เช่าคอนโดสุขุมวิทตอนต้น เลือกที่ไหนดี? แนะนำ 7 คอนโดน่าอยู่ โซนอโศก – นานา

หากพูดถึงทำเลในกรุงเทพฯ ที่ถือเป็นย่านใจกลางเมือง เดินทางสะดวก มีรถไฟฟ้าหลายสาย แวดล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกและย่านธุรกิจแล้ว ชื่อ “สุขุมวิท” โดยเฉพาะช่วงสุขุมวิทตอนต้นอย่างโซนอโศกและนานา ถือว่าเป็นทำเลทองในการเช่าคอนโดสุขุมวิทตอนต้น ไม่ว่าจะเป็นคนทำงาน นักธุรกิจ หรือชาวต่างชาติที่ทำงานในไทย ที่ต้องการความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตในเมืองหลวง บทความนี้ พลัสฯ จะพามาแนะนำ 7 คอนโดน่าอยู่ โซนอโศก – นานา สำหรับคนที่อยากเช่าคอนโดสุขุมวิทตอนต้น พร้อมกับปัจจัยและเรื่องที่ควรรู้ ก่อนตัดสินใจเช่าคอนโดในย่านนี้ เพื่อให้คุณได้เช่าคอนโดสุขุมวิทที่น่าอยู่ และตรงใจที่สุด ทำไมถึงต้องเช่าคอนโดสุขุมวิทตอนต้น ทำเลนี้น่าอยู่อย่างไร ทำเลศักยภาพ ใจกลางย่านธุรกิจ สุขุมวิทตอนต้น ช่วงสุขุมวิทซอย 1-20 หรือที่เรียกว่าโซนอโศก-นานานั้น ถือว่าเป็นหนึ่งในทำเลทองของกรุงเทพฯ ที่แวดล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่อัดแน่นและครบครันแทบทุกด้าน ตั้งแต่โซนสำนักงานต่างๆ ในย่านอโศก ร้านอาหารหลากหลายประเภท ห้างสรรพสินค้าชั้นนำอย่าง Terminal 21, Central Embassy, EmQuartier, EmSphere และ Emporium ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โรงเรียนและมหาวิทยาลัยชั้นนำอย่างมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ โรงเรียนสาธิต มศว. ประสานมิตร โรงเรียนเซนต์ดอมินิก NIST International School และสถานบันเทิงอื่นๆ ที่ขึ้นชื่อในย่านนี้ ถือว่าเป็นโซนที่คึกคักตลอดทั้งวัน และครบครันที่สุดในกรุงเทพฯ เลยก็ว่าได้ ระบบขนส่งครบครัน และนอกจากสิ่งอำนวยความสะดวกแล้ว การเดินทางไปมาในทำเลอโศก-นานา ถือว่ามีความสะดวกสบายเป็นอันดับต้นๆ ของกรุงเทพฯ โดยเฉพาะกับรถไฟฟ้าสายหลักอย่างสถานีอโศก/สุขุมวิท ที่เป็นจุดเชื่อมต่อระหว่าง BTS สายสีเขียว และ MRT สายสีน้ำเงิน ทำให้การเดินทางไปย่านเศรษฐกิจอื่นๆ อย่างเช่น จตุจัตร สยาม พร้อมพงศ์ รัชดา สีลม และสามย่าน เป็นเรื่องง่าย ตอบโจทย์ทั้งคนที่ต้องการเช่าคอนโดบนถนนสุขุมวิท ใกล้ BTS และ MRT นอกจากรถไฟฟ้าแล้ว อโศก-นานายังติดกับถนนเส้นหลักในการเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นถนนสุขุมวิท รัชดาภิเษก เพชรบุรี และถนนพระราม 4 พร้อมทางด่วนใจกลางเมืองทั้งสองเส้นอย่าง ทางพิเศษศรีรัช และทางพิเศษเฉลิมมหานคร ทำให้สามารถขับรถยนต์ส่วนตัวไปไหนมาไหนได้สะดวกสบายมากขึ้นด้วย เหมาะกับไลฟ์สไตล์ระดับ High End ทุกรูปแบบ แน่นอนว่า ด้วยความเป็นตัวเมืองชั้นใน ทำให้พื้นที่ในแถบนี้มีค่าครองชีพที่ค่อนข้างสูง ทำให้ผู้ที่จะเช่าคอนโดสุขุมวิทตอนต้นนั้นจะต้องมีรายได้ในระดับหนึ่ง แต่ในขณะที่ทำเลระดับ High End ส่วนใหญ่มักจะเจาะกลุ่มนักธุรกิจ คนทำงานระดับสูง  แต่ย่านอโศก – นานากลับเหมาะกับกลุ่มคนที่มีความหลากหลายมากกว่า ทั้งนักธุรกิจ นักท่องเที่ยวที่ต้องการการเดินทางที่สะดวกสบาย ชาวต่างชาติที่เข้ามาทำงานในไทย ที่ต้องการเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกและวิถีชีวิตคนเมือง รวมถึงครอบครัวขนาดเล็ก…

บ้านบางนา ดีอย่างไร? มาทำความรู้จักโซนบางนากันให้มากขึ้น

บางนาเป็นหนึ่งในทำเลที่มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ด้วยการขยายตัวของเส้นทางคมนาคม แหล่งธุรกิจ ห้างสรรพสินค้า สถานศึกษา และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ส่งผลให้โครงการบ้านในย่านบางนาได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮม บ้านหรูจากผู้พัฒนาโครงการชั้นนำ และคอนโดมิเนียม ทำให้บ้านบางนากลายเป็นหนึ่งในทำเลฮิตสำหรับผู้ที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัยที่สมบูรณ์แบบ บทความนี้พลัสฯ จะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับบ้านบางนาให้มากขึ้น ว่าทำไมบางนาถึงเป็นทำเลที่น่าสนใจในการเลือกซื้อบ้านและที่อยู่อาศัย รวมถึงวิธีการเลือกบ้านแถวบางนา ให้ตอบโจทย์ความต้องการของเราที่สุด ทำไมบางนาถึงเป็นทำเลที่น่าสนใจ? แหล่งการศึกษาและสถานที่สำคัญ สำหรับใครที่กำลังเริ่มสร้างครอบครัว และกำลังดูบ้านบางนาไว้เป็นตัวเลือกละก็ ต้องบอกว่ามาถูกทางแล้ว เพราะนอกจากบางนาจะเดินทางง่ายแล้ว ในย่านบางนายังเต็มไปด้วยสถานศึกษาที่ครบครับในทุกระดับชั้น ทั้งโรงเรียนรัฐบาลและเอกชนที่มีชื่อเสียง ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียนราชวินิชบางแก้ว, โรงเรียนนานาชาติราฟเฟิลส์อเมริกัน, มหาวิทยาลัยรามคำแหง วิทยาเขตบางนา หรือที่เรียกกันว่า ราม 2, มหาวิทยาลัยหัวเฉียว วิทยาเขตบางพลี และมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ครอบครัวไหนที่มีเด็กหรือลูกหลาน ก็สามารถเรียนหนังสือได้โดยไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไกล ส่วนผู้ใหญ่ นอกจากจะเดินทางสะดวกแล้ว บางนาก็ยังถือว่าเป็นโซนเศรษฐกิจใหญ่ของกรุงเทพฯ เพราะอยู่ใกล้กับนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่ใกล้เคียง และมีตึกสำนักงาน โซนออฟฟิศกระจายอยู่ทั่วทั้งเขต และรวมถึงสถานพยาบาลต่างๆ ทั้งโรงพยาบาลไทยนครินทร์, โรงพยาบาลบางนา โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ และโรงพยาบาลอื่นๆ ให้เลือกใช้บริการ ศูนย์การค้าและสิ่งอำนวยความสะดวก การอยู่บ้านบางนา นอกจากจะมีสถานที่สำคัญและเดินทางสะดวกแล้ว ที่นี่ยังมีศูนย์การค้าและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างมากมาย ทั้งห้างสรรพสินค้าชื่อดังอย่างเซ็นทรัลบางนา และเมกา บางนา, ห้างซูเปอร์มาร์เก็ตอย่างบิ๊กซี บางนา, โลตัส บางนา-ตราด รวมถึง Community Mall อย่าง Bizzo Bangna และลิตเติลวอร์ค บางนา และนอกจากห้างร้านต่างๆ แล้ว บางนาก็ยังเป็นที่ตั้งของไบเทค บางนา ศูนย์ประชุมแห่งชาติขนาดใหญ่ที่เป็นที่จัดอีเวนต์และงานคอนเสิร์ตชื่อดัง รวมถึงโครงการมิกซ์ยูส (Mix Use) ชื่อดังอย่าง True Digital Park ด้วย การพัฒนาในอนาคต บางนาไม่ได้หยุดพัฒนาถึงแค่ตรงนี้ เพราะในอนาคตข้างหน้า ยังมีโครงการต่างๆ ที่รอเปิดตัวในย่านนี้อีกเพียบ เช่น Bangkok Mall ซึ่งได้ชื่อว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้าที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน, Cloud 11 โครงการมิกซ์ยูสใหม่ริมถนนสุขุมวิทที่มีเป้าหมายว่าจะตั้งเป็นฮับ (Hub) ของคอนเทนต์ครีเอเตอร์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย, The Forestias โครงการมิกซ์ยูสขนาดใหญ่ใจกลางย่านบางนาที่ผสมผสานธรรมชาติเข้ากับที่อยู่อาศัย และนิคม TRA Land นิคมอุตสาหกรรมแบบมิกซ์ยูสรูปแบบใหม่ ที่จะเป็นประตูเชื่อมต่อสู่ย่าน EEC ในฝั่งตะวันออก นอกจากนี้ ยังมีโครงการพัฒนาระบบคมนาคมที่สำคัญ ได้แก่ การสร้างถนนวงแหวนรอบที่ 3 เชื่อมต่อการเดินทางจากบางนาไปยังจังหวัดอื่นๆ และรถไฟฟ้าสายสีเงินที่จะต่อจากสุวรรณภูมิไปยังสุขุมวิทผ่านบางนา ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสะดวกในการเดินทางให้กับผู้อยู่อาศัยในพื้นที่นี้อย่างมาก ข้อดีของการเลือกซื้อบ้านบางนา อย่างที่เห็นไปก่อนหน้านี้ ว่าบางนาถือว่าเป็นย่านที่มีศักยภาพที่สูงมาก ทำให้บ้านบางนานั้น ถือเป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยมมาโดยตลอด ซึ่งนอกจากเรื่องของทำเลแล้ว…

บ้านกรุงเทพกรีฑา ดีอย่างไร? มาทำความรู้จักโซนกรุงเทพกรีฑากันให้มากขึ้น

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โซนกรุงเทพกรีฑาเป็นหนึ่งในทำเลที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้วยทำเลชานเมืองที่ไม่พลุกพล่าน แต่ใช้ชีวิตได้อย่างไม่ลำบาก ทำให้บ้านกรุงเทพกรีฑา กลายเป็นตัวเลือกยอดนิยมที่ตอบโจทย์คนเมืองที่ต้องการหลีกหนีความวุ่นวาย ผู้ที่กำลังมองหาบ้านพักในกรุงเทพฯ ที่มีทั้งความสงบและความสะดวกสบายอย่างครบครัน และในบทความนี้ พลัสฯ จะพาทุกคนมาทำความรู้จักทำเลกรุงเทพกรีฑาให้มากขึ้น พร้อมทั้งข้อดีและข้อควรพิจารณาก่อนตัดสินใจเลือกบ้านกรุงเทพกรีฑา ทำไมกรุงเทพกรีฑาถึงเป็นทำเลที่น่าสนใจ? ทำเลยุทธศาสตร์เชื่อมต่อหลายพื้นที่ บ้านกรุงเทพกรีฑา ถือว่าตั้งอยู่ในจุดยุทธศาสตร์ที่เชื่อมต่อกับหลายพื้นที่สำคัญๆ ของกรุงเทพฯ ทั้งย่านรามคำแหง พระราม 9 ศรีนครินทร์ ร่มเกล้า บางกะปิและมีนบุรี รวมถึงทางด่วนพิเศษที่สำคัญ ทั้งทางด่วนศรีรัช และถนนมอเตอร์เวย์ ทำให้การเดินทางในสู่โซนเศรษฐกิจชั้นใน หรือโซนชานเมืองฝั่งตะวันออกและต่างจังหวัดได้อย่างง่ายดาย ส่วนในด้านระบบขนส่งมวลชนนั้น บ้านกรุงเทพกรีฑาก็ยังมีรถไฟฟ้าให้บริการถึง 2 สายสำคัญ ไม่ว่าจะเป็น MRT สายสีเหลือง เชื่อมต่อกรุงเทพกรีฑาเข้ากับลาดพร้าวและสำโรง ร่วมกับ Airport Rail Link ที่ทำให้ผู้อยู่อาศัยในบ้านแถวกรุงเทพกรีฑา สามารถเดินทางไปกลับจากพญาไท ไปจนถึงสนามบินสุวรรณภูมิได้อีกด้วย รวมถึงในอนาคต ก็จะมีสถานีรถไฟฟ้าสายสีส้ม (บางขุนนนท์ – ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย – แยกร่มเกล้า) ซึ่งจะช่วยให้การเดินทางเข้าสู่ใจกลางเมืองนั้นสะดวกยิ่งขึ้น เป็นย่านของโรงเรียนนานาชาติ บ้านกรุงเทพกรีฑา ถือว่าเป็นทำเลที่เหมาะสำหรับการสร้างครอบครัวเช่นกัน เพราะในทำเลนี้เป็นที่ตั้งของโรงเรียนนานาชาติชั้นนำหลายแห่ง เช่น โรงเรียนนานาชาติไบรท์ตันคอลเลจ กรุงเทพฯ, โรงเรียนนานาชาติเวลลิงตันคอลเลจ กรุงเทพฯ หรือแม้แต่โรงเรียนชั้นนำอื่นๆ อย่างโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า, โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ และโรงเรียนสารสาสน์วิเทศร่มเกล้า รวมถึงอยู่ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยรามคำแหง ทำให้กรุงเทพกรีฑาเป็นทำเลตอบโจทย์ครอบครัวที่มีบุตรหลานในวัยเรียนไม่น้อยเลย สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน บางคนอาจจะรู้สึกว่า กรุงเทพกรีฑาเป็นย่านที่ค่อนข้างห่างไกล แต่ทำเลที่นี่ถือว่ามีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน โดยเฉพาะกับคอมมูนิตี้มอลล์ อย่างเช่น มาร์เก็ตเพลส กรุงเทพกรีฑา, เดอะ พาร์ค กรุงเทพกรีฑา และลิตเติ้ล วอร์ค กรุงเทพกรีฑา เป็นต้น และห้างสรรพสินค้าชั้นนำอย่าง เดอะมอลล์บางกะปิ ทำให้ผู้ที่อาศัยในย่านกรุงเทพกรีฑาสามารถจับจ่ายใช้สอย ผ่อนคลายในยามว่างได้สบายๆ และนอกจากห้างร้านต่างๆ บ้านกรุงเทพกรีฑา ก็ยังมีโรงพยาบาลชั้นนำอย่าง โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์, โรงพยาบาลรามคำแหง, โรงพยาบาลศิริน และโรงพยาบาลเวชธานี ทำให้การใช้ชีวิตในทำเลกรุงเทพกรีฑานั้นสะดวกสบาย กว่าที่หลากๆ คนคิด บรรยากาศที่อยู่อาศัยเงียบสงบ ด้วยความที่เป็นย่านที่อยู่อาศัยใหม่ ทำให้กรุงเทพกรีฑาเป็ยทำเลที่ไม่คับแคบ อึดอัด เป็นที่นิยมสำหรับบ้านหรูกรุงเทพกรีฑาที่เน้นความเป็นส่วนตัว และปลอดภัยมากขึ้น แต่ในขณะเดียวกัน ก็ยังสามารถเดินทางไปมายังสถานที่ต่างๆ ได้ง่าย พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน ข้อดีของการเลือกซื้อบ้านกรุงเทพกรีฑา สังคมและสภาพแวดล้อมที่เป็นส่วนตัวและมีคุณภาพ บ้านเดี่ยวกรุงเทพกรีฑาส่วนใหญ่ มักจะเป็นโครงการบ้านระดับกลางถึงระดับหรู ทำให้สังคมโดยรอบเป็นสังคมที่มีคุณภาพ มีความปลอดภัยสูง และมีสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งภายในและภายนอกโครงการที่ครบครัน ในขณะเดียวกัน บ้านกรุงเทพกรีฑาก็ยังไม่แออัด มีความเป็นส่วนตัวสูง เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุด การคมนาคมและการเข้าถึงที่สะดวกสบาย ด้วยเส้นทางคมนาคมที่เชื่อมต่อกับหลายพื้นที่สำคัญ ทั้งการเข้าสู่ใจกลางกรุงเทพฯ…

ระบบปรับอากาศภายในอาคารคืออะไร ต่างจากแอร์ปกติหรือไม่

หากพูดถึงระบบปรับอากาศ หลายๆ คนน่าจะนึกถึงแอร์ติดผนัง เพราะนอกจากจะมอบความเย็บสบายให้แล้ว ระบบปรับอากาศที่ดี ยังช่วยควบคุมอุณหภูมิ ความชื้น ความสะอาด และการถ่ายเทอากาศ ระบายกลิ่นออกจากห้องหรืออาคาร ซึ่งนอกจากแอร์ที่ทุกคนรู้จักนั้น ยังมีสิ่งที่เรียกว่า “ระบบปรับอากาศภายในอาคาร” อยู่ด้วย ในบทความนี้ เราจะมาทำความเข้าใจกันว่า ระบบปรับอากาศภายในอาคารคืออะไร น่าสนใจอย่างไร ทำงานเหมือนแอร์ปกติที่เรารู้จักหรือไม่ และมีระบบปรับอากาศภายในอาคารแบบไหนบ้าง ระบบปรับอากาศภายในอาคารคืออะไร  ระบบปรับอากาศภายในอาคาร หรือที่เรียกกันว่าระบบปรับอากาศ HVAC ที่ย่อจากคำว่า Heating (การทำความร้อน) Ventilation (ระบบระบายอากาศ) และ Air Conditioning (ระบบปรับอากาศ) เป็นระบบปรับอากาศที่มีขนาดใหญ่กว่าแอร์ทั่วไปมาก และมีศักยภาพในการถ่ายเทอากาศที่สูง และทำให้ห้องนั้นๆ มีคุณภาพอากาศตามที่ต้องการ โดยหน้าที่ของระบบปรับอากาศภายในอาคาร คือการทำความเย็นและความร้อนภายในอาคารให้อยู่ในจุดที่ต้องการ รวมถึงการกระจายอากาศให้ถ่ายเทและหมุนเวียนเพื่อรักษาคุณภาพของอากาศ ทั้งจากฝุ่น กลิ่น หรือมลภาวะต่างๆ ภายใน โดยระบบปรับอากาศภายในอาคาร จะเหมาะสำหรับการทำความเย็นหรือควบคุมอุณหภูมิในพื้นที่ขนาดใหญ่ เช่น ห้างสรรพสินค้า, อาคารสำนักงาน ห้องจัดแสดงงาน รวมถึงอาคารที่พักหรือบ้านขนาดใหญ่ ที่ต้องการทำระบบปรับอากาศภายในอาคารแทนที่การติดตั้งแอร์ในแต่ละจุด และอาคารอุตสาหกรรมที่ต้องมีการควบคุมคุณภาพอาการด้วย ข้อดีของระบบปรับอากาศภายในอาคาร ควบคุมอากาศได้อย่างแม่นยำ: นอกจากจะช่วยทำความเย็นแล้ว ระบบปรับอากาศภายในอาคารยังสามารถช่วยควบคุมสภาพอากาศภายในอาคารได้อย่างดีเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นการควบคุมอุณหภูมิให้คงที่ การควบคุมความชื้น รวมถึงการกรองอากาศภายในอาคารให้สะอาดและทำให้อากาศหมุนเวียนและถ่ายเทอีกด้วย เหมาะสำหรับพื้นที่ขนาดใหญ่: ระบบปรับอากาศภายใน เหมาะสำหรับการใช้งานในพื้นที่ขนาดใหญ่ อย่างเช่น ระบบปรับอากาศในอาคารสูง ระบบปรับอากาศในงานอุตสาหกรรม ในหอประชุม หรือแม้แต่ในบ้านหลังใหญ่ตั้งแต่ 2 ชั้นขึ้นไป ระบบปรับอากาศภายในอาคาร ทำงานอย่างไร การทำงานของระบบปรับอากาศภายในอาคาร สามารถแบ่งได้เป็นสามส่วนหลัก ตามชื่อของ HVAC ได้แก่ ระบบทำความร้อน (Heating): เป็นระบบที่ช่วยปรับอุณหภูมิให้สูงขึ้นตามที่เหมาะสม โดยส่วนมากระบบนี้จะทำงานในช่วงฤดูหนาวหรือในพื้นที่ที่มีอากาศเย็นเป็นหลัก ระบบระบายอากาศ (Ventilation): เป็นระบบที่ทำหน้าที่หมุนเวียนอากาศภายในอาคาร โดยนำอากาศบริสุทธิ์จากภายนอกเข้ามา แล้วนำอากาศเสียภายในออกไป เพื่อควบคุมและรักษาคุณภาพอากาศให้คงที่อยู่เสมอ ระบบปรับอากาศ (Air Conditioning): เป็นระบบที่ควบคุมอุณหภูมิและความชื้นของอากาศภายในอาคารตามที่กำหนดไว้ รวมถึงการทำความเย็นด้วย โดยทั้งสามระบบนั้น จะทำงานร่วมกัน เพื่อให้ได้อากาศภายในอาคารมีคุณภาพตามที่ต้องการ โดยมีระบบท่อลม (Duct System) และเครื่องเป่าลม (Blower) ทำหน้าที่ลำเลียงอากาศไปยังจุดต่างๆ ตามที่ต้องการ ทำให้อากาศภายในอาคารมีความเย็นสบายตลอดทุกจุด โดยที่ติดตั้งระบบปรับอากาศภายในแค่จุดเดียวก็เพียงพอ ระบบปรับอากาศภายในอาคารต่างจากแอร์ปกติหรือไม่ ระบบปรับอากาศภายในอาคารมีความแตกต่างจากเครื่องปรับอากาศ (Air Conditioner) ทั่วไปที่ใช้ตามบ้านเรือนอยู่ไม่น้อย ซึ่งความแตกต่างหลักๆ นั้นก็จะมีอยู่ด้วยกันดังนี้ คุณลักษณะ ระบบปรับอากาศภายในอาคาร แอร์บ้านทั่วไป ขนาดและกำลังการทำความเย็น ขนาดใหญ่ มีกำลังการทำความเย็นสูง เหมาะกับพื้นที่ขนาดใหญ่ ขนาดเล็ก เหมาะสำหรับห้องห้องเดียวหรือพื้นที่ขนาดเล็ก…

ทำไมถึงต้องเลือกใช้บริการตรวจสอบอาคาร พร้อมเรื่องที่ควรรู้

การตรวจสอบอาคารเป็นหนึ่งในขั้นตอนสำคัญที่เจ้าของอาคารหรือผู้ครอบครองอาคารต้องดำเนินการตามกฎหมายควบคุมอาคารในประเทศไทย เพื่อให้มั่นใจว่าอาคารมีความปลอดภัยต่อผู้ใช้งานและสาธารณะ และการตรวจสอบอาคารนั้น ควรทำโดยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางเท่านั้น แต่การเลือกใช้บริการตรวจสอบอาคารจำเป็นต้องรู้อะไรบ้าง ในบทความนี้ พลัสฯ จะพาไปแนะนำเรื่องที่ควรรู้เกี่ยวกับการตรวจสอบอาคาร ทั้งประโยชน์ ขั้นตอนดำเนินการ และเหตุผลว่าทำไมถึงควรเลือกใช้บริการตรวจสอบอาคารโดยผู้เชี่ยวชาญที่น่าเชื่อถือ การตรวจสอบอาคาร คืออะไร? การตรวจสอบอาคาร คือ กระบวนการตรวจสอบสภาพอาคาร ทั้งในด้านความมั่นคงแข็งแรงของโครงสร้าง ความปลอดภัย และการใช้งานของระบบอุปกรณ์ประกอบต่างๆ ของอาคาร โดยมีวิศวกรหรือผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับใบอนุญาตตามกฎหมาย ทำหน้าที่ตรวจสอบอาคาร ซึ่งการตรวจสอบอาคารนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้แน่ใจว่าอาคารมีความปลอดภัยต่อสุขภาพ ชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สินของผู้อยู่อาศัยและผู้ใช้อาคาร ตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 ได้กำหนดประเภทของอาคารที่ต้องได้รับการตรวจสอบไว้ 9 ประเภท ได้แก่ อาคารที่มีความสูงตั้งแต่ 23 เมตรขึ้นไป อาคารขนาดใหญ่พิเศษที่มีพื้นที่รวมกันตั้งแต่ 10,000 ตารางเมตรขึ้นไป อาคารชุมนุมคนที่มีพื้นที่ตั้งแต่ 1,000 ตารางเมตรขึ้นไป หรือจุคนได้ตั้งแต่ 500 คนขึ้นไป โรงมหรสพ โรงแรมที่มีห้องพักตั้งแต่ 80 ห้องขึ้นไป สถานบริการที่มีพื้นที่ตั้งแต่ 200 ตารางเมตรขึ้นไป อาคารชุดหรืออาคารอยู่อาศัยรวมที่มีพื้นที่ตั้งแต่ 2,000 ตารางเมตรขึ้นไป โรงงานที่มีความสูงมากกว่า 1 ชั้น และมีพื้นที่ตั้งแต่ 5,000 ตารางเมตรขึ้นไป ป้ายหรือสิ่งที่สร้างขึ้นสำหรับติดหรือตั้งป้ายที่มีความสูงจากระดับพื้นดินตั้งแต่ 15 เมตรขึ้นไป หรือมีพื้นที่ตั้งแต่ 50 ตารางเมตรขึ้นไป หรือป้ายที่ติดตั้งบนหลังคาหรือดาดฟ้า ที่มีพื้นที่ตั้งแต่ 25 ตารางเมตรขึ้นไป การตรวจสอบอาคารแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก คือ การตรวจสอบอาคารประจำปี ซึ่งต้องดำเนินการเป็นประจำทุกปีตามที่กฎหมายกำหนด และการตรวจสอบอาคารขนาดใหญ่ อาจต้องดำเนินการทุกๆ 5 ปี โดยผู้ตรวจสอบอาคารจะต้องมีการจัดทำแผนปฏิบัติการสำหรับการตรวจบำรุงอาคารและอุปกรณ์ต่าง ๆ รวมถึงคู่มือปฏิบัติตามแผนดังกล่าว เพื่อเป็นแนวทางและเก็บบันทึกข้อมูลจากการตรวจสอบอาคารทุกครั้ง ตลอดจนแผนการตรวจสอบอาคารและอุปกรณ์ประกอบของอาคารประจำปี ไว้เป็นประโยชน์ในการตรวจสอบอาคารประจำปีต่อไป โดยผู้มีอำนาจในการตรวจสอบอาคาร จะต้องเป็นผู้ตรวจสอบอาคารที่ได้รับการขึ้นทะเบียนและได้รับใบอนุญาตจากกรมโยธาธิการและผังเมืองเท่านั้น โดยต้องเป็นวิศวกรหรือสถาปนิกที่ผ่านการอบรมและทดสอบความรู้ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด จึงจะสามารถทำหน้าที่นี้ได้ ทำไมต้องตรวจสอบอาคาร? การตรวจสอบอาคารมีความสำคัญอย่างยิ่งด้วยเหตุผลหลายประการ เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้อาคาร เนื่องจากอาคารที่ก่อสร้างและใช้งานมาเป็นเวลานานอาจเกิดการเสื่อมสภาพของโครงสร้างและระบบต่างๆ ซึ่งหากไม่ได้รับการตรวจสอบและบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอ อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินได้ การตรวจสอบอาคารเป็นการปฏิบัติตามกฎหมายเพื่อไม่ให้โดนบทลงโทษ โดยหากเจ้าของอาคารหรือผู้ครอบครองที่ไม่ดำเนินการตรวจสอบอาคารตามที่กฎหมายกำหนดได้ อาจต้องเผชิญกับโทษปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือทั้งจำทั้งปรับ และปรับเป็นรายวันอีกวันละไม่เกิน 10,000 บาท จนกว่าจะปฏิบัติให้ถูกต้อง การตรวจสอบอาคารสามารถช่วยยืดอายุการใช้งานของอาคารได้ เมื่อมีการตรวจพบปัญหาแต่เนิ่นๆ และแก้ไขอย่างทันท่วงที จะช่วยป้องกันความเสียหายที่อาจลุกลามและส่งผลให้อาคารทรุดโทรมก่อนเวลาอันควร การตรวจสอบอาคารช่วยลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติและอุบัติเหตุ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน เช่น เพลิงไหม้ หรือแผ่นดินไหว หากระบบป้องกันและระงับอัคคีภัย รวมถึงโครงสร้างอาคารอยู่ในสภาพดี…

บ้านจัดสรร คืออะไร? ข้อดี-ข้อเสียที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจซื้อ

การมีบ้านเป็นของตัวเองถือเป็นความฝันของใครหลายคน โดยเฉพาะในปัจจุบันที่มีตัวเลือกที่อยู่อาศัยหลากหลายรูปแบบ บ้านจัดสรรเป็นหนึ่งในตัวเลือกยอดนิยม ด้วยความพร้อมในการเข้าอยู่และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน แต่ก่อนตัดสินใจซื้อบ้านจัดสรร มาทำความรู้จักข้อดีและข้อเสียของบ้านจัดสรรให้ครบถ้วนก่อน อ่านบทความนี้จากพลัสฯ เพื่อประกอบการตัดสินใจได้เลย บ้านจัดสรรคืออะไร บ้านจัดสรรหรือหมู่บ้านจัดสรร คือ โครงการที่พัฒนาที่ดินแปลงใหญ่ แบ่งเป็นแปลงย่อยพร้อมสร้างบ้าน มีการวางผังโครงการอย่างเป็นระบบ ทั้งถนน ระบบสาธารณูปโภค และสิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลาง โดยมีรูปแบบบ้านให้เลือกหลากหลาย เช่น บ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์โฮม ข้อดีของบ้านจัดสรร 1. พร้อมเข้าอยู่ บ้านจัดสรรส่วนใหญ่สร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่ ไม่ต้องรอการก่อสร้างนาน และมักมีการตกแต่งภายในพื้นฐานมาให้ ช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการตกแต่งเพิ่มเติม 2. ความปลอดภัยสูง โครงการบ้านจัดสรรมักมีระบบรักษาความปลอดภัยที่ได้มาตรฐาน ทั้งระบบ CCTV พนักงานรักษาความปลอดภัย และระบบควบคุมการเข้า-ออกโครงการตลอด 24 ชั่วโมง 3. สภาพแวดล้อมน่าอยู่ มีการจัดการสภาพแวดล้อมและภูมิทัศน์อย่างเป็นระเบียบ มีพื้นที่สีเขียว สวนสาธารณะ และพื้นที่ส่วนกลางที่ได้รับการดูแลอย่างสม่ำเสมอ 4. สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน บ้านจัดสรรมีสิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลางให้ผู้อยู่อาศัย เช่น สระว่ายน้ำ ฟิตเนส สโมสร สนามเด็กเล่น และพื้นที่สันทนาการต่างๆ 5. ขอสินเชื่อง่าย สถาบันการเงินมักให้ความเชื่อมั่นกับโครงการบ้านจัดสรรที่พัฒนาโดยบริษัทที่มีชื่อเสียง ทำให้การขอสินเชื่อมีโอกาสอนุมัติสูง ข้อเสียของบ้านจัดสรร 1. ข้อจำกัดด้านการดัดแปลง ต้องทำตามกฎระเบียบโครงการอย่างเคร่งครัด และมีข้อจำกัดในการต่อเติมเนื่องจากต้องเว้นระยะห่างจากบ้านข้างเคียง 2. มีค่าส่วนกลาง ต้องจ่ายค่าส่วนกลางรายเดือนหรือรายปีสำหรับการดูแลพื้นที่ส่วนกลางและระบบรักษาความปลอดภัย 3. ความเป็นส่วนตัว บ้านอยู่ใกล้ชิดกัน อาจมีผลต่อความเป็นส่วนตัว เช่น อาจมีเสียงรบกวนจากเพื่อนบ้าน และต้องใช้พื้นที่ส่วนกลาง เช่น สวนและสระว่ายน้ำร่วมกับเพื่อนบ้าน ปัจจัยที่ควรพิจารณาก่อนซื้อบ้านจัดสรร 1. ทำเลที่ตั้งและการคมนาคม ทำเลต้องสะดวกต่อการเดินทาง เข้าถึงได้ง่ายทั้งทางรถยนต์และขนส่งสาธารณะ ใกล้สถานที่สำคัญ อย่างโรงเรียน โรงพยาบาล และห้างสรรพสินค้า รวมถึงควรศึกษาแผนพัฒนาพื้นที่ในอนาคตที่อาจส่งผลต่อมูลค่าบ้านด้วยเช่นกัน 2. ชื่อเสียงผู้พัฒนาโครงการ เลือกผู้พัฒนาโครงการที่มีประวัติน่าเชื่อถือ มีมาตรฐานการก่อสร้างที่ดี ใช้วัสดุคุณภาพ และมีบริการหลังการขายที่ดี สิ่งเหล่านี้จะส่งผลต่อคุณภาพชีวิตในระยะยาว 3. งบประมาณและความคุ้มค่า พิจารณาทั้งราคาบ้าน ค่าส่วนกลาง และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ให้สอดคล้องกับงบประมาณ รวมถึงประเมินโอกาสการเพิ่มมูลค่าในอนาคตจากการพัฒนาพื้นที่โดยรอบ 4. สิ่งอำนวยความสะดวก ตรวจสอบคุณภาพของสิ่งอำนวยความสะดวกและระบบสาธารณูปโภค รวมถึงแผนการบำรุงรักษาส่วนกลางที่จะช่วยรักษาสภาพแวดล้อมที่ดีของโครงการ แนะนำ 3 โครงการบ้านจัดสรร 1. นาราสิริ บางนา โครงการบ้านบางนาระดับลักซ์ชัวรีจากแสนสิริ จำนวน 101 ยูนิต ภายในบ้านประกอบด้วย 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ มาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกระดับพรีเมียม ทั้งคลับเฮาส์ สระว่ายน้ำระบบน้ำเกลือ…

ส่องบ้านหรู 100 ล้าน พร้อมแนะนำ 5 โครงการบ้านระดับไฮเอนด์

ตลาดบ้านหรูในปัจจุบันมีหลากหลายระดับราคาให้เลือก แต่ที่ถือว่าเป็นระดับท็อปของวงการ คือ บ้านหรู 100 ล้าน ที่นอกจากจะเป็นที่พักอาศัยในฝันของใครหลายคนแล้ว ยังเป็นสัญลักษณ์แห่งความสำเร็จและความมั่งคั่ง โดยบ้านราคา 100 ล้าน มักมาพร้อมกับความพิเศษในทุกรายละเอียด ตั้งแต่การออกแบบไปจนถึงทำเลที่ตั้ง ในบทความนี้พลัสฯ จะชวนทุกท่านไปส่ององค์ประกอบของการเป็นบ้านหรู และแนะนำ 3 ทำเลที่ตั้งของบ้านหรู พร้อมกับ 5 โครงการบ้านหรูที่น่าจับตามอง องค์ประกอบของบ้านหรู 100 ล้าน 1. การออกแบบและการตกแต่งที่พรีเมียม คฤหาสน์หรู 100 ล้าน มักได้รับการออกแบบจากสถาปนิกและมัณฑนากรชั้นนำ เน้นการใช้วัสดุคุณภาพสูง เช่น หินอ่อนนำเข้า ไม้เนื้อแข็งชั้นดี และระบบอัจฉริยะที่ควบคุมการทำงานภายในบ้าน การตกแต่งภายในจะเน้นความหรูหรา ทันสมัย และสะท้อนรสนิยมระดับสูงของเจ้าของบ้าน โดยอาจได้แรงบันดาลใจจากสถาปัตยกรรมของเมืองนอก เช่น ฝรั่งเศสและอิตาลี 2. พื้นที่ที่ดินและพื้นที่ใช้สอย โครงการบ้านหรู 100 ล้าน มักมีพื้นที่ที่ดินขนาดใหญ่ตั้งแต่ 500 ตารางเมตรขึ้นไป พร้อมพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านที่กว้างขวาง จัดสรรเป็นห้องต่างๆ อย่างลงตัว มักประกอบไปด้วยห้องจำนวนมากมาย ทั้งห้องนอนมาสเตอร์ขนาดใหญ่ ห้องรับแขก ห้องรับประทานอาหาร ห้องครัว ห้องอเนกประสงค์ และมักมีที่จอดรถมากกว่า 1 คันขึ้นไป 3. ทำเลที่ตั้ง บ้าน 100 ล้านนี้มักตั้งอยู่ในทำเลศักยภาพ ราคาที่ดินค่อนข้างสูง อยู่ในพื้นที่ที่สามารถเดินทางได้สะดวก รวมถึงใกล้แหล่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน ไม่ว่าจะเป็นแหล่งธุรกิจ ห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล และสถานศึกษาชั้นนำ นอกจากนี้ยังต้องเป็นทำเลที่ให้ความเป็นส่วนตัวได้ด้วยเช่นกัน 4. สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน บ้านหรู 100 ล้าน มาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกระดับไฮเอนด์ที่ครบครันซึ่งออกแบบและก่อสร้างด้วยความพรีเมียม เช่น สระว่ายน้ำส่วนตัว สวนขนาดใหญ่ ห้องออกกำลังกาย ระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง และที่จอดรถหลายคัน รวมถึงพื้นที่ส่วนกลางที่สวยงามและตอบโจทย์การดำเนินชีวิต 3 ทำเลบ้านหรู 100 ล้าน ที่น่าสนใจ 1. พัฒนาการ หนึ่งในทำเลที่น่าจับตามองสำหรับบ้านหรู 100 ล้าน ด้วยความพร้อมของแหล่งอำนวยความสะดวก ทั้งแหล่งธุรกิจ ห้างสรรพสินค้า สถานศึกษา โรงพยาบาล และสวนสาธารณะสำหรับการพักผ่อน นอกจากนี้ยังเป็นทำเลที่เชื่อมต่อไปยังพื้นที่อื่นๆ ได้สะดวก มีเส้นทางคมนาคมที่หลากหลาย เช่น ถนนอ่อนนุช ถนนศรีนครินทร์ ถนนเฉลิมพระเกียรติฯ และทางพิเศษศรีรัช อีกทั้งยังมีรถไฟฟ้าหลายรูปแบบให้เลือกเดินทาง เช่น Airport Rail Link และรถไฟฟ้า BTS 2.…

รู้ข้อดี-ข้อเสียคอนโดวิวสวน พร้อมแนะนำ 5 คอนโดน่าสนใจ

ในยุคที่กรุงเทพฯ มีความเป็นเมืองสูงขึ้นเรื่อยๆ พื้นที่สีเขียวกลายเป็นสิ่งที่หายากมากขึ้น หลายคนจึงมองหาคอนโดใกล้สวนสาธารณะ เพราะนอกจากจะได้อยู่ใกล้ธรรมชาติแล้ว ยังช่วยสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับผู้อยู่อาศัย ในบทความนี้ พลัสฯ จะพาทุกท่านมารู้จักกับคอนโดวิวสวน ทางเลือกที่อยู่อาศัยที่ผสมผสานความสะดวกสบายของการอยู่ในเมืองเข้ากับความร่มรื่นของธรรมชาติ พร้อมแนะนำโครงการคอนโดวิวสวนที่น่าสนใจ เพื่อให้คุณได้เลือกที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์อย่างแท้จริง ข้อดีของคอนโดวิวสวน 1. สภาพอากาศและสิ่งแวดล้อมที่ดี คอนโดวิวสวนมักมีอากาศบริสุทธิ์กว่าคอนโดทั่วไป เพราะต้นไม้ในสวนช่วยกรองฝุ่นและมลพิษ อีกทั้งยังช่วยลดอุณหภูมิในพื้นที่โดยรอบ ทำให้ประหยัดพลังงานจากการใช้เครื่องปรับอากาศ 2. โอกาสในการออกกำลังกายและทำกิจกรรมกลางแจ้ง การอยู่ใกล้สวนสาธารณะเป็นแรงจูงใจให้ออกไปทำกิจกรรมนอกบ้านมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการวิ่ง เดินเล่น หรือทำกิจกรรมสันทนาการต่างๆ 3. ประโยชน์ต่อสุขภาพกายและจิตใจ วิวธรรมชาติช่วยลดความเครียด ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย และส่งผลดีต่อสุขภาพจิต นอกจากนี้ยังช่วยให้นอนหลับได้ดีขึ้น เพราะได้รับอากาศบริสุทธิ์ ข้อเสียของคอนโดวิวสวน 1. ความเป็นส่วนตัว คอนโดที่อยู่ติดสวนสาธารณะอาจมีผู้คนพลุกพล่านในช่วงเวลาที่มีคนมาใช้บริการเป็นจำนวนมาก ซึ่งอาจกระทบต่อความเป็นส่วนตัวของผู้อยู่อาศัย อีกทั้งอาจมีปัญหาเรื่องเสียงรบกวนจากกิจกรรมในสวน 2. ราคาสูง คอนโดวิวสวนมักมีราคาสูงกว่าคอนโดทั่วไปในย่านเดียวกัน เพราะวิวและทำเลที่ตั้งที่ดี ทำให้เป็นที่ต้องการของตลาด แนะนำสวนสาธารณะที่น่าสนใจในกรุงเทพ 1. สวนจตุจักร สวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่มีทั้งพื้นที่ออกกำลังกาย พื้นที่นั่งพักผ่อน สวนดอกไม้ และบึงน้ำ เหมาะสำหรับการพักผ่อนและทำกิจกรรมกลางแจ้ง เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้า BTS และ MRT เดินทางสะดวก 2. สวนป่าเบญจกิติ สวนสาธารณะใจกลางเมืองที่มีพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่  มีทางวิ่ง ทางจักรยาน และพื้นที่พักผ่อนร่มรื่น รายล้อมด้วยอาคารสำนักงานและคอนโดมิเนียมระดับไฮเอนด์ 3. สวนลุมพินี สวนสาธารณะที่เก่าแก่ของกรุงเทพฯ มีบรรยากาศร่มรื่น เหมาะแก่การออกกำลังกายและพักผ่อน ตั้งอยู่ใจกลางย่านธุรกิจ ใกล้รถไฟฟ้า BTS และ MRT หลายคนจึงให้ความสนใจมองหาคอนโดวิวสวนลุมพินี แนะนำ 5 คอนโดวิวสวนน่าสนใจ 1. เดอะ ไลน์ จตุจักร – หมอชิต โครงการคอนโดติดรถไฟฟ้าจากแสนสิริ ที่ได้วิวสวนจตุจักรแบบพาโนรามา ตัวโครงการประกอบด้วยอาคารสูง 43 ชั้น จำนวน 1 อาคาร รวมทั้งหมด 841 ยูนิต มีห้องให้เลือกหลายรูปแบบ ตั้งแต่ห้อง 1 ห้องนอน ไปจนถึงห้องดูเพล็กซ์ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกระดับพรีเมียม อาทิ สระว่ายน้ำ ฟิตเนส สวนส่วนกลาง EV Charging Station และระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง เดินทางสะดวกใกล้ BTS สถานีหมอชิต และ MRT สถานีสวนจตุจักร ยูนิตแนะนำ: 2 ห้องนอน 2…

ส่อง 5 ทำเลคอนโดในกรุงเทพ ย่านไหนน่าอยู่ น่าลงทุน

การเลือกทำเลที่ตั้งคอนโดถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตและการลงทุน เพราะทำเลที่ดีไม่เพียงช่วยให้การเดินทางสะดวกสบาย แต่ยังส่งผลต่อมูลค่าอสังหาริมทรัพย์ในอนาคต โดยปัจจัยที่ควรพิจารณาในการเลือกทำเลคอนโด ได้แก่ ความสะดวกในการเดินทาง สิ่งอำนวยความสะดวกโดยรอบ ความปลอดภัย และศักยภาพการเติบโตของพื้นที่ ในบทความนี้ พลัสฯ ชวนมาส่อง 5 ทำเลคอนโดในกรุงเทพที่น่าสนใจ พร้อมตอบคำถามที่ว่า ‘เช่าคอนโด แถวไหนดี’ ทั้งด้านการอยู่อาศัยและการลงทุน ส่อง 5 ทำเลคอนโดในกรุงเทพ  1. สุขุมวิท-อโศก-ทองหล่อ ทำเลระดับพรีเมียมใจกลางเมืองที่ครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก ทั้งห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร สำนักงาน สถานบันเทิง โรงพยาบาล และสถานศึกษานานาชาติ เดินทางสะดวกด้วยรถไฟฟ้า BTS และ MRT เหมาะสำหรับคนทำงาน ครอบครัว และชาวต่างชาติ ทำเลนี้มีศักยภาพการเติบโตสูง ราคาคอนโดมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง ตัวอย่างสิ่งอำนวยความสะดวก ศูนย์การค้า: Terminal 21 และ The Em District สถานศึกษา: โรงเรียนสายน้ำผึ้ง, Bangkok Prep International School และมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ เป็นต้น สุขภาพ: โรงพยาบาลสุขุมวิทและโรงพยาบาลคามิลเลียน สวนสาธารณะ: สวนเบญจกิตติและสวนเบญจสิริ การเดินทาง: BTS อโศก/ทองหล่อ/เอกมัย และ MRT สุขุมวิท คอนโดแนะนำ ดิ เอส สุขุมวิท 36 คอนโดติดรถไฟฟ้าแบบ High Rise สูง 43 ชั้น จำนวน 1 อาคาร รวม 338 ยูนิต ภายใต้ คอนเซปต์ “ความแตกต่างที่พอดี” ผสมผสานระหว่างศิลปะดั้งเดิมและร่วมสมัยได้อย่างลงตัว โครงการมาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ห่างจาก BTS สถานีทองหล่อเพียง 20 เมตร สามารถเข้าถึงแหล่งช้อปปิ้ง ร้านอาหาร และสถานบันเทิงชั้นนำย่านทองหล่อ-เอกมัย ยูนิตแนะนำ: 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ขนาดพื้นที่ใช้สอย 124.0 ตารางเมตร คลิก 2. พระราม 9 – รัชดา – ห้วยขวาง ย่านธุรกิจแห่งใหม่ที่กำลังเติบโต มีอาคารสำนักงาน ศูนย์การค้า และคอมมูนิตี้มอลล์มากมาย เดินทางสะดวกด้วย MRT และถนนใหญ่หลายสาย เหมาะกับวัยทำงานที่ต้องการความคล่องตัวในการเดินทาง ราคาคอนโดยังไม่สูงมากเมื่อเทียบกับศักยภาพการเติบโตในอนาคต ตัวอย่างสิ่งอำนวยความสะดวก…

รู้จักข้อดี-ข้อเสีย คอนโดหน้ากว้าง พร้อมแนะนำ 5 โครงการน่าสนใจ

ปัจจุบันคนเมืองให้ความสนใจการอยู่อาศัยในคอนโดมากขึ้น เนื่องจากตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่ต้องการความสะดวกสบาย และการเดินทางที่คล่องตัว โดยรูปแบบคอนโดหนึ่งที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน คือ คอนโดหน้ากว้าง ในบทความนี้พลัสฯ จะพาทุกท่านไปรู้จักว่าคอนโดหน้ากว้างคืออะไร มีข้อดีและข้อเสียอย่างไร พร้อมแนะนำ 5 คอนโดหน้ากว้างที่น่าสนใจ คอนโดหน้ากว้าง คืออะไร และเหมาะกับใคร คอนโดหน้ากว้าง หรือ คอนโดห้องหน้ากว้าง คือ คอนโดที่ห้องมีความกว้างมากกว่าความลึก มักมีขนาดตั้งแต่ 30 ตร.ม. ขึ้นไป และมีการแยกพื้นที่ค่อนข้างชัดเจน โดยคอนโดรูปแบบนี้มักตั้งอยู่ในพื้นที่ธุรกิจ ซึ่งพร้อมตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยหลายกลุ่ม อาทิ ผู้ที่ชื่นชอบพื้นที่โล่งกว้าง ผู้ที่ชื่นชอบการรับแสงธรรมชาติ ครอบครัวขนาดใหญ่และเล็กที่ต้องการพื้นที่ใช้สอยที่เป็นสัดส่วน รวมถึงผู้ที่ชื่นชอบการแต่งห้อง ข้อดีของคอนโดหน้ากว้าง คอนโดหน้ากว้างมีข้อดีหลายประการ ดังนี้ 1. พื้นที่กว้างขวาง การออกแบบให้ห้องมีความกว้างมากกว่าความลึกช่วยให้มองเห็นพื้นที่โดยรวมได้ชัดเจน มีพื้นที่สำหรับการใช้งานกว้าง ทำให้รู้สึกถึงความโปร่งโล่ง และสบายตา 2. แบ่งสัดส่วนเป็นระเบียบ คอนโดหน้ากว้างมักมีการออกแบบพื้นที่ที่เป็นสัดส่วน ทำให้สามารถจัดวางเฟอร์นิเจอร์และแบ่งโซนการใช้งานได้อย่างลงตัว เช่น โซนห้องนอน โซนนั่งเล่น และโซนห้องครัว สามารถสร้างพื้นที่ส่วนตัวและพื้นที่ทำกิจกรรมชัดเจน 3. ได้รับแสงธรรมชาติ สร้างสภาพแวดล้อมดี ห้องของคอนโดหน้ากว้างมักได้รับแสงธรรมชาติมากขึ้นจากหน้าต่างที่มีขนาดใหญ่ เพื่อตอบรับกับความกว้างของห้อง ทำให้ห้องดูปลอดโปร่ง เห็นวิวชัดเจน อีกทั้งยังช่วยให้อากาศถ่ายเทได้ดี ส่งผลดีต่อสุขภาพของผู้อยู่อาศัย ข้อเสียของคอนโดหน้ากว้าง อย่างไรก็ตาม คอนโดหน้ากว้างมีข้อที่ควรพิจารณาดังนี้ 1. ราคาเริ่มต้นสูง เนื่องจากการออกแบบห้องให้มีหน้ากว้างต้องใช้พื้นที่มากกว่าห้องแบบปกติ ทำให้ราคาเริ่มต้นต่อตารางเมตรสูงกว่าคอนโดทั่วไป 2. พื้นที่ห้องตื้น เพราะมีความลึกของห้องน้อยกว่าความกว้าง อาจทำให้การจัดวางเฟอร์นิเจอร์บางประเภทไม่ลงตัว หรือต้องเลือกขนาดให้เหมาะสมกับพื้นที่ แนะนำ 5 คอนโดห้องหน้ากว้าง 1. HQ Thonglor by Sansiri คอนโดติดรถไฟฟ้าแบบ High-rise ที่ตั้งอยู่ในทำเลศักยภาพอย่างทองหล่อ ที่ตกแต่งด้วยคอนเซปต์ Jewel of Thonglor โครงการมีจำนวนทั้งหมด 197 ยูนิต ซึ่งประกอบไปด้วยห้อง 1 ห้องนอน ห้อง 2 ห้องนอน และ Penthouse มีขนาดพื้นที่เริ่มต้น 40.5-262.5 ตารางเมตร และออกแบบให้เพดานสูง 2.7 เมตร ช่วยให้ห้องดูโปร่ง โครงการมาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อาทิ สระว่ายน้ำ ห้องออกกำลังกาย ห้องสมุด สวนหย่อมลอยฟ้า รวมถึงมี Shuttle Service จากรถไฟฟ้า BTS ซึ่งโครงการตั้งอยู่ใกล้ BTS สถานีทองหล่อ ราคาเช่าเริ่มต้น 33,000…