ปล่อยเช่าบ้านเดี่ยวหรู 20 ล้านอัพ กับโอกาสลงทุนอสังหาฯ

ปล่อยเช่าบ้านเดี่ยวหรู ราคา 20 ล้านขึ้นไป กับโอกาสการลงทุนอสังหาฯ ภาพรวมตลาดลงทุนอสังหาฯ ในปี 2018 กลับมาคึกคักอีกครั้ง โดยเฉพาะบ้านเดี่ยวหรูระดับ Hi-End จากต้นปีจนถึงปัจจุบันจะเห็นภาพการเปิดตัวโครงการบ้านเดี่ยวหรูระดับ Hi-End หลายโครงการ โดยเฉพาะช่วงครึ่งปีหลัง เช่น บ้านแสนสิริ พัฒนาการ บ้านเดี่ยวหรู Super Luxury จากแสนสิริ ราคาเริ่มต้น 60-250 ล้านบาท, สันติบุรี เดอะ เรสซิเดนซ์ บ้านเดี่ยวหรูระดับ Super Luxury ราคาเริ่มต้น 250 ล้านบาท ของสิงห์ เอสเตท และ The Gentry เอกมัย-ลาดพร้าว บ้านเดี่ยว 3 ชั้น ราคาเริ่มต้น 30 ล้านบาท จาก เอสซี แอสเสทฯ เป็นต้น จะเห็นได้ว่าทำเลที่สามารถพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยวหรูระดับ Hi-End นี้มีไม่กี่ทำเล ซึ่งต้องเป็นทำเลที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบ เดินทางเชื่อมต่อเข้าใจกลางเมืองสะดวก เช่น พัฒนาการ, เอกมัย-รามอินทรา เป็นต้น เทรนด์บ้านเดี่ยวหรูกำลังมา ในช่วงปี 2017 บ้านเดี่ยวหรู ราคา 20 ล้านบาทขึ้นไปมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องทั้งในส่วนดีมานด์และซัพพลาย ซึ่งปีที่ผ่านมาซัพพลายขยายตัวสูงถึง 34% ส่วนดีมานด์หรือความต้องการในตลาดบ้านระดับนี้ก็ขยายตัวขึ้น 19% เช่นกัน ปัจจัยที่ทำให้ดีมานด์ตลาดบ้านหรูเพิ่มขึ้นทุกปี มีข้อมูลจากการรายงานของ World Wealth Report 2017 ของ Capgemini ระบุว่า HNWI* ในประเทศไทยมีจ่านวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นกลุ่ม Niche Market โดยในปี 2016 มีจ่านวนเพิ่มขึ้น 12.7% และทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 13.3% เนื่องจากคนกลุ่มนี้มีกำลังซื้อสูง ภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวไม่ได้มีผลกระทบกับการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยเท่าไรนัก ทั้งนี้กลุ่ม Niche Market นี้ให้ความสำคัญกับเรื่องทำเลที่เดินทางสะดวก เข้าใจกลางเมืองได้ง่ายเป็นอันดับแรก รวมถึงมองเรื่องสภาพแวดล้อมโครงการที่ดี ได้ความเป็นส่วนตัว และฟังก์ชั่นบ้านที่ตอบโจทย์ โครงการบ้านแสนสิริ พัฒนาการ “พัฒนาการ” ทำเลตอบโจทย์บ้านเดี่ยวหรู Hi-End ไม่ใช่ทุกทำเลที่สามารถพัฒนาโครงการบ้านหรู ราคา 20 ล้านขึ้นไปได้ ซึ่งทำเลที่ว่านี้ต้องสามารถเชื่อมต่อกับพื้นที่เขตเมือง และมีโครงสร้างสาธารณูปโภคอื่นๆ ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ เพราะนอกจากจะสามารถเข้าเมืองได้สะดวกแล้ว การใช้ชีวิตนอกบ้านอื่นๆ ก็สำคัญ พัฒนาการเป็นทำเลที่สามารถเดินทางเชื่อมต่อเข้าเขตใจกลางเมืองสุขุมวิทได้ไม่ยาก ไปย่านเอกมัย, พร้อมพงษ์, ทองหล่อและอโศกได้ง่าย…
รู้จักประกันคุ้มครองวงเงินสินเชื่อ MRTA ก่อนกู้บ้าน

“มากู้บ้าน ไม่ได้มาซื้อประกัน” คือประโยคปิดท้ายที่ลูกค้าท่านหนึ่งเล่าให้ทางเราฟังหลังจากไปติดต่อธนาคารเพื่อขอสินเชื่อมากู้ซื้อบ้าน โดยลูกค้าท่านนี้ได้รับการแนะนำกึ่งเชิญชวนจากเจ้าหน้าที่สินเชื่อของธนาคารให้ทำประกันสินเชื่อ MRTA พร้อมกับการขอสินเชื่อบ้านเพื่อให้ได้รับอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าการไม่ทำประกัน สุดท้ายแล้วลูกค้าของเราก็ยังไม่สามารถตัดสินใจได้ว่าควรทำประกันหรือไม่ เพราะเกิดความสงสัยว่าประกันคุ้มครองสินเชื่อ MRTA คืออะไร จำเป็นต้องทำหรือไม่ และความคุ้มครองที่จะได้รับจากการทำประกันจริงๆ แล้วคืออะไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าหากทำประกันเพื่อให้ได้อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่านั้นมีความคุ้มค่าหรือไม่ พบคำตอบได้ในบทความของเราในครั้งนี้ 1. รู้จักประกันคุ้มครองวงเงินสินเชื่อ MRTA MRTA (Mortgage Reducing Term Assurance) หรือประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อ คือ ประกันชีวิตประเภทหนึ่งที่มีจุดประสงค์อยู่ที่การประกันความเสี่ยงให้กับผู้กู้ โดยให้คุ้มครองสินเชื่อของผู้กู้ซึ่งในกรณีนี้คือสินเชื่อบ้าน ทำให้แม้ว่าจะเกิดเหตุต่อชีวิตผู้กู้ก็ไม่กระทบต่อการผ่อนชำระสินเชื่อบ้าน เพราะบริษัทรับประกันจะทำหน้าที่ผ่อนชำระหนี้แทนผู้กู้เอง โดยขึ้นอยู่กับระยะเวลาคุ้มครองและวงเงินประกันที่ผู้กู้เลือกทำประกันเอาไว้ 2. ประเภทและรูปแบบของประกันคุ้มครองสินเชื่อบ้าน คอนโด MRTA ในการทำประกันคุ้มครองวงเงินสินเชื่อ MRTA นั้นผู้ทำประกันสามารถเลือกความคุ้มครองวงเงินและระยะเวลาคุ้มครองได้ เช่น คุ้มครองเต็มวงเงิน และตลอดระยะเวลากู้ หากวงเงินกู้ 3 ล้านบาท ระยะเวลากู้ 30 ปี ก็จะได้รับความคุ้มครองเต็ม 3 ล้านบาท และเต็มระยะเวลา 30 ปี แต่หากเลือกความคุ้มครอง 70% ของวงเงินกู้และ 70% ของระยะเวลากู้ ก็จะได้รับความคุ้มครองวงเงิน 2.1 ล้านบาท และคุ้มครองช่วงระยะเวลา 21 ปีแรก เป็นต้น นอกจากนี้ยังขึ้นอยู่กับรูปแบบของการประกัน เช่น การประกันแบบที่จำนวนเงินเอาประกันภัยคงที่ ซึ่งไม่ว่าระยะเวลาจะผ่านไปจำนวนเงินเอาประกันก็ไม่ลดลงตามยอดหนี้ หรือการเอาประกันแบบที่จำนวนเงินเอาประกันภัยลดลง ซึ่งเมื่อเวลาผ่านไปความคุ้มครองลดลงตามภาระหนี้ที่ลดลง เป็นต้น 3. ความคุ้มครองที่ได้รับจากประกันคุ้มครองวงเงินสินเชื่อบ้าน คอนโด MRTA ประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อมุ่งเน้นการให้ความคุ้มครองความสามารถในการชำระหนี้สินเชื่อบ้านแก่ผู้เอาประกัน โดยจะชำระหนี้แทนผู้เอาประกันเมื่อผู้เอาประกันเสียชีวิต ทั้งในกรณีที่เป็นการเสียชีวิตจากการเจ็บป่วยและการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ รวมไปถึงกรณีที่ผู้เอาประกันไม่ได้เสียชีวิต แต่ตกเป็นบุคคลทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง ซึ่งทำให้ไม่สามารถหารายได้มาผ่อนชำระสินเชื่อได้ 4. ความคุ้มค่าในการทำประกันสินเชื่อบ้าน คอนโด MRTA เมื่อกล่าวถึงความคุ้มค่าที่นอกเหนือจากความคุ้มครองที่ผู้กู้จะได้รับจากการเลือกทำประกันคุ้มครองวงเงินสินเชื่อก็คือการได้รับอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยปกติสำหรับลูกค้าที่ไม่ทำประกัน โดยมีส่วนต่างอยู่ระหว่าง 0.25% – 0.50% ซึ่งอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่านี้มีส่วนจูงใจให้ผู้กู้ตัดสินใจทำประกันได้ง่ายขึ้น และในมุมมองของธนาคารแล้วเมื่อมีการทำประกันคุ้มครองวงเงินสินเชื่อบ้าน MRTA ก็ทำให้การให้สินเชื่อแก่ผู้กู้มีความเสี่ยงลดน้อยลงเช่นกัน แต่อย่าลืมว่าเมื่อมีการทำประกันแล้วก็มักจะมีการนำเบี้ยประกันเพิ่มเข้าไปในวงเงินกู้ จึงเป็นที่น่าสงสัยว่าท้ายที่สุดแล้วการทำประกันช่วยให้ประหยัดดอกเบี้ยจ่ายได้จริงหรือไม่ ตัวอย่างกรณีศึกษา เปรียบเทียบดอกเบี้ยจ่ายระหว่างการทำประกัน MRTA และไม่ทำประกัน MRTA รายละเอียดการทำประกัน MRTA • ผู้กู้เพศชาย อายุ 35 ปี • วงเงินกู้ 3 ล้านบาท • ทุนประกันคุ้มครองเต็มวงเงินกู้และเต็มระยะเวลากู้ • เบี้ยประกัน 270,690 บาท จากกรณีศึกษาข้างต้นแสดงให้เห็นว่าอัตราดอกเบี้ยที่ลดลงจากการทำประกัน 0.50% ในช่วงปีที่ 1-3 และ 0.25% ตั้งแต่ปีที่ 4…
บอกต่อ เคล็ดลับลงทุนคอนโด เลือกแบบไหนให้โดนใจกลุ่มเป้าหมาย

ทุกวันนี้ถ้าพูดเรื่องการลงทุนคอนโด ถ้าจะหวังลงทุนระยะสั้นซื้อขายใบจอง อาจจะเป็นเรื่องยากไปซักหน่อย (ถ้าโครงการนั้นไม่ฮอตฮิตจริงๆ) และหากจะลดความเสี่ยงให้น้อยลง การลงทุนระยะยาวหวัง Capital Gain หรือลงทุนปล่อยเช่าเพื่อให้เป็น Passive Income ดูเหมือนจะปลอดภัยมากที่สุด ฉะนั้นถ้าเลือกแล้วว่า “ซื้อคอนโดไว้ลงทุนปล่อยเช่าดีกว่า” ก็ต้องเริ่มต้นด้วยการเลือกคอนโดให้เหมาะกับกลุ่มเป้าหมายที่เราต้องการปล่อยเช่าให้มากที่สุด พูดให้เข้าใจง่าย คือ ก่อนจะซื้อ ต้องมองยาวไปถึงว่าใครจะมาเช่า หรือจะปล่อยเช่าใคร และอัตราการปล่อยเช่าที่น่าสนใจคือควรให้ได้ค่าเช่าอยู่ที่ 6-8% จึงจะดี จะซื้อคอนโดปล่อยเช่าใคร ให้รู้ก่อน สำหรับการซื้อคอนโดไว้ลงทุนปล่อยเช่าต้องเลือกกลุ่มเป้าหมายที่เราเล็งไว้ให้ได้ก่อน คล้ายๆ กับการทำ Segmentation ออกเป็นกลุ่มๆ เพื่อที่เราจะได้ Targeting หรือเลือกตลาดเป้าหมายที่เราต้องการได้ โดยทั่วๆ ไป นักลงทุนคอนโดส่วนใหญ่ จะแบ่งกลุ่มเป้าหมายผู้เช่าเอาไว้ ดังนี้ ผู้เช่าที่เป็นกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มนักเรียน-นักศึกษา กลุ่มต่างชาติตะวันตก กลุ่มต่างชาติ ชาวเอเชีย (ญี่ปุ่น/ จีน) กลุ่มพนักงานออฟฟิศ มนุษย์เงินเดือน กลุ่ม High end มีกำลังซื้อสูง ซึ่งกลุ่มเป้าหมายในการปล่อยเช่าคอนโดทั้ง 5 กลุ่มที่ยกมานี้ เป็นตัวอย่างกลุ่มผู้เช่าที่มีความต้องการเช่าในแต่ละทำเล และมีความต้องการโครงการที่แตกต่างกันออกไป เรามาเจาะกลุ่มเป้าหมายของเรากันที่ละกลุ่มกันเลย 1. กลุ่มผู้เช่านักเรียน-นักศึกษา สำหรับกลุ่มนี้แน่นอนว่าทำเลต้องอยู่ไม่ไกลสถานศึกษานั้นๆ ในระยะไม่ควรเกิน 1-2 กิโลเมตรกำลังดี ใช้เวลาเดินทางไม่เกิน 15 นาที ยิ่งเป็นโครงการที่อยู่ในระยะที่เดินเท้าได้จะยิ่งปล่อยเช่าง่าย หรือบางโครงการมีบริการรถรับ-ส่งไปมหาวิทยาลัยหรือโรงเรียนก็ยิ่งเพิ่ม Value ให้โครงการมากขึ้น ในรัศมีไม่ไกลโครงการต้องอยู่ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวก เช่น ร้านสะดวกซื้อและร้านอาหาร ถ้าโครงการไหนมีทั้ง 2 ร้านนี้ในโครงการก็จะทำให้ปล่อยเช่าได้ง่าย เนื่องจากกลุ่มนักเรียน-นักศึกษาต้องการความสะดวกสบายสำหรับการใช้ชีวิตในคอนโดฯ ไม่ต้องเดินทางไกล เพราะเวลาส่วนใหญ่จะหมดไปกับการเรียนและทำการบ้าน Room Type ที่ถูกใจเรียนนักศึกษา ขนาดห้องที่น่าสนใจในการปล่อยเช่ากลุ่มนักเรียน-นักศึกษา ควรเป็นห้องขนาดไม่เล็กเกินไปและไม่ใหญ่เกินไป 30 ตารางเมตรกำลังพอดี เพราะนักศึกษาส่วนใหญ่จะเช่าอยู่กับเพื่อนเพื่อแชร์ค่าห้องกัน และกลุ่มนี้เน้นความสะดวกสบายในการอยู่อาศัย เพราะฉะนั้นห้องต้องมาพร้อมเฟอร์นิเจอร์จึงจะเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์ในการตัดสินใจเลือกเช่าได้ง่ายขึ้น เช่น เตียง 2 ชั้น และโต๊ะทำงาน หรือบางคนอาจจะงบลงทุนน้อยก็เลือกซื้อห้องแบบสตูดิโอเพื่อปล่อยเช่าสำหรับนักศึกษาที่ต้องการเช่าอยู่คนเดียว โดยเน้นแต่งห้องให้น่าอยู่เพื่อให้ปล่อยเช่าง่ายขึ้น สิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการ กลุ่มนี้จะให้ความสำคัญกับพื้นที่ส่วนกลางประเภทห้องอเนกประสงค์หรือ Co-Working Space เพราะจะใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการทำการบ้าน, อ่านหนังสือ หรือนั่งเล่นกับเพื่อนๆ สรุปการซื้อคอนโดไว้ปล่อยเช่านักเรียนนักศึกษา ต้องเน้นทำเลที่อยู่ใกล้สถานศึกษาและสิ่งอำนวยความสะดวก รวมทั้ง Facility ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์วัยรุ่น เช่น dcondo Campus Resort Dome-Rangsit THE BASE Phetkasem นอกจากนี้การซื้อคอนโดลงทุนปล่อยเช่านักเรียน-นักศึกษา ยังมีโอกาสปล่อยเช่ากลุ่มบุคลากร, อาจารย์ได้อีกด้วย โดยเฉพาะถ้าเลือกคอนโดที่อยู่ใกล้โรงเรียนนานาชาติ ก็จะได้กลุ่มอาจารย์ Expat หรือนักเรียนนักศึกษาต่างจังหวัดที่เข้ามาในกรุงเทพฯ…
ติดแบล็คลิสต์ (Blacklist) คืออะไร การเช็คแบล็คลิสต์ และเครดิตบูโร

ทุกวันนี้หลายคนเกิดความเข้าใจผิด เนื่องจากเวลายื่นขอสินเชื่อต่างๆ ไม่ว่าจะกู้บ้าน กู้คอนโด หรือสินเชื่อเอนกประสงค์อื่นๆ แล้วไม่ผ่านการอนุมัติเสียที จึงเข้าใจว่าโดนเครดิตบูโร ติดแบล็คลิสต์รายชื่อเราเอาไว้ ฟังแบบนี้แล้วหวั่นใจกันแน่ๆ แต่อย่าเพิ่งเข้าใจผิดกันไปครับ วันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับเครดิตบูโร การติดแบล็คลิสต์คืออะไร? และเรื่องจริงที่หลายๆ คนเข้าใจผิด เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้องตรงกัน ข้อมูลเครดิต คืออะไร? ก่อนอื่นเราต้องรู้จักก่อนว่า ข้อมูลเครดิตคืออะไร? ข้อมูลเครดิต คือ ข้อมูลเกี่ยวกับประวัติการชำระหนี้ของลูกค้า ซึ่งถูกจัดเก็บไว้ในระบบฐานข้อมูลของบริษัทข้อมูลเครดิตหรือเครดิตบูโร และจะปรากฎในรายงานข้อมูลเครดิตเมื่อมีผู้ประสงค์ขอเรียกดูข้อมูล ปัจจุบันข้อมูลเครดิต ประกอบด้วยข้อมูล 2 ส่วน ดังนี้ ข้อมูลที่บ่งชี้ถึงตัวตนลูกค้า เช่น ที่อยู่ วันเดือนปีเกิด สถานภาพการสมรส อาชีพ เลขที่บัตรประชาชน ส่วนในกรณีที่เป็นนิติบุคคลจะเป็น ชื่อ สถานที่ตั้ง เลขทะเบียนนิติบุคคล เป็นต้น ข้อมูลเกี่ยวกับสินเชื่อที่ได้รับอนุมัติและประวัติการชำระสินเชื่อ ประวัติการชำระ ราคาสินค้า หรือบริการโดยบัตรเครดิตรวมทั้งสถานะบัญชี แล้วอะไรคือ สถานะบัญชี? สถานะบัญชี คือ ข้อมูลที่แสดงสถานะของบัญชีสินเชื่อในแต่ละบัญชีที่แสดงในรายการข้อมูลเครดิต เช่น สินเชื่อปกติ สินเชื่อที่ปิดบัญชีแล้ว สินเชื่อที่ค้างชำระเกิน 90 วัน สินเชื่อที่อยู่ในกระบวนการทางกฎหมาย เป็นต้น รายงานข้อมูลเครดิต (Credit Report) คืออะไร? รายงานข้อมูลเครดิต คือ รายงานที่บริษัทข้อมูลเครดิตจัดทำขึ้น และให้สิทธิสถาบันการเงินที่ได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลเรียกดู หรือเจ้าของข้อมูลเรียกดูได้ โดยรายงานข้อมูลเครดิต จะแสดงข้อมูลสินเชื่อ ประวัติการชำระสินเชื่อ สถานะทุกบัญชีที่เจ้าของข้อมูลมีอยู่กับสถาบันการเงินทุกแห่งที่เป็นสมาชิกบริษัทข้อมูลเครดิต แล้วข้อมูลเครดิตมีความสำคัญอย่างไร? ข้อมูลเครดิตจะแสดงถึงประวัติการชำระหนี้ที่สะท้อนถึงพฤติกรรมและวินัยทางการเงินของเจ้าของข้อมูล อีกทั้งยังแสดงถึงความตั้งใจในการชำระหนี้และความน่าเชื่อถือ หรือที่เราเรียกกันว่า เครดิตนั่นเองครับ ที่มีความสำคัญต่อการประกอบธุรกิจ สถาบันการเงินจึงใช้ประโยชน์จากรายงานข้อมูลเครดิตเป็นปัจจัยหนึ่งที่ใช่ร่วมกับปัจจัยอื่นๆ ในการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อ เช่น ความสามารถในการหารายได้ ความเป็นไปได้ของธุรกิจ หลักประกัน เป็นต้น ดังนั้น ผู้ที่มีประวัติการชำระหนี้ได้ดีจึงมีโอกาสได้รับสินเชื่อในอัตราที่เหมาะสมสูงกว่าผู้ที่มีประวัติการชำระหนี้ไม่ดีครับ ประกันสินเชื่อบ้าน MRTA ควรทำไหม 4 ทางเลือกกู้เงินซื้อบ้าน ซื้อคอนโด ผ่อนแบบไหนหมดไวสุด ทำไมต้องมีเครดิตบูโร (Credit Bureau) ในระบบการเงินของไทย ปี 2545 มีการตรา พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจข้อมูลเครดิตพ.ศ.2545 โดยมีเหตุผลคือ “โดยที่การกู้ยืมหรือให้สินเชื่อของสถาบันการเงิน จำเป็นต้องมีข้อมูลเกี่ยวกับฐานะทางการเงินและประวัติการชำระหนี้ของลูกค้าอย่างเพียงพอว่าลูกค้ารายนั้น มีประวัติอย่างไร และมีภาระหนี้อยู่กับสถาบันการเงินอื่นมากน้อยเพียงใด เท่าที่ผ่านมา การให้กู้ยืมหรือการให้สินเชื่อของสถาบันการเงินยังมีข้อมูลไม่ครบถ้วน ส่งผลให้เกิดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้เพิ่มมากขื้น ทำให้ปัญหาความไม่มั่นคงแก่สถาบันการเงินนั้น และระบบสถาบันการเงินโดยรวม นอกจากนี้ การประกอบธุรกิจข้อมูลเครดิตในปัจจุบันยังไม่มีกฎหมายเกี่ยวกับการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการทำธุรกรรมข้อมูลเครดิต รวมทั้งยังไม่มีกฎหมายคุ้มครองประชาชนผู้เป็นเจ้าของข้อมูลไว้เป็นการเฉพาะ จึงจำเป็นต้องมีตราพระราชบัญญัตินี้” ปี 2548 มีการควบรวมกิจการของบริษัทข้อมูลเครดิตทั้ง 2 แห่ง และเปลี่ยนชื่อเป็นบริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด หรือ…
วิธีไล่แมลงสาบในคอนโดและบ้าน กำจัดได้แบบไม่ทำร้ายกัน

ปัญหาแมลงสาบที่มักจะเข้ามากวนใจเราตามห้องครัว โต๊ะอาหาร หรือ ตู้เก็บของลิ้นชักต่างๆ ซึ่งการที่แมลงสาบเข้ามาแวะเวียนอยู่ในบ้านเรามักจะนำพาซึ่งเชื้อโรคต่างๆ เข้ามาด้วย ดังนั้นเราจึงควรหาวิธีการที่จะทำให้บ้านหรือคอนโดของเราปราศจากแมลงสาบกันค่ะ วันนี้พลัส พร็อพเพอร์ตี้ มีวิธีกำจัดแมลงสาบในคอนโดและบ้านให้ออกจากห้องไปได้อย่างง่ายดาย ด้วยสูตรไล่แมลงสาบในคอนโดแบบธรรมชาติที่ไม่ทำร้ายกันทั้งตัวแมลงสาบและเจ้าของห้องเอง วิธีนี้สามารถนำไปใช้ได้ทั้งผู้ที่อาศัยอยู่ในบ้านและคอนโดมิเนียม เชิญออกด้วยสูตรธรรมชาติ 1. พริกไทย ใช้พริกไทยเม็ดประมาณ 6-7 เม็ด วางตามจุดต่างๆ ที่แมลงสาบชอบอยู่ หรือใช้พริกไทยเม็ดใส่ถุงผ้าเล็กๆ แล้วนำไปวางก็ได้ 2. ใบกระวาน นำไปกระวานไปวางไว้ตามจุดสุ่มเสี่ยงต่อการมีแมลงสาบมาป้วนเปี้ยน 3. ลูกเหม็น หาภาชนะใส่ลูกเหม็นแบบมีฝาเปิดไปวางใกล้ๆ ถังขยะในบ้าน แต่วางให้พ้นจากมือเด็กๆ ด้วย 4. สเปรย์พริกไทย ผสมพริกไทย 2 ช้อนโต๊ะกับน้ำสะอาด ¼ ถ้วยตวง คนให้เข้ากันแล้วเทใส่กระบอกสเปรย์ ไว้ฉีดตามจุดที่เห็นแมลงสาบอยู่บ่อยๆ นอกจากเราจะใช้วิธีกำจัดแมลงสาบในคอนโดแบบธรรมชาติเพื่อเชิญเค้าออกไปแล้ว เราก็ต้องหาทางป้องกันไม่ให้เค้ากลับมาเยี่ยมเยียนเหล่าอีก โดยแก่นสำคัญหลักคือ การรักษาความสะอาด และขจัดสิ่งที่แมลงสาบชอบออกไปให้พ้นจากพื้นที่อาศัยของเราด้วยวิธีการดังนี้ วิธีกำจัดแมลงสาบในคอนโดและบ้านด้วยสูตรธรรมชาติ 1. ขยะเปียกอย่าทิ้งไว้ในบ้าน ขยะและเศษอาหารเหลือ ๆ เป็นอาหารอันโอชะของเจ้าแมลงสาบ เก็บใส่ถุงผูกให้เรียบร้อยออกไปทิ้งนอกบ้าน 2. เก็บกวาดบ้านทุกวัน ทำความสะอาดบ้านอยู่เสมอเป็นหัวใจของการป้องกันแมลงสาบ โดยเฉพาะส่วนใต้โต๊ะอาหารต้องสะอาดเป็นพิเศษ 3. เคลียร์ขนมให้พ้นลิ้นชัก แมลงสาบจะตามกลิ่นและกัดแทะกินอย่างสบายใจ ต้องสอดส่องดูแลให้ดีอย่าปล่อยเศษขนมทิ้งไว้ 4. ล้างจานให้หมด เก็บล้างหลังกินเสร็จทุกครั้ง หากแช่จานชามทิ้งไว้ ก็เหมือนเป็นเหยื่อล่อให้แมลงสาบมากินเศษอาหารต่อ 5. เก็บอาหาร ขนมใส่กล่องมิดชิด หากล่องอาหารแบบมีฝาปิดมาใส่อาหารที่กินเหลือให้มิดชิด เก็บไว้ในตู้กับข้าวหรือตู้เย็น 6. กำจัดน้ำขัง เจิ่งนอง แมลงสาบอยู่รอดได้แค่มีแหล่งน้ำ ดังนั้นในบ้านไม่ควรมีน้ำขังเด็ดขาด หากมีน้ำหกเลอะเทอะต้องรีบเช็ดให้แห้ง 7. ยาแนวปิดเส้นทางเดิน รอยแยกหรือช่องเแคบ ๆ ตามกำแพงและพื้นบ้าน เป็นเส้นทางเดินของเหล่าแมลงสาบ ให้ยาแนวปิดให้เรียบร้อย หาข้อมูลคอนโดที่คุณต้องการได้ที่นี่: คอนโดสุขุมวิท, คอนโดให้เช่า, คอนโดจตุจักร, ขายคอนโด, คอนโดทองหล่อ, ทรัพย์สินรอการขาย, Bangkok condo for rent, คอนโดพระราม 4, Property Management พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร รับบริหารจัดการโครงการที่พักอาศัยและเพื่อการพาณิชย์ ด้วยทีมงานระดับคุณภาพกับประสบการณ์ที่มากกว่า 20 ปี เติมเต็มทุกความต้องการอย่างแท้จริง สนใจติดต่อเพื่อรับข้อมูลด้านบริหารโครงการเพิ่มเติมได้ที่ 02 688 7555 หรือ คลิกที่นี่ เพื่อให้เราติดต่อกลับ
แนะนำคอนโด 2 ห้องนอน เลือกซื้ออย่างไรให้ตอบโจทย์

ภาพจาก CD180473 อยากหาห้องกว้างๆ แต่ราคาไม่แรง พร้อมเสิร์ฟทุกฟังก์ชันและไลฟ์สไตล์คนเมือง มาลองหาคอนโด 2 ห้องนอนดีไหม? ทั้งตอบโจทย์ความกว้างได้อย่างลงตัว แถมคอนโดแบบ 2 ห้องนอน ราคาถูก ราคาน่าคบหามีอีกมาก มีให้เลือกหลากหลายขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนด้วย ลองดูตัวอย่างตามนี้เลยครับ ภาพจาก CD193560 1. Elegant View: คอนโด 2 ห้องนอน วิวดี จัดเต็ม คอนโด 2 ห้องนอน แบบกว้าง มีพื้นที่ให้กับคนในครอบครัว แค่นี้ยังไม่พอ สำหรับใครอยากได้คอนโดรับบรรยากาศที่พรีเมียมขึ้นไปอีกคงต้องจัดเต็มกับห้องที่มีวิว มีมุมสวยๆ ด้วย ทิปส์เล็กๆ สำหรับการเลือกห้องที่วิวสวย อาจต้องเลือกชั้นที่อยู่สูงขึ้นไป วิวไม่บล็อก หรือห้องที่มีหน้าต่างกว้าง แต่สำหรับห้องตัวอย่างด้านบนนี้เป็นโครงการ The Monument Thong Lo ไม่ต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เพราะได้ทั้ง 2 ห้องนอน ได้พื้นที่กว้างขนาด 124 ตารางเมตร เพียงพอสำหรับทุกคน ได้ทั้งหน้าต่างบานใหญ่ และวิวย่านทองหล่อที่ไม่โดนบล็อกด้วย ทั้งหมดนี้ในราคา 27,500,000 บาท เรียกว่าคุ้มมาก เพราะนอกจากจะได้ 2 ห้องนอน ยูนิตดีแบบนี้แล้ว ตัวโครงการยังมี facility ระดับ super luxury อีกมากมาย อาทิเช่น ห้องทำงาน ห้องประชุม bartender ส่วนตัว เป็นต้น ภาพจาก CD180964 2. Home sweet home: คอนโด 2 ห้องนอน สไตล์โฮมมี่ อยากได้คอนโดห้องกว้างๆ ได้ฟีลเหมือนอยู่บ้านแสนอบอุ่น ห้องสไตล์โฮมมี่นี่แหละคือคำตอบ เพราะคอนโดแบบ 2 ห้องนอน ไม่ได้ตอบโจทย์แค่เนื้อที่ แต่ยังช่วยให้ครอบครัวมีพื้นที่ส่วนตัวให้กับคนในบ้านด้วย ยิ่งถ้าคอนโดสองห้องนอนที่ว่าอยู่ในทำเลใกล้โรงเรียน ที่ทำงาน หรือฟิตเนส ยิ่งเป็นผลดีต่อทุกคนในครอบครัว ตัวอย่างเช่น Mori Haus เป็นคอนโดที่อยู่ย่านพระโขนง-อ่อนนุช คอนโดสไตล์รีสอร์ทที่มีความเป็นส่วนตัว แต่เข้าถึงการเดินทางที่สะดวกของเมืองกรุงฯ ได้โดยง่ายด้วย shuttle รับส่งถึง BTS อ่อนนุช โครงการนี้มีห้องแบบ 2 ห้องนอน ราคาน่าสนใจยังพอมีให้จับจอง อย่างเช่น ยูนิตขนาด 46 ตารางเมตร ราคาอยู่ที่ 6 ล้านบาท หรือ 130,435 บาท เมื่อเทียบต่อตารางเมตร หรือถ้าอยากได้ฟีลเหมือนอยู่บ้านหลังใหญ่ The Line Phahon-Pradipat ก็น่าสนใจอยู่ไม่เบา เพราะออกแบบให้คล้ายบ้าน…
เลือกห้องเพื่ออยู่อาศัย ทิศไหนตรงใจที่สุด

การเลือกซื้อคอนโดสักห้อง นอกจากจะต้องดูสภาพแวดล้อม และทำเลของโครงการแล้ว การเลือกตำแหน่งห้องก็เป็นสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน โดยเฉพาะทิศของห้อง ตำแหน่งของทิศจะพิจารณาจากระเบียง หรือหน้าต่าง ที่เป็นจุดให้ลมและแสงแดดผ่านเข้ามายังห้อง ว่าหันไปทางทิศไหน ซึ่งแต่ละทิศก็มีจุดเด่น และจุดด้อยแตกต่างกันไป เราควรพิจารณาเลือกทิศที่เหมาะสมกับการอยู่อาศัยของเรามากที่สุด ในการเลือกซื้อคอนโด พลัสฯ ลิสต์มาให้ทั้ง 4 ทิศแล้ว จะถูกจริตกับทิศไหนตามมาดูกันเลย ทิศเหนือ เป็นทิศที่อากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี เพราะไม่โดนแสงแดดส่องเข้าถึง และในช่วงหน้าหนาวจะได้รับลมเต็มที่ ซึ่งเป็นทิศที่เหมาะกับผู้ที่ใช้เวลาพักอาศัยอยู่ในห้องค่อนข้างมาก อย่างไรก็ตามเมื่อแสงแดดไม่ตกถึงห้อง จะทำให้ห้องอับชื้น เกิดเชื้อราได้ง่าย และการระบายอากาศได้ไม่ค่อยดี โดยควรหมั่นดูแลทำความสะอาดห้องอย่างสม่ำเสมอเพื่อไม่ให้ห้องอับชื้น ทิศใต้ เป็นทิศที่ไม่โดนแดดและรับลมธรรมชาติได้ดีในฤดูร้อนและฤดูฝน ทำให้ห้องเย็นสบายหากเปิดหน้าต่าง เหมาะกับคนที่ชอบลมธรรมชาติ และไม่ชอบเปิดเครื่องปรับอากาศ แต่หากอาศัยอยู่ในชั้นที่สูงๆ ลมจะเข้ามาในห้องแรงมากเกินไป ทำให้เวลาเปิดหน้าต่างและประตูพร้อมกัน ลมจะพัดเข้ามาแรงจนประตูอาจกระแทกและเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้หากไม่ระมัดระวัง ทิศตะวันออก เหมาะสำหรับคนชอบตื่นเช้า เป็นทิศที่รับแดดอ่อนๆ ในช่วงเช้าซึ่งไม่แรงเท่าทิศตะวันตก อย่างไรก็ตาม สำหรับหน้าร้อนอาจจะอบอ้าวเพราะทิศตะวันออกไม่ค่อยได้รับลมเท่าไหร่ แต่หากเป็นฤดูหนาวอากาศจะดีเพราะได้รับลมเย็นๆ พัดผ่านเข้าห้อง ซึ่งเป็นทิศที่ได้รับลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ หรือลมมรสุมฤดูหนาว ทำให้อากาศภายในห้องช่วงหน้าหนาวเย็นสบาย ทิศตะวันตก ได้รับความร้อนจากแสงแดดในช่วงบ่าย ซึ่งจะทำให้ร้อนกว่าทิศอื่นๆ แต่ในช่วงหน้าร้อน อากาศไม่ร้อนมากเพราะถึงแม้จะมีแสงแดด แต่ก็ยังได้รับลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ หรือลมมรสุมฤดูร้อน พัดผ่านทำให้ลมช่วยระบายความร้อนออกไป ข้อดีของแสงแดดจะช่วยทำให้ห้องไม่อับชื้น และช่วยฆ่าเชื้อโรคต่างๆ ภายในห้อง ถ้าหากช่วงกลางวันที่แดดแรงเกินไป ลองหาม่านกรองแสง และม่านกันยูวีมาติดไว้ 2 ชั้นเพื่อกรองความร้อน เท่านี้ห้องก็เย็นสบาย และยังปราศจากเชื้อโรคอีกด้วย เหมาะกับคนที่ชอบแดดและไม่ชอบให้ห้องอับ จะเห็นได้ว่าทุกทิศมีจุดเด่นและจุดด้อยที่แตกต่างกันไป แต่การเลือกห้อง ไม่ว่าจะเพื่ออยู่เองหรือปล่อยเช่า ทิศห้องอาจจะไม่ใช่ปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการเลือกซื้อ สิ่งสำคัญ คือเลือกให้เหมาะกับกำลังทรัพย์ และสะดวกสบายกับไลฟสไตล์ของเราที่สุด ส่วนจุดด้อยของแต่ละทิศนั้น สามารถแก้ได้ง่ายด้วยการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ตกแต่งห้อง หรืออุปกรณตกแต่งเพื่อช่วยระบายความร้อนในห้อง พร้อมทั้งหมั่นทำความสะอาดและระบายอากาศเป็นประจำ เท่านี้ก็จะอยู่อาศัยได้สบายกายและยังมีสุขอนามัยที่ดีอีกด้วย บทความที่เกี่ยวข้อง: 7 วิธีจัดห้องเช่าให้ปัง มัดใจผู้เช่าให้ไว ซื้อคอนโดไม่เสียค่าคอมฯ ทำอย่างไร เลือกโทนสีตามวันเกิด แต่งห้องให้ถูกโฉลก หาข้อมูลคอนโดที่คุณต้องการได้ที่นี่: คอนโดสุขุมวิท, คอนโดให้เช่า, คอนโดจตุจักร, ขายคอนโด, คอนโดทองหล่อ, ทรัพย์สินรอการขาย, Bangkok condo for rent, คอนโดพระราม 4, Property Management พลัสฯ ช่วยหาอสังหาที่ใช่ ผ่านที่ปรึกษาที่รู้จริง ตัวแทนด้านอสังหาริมทรัพย์ รับฝากขาย ปล่อยเช่า และการซื้อขายคอนโดมือสอง ครบทุกขั้นตอน พร้อมบริการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับที่อยู่อาศัย ด้วยทีมงานระดับคุณภาพ หากสนใจอยากทราบข้อมูลเพิ่มเติมของโครงการคอนโดสามารถโทรติดต่อขอคำปรึกษาได้ที่ 02688 7555 หรือ คลิกที่นี่
3 วิธีปลูกผักสวนครัวในคอนโดไว้กินเอง เพิ่มพื้นที่สีเขียว

ในยุคที่เศรษฐกิจข้าวยากหมากแบบนี้ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อสัตว์หรือแม้แต่ผักสวนครัวก็ราคาสูงไปหมด การปลูกผักสวนครัวกินเองก็ถือเป็นอีกวิธีที่สามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันได้ ยิ่งไลฟ์สไตล์ของคนในปัจจุบันนี้ ถูกห้อมล้อมไปด้วยคอนกรีต ยิ่งเราพักอาศัยอยู่ในคอนโดก็ไม่มีพื้นที่ในการปลูกมากมายเหมือนกับการอยู่บ้าน สวนสวยที่เคยจินตนาการไว้คงเป็นได้แค่ฝัน แต่ทุกปัญหามีทางออกเสมอ พลัสฯ มาแบ่งปันไอเดียสุดปังย่อขนาดสวนในฝันให้เล็กลงเพิ่มพื้นที่สีเขียวภายในคอนโดและสร้างมันให้เป็นจริงได้ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ริมระเบียนหรือพื้นที่เล็กๆ ภายในห้องครัว ทั้งประหยัดค่าใช้จ่าย แถมยังไม่ต้องกังวลเรื่องสารพิษตกค้างในผักตามท้องตลาด มั่นใจได้ว่าปลอดภัยต่อร่างกายอย่างแน่นอน วิธีที่ 1 : จัดพื้นที่สำหรับปลูกผักสวนครัวริมระเบียง การปลูกผักสวนครัวไว้ที่ริมระเบียง นอกจากเป็นการเพิ่มพื้นที่สีเขียวภายในห้องพักแล้ว ยังเป็นจุดที่ผักได้รับแสงแดด แถมยังเป็นมุมที่เราสามารถไปยืนสูดอากาศ พักผ่อนหย่อนใจในช่วงกลางวันหรือหลังเวลาเลิกงาน นอกจากนี้การปลูกผักลงในกระถางก็สามารถใช้เป็นของตกแต่งห้องได้ และยังช่วยเติมเต็มบรรยากาศห้องพักได้อีกด้วย วิธีที่ 2 : เลือกชนิดผักสวนครัวให้เหมาะสมกับพื้นที่ของคุณ แนะนำผักสวนครัวยอดฮิต 3 ชนิด ที่นิยมปลูกในคอนโด ต้นอ่อนทานตะวัน เป็นผักที่สามารถเก็บกินได้ภายใน 7 วัน ดูแลรักษาง่าย และอุดมไปด้วยคุณประโยชน์มากมาย อร่อย ทานง่ายไม่เหม็นเขียว Photo Credit : www.organicfarmthailand.com ผักบุ้ง เป็นผักที่สามารถเป็นผลผลิตกินได้เรื่อยๆ วิธีการดูแลเพียงแค่รดน้ำเช้า-เย็นทุกวัน เวลาจะนำไปปรุงอาหาร ให้ตัดเหลือตาไว้ 2 ข้อนิ้วนับจากพื้นดิน Photo Credit : www.medium.com พริกขี้หนู วัตถุดิบ Must Have ของอาหารไทยหลายเมนู สามารถทนความแล้งได้อย่างดี ช่วงเริ่มแรกให้หมั่นรดน้ำวันละ 2 ครั้งเช้า-เย็น หลังสัปดาห์ที่ 7 เป็นต้นไป รดน้ำเพียงสัปดาห์ละ 1 ครั้งเท่านั้น Photo Credit : www.thairath.co.th วิธีที่ 3 : ใส่ใจในทุกขั้นตอน แม้ว่าการปลูกผักในคอนโดจะเป็นพื้นที่สีเขียวขนาดย่อมแต่เราก็ควรหมั่นดูแลและใส่ใจ หากต้องการจะปลูกผักสวนครัวชนิดไหน เราควรจะศึกษาข้อมูลของพืชชนิดนั้นว่าเหมาะสมกับขนาดพื้นที่ของเราหรือไม่ ชอบอุณหภูมิแบบใด ชอบน้ำหรือชอบแล้ง ควรได้รับแสงแดดมากน้อยแค่ไหน เราก็จะได้ผักสวนครัวที่ดีและมีคุณภาพ สิ่งนี้คือหัวใจสำคัญในการปลูกพืชไม่ว่าจะชนิดใดก็ตาม นอกเหนือไปจากนั้น การเฝ้ามองการเจริญเติบโตของผลผลิตที่เราปลูกมาเองกับมือจนเห็น “ผลลัพธ์” นับว่าเป็นความสุขเล็กๆ ในชีวิตได้เช่นกัน ปัจจุบันโครงการที่อยู่อาศัยในความดูแลของ พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ได้มีการเปลี่ยนพื้นที่ส่วนกลางที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ให้เป็นแปลงผักสวนครัวกับโครงการ Backyard ที่สร้างประโยชน์มากมายแก่ลูกบ้านโครงการนั้นๆ เมื่อพืชผักเติบโตเต็มที่ พนักงานก็จะเก็บเกี่ยวผลผลิตเพื่อแจกจ่ายให้กับลูกบ้าน ทั้งนี้ นอกจากจะได้รับรอยยิ้มจากลูกบ้านแล้วนั้น การสร้างแปลงผักสวนครัวไว้ในโครงการยังสามารถช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียวได้อีกด้วย Backyardโครงการเปลี่ยนพื้นที่ว่าง (Waste space) ในโครงการให้กลายเป็นพื้นที่สีเขียวที่ดูแลด้วยใจ มีทั้งผักสวนครัว ผักใบเขียว และผลไม้ เพื่อส่งต่อผลผลิตสดๆ ปลอดสารพิษจากสวนถึงมือลูกบ้าน เราสร้างสวนผักกินได้ทั้งคอนโดมิเนียมและบ้านเดี่ยว เพื่อสร้างกรีนคอมมูนิตี้ และแบ่งปันสิ่งดีๆ ต่อกันในชุมชน บทความที่เกี่ยวข้อง 10 เคล็ดลับแต่งห้องให้ดูสว่างช่วงหน้าฝน ดูแลหินอ่อนอย่างไร ให้สวยคงอยู่ตลอดไป วิธีดูแลสนามหญ้าหน้าบ้านให้เขียวขจี พร้อมตัวอย่างพันธุ์หญ้าแต่ละชนิด ค้นหาคอนโดที่คุณต้องการได้ที่นี่: คอนโดพร้อมอยู่, คอนโดให้เช่า, เช่าคอนโด, คอนโดทองหล่อ, ทรัพย์สินรอการขาย พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ตัวแทนด้านอสังหาริมทรัพย์ รับฝากขายปล่อยเช่า และการซื้อขายคอนโดมือสอง ครบทุกขั้นตอน พร้อมบริการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับที่อยู่อาศัย ด้วยทีมงานระดับคุณภาพ หากสนใจอยากทราบข้อมูลเพิ่มเติมของโครงการคอนโดสามารถโทรติดต่อขอคำปรึกษาได้ที่ 02688…
5 วิธี การอยู่อาศัยในคอนโดกับสภาวะที่มีฝุ่นละออง

ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑลที่ดูเหมือนจะยังไม่เบาบางลง สร้างความกังวลใจให้กับผู้ที่ใช้ชีวิตในเมืองกรุงเป็นอย่างมาก แม้ว่าการแก้ปัญหาในระยะยาวอาจต้องใช้เวลาและความร่วมมือจากหน่วยงานต่างๆ ตลอดจนแนวนโยบายมหภาคเข้ามาแก้ปัญหาดังกล่าว แต่ในระยะสั้นเราทุกคนควรร่วมกันป้องกันตนเองและครอบครัวจากฝุ่นละอองก่อน โดยเฉพาะผู้ที่อาศัยอยู่ในอาคารสูงหรือคอนโดมิเนียม พลัส พร็อพเพอร์ตี้ โดยฝ่ายบริหารอาคารที่พักอาศัย จากบทบาทหน้าที่ในการดูแลชีวิตความเป็นอยู่และความปลอดภัยของลูกบ้าน มีข้อแนะนำการอยู่อาศัยในคอนโดให้ปลอดภัยจากฝุ่นละอองเพื่อเป็นแนวทางการป้องกันตนเองจากภัยร้ายให้ทุกท่านได้พิจารณานำไปใช้กันครับ 1. เพิ่มพื้นที่สีเขียว ปลูกต้นไม้แนวดิ่งในคอนโด คณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ให้ข้อมูลว่าสิ่งที่ปกป้องชีวิตเราได้ดีจากมลภาวะในอากาศก็คือพืช โดยพืชแต่ละชนิดต่างก็มีคุณลักษณะที่สามารถช่วยบรรเทาปัญหาฝุ่นที่จะเข้าสู่ร่างกายได้ซึ่งสามารถดักจับฝุ่นละอองได้ 10-90% ขึ้นกับชนิดของพืช แม้ว่าโครงสร้างของผิวใบจะดูดซับหรือจับตัวฝุ่นได้ 10 ไมครอน แต่ฝุ่น PM2.5 ก็สามารถช่วยดักจับได้ในระดับหนึ่งเช่นกัน หากเลือกอยู่ในโครงการที่มีพื้นที่สีเขียวมากมาย ซึ่งนอกจากจะเป็นพื้นที่ให้ลูกบ้านได้พักผ่อนใกล้ชิดกับธรรมชาติแล้ว ต้นไม้ใหญ่ ไม้ประดับตกแต่ง พุ่มไม้เหล่านั้น ยังเป็นเสมือนเครื่องกรองอากาศที่ทำหน้าที่ฟอกก๊าซพิษ รวมทั้งฝุ่นละออง PM 2.5 ให้กับผู้อยู่อาศัย โดยละอองฝุ่นที่ล่องลอยในอากาศจะติดค้างอยู่บนผิวใบ และเมื่อฝนตกลงมาฝุ่นเหล่านี้ก็จะถูกชะล้างลงดินไปแทนการถูกสูดดมเข้าร่างกายจนเป็นอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจ เรียกได้ว่าพื้นที่สีเขียวที่โครงการ มีส่วนช่วยให้คุณภาพอากาศภายในที่พักอาศัยดีขึ้น 2. สร้างอากาศดีในห้อง แม้ว่าจะไม่ได้เปิดประตูหรือหน้าต่างแต่ก็อาจมีฝุ่นละอองที่เล็ดลอดเข้ามาในห้องได้ ดังนั้นจึงควรหมั่นทำความสะอาด ดูดฝุ่น เช็ดฝุ่น กำจัดสิ่งสกปรกอยู่เสมอ นอกจากนี้การปลูกต้นไม้ภายในห้องพักและริมระเบียงห้องพัก ก็สามารถช่วยฟอกอากาศได้อีกด้วย เช่น ต้นจั๋ง ว่านหางจระเข้ สาวน้อยประแป้ง ต้นจั๋ง เป็นพืชในตระกูลปาล์ม เป็นพืชที่ต้องการแสงแดดพอสมควร ไม่ต้องการน้ำมาก ขยายพันธุ์โดยการใช้หน่ออ่อนไปปลูก ซึ่งมีคุณสมบัติดูดซับสารพิษในอากาศได้ดีมาก ว่านหางจระเข้ เป็นพืชที่คนนิยมนำมารักษาแผล บำรุงผิวและผม ยังมีคุณสมบัติช่วยดูดซับสารพิษจำพวกฟอร์มัลดีไฮด์ ซึ่งเป็นสาเหตุของการระคายเคืองต่อผิวหนังและดวงตา ปวดศีรษะ ไปจนถึงโรคหอบหืด สาวน้อยประแป้ง เรียกอีกชื่อว่า สโนว์ดรอป ชอบอยู่ในที่ร่มรำไร ต้องการความชื้นสูง จึงไม่ควรให้ถูกแดดโดยตรง สามารถดูดสารพิษได้ในระดับปานกลางถึงมาก 3. หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมกลางแจ้ง ในช่วงนี้การทำกิจกรรมทุกอย่างควรจะอยู่ในที่ปิด เช่น ออกกำลังกายในฟิตเนส แต่หากมีความจำเป็นต้องทำกิจกรรมหรืออยู่กลางแจ้ง แม้จะเป็นในบริเวณคอนโดก็ควรป้องกันโดยการใส่หน้ากากอนามัย ซึ่งต้องเป็นชนิด N95 จึงจะสามารถกรองฝุ่นละอองขนาด 2.5 ไมครอนได้ 4. หมั่นสังเกตอาการผิดปกติของร่างกาย หากมีอาการดังต่อไปนี้ จาม แสบจมูก น้ำมูกไหล ไอ เจ็บคอ มีเสมหะ โดยเฉพาะในเด็กและผู้สูงอายุ หรือผู้ที่มีโรคประจำตัว ต้องระมัดระวังมากเป็นพิเศษ เนื่องจากฝุ่นพิษชนิดนี้ส่งผลกระทบต่อร่างกายทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ดังนี้่ กระตุ้นให้คนที่มีโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจเรื้อรังเกิดอาการกำเริบ เช่น โรคจมูกอักเสบภูมิแพ้ โรคหอบหืด และโรคถุงลมโป่งพอง กระตุ้นให้คนที่มีโรคระบบหัวใจและหลอดเลือดเรื้อรังเกิดอาการกำเริบ โดยเฉพาะโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด สำหรับผลกระทบระยะยาวจะส่งผลให้การทำงานของปลอดถดถอย อาจเกิดโรคถุงลมโป่งพองแม้ไม่ได้สูบบุหรี่ก็ตาม และมีโอกาสเสี่ยงเป็นมะเร็งปอด ในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉินควรมีเบอร์โทรหรือแจ้งนิติบุคคลเพื่อขอความช่วยเหลือได้ทันท่วงที 5. ร่วมมือกันลดปัจจัยเสี่ยงด้านฝุ่นละอองในคอนโด ร่วมมือกันสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีในคอนโด เช่น ไม่กวาดเศษขยะทิ้งบริเวณหน้าห้องหรือระเบียง ไม่สตาร์ทเครื่องยนต์ทิ้งไว้ในบริเวณพื้นที่ส่วนกลางเป็นเวลานาน หลีกเลี่ยงการทำให้เกิดการเผาไหม้ในที่โล่งแจ้ง นอกจากนี้นิติบุคคลควรเพิ่มการดูแลทำความสะอาดบริเวณส่วนกลางให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น กวาดและทำความสะอาดฝุ่นอย่างสม่ำเสมอแต่หลีกเลี่ยงช่วงเวลาที่มีลูกบ้านจำนวนมาก เพื่อป้องกันไม่ให้ฝุ่นฟุ้งกระจายรบกวนลูกบ้าน และหมั่นดูแลสวนและต้นไม้ให้ร่มรื่นอยู่เสมอ พลัส…
คณะกรรมการนิติบุคคลอาคารชุดคือใคร

ข้อควรรู้เกี่ยวกับคณะกรรมการนิติบุคคลอาคารชุด ก่อนอื่นต้องอธิบายคำว่าคณะกรรมการนิติบุคคลกันสักนิดว่าเป็นใคร ทำหน้าที่อะไรในคอนโดบ้าง คณะกรรมการนิติบุคคลอาคารชุดหรือคอนโด คือ ตัวแทนของเจ้าของร่วม หรือตัวแทนเจ้าของคอนโด ที่เป็นผู้กำหนดนโยบายและเป็นผู้ควบคุมงบประมาณนั่นเอง สำหรับคอนโด หรือตึกสูง พ.ร.บ.อาคารชุด ระบุเอาไว้ชัดเจนว่าจะต้องไม่ต่ำกว่า 3 และไม่เกิน 9 ต่อหนึ่งนิติบุคคล ต่อไปนี้เป็นทริคเล็กๆ น้อยๆ สำหรับเจ้าของ หรือบุคคลที่กำลังคิดจะเป็นคณะกรรมการนิติบุคคลอาคารชุด ไว้ใช้เป็นแนวทางนะครับ ความหลากหลาย และร่วมระดมสมอง คณะกรรมการนิติบุคคลอาคารชุดที่ดี ควรจะประกอบด้วยตัวแทนจากหลากหลายสายงาน เช่น การเงิน วิศวกร การตลาด ทนาย เป้นต้น เพื่อจะนำความรู้ในสายงานของตนเองมาส่งเสริมการกำหนดแนวทางในการบริหาร เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดแก่เจ้าของร่วมโดยไม่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนบุคคล รวมถึงร่วมกันให้มุมมองที่แตกต่างในการช่วยแก้ปัญหาแต่ละเรื่องด้วย 4 นิติบุคคล ผู้นำคอนโดให้ยั่งยืน มากกว่าแค่การดูแล เมื่อบริษัทบริหารนิติบุคคลสามารถช่วยรักษาและเพิ่มมูลค่าของโครงการที่อยู่อาศัย นิติบุคคลคอนโด เลือกอย่างไรไม่ให้พลาด แถมลูกบ้านแสนสุข ประชุมประจำปีสำคัญไฉน หนึ่งในปัญหาที่พบเจอตลอดเมื่ออยู่คอนโดคือการที่เจ้าของร่วมไม่ยอมเข้าประชุมประจำปี เพราะคนทั่วไปมีทั้งไม่ทราบความสำคัญ คิดว่าเป็นการเสียเวลา และรู้สึกเบื่อกับการประชุมในแต่ละครั้งที่กินเวลานาน คณะกรรมการนิติบุคคลอาคารชุดมีส่วนช่วยได้มากในการจูงใจให้เจ้าของร่วมเข้าประชุมประจำปี ตั้งแต่ช่วยประกาศและเตือนเจ้าของร่วมให้มาร่วมประชุม กำชับให้นิติบุคคลเตรียมเอกสารให้พร้อม รวมไปจนถึงรวบรัดให้ขั้นตอนการประชุมชัดเจนและกระชับที่สุด เพื่อให้ผู้มาร่วมประชุมรู้ได้รับประโยชน์สูงสุดและสามารถทำธุระอื่นต่อได้ 5 เรื่องสำคัญ ประชุมใหญ่ประจำปีที่ห้ามพลาด ทำตามกฎ จัดตามระเบียบ กฎต่างๆ ที่ได้ตกลงไว้ร่วมกันระหว่างเจ้าของร่วมแล้ว คณะกรรมการนิติบุคคลอาคารชุดก็มีหน้าที่ต้องทำตามไม่ต่างกัน และยิ่งต้องทำตามอย่างเคร่งครัด เพื่อไม่ให้เป็นที่กล่าวหาได้ว่ามีสิทธิพิเศษเหนือเจ้าของร่วมคนอื่น ยกตัวอย่างเช่นปัญหาการค้างชำระหรือชำระค่าส่วนกลางล่าช้า หนึ่งปัญหาที่มักพบบ่อยในการอยู่ร่วมกันในคอนโด หากคณะกรรมการนิติบุคคลคอนโดไม่ค้างชำระแล้ว ก็สามารถพูดได้เต็มปาก สอบถามเจ้าของร่วมคนอื่นให้จ่ายให้ตรงเวลาได้ เพราะเงินค่าส่วนกลางนั้นเป็นเงินสำคัญในการนำมาปรับปรุงส่วนกลางและพัฒนาส่วนต่างๆ ของอาคาร ถือเป็นประโยชน์ต่อทุกๆ คนที่อยู่ร่วมกันในคอนโด 5 ประโยชน์ จากเงินกองทุนคอนโด เรื่องราวการดูแลที่มากกว่าหน้าที่ กับงานบริหารนิติบุคคลคอนโด นอกเหนือจากเรื่องการประชุม การใช้ประสบการณ์และทำตามกฎแล้ว คณะกรรมการนิติบุคคลอาคารชุดอาจมีสิทธ์พบเจอปัญหาอื่นๆ ที่ต้องแก้ไขและรับมืออีก เช่น ใช้ทรัพย์ส่วนกลางกันจนเสียหาย ปัญหาน้ำรั่วน้ำซึม ค่าไฟฟ้าส่วนกลางที่แพงเกินไป เงินค่าส่วนกลางที่เก็บเกินจริงส่วนต่างหายไป ยาม และแม่บ้านละเลยหน้าที่ ฯลฯ หน้าที่อันสำคัญนี้คือสิ่งที่คณะกรรมการนิติบุคคลคอนโดต้องเจอ หากได้ผู้มีประสบการณ์และเป็นมืออาชีพเข้ามาเป็นคนช่วยบริหาร ก็จะช่วยแบ่งเบาภาระได้มาก สำหรับท่านใดที่มีคำถามสามารถติดต่อ Plus Property ทางเราพร้อม และยินดีช่วยเสมอครับ พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ผู้เชี่ยวชาญบริการอสังหาฯ ครบวงจร ที่ตอบโจทย์ได้ทุกความต้องการ บริหารงานนิติบุคคลคอนโด หมู่บ้าน อาคารสถานที่ ที่ปรึกษางานขายโครงการ และตัวแทนซื้อ ขาย เช่า คอนโดมือสอง ด้วยทีมงานระดับคุณภาพกับประสบการณ์ที่มากกว่า 20 ปี เติมเต็มทุกความต้องการอย่างแท้จริง สนใจติดต่อเพื่อรับข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 02 688 7555 หรือ plus.co.th/contactus ค้นหาบริการเพิ่มเติม: บริหารงานนิติบุคคลคอนโด, บริหารอาคารสถานที่, ที่ปรึกษางานขายโครงการ, ตัวแทนซื้อ ขาย เช่า คอนโดมือสอง , LIV-24 ศูนย์สังเกตการณ์ระบบรักษาความปลอดภัย หาข้อมูลคอนโดที่คุณต้องการได้ที่นี่: คอนโดสุขุมวิท, คอนโดให้เช่า, คอนโดจตุจักร, ขายคอนโด, คอนโดทองหล่อ, คอนโดพระราม 4, ระบบรักษาความปลอดภัย, บ้านหรู, คอนโดหรู, คอนโด 2 ห้องนอน, คอนโดอ่อนนุช, บ้านแสนสิริ