไปพร้อมๆ กับการรีไฟแนนซ์บ้านได้  แต่การจะทำให้อีกฝ่ายมาเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ร่วมกันนั้นต้องดำเนินการที่สำนักงานที่ดิน ซึ่งมีค่าใช้จ่าย ดังนี้ 1. ค่าใช้จ่ายในการให้ ในอัตรา 0.5% ของราคาประเมิน 2. ภาษีเงินได้ หัก ณ ที่จ่าย โดยนำ 50% ของราคาประเมินมาเป็นเงินได้พึงประเมิน หักค่าใช้จ่ายตามจำนวนปีที่ ถือครองกรรมสิทธิ์ และคำนวณภาษีตามฐานภาษี 3. ค่าอากรสแตมป์ 0.5% ของราคาซื้อขายหรือราคาประเมิน ขึ้นอยู่กับว่าราคาใดสูงกว่า ในกรณีที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไป หรือถือครองตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไป ถ้าไม่เข้าเงื่อนไขนี้จะต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะแทนในอัตรา 3.3% ของราคาซื้อขายหรือราคาประเมิน โดยใช้ราคาที่สูงกว่า ตัวอย่างเช่น หากบ้านมีราคาซื้อขาย 3.8 ล้านบาท ราคาประเมิน 2.5 ล้านบาท และเจ้าของมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านมากกว่า 1 ปี จะมีค่าใช้จ่ายในการเพิ่มเจ้าของกรรมสิทธิ์ร่วมดังนี้ หลังจากที่ลูกค้ารีไฟแนนซ์บ้านตั้งแต่ปีที่ 5 เป็นต้นไปโดยไม่กู้เพิ่ม นอกจากจะทำให้อัตราดอกเบี้ยลดลงจากเดิมที่อัตราดอกเบี้ยลอยตัวอยู่ที่ 6.87% ก็ได้อัตราดอกเบี้ยคงที่อีกครั้งที่ 1.25% ในช่วงเดือนที่ 1-8 3.25% ในช่วงเดือนที่ 9-16 และ 5.50% ในช่วงเดือนที่ 17-36 ก่อนจะลอยตัวตั้งแต่เดือนที่ 37 เป็นต้นไปที่ 5.75% (เปรียบเทียบได้ดังตารางด้านล่าง)   อีกทั้งเมื่อลูกค้ารีไฟแนนซ์บ้านพร้อมเพิ่มผู้กู้ร่วมแล้ว ทำให้สามารถเพิ่มจำนวนเงินที่ผ่อนในแต่ละงวดให้มากขึ้นได้ จากเดิมผ่อนเองคนเดียว 24,000 บาทต่อเดือน ก็เปลี่ยนเป็นช่วยกันผ่อนคนละ 15,000 บาท ทำให้สามารถผ่อนเพิ่มขึ้นเป็น 30,000 บาทต่อเดือน เมื่อเปรียบเทียบกับการไม่รีไฟแนนซ์บ้านและไม่เพิ่มผู้กู้ร่วม กับการรีไฟแนนซ์บ้านและเพิ่มผู้กู้ร่วม แล้วการรีไฟแนนซ์บ้าน และเพิ่มผู้กู้ร่วมทำให้นอกจากจะลดดอกเบี้ยจ่ายทั้งหมดลงถึง 55% แล้ว ขณะเดียวกันก็ทำให้ผ่อนหมดเร็วขึ้น จากเดิมที่ต้องใช้เวลาผ่อน 29 ปี 4 เดือน ก็เหลือเพียงผ่อน…

15 เช็คลิสต์ ฮวงจุ้ยคอนโดที่ใช่ อยู่แล้วรวย ช่วยเสริมดวง

ก่อนตัดสินใจเลือกซื้อคอนโดไว้เป็นหลุมหลบภัย นอกจากทำเล สิ่งอำนวยความสะดวกแล้ว อีกสิ่งที่สำคัญคือ ฮวงจุ้ยคอนโดที่เราเลือกอยู่นั้นช่วยเสริมดวงเราหรือไม่ หากอยู่แล้วยิ่งรวย เสริมโชคชะตาให้ชีวิตมีความสำเร็จรอบด้านแบบ 360 องศา ทั้งการงาน และครอบครัวก็คงจะดีไม่น้อย ดังนั้นเรามาดู 15 Checklist ฮวงจุ้ยคอนโดที่ใช่ เอาใจสายมูเตลู เพื่อให้อยู่คอนโดได้อย่างอยู่ดีมีสุขกันเลย! 1. อยู่ในทำเลใกล้แหล่งชุมชน ไม่ตั้งอยู่โดดเดี่ยวลำพัง   คอนโดที่มีฮวงจุ้ยดี ควรอยู่ใกล้แหล่งชุมชน สะดวกในการคมนาคม ใกล้ที่ทำงาน หรืออยู่ในสิ่งแวดล้อมที่เป็นธรรมชาติ มีสวนสาธารณะ สนามเด็กเล่น หรือติดกับแม่น้ำ เพราะคอนโดที่ตั้งอยู่อย่างเดี่ยวๆ ตามหลักฮวงจุ้ยหมายถึงว่า การขาดคนคอยค้ำจุน ช่วยเหลือสนับสนุน 2. มีทางเข้าออกโครงการกว้าง และสะดวก ภาพจากโครงการ XT Huaikhwang  ตามหลักฮวงจุ้ยบอกว่า บ้านหรือคอนโดที่มีทางเข้าที่ดีจะต้องกว้าง และมองเห็นได้ชัดเจน ไม่มีสิ่งใดมาขวางกั้น ทางเข้าที่กว้างจะเปิดรับกระแสชี่ให้ไหลเข้าได้ง่าย เพราะทางเข้าโครงการเปรียบเสมือนช่องทางหลักของพลังงาน ทางเข้าโครงการที่กว้างใหญ่จึงเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยกระตุ้นให้พลังงานเข้าสู่ภายในโครงการได้ดี 3. ทางเข้าโครงการเชื่อมต่อกับถนนสายหลัก เข้าออกได้หลายทาง ถนนในซอยเอกมัยที่สามารถเชื่อมต่อไปยัง ทองหล่อ พระโขนง สุขุมวิท เพชรบุรี ทำเลที่ตั้งบ้านฮวงจุ้ยดี นอกจากจำเป็นต้องมีถนนทางเข้าที่กว้าง ขับขี่ได้อย่างสะดวกแล้ว หากเป็นถนนที่สามารถเชื่อมต่อไปยังสายอื่น ๆ ได้อีกหลายเส้น จะยิ่งส่งเสริมโชคลาภให้กับผู้อยู่อาศัย ช่วยเพิ่มโอกาสในการทำธุรกิจได้มากยิ่งขึ้น และยิ่งหากสามารถเข้าออกได้หลายทาง จะทำให้เกิดกระแสหมุนเวียนได้มาก 4. มีสวนหรือพื้นที่สีเขียวส่วนกลางมากๆ ภาพจากโครงการ The LINE Phahon – Pradipat สนใจเช่า คลิก | สนใจซื้อ คลิก คอนโดที่มีต้นไม้ สวนสาธารณะ จัดสรรพื้นที่สีเขียวไว้มาก ๆ ล้วนเป็นปัจจัยในการจัดเก็บพลังงานด้านบวก ยิ่งมากยิ่งดี ช่วยส่งเสริมฮวงจุ้ย โครงการที่มีพื้นที่สีเขียวที่ดี ควรมีทั้งพื้นที่โล่ง พื้นที่ต้นไม้ใหญ่ รวมทั้งพื้นที่สีเขียวตลอดช่วงของถนน ทำเลดี วิวสวน สระสวย สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เดอะไลน์ จตุจักร-หมอชิต  บรรยากาศแบบรีสอร์ท ใกล้ชิดธรรมชาติที่โมริ เฮาส์ 5. เห็นกระแสพลังไหลเข้า ภาพจากโครงการ oka HAUS สนใจเช่า คลิก | สนใจซื้อ คลิก คอนโดที่มีฮวงจุ้ยดี จะต้องมองเห็นกระแสพลังจากที่ต่างๆ ได้ เพราะบริเวณดังกล่าวนี้จะเป็นจุดสะสมกระแสพลังให้ภาพรวมของโครงการที่เราอาศัยอยู่นั้นเกิดความเจริญรุ่งเรืองและมีมูลค่าในระยะยาว เช่น เห็นสายน้ำไหลมาหา ถนนสายใหญ่มีรถวิ่งมาหาจำนวนมาก 6. ลงทุนคอนโดให้เลือกทิศแนวทิศเหนือ-ใต้ หากซื้อคอนโดไว้ลงทุนปล่อยเช่า ฮวงจุ้ยเป็นเรื่องสำคัญ ควรเลือกห้องที่ระเบียงอยู่ในแนวทิศเหนือ-ใต้เป็นหลัก เพราะสามารถรับลมได้ดี เชื่อว่าสามารถหาคนเช่าอาศัยต่อได้ง่าย 7. ลมต้องไหลเวียนเข้าจากระเบียงได้ดี ตำแหน่งคอนโดที่อยู่ในฮวงจุ้ยที่ดีนั้น ต้องมีทิศทางให้ลมวิ่งเข้าหาห้องพักของเราได้ ลมเข้ามากก็มีโอกาสรวยมาก 8. เลือกวิวที่ไม่มีสิ่งปลูกสร้างมาบดบัง สามารถมองออกไปได้ไกลๆ…

เคล็ดลับลงทุนซื้อคอนโดปล่อยเช่าคอนโดให้ได้กำไร ที่มือใหม่ควรรู้

ภาพรวมการลงทุนในตลาดคอนโด ทุกวันนี้ ยังพอมีโอกาสในการลงทุนทั้งในรูปแบบระยะสั้นและระยะยาว ทว่าการลงทุนในรูปแบบระยะยาว โดยเฉพาะการซื้อคอนโดฯ resale แล้วถือครองระยะยาว เพื่อเก็บเป็นทรัพย์สิน และนำไปปล่อยเช่า ช่วงนี้น่าจะมีโอกาสได้ของราคาถูก ถึงแม้ปัจจุบันสภาวะเศรษฐกิจจะชะลอตัว แต่ในด้านความต้องการที่อยู่อาศัยจริงก็ยังคงมี เพราะฉะนั้นการลงทุนซื้อคอนโดปล่อยเช่า จึงมีความน่าสนใจมาก เพราะสามารถทำกำไรได้ในระยะยาว อีกทั้งยังมีโอกาสขายต่อได้ Capital Gain ในอนาคตอีกด้วย สถานการณ์การซื้อคอนโดฯ เพื่อปล่อยเช่ายังคงได้รับความนิยมจากนักลงทุน เนื่องจากปัจจุบันคนรุ่นใหม่เริ่มสนใจการลงทุนมากขึ้น อีกทั้งยังมีปัจจัยอื่นๆ มาช่วยสนับสนุนในการลงทุนซื้อคอนโดฯให้เช่าอีกหลายอย่าง ทั้งเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC ที่จะส่งผลให้มีชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาทำงานในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น รวมถึงการพัฒนาศูนย์สุขภาพต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในย่านใจกลางกรุงเทพฯ หลายแห่ง เช่น ที่ดินเดิมบริเวณโรงแรมปาร์ค นายเลิศ, โรงพยาบาลอาร์เอสยูอินเตอร์เนชั่นแนล บนถนนเพชรบุรีตัดใหม่, อาคารมิกซ์ยูสสามย่าน มิตรทาวน์ ที่เป็นแหล่ง Co-Working Space 24 ชั่วโมง ซึ่งทั้งหมดนี้จะส่งผลให้ตลาดให้ตลาดปล่อยเช่าคอนโดเช่าคึกคักเพิ่มขึ้นไปอีก 1. เลือกซื้อคอนโดฯ มาปล่อยเช่ายังไงให้คุ้มค่า ตลาดปล่อยเช่าคอนโดที่ยังดีอยู่ตอนนี้ คงเป็นตลาดกลาง-บนที่ยังมีกำลังซื้อค่อนข้างสูง หรือตลาดคอนโดฯ ใกล้สถานศึกษา ซึ่งคนที่จะเริ่มลงทุนเองต้องรู้ว่าโครงการที่เราจะซื้อมีกลุ่มเป้าหมายในการปล่อยเช่าเป็นใคร และมีโอกาสในการปล่อยเช่ามากน้อยแค่ไหน รวมถึงวิเคราะห์สภาพตลาดและคู่แข่ง ถึงแม้จะมีกลุ่มเป้าหมายผู้เช่าชัดเจน แต่ถ้ามีคู่แข่ง (โครงการจำนวนมาก) โอกาสในการปล่อยเช่าคอนโดก็จะลดน้อยลง ซื้อคอนโดเพื่อปล่อยเช่านักเรียนหรือนักศึกษา ถ้าต้องการปล่อยเช่านักเรียนหรือนักศึกษา ก็ต้องมองทำเลในรัศมีไม่ไกลจากโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัยนั้นๆ ยิ่งใกล้ยิ่งดี และต้องเป็นราคาที่นักศึกษาสถาบันนั้นๆ เอื้อมถึงด้วย เช่น ใกล้มหาวิทยาลัยกรุงเทพ มีคอนโด Kave Condo Rangsit ห้องขนาด 24 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 1.29 ล้านบาท หรือดีคอนโด แคมปัส รีสอร์ท รังสิต ห้องขนาด 30 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.1 ล้านบาท มีโอกาสปล่อยเช่าได้ในราคา 8,000-10,000 บาทต่อเดือน ซื้อคอนโดเพื่อปล่อยเช่าคนต่างชาติ หรือหากจะปล่อยเช่าคอนโดให้คนต่างชาติก็ต้องเลือกปล่อยคอนโดให้เช่าแนวรถไฟฟ้า เดินทางสะดวก และใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ เช่น เดอะ เบส พาร์ค เวสต์ หรือ เดอะ เบส พาร์ค อีสต์ ใกล้รถไฟฟ้า BTS สถานีอ่อนนุช และใกล้ฮาบิโตะ คอมมูนิตี้ มอลล์ อีกทั้งยังจะมีโรงเรียนนานาชาติ Bangkok Prep ซึ่งจะเพิ่มโอกาสในการปล่อยเช่าได้มากขึ้น หรือจะเน้นปล่อยเช่าคอนโดกลุ่มคนญี่ปุ่น ในห้องพักต้องมีอ่างอาบน้ำ เพราะคนญี่ปุ่นชอบแช่น้ำ เช่น Vtara 36 ในซอยสุขุมวิท 36 หรือ โครงการ Moniiq สุขุมวิท 64 มีโถงพื้นที่สำหรับถอดรองเท้าตามวัฒนธรรมของชาวญี่ปุ่น เป็นต้น นอกจากนี้การเลือกตำแหน่งห้องในการปล่อยเช่าก็มีความสำคัญในการลงทุนซื้อคอนโดเพื่อปล่อยเช่าไม่น้อย แน่นอนว่าผู้เช่าเองก็ต้องเลือกตำแหน่งที่ดีที่สุดเพื่ออยู่อาศัย ไม่ควรเลือกห้องในตำแหน่งที่ชั้นสูงจนเกินไปหรือเตี้ยเกินไป หากเป็นคอนโดฯ ไฮไรส์ควรเลือกชั้น…

นโยบายรักษาความปลอดภัย เรื่องสำคัญที่นิติฯต้องจัดการ

นโยบายด้านรักษาความปลอดภัยขั้นพื้นฐานที่ทุกนิติบุคคลอาคารชุดควรมี การจัดการรักษาความมั่นคงปลอดภัยเป็นหนึ่งในนโยบายหลักของการจัดการนิติบุคคลที่ให้ความสำคัญเป็นลำดับต้นๆ เพราะเกี่ยวข้องกับความปลอดภัย สวัสดิภาพ ทรัพย์สิน ของเจ้าของร่วมและผู้พักอาศัยในอาคารชุดหรือหมู่บ้าน รวมถึงทรัพย์สินส่วนกลางของโครงการ การเกิดเหตุร้ายหรือความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นนั้น ได้แก่ การทำร้ายร่างกาย การทะเลาะวิวาท การบุกรุก การโจรกรรมทรัพย์สิน ฯลฯ การดำเนินการในเรื่องนี้ นิติบุคคลมีหน้าที่ที่จะต้องจัดการให้มีมาตรการและขั้นตอนปฏิบัติที่มีความเหมาะสมกับลักษณะเฉพาะของแต่ละพื้นที่ ดำเนินการจัดหาผู้ปฏิบัติงานที่มีความสามารถ กำกับควบคุมนโยบายให้เป็นไปตามแผนที่วางไว้ ตั้งแต่ป้องกันไม่ให้ผู้มีโอกาสก่อเหตุเข้ามาในพื้นที่ สอดส่องดูแลพื้นที่ให้มิดชิด รัดกุม และระงับเหตุการณ์ได้เมื่อมีภัยเกิดขึ้น รวมถึงมีความชำนาญ มีทักษะเฉพาะด้าน สามารถให้ความรู้และสร้างความตื่นตัวในการปฏิบัติที่ดี เพื่อช่วยลดความเสี่ยงการเกิดเหตุให้แก่เจ้าของร่วมได้ การปฏิบัติหน้าที่ด้านความปลอดภัยของฝ่ายจัดการฯ โครงการ บุราสิริ รังสิต โดย Plus Property นโยบายด้านรักษาความปลอดภัยขั้นพื้นฐาน  1. การควบคุมการเข้า-ออกพื้นที่อาคารชุด จัดให้มีระเบียบวิธีการอย่างชัดเจน ทั้งขั้นตอนการตรวจบันทึก และการผ่าน-เข้าออกของยานพาหนะทุกคัน มีระบบการคัดแยกรถยนต์ของเจ้าของร่วมและรถจากภายนอก เช่น สติ๊กเกอร์ติดหน้ารถ การลงทะเบียนหมายเลขทะเบียนรถยนต์ 2. การควบคุมการผ่านเข้าด้านในอาคาร ในส่วนนี้เป็นการคัดกรองบุคคลสำหรับผู้ที่จะผ่านเข้ามาภายในพื้นที่พักอาศัย ซึ่งจะต้องมีขั้นตอนการตรวจบันทึกและแสดงตนสำหรับบุคคลภายนอก มีการบันทึกข้อมูลเวลาเข้าออก เช่น ผู้รับเหมา แม่บ้านรายวัน ช่างซ่อมภายนอก หรือแม้แต่กระทั่งผู้ติดตามเจ้าของร่วม 3. การรักษาการณ์และตรวจตราสอดส่อง เป็นการจัดให้มีการตรวจการณ์ของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เช่น จัดให้มีจุดตรวจประจำการ ในบริเวณที่อาจเกิดความเสี่ยงขึ้นได้ โดยฝ่ายจัดการฯ ต้องมีระบบกำกับและควบคุมการทำงานที่ดี 4.การจัดการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่ดี เป็นการวางนโยบายการจัดการด้านการรักษาความปลอดภัยที่มีการวางแผนอย่างรอบคอบ หน้าที่ปฏิบัติที่มีหลากหลายรูปแบบตามลักษณะงาน และพื้นที่ และนำไปปฏิบัติใช้ด้วยชุดมาตรการปฏิบัติที่ชัดเจนเป็นมาตรฐานในทุกครั้ง อีกทั้งมีการนำเอาเทคโนโลยีด้านการรักษาความปลอดภัย เข้ามาร่วมผสมผสานกับการปฏิบัติงาน เพื่อให้มีความแม่นยำและมีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น ชุดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ (Guard Scan) ช่วยเสริมประสิทธิภาพการทำงานของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย โดยให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเดินตรวจตราความเรียบร้อย ตามเวลาและจุดตรวจที่กำหนด แล้วรายงานความเรียบร้อย หลังจากนั้นระบบจะมีการประมวลผล เพื่อให้ฝ่ายจัดการฯ ตรวจสอบรายงานการเดินตรวจการณ์ของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยแต่ละคนได้ Plus Property ในฐานะเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์ นโยบายเรื่องความปลอดภัยเป็นสิ่งที่เราให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ นอกจากการเข้มงวดกวดขันกับระบบการจัดการรักษาความปลอดภัยกับบริษัทคู่สัญญาแล้ว เรายังร่วมกับ แสนสิริ  จัดตั้ง “LIV-24” ศูนย์ควบคุมแบบเรียลไทม์ 24 ชั่วโมง เต็มรูปแบบแห่งแรกของวงการอสังหาริมทรัพย์ไทย ซึ่งศูนย์ควบคุมตัวนี้จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้แก่ลูกบ้านเป็นอย่างมาก เพราะสามารถสังเกตการณ์ได้ 24 ชั่วโมง ตลอด 7 วัน ไม่มีพัก เข้ามาช่วยเสริมกำลังการดูแลความปลอดภัยให้เข้มข้นมากขึ้นในทุกมิติการอยู่อาศัย LIV-24 ศูนย์ควบคุมจากส่วนกลางแบบเรียลไทม์ตลอด 24 ชั่วโมง   ชวนคุณมาทำความรู้จักกับ LIV-24 LIV-24 บริการดูแลความปลอดภัย เพิ่มความอุ่นใจในการใช้ชีวิต ตลอด 24 ชม.  หมายเหตุ: LIV-24 บริหารงานและให้บริการ โดย “บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด” แต่เพียงผู้เดียว สำหรับโครงการของแสนสิริ/บริษัทในเครือที่จัดให้มี LIV-24 – ฟรีค่าบริการ 2 ปี…

จุดเริ่มต้น พระโขนง-อ่อนนุช สู่ยุคที่เป็นมากกว่าการอยู่อาศัย

ตอนที่ 1 : พระโขนง-อ่อนนุช ในวันวาน พระโขนง – อ่อนนุช เป็นอีกหนึ่งทำเลที่ดึงดูดความสนใจของนักลงทุนเช่นกัน กับราคาขายต่อของคอนโดในย่านนี้ที่ขยับสูงขึ้นไปมากกว่า 50% รวมถึงผลตอบแทนจากการปล่อยเช่าที่ได้รับอยู่ที่ประมาณ 5-7% กับอัตราการอยู่อาศัยที่สูงถึง 77% และการเกิดขึ้นของคอมมูนิตี้มอลล์ แหล่งบันเทิงต่างๆ ที่สามารถตอบโจทย์การใช้ชีวิตได้ครบครัน ทำให้พระโขนง-อ่อนนุชในวันนี้ มีอะไรที่เป็นมากกว่าทำเลสำหรับการอยู่อาศัยไปแล้ว พระโขนง-อ่อนนุช มักถูกมองว่าเป็นทำเลครึ่งๆ กลางๆ จะบอกว่าเมืองเลยก็ไม่ใช่ จะนอกเมืองเลยก็ไม่ถูกเพราะเดินทางเข้าออกสะดวก และยังคงมีวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมคงอยู่ อีกทั้งยังเคยเป็นชุมชนที่มีความเจริญมากในช่วงหนึ่ง แต่หลังจากเกิดวิกฤติต้มยำกุ้ง ทำให้การพัฒนาในย่านนี้เกิดหยุดชะงักไป จนวันที่รถไฟฟ้าสายสีเขียวทอดรางมาสิ้นสุดที่สถานีอ่อนนุช พระโขนงและอ่อนนุชก็ถูกหมายตาจากเหล่านักพัฒนาอสังหาฯ อีกครั้ง ทั้งนี้ก็เพื่อรองรับการขยายตัว และความหนาแน่นจากใจกลางเมืองที่ขยายออกมายังพื้นที่ใกล้เคียงอย่างอ่อนนุช ทำให้เหมือนเป็นจุดบรรจบของความเป็นเมือง เมืองใหม่ที่กำลังพัฒนา กับพื้นที่ของชานเมือง จวบจนวันที่รถไฟฟ้าส่วนต่อขยายไปสิ้นสุดที่แบริ่ง ก็ทำให้ความก้ำกึ่งของย่านอ่อนนุช – พระโขนง หายไปจนกลายเป็นเมืองใหม่ขนาดย่อมๆ ที่มีองค์ประกอบสำหรับการอยู่อาศัย การเข้ามาของคอนโดที่สมบูรณ์แบบ รวมถึงการพัฒนาแบบก้าวกระโดดที่เกิดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งต่างจากเมื่อก่อนตอนที่ยังไม่มีรถไฟฟ้าอย่างสิ้นเชิง พระโขนง-อ่อนนุช ในวันวาน ช่วงก่อนมีรถไฟฟ้าช่วงนั้นย่านพระโขนงก็เริ่มมีความเจริญอยู่พอสมควร เพราะมีการสร้างหมู่บ้านจัดสรร ครั้งแรกๆ ของเมืองไทยในเครือเปรมฤทัย ซึ่งเป็นหมู่บ้านขนาดใหญ่ ทำให้เกิดการพัฒนาในย่านนี้เป็นครั้งแรก ณ ตอนนั้นยังไม่มีถนนบางนา – ตราด หากใครจะไปบางแสน-พัทยา วิ่งเข้าสมุทรปราการ ต้องใช้ถนนสุขุมวิทเส้นเก่าอย่างเดียว ความเจริญจึงกระจุกตัวอยู่ที่เอกมัยเพราะมีท้องฟ้าจำลองมาเปิด และ บขส.สายตะวันออกเพื่อการเดินทาง ส่วนโรงเรียนก็มีโรงเรียนปทุมคงคามาตั้งใหม่ๆ แต่ขณะนั้นก็ยังมีโรงเรียนอีกหลายโรงเรียนในพื้นที่เช่น โรงเรียนวัดธาตุทอง โรงเรียนพระโขนงวิทยา โรงเรียนศรีวิกรณ์ ให้ชุมชนเลือกเรียน แต่ความเจริญก็ยังอยู่เฉพาะแนวถนนใหญ่ ไม่ลึกเข้าไปด้านในๆ มากนัก อีกทั้งซอยอ่อนนุชเมื่อก่อนการจราจรในซอยมีแต่ 2 แถวเล็กเพราะถนนพอสวนกันได้ ตลอดทั้งซอยมีแต่หนองน้ำ บ้านแต่ละหลังมีลักษณะยกสูงหนีน้ำทุกหลัง แถวนั้นเมื่อก่อนติดเขตทุ่งบางกะปิ เมื่อหลุดจากตัวพระโขนงไปจนถึงใกล้ตัวเมืองสมุทรปราการจะมีซอยที่มีคนอยู่อาศัยมากๆ เช่น สุขุมวิท 101 หรือแบริ่งในปัจจุบัน ใครจะเดินทางไปยังพื้นที่นั้นต่างพากันส่ายหัวว่าทำไมเดินทางไปมาลำบากจริงๆ รถเมล์ก็มีแต่สาย 45 กับ สาย 2 บนถนนเส้นหลัก และรถ บขส. เท่านั้น ภาพประกอบจาก Facebook ย้อนอดีต…วันวาน หลังจากที่รถไฟฟ้าเปิดให้บริการครั้งแรกเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2542 ใน 2 เส้นทาง หนึ่งในนั้นคือสายสุขุมวิท ระยะทาง 17 กม. ได้รับชื่อพระราชทานว่า “รถไฟฟ้าเฉลิมพระเกียรติ ๖ รอบพระชนมพรรษา สาย 1” ซึ่งสิ้นสุดที่สถานีอ่อนนุช นับตั้งแต่รถไฟฟ้าเริ่มเปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 2542 นอกจากความสะดวกสบายของการเดินทางจากเมืองรอบนอกเพื่อเข้าสู่ย่านธุรกิจใจกลางเมืองแล้ว ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงกว่า 15…

5 คำถามเช็คลิสต์ก่อนตัดสินใจซื้อคอนโดมือสอง

เป็นที่รู้กันว่าข้อดีของการเลือกซื้อคอนโดมือสองก็คือ “รวดเร็วทันใจ” เราสามารถวางเงิน ทำสัญญาพร้อมโอน ตกแต่งและเข้าอยู่ได้เลย ไม่ต้องนำเงินไปวางไว้เพื่อรอคอนโดสร้างเสร็จถึง 2-3 ปี ซึ่งเวลาเราเลือกดูตามเว็บไซต์หรืองานอีเวนต์ต่างๆ ที่รวบรวมหลายๆ โครงการไว้ด้วยกัน ถูกใจห้องไหนก็สามารถไปดูของจริง สัมผัส วัสดุจริงได้ หลายครั้งที่เรามักจะลืมถามคำถามหรือข้อมูลสำคัญที่จำเป็นต้องใช้ในการตัดสินใจซื้อคอนโด ดังนั้นถ้าเรามีคำถามเช็คลิสต์เป็นของตัวเองเอาไว้ ก็จะช่วยให้เราไม่พลาดข้อมูลเพื่อใช้ในการเปรียบเทียบหาตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับเรา Checklist ที่ 1 ทำเลที่ตั้ง การเดินทางทั้งรถส่วนตัวและรถสาธารณะ สะดวกมากน้อยแค่ไหน เข้าออกได้กี่ทาง Checklist ที่ 2 โครงการเริ่มสร้างและสร้างเสร็จในปีไหน เพื่อทราบอายุของอาคาร Checklist ที่ 3 ปัจจุบันโครงการมีอัตราการอยู่อาศัยกี่เปอร์เซนต์ สัดส่วนคนไทยและคนต่างชาติเป็นอย่างไร สำหรับคนที่ซื้อคอนโดเพื่อลงทุนปล่อยเช่า หากมีอัตราการอยู่อาศัยสูง ก็มีโอกาสปล่อยเช่าได้ง่ายขึ้น หากชาวต่างชาติเยอะ ก็ปล่อยเช่าได้ราคาสูง Checklist ที่ 4 ส่วนกลางและสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งในโครงการและบริเวณรอบๆ โครงการมีอะไรบ้าง Checklist ที่ 5 อัตราค่าส่วนกลางต่อตารางเมตร และอัตราการคิดค่าน้ำ ค่าไฟ เท่าไหร่ และสุดท้ายต้องไม่ลืมสอบถามโปรโมชั่น ส่วนลดราคา หรือสิทธิพิเศษต่างๆ ที่ทางโครงการมอบให้ด้วย เพื่อประโยชน์สูงสุดที่ผู้ซื้อจะได้ หาข้อมูลคอนโดที่คุณต้องการได้ที่นี่: คอนโดสุขุมวิท, คอนโดให้เช่า, คอนโดจตุจักร, ขายคอนโด, คอนโดทองหล่อ, ทรัพย์สินรอการขาย, Bangkok condo for rent, คอนโดพระราม 4, Property Management พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ตัวแทนด้านอสังหาริมทรัพย์ รับฝากขายปล่อยเช่า พร้อมบริการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับที่อยู่อาศัย ด้วยทีมงานระดับคุณภาพ หากสนใจอยากทราบข้อมูลเพิ่มเติมของโครงการคอนโดที่มีเทคโนโลยีสมัยใหม่ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ ทำให้จังหวะชีวิตคุณสุดได้ไม่สะดุด สามารถโทรติดต่อขอคำปรึกษาได้ที่ 02 688 7555 หรือ คลิกที่นี่ เพื่อค้นหายูนิตฝากขายได้เลยครับ

เจาะลึก สุขุมวิท 39 ศูนย์กลางที่อยู่อาศัยของผู้บริหารชั้นนำ

ท่ามกลางความเจริญใจกลางตัวเมืองชั้นในของกรุงเทพฯ ทำเลที่เรียกได้ว่าฮอตฮิตและถือเป็นเป้าหมายแรกในการเลือกที่อยู่อาศัยก็ต้องมีชื่อของ “สุขุมวิท 39” ติดโผอยู่อันดับต้นๆ ด้วยความที่ทำเลนี้เป็นส่วนหนึ่งของศูนย์กลางย่านธุรกิจ (Central Business District) ของประเทศ เพราะเป็นที่ตั้งของอาคารออฟฟิศจากบริษัทข้ามชาติมากมาย ยังไม่รวมถึงห้างสรรพสินค้าระดับบิ๊ก มีร้านค้าและร้านอาหารกระจุกตัวอยู่หนาแน่น ทั้งยังเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยยอดนิยมของชาวต่างชาติที่เข้ามาทำงานในเมืองไทยที่มีชื่อเสียงมาเนิ่นนาน และในครั้งนี้ก็ถือเป็นโอกาสอันดี ที่เราจะได้ออกเดินทางลงไปสำรวจพื้นที่ย่าน “สุขุมวิท 39” กันอย่างละเอียดว่า ทำเลแถบนี้เหมาะกับใคร เข้ากับไลฟ์สไตล์แบบไหน รวมถึงจะคุ้มค่าหรือไม่หากจะเริ่มลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในโซนนี้ จากทุ่งนาสู่ศูนย์กลางย่านที่อยู่อาศัยถูกใจชาว Expat ระดับผู้บริหาร แรกเริ่มเดิมทีพื้นที่แถบพร้อมพงษ์หรือ “สุขุมวิท 39” นี้ ได้ถูกพัฒนาขึ้นมาจากพื้นที่รกร้างของทุ่งบางกะปิ มาจนปัจจุบันก็ได้กลายเป็นแหล่งรวมที่พักอาศัยของนักธุรกิจชั้นนำและคนทำงานที่มีหัวคิดสร้างสรรค์ ส่งผลให้พื้นที่แถบนี้เต็มไปด้วยเสน่ห์ของร้านขายของเก่า ร้านเฟอร์นิเจอร์ หรือคาเฟ่มากมายหลายรูปแบบที่ผสมผสานความเจริญและเสน่ห์ของย่านนี้ได้อย่างลงตัว ที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือ ทำเลย่าน “สุขุมวิท 39” ถือเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยยอดนิยมของชาวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวญี่ปุ่นที่เข้ามาทำงานในประเทศไทย (Expatriate หรือเรียกกันย่อๆ ว่า Expat) ที่มักจะเป็นระดับของผู้บริหารหรือผู้ชำนาญการของบริษัทที่ถูกส่งมาทำงานหรือดูแลธุรกิจในต่างประเทศ ซึ่งแน่นอนว่าบุคลากรเหล่านี้ถือเป็นผู้ที่มีระดับรายได้ค่อนข้างสูงรวมถึงได้รับสวัสดิการที่ดี แถมมักจะมีการเดินทางย้ายเข้ามาอยู่อาศัยในประเทศไทยกันทั้งครอบครัว ออกสำรวจไลฟ์สไตล์ ลงเดินเท้าเข้าไปใน “สุขุมวิท 39” สำหรับการเดินทางที่เรียกได้ว่าสะดวกรวดเร็วที่สุดก็คงไม่พ้นการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า BTS สถานีพร้อมพงษ์ ที่เชื่อมต่อไปยังแลนด์มาร์คต่างๆ บนเส้นสุขุมวิทได้อย่างรวดเร็ว โดยจากทางเชื่อม Skywalk ของ BTS เราจะสามารถเดินเท้าไปยังห้างสรรพสินค้าขนาดยักษ์ชื่อดังที่ตั้งอยู่ทั้งสองฝากถนนอย่าง The Emporium และ The Emquartier ได้อย่างสบายๆ ซึ่งแน่นอนว่าทั้งสองสถานที่นี้ก็ถือเป็นแหล่งรวมของร้านค้าแบรนด์แนม โรงภาพยนตร์สุดหรู รวมถึงร้านอาหารชื่อดังมากมายให้เลือก เมื่อออกจาก BTS พร้อมพงษ์ เดินลงบันไดมาฝั่งเดียวกับ The Emquartier เราก็จะพบกับซอยสุขุมวิท 39 ซึ่งสามารถเข้าได้จากปากซอยที่เป็นถนนหลัก หรือจะเดินเข้าไปในซอยสุขุมวิท 37 เพื่อทะลุเข้าไปก็สามารถทำได้เช่นกัน ในซอยสุขุมวิท 37 นี้จะมีร้านอาหารที่ขอแนะนำอยู่ร้านนึง นั่นก็คือร้านที่ชื่อว่า Unagi NAKAMURA ซึ่งเป็นร้านเล็กๆ มีที่นั่งไม่กี่ที่สไตล์ญี่ปุ่น แต่มีเมนูเด็ดก็คือข้าวหน้าปลาไหลย่างที่มีรสชาติชุ่มฉ่ำจากซอสสูตรลับของทางร้านพร้อมเครื่องเคียงมากมายให้ทานกันได้แบบไม่มีเบื่อ แม้ว่าราคาของชุดอาหารเซ็ตข้าวหน้าปลาไหลจะแพงไปซักหน่อยแต่ก็คุ้มค่าที่จะมาลองทานดู เดินเข้ามาในซอยสุขุมวิท 39 อีกซักนิด เราก็จะพบ กับร้านกาแฟสดเล็กๆ ที่ชื่อว่า PO Coffee ที่เปิดให้มานั่งจิบกาแฟหอมๆ ตั้งแต่เจ็ดโมงเช้า สำหรับใครที่ต้องการหามื้อเช้าเบาๆ ทานก่อนจะเดินไปขึ้น BTS เพื่อไปทำงาน โซนหน้าปากซอยสุขุมวิท 39 นั้นมีร้าน Lawson 108 ให้เลือกซื้อเครื่องดื่มหรืออาหารเบาๆ อย่างโอเด้งแสนอร่อยทานกันได้ระหว่างทาง หรือใครที่อยากได้ทางเลือกเพิ่มเติม แถวหน้าปากซอยก็มีแผงรถเข็นขายอาหารและร้านเบอเกอรี่ให้เลือกอยู่มากพอสมควร จากปากซอยสุขุมวิท 39 เดินมาประมาณ 350 เมตร เราจะพบกับโครงการคอนโดมิเนียมที่มีเชื่อเรียกอันเป็นเอกลักษณ์ว่า THE XXXIX (อ่านว่า The…

ข้อควรรู้การมอบอำนาจโอนบ้าน คอนโดและที่ดิน พร้อมไฟล์หนังสือมอบอำนาจ ปี 2567

คนที่กำลังจะเตรียมซื้อบ้าน ซื้อคอนโด เรามาเตรียมความพร้อมก่อนมอบอำนาจโอนบ้านและที่ดินให้เจ้าของรายใหม่ พร้อมตอบทุกข้อสงสัยเกี่ยวกับขั้นตอนการโอนคอนโด บ้านและที่ดิน ได้ในบทความนี้ ด้วยชีวิตที่เร่งรีบของคนเมือง จึงทำให้ทุกอย่างต้องรวดเร็ว สะดวก กระชับฉับไวอยู่เสมอ แม้กระทั่งเรื่องสำคัญอย่างการโอนกรรมสิทธิ์บ้าน-โอนคอนโดและการมอบอำนาจโอนบ้าน ที่ทุกคนต่างเกิดคำถามและมีความคิดไม่อยากไปจัดการด้วยตนเองที่กรมที่ดินเพราะอาจต้องเสียเวลาเป็นวัน ไหนจะต้องเตรียมเตรียมหนังสือมอบอำนาจโอนบ้านและที่ดิน และเอกสารอีกมากมาย หลายคนจึงให้ทางตัวแทนโครงการจัดการแทน พร้อมมอบอำนาจที่ดินให้ทางโครงการที่ซื้อเป็นผู้ดำเนินการแทน ซึ่งการให้โครงการทำการโอนบ้าน โอนคอนโด เป็นสิ่งที่สามารถทำได้ไม่เสียหายอะไรสามารถทำได้ สำหรับคนอยากมีอสังหาฯ มีข่าวดี! มาตรการลดค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมสำหรับที่อยู่อาศัย ปี 2567ลดค่าจดทะเบียนโอนและค่าจดจำนองอสังหาฯ เหลือ 0.01% ลดค่าจดทะเบียนโอนอสังหาฯ จาก 2% เหลือ 0.01% ลดค่าจดทะเบียนจำนองอสังหาฯ จาก 1% เหลือ 0.01% เงื่อนไข : (เฉพาะที่จดทะเบียนโอนในคราวเดียวกัน) เฉพาะอสังหาริมทรัพย์ดังนี้ อาคารที่อยู่อาศัย ประเภทบ้านเดี่ยว, บ้านแฝด, บ้านแถว อาคารพาณิชย์ หรือที่ดินพร้อมอาคารดังกล่าว หรือห้องชุด (คอนโดมิเนียม) ที่จดทะเบียนอาคารชุด เฉพาะบุคคลธรรมดาสัญชาติไทย มีผลบังคับใช้ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2567 แต่ทั้งนี้เพื่อเป็นการป้องกันสิ่งที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น แม้อาจจะมีเปอร์เซ็นต์ความเป็นไปได้น้อยมาก แต่ก็ควรศึกษารายละเอียดขั้นตอนการโอนคอนโด และการมอบอำนาจโอนบ้านให้ผู้อื่นดำเนินการโอนแทนอย่างละเอียดถี่ถ้วน พลัสฯ ได้รวบรวมมาให้แล้วว่าต้องระวังอะไรบ้าง ข้อควรรู้การมอบอำนาจโอนบ้าน คอนโดและที่ดิน พร้อมไฟล์หนังสือมอบอำนาจ ปี 2567 1. การโอนบ้าน-คอนโด ไม่จำเป็นต้องไปด้วยตนเองจริงหรือ?  ก่อนอื่นต้องตอบข้อสงสัยดังกล่าวที่ว่าการโอนบ้าน-โอนคอนโดไม่ต้องไปด้วยตนเองเป็นเรื่องจริง สืบเนื่องจากในปัจจุบันมีหลายโครงการ เสนอให้ผู้ซื้ออสังหาริมทรัพย์ ไม่ว่าจะเป็นคอนโดหรือบ้าน เมื่อถึงวันโอนกรรมสิทธิ์หรือต้องมอบอำนาจโอนบ้านไม่จำเป็นต้องเสียเวลาเดินทางไปกรมที่ดิน เพื่อดำเนินการทุกอย่างด้วยตนเองให้ยุ่งยาก ทั้งนี้จะมีเจ้าหน้าที่จากทางโครงการและธนาคารเป็นผู้เดินเรื่องการโอนบ้านให้ครบทุกขั้นตอน โดยผู้ซื้อหรือเจ้าของบ้านไม่จำเป็นต้องไปด้วยตนเอง แต่ต้องทำหนังสือมอบอำนาจโอนบ้านและที่ดินให้เป็นกิจจะลักษณะ พร้อมแจกแจงรายละเอียดว่าหนังสือฉบับดังกล่าวทำขึ้นเพื่ออะไร และมอบอำนาจโอนบ้านที่ดินนี้มอบหมายให้ผู้ใดเป็นคนดำเนินการ ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องระมัดระวังมากเป็นพิเศษสำหรับผู้ที่ต้องการมอบอำนาจให้ตัวแทนจากโครงการ หรือผู้อื่นเป็นผู้ดำเนินการโอนบ้าน-คอนโดแทน ทั้งนี้หากเกิดปัญหาหรือสิ่งที่ไม่คาดคิดขึ้น ใบมอบอำนาจนี้สามารถนำมาเป็นหลักฐานได้ ดาวน์โหลดหนังสือมอบอำนาจได้ที่นี่ 2. เอกสารที่ต้องเตรียม เมื่อต้องมอบอำนาจให้ผู้อื่นทำการ โอนบ้าน-คอนโดแทน สำหรับเอกสารที่ต้องเตรียมในวันนัดโอนของโครงการ นอกจากจะมีใบหนังสือมอบอำนาจโอนบ้านและที่ดินเพิ่มเข้ามาแล้ว ยังมีเอกสารอื่นๆ รวมถึงค่าใช้จ่ายดังต่อไปนี้ โฉนดที่ดินฉบับจริง (ทางโครงการเป็นผู้นำไป) สำเนาทะเบียนบ้านของผู้ซื้อ ในกรณีเปลี่ยนชื่อหรือนามสกุล ให้แนบเอกสารหลักฐานการเปลี่ยนมาด้วย หากมีคู่สมรส ให้แนบสำเนาบัตรประชาชนคู่สมรส สำเนาทะเบียนบ้านคู่สมรส สำเนาใบจดทะเบียนสมรส และหนังสือยินยอมจากคู่สมรส ถ้าเป็นการมอบอำนาจ ให้แนบสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนผู้รับมอบอำนาจ และสำเนาทะเบียนบ้านผู้รับมอบอำนาจ 3. ค่าธรรมเนียมในการโอนบ้าน-คอนโด  ค่าธรรมเนียมการมอบอำนาจโอนบ้าน-คอนโด 2% จากราคาประเมิน ค่าอากร คิด0.5% ของราคาซื้อขายแต่ต้องไม่ต่ำกว่าราคาประเมินทุนทรัพย์ ค่าภาษีเงินได้บุคคลธรรมาดา (หัก ณ ที่จ่าย) ตามหลักเกณฑ์ของกรมสรรพากร ค่าคำขอ 20 บาท ค่าพยาน 20 บาท หากบ้านหรือที่ดิน…