รวบตึงทุกคำถาม ค่าส่วนกลางคอนโด หมู่บ้าน คืออะไร จ่ายแล้วไปไหน

ค่าส่วนกลางคืออะไร เป็นเพียงค่าใช้จ่ายเพื่อใช้บริการพื้นที่ส่วนกลางเท่านั้นหรือไม่? แล้วจำเป็นต้องจ่ายไหม? ถ้าไม่จ่ายจะเกิดอะไรขึ้น? พลัสฯ รวบตึงคำถามที่หลายคนสงสัยมาไว้ให้แล้ว ที่อยู่อาศัยไม่ว่าจะเป็นบ้าน คอนโด ทาวน์โฮม มีความสำคัญอย่างยิ่งกับผู้พักอาศัยทุกคน เนื่องจากเราเองต้องดำรงชีวิตอยู่กับสิ่งปลูกสร้างเหล่านี้ ไม่ว่าคุณจะซื้อมาในราคาเท่าไหร่ก็ย่อมอยากจะให้โครงการที่เราอยู่อาศัยมีการจัดการที่ดี สภาพแวดล้อมสวยงาม สะอาด ปลอดภัย ใช้ชีวิตอย่างสะดวกสบาย ไปตลอด ดังนั้น เมื่อตัดสินใจ ซื้อบ้าน ซื้อคอนโด แล้ว ย่อมต้องมีค่าส่วนกลาง และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ตามมาแน่นอน เพื่อให้คุณได้ใช้ชีวิตได้ตามที่คิดไว้ ค่าส่วนกลางคอนโด ค่าส่วนกลางหมู่บ้าน คืออะไร? ค่าส่วนกลาง หรือในต่างประเทศจะใช้คำภาษาอังกฤษว่า Maintenance Fee, Common Fee ตามกฎหมายพรบ. นิติบุคคลอาคารชุด คือ เงินค่าใช้จ่าย เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายดำเนินการส่วนกลางของนิติบุคคลฯ เช่น การบริการ การดูแลรักษาพื้นที่ส่วนกลาง สิ่งอำนวยความสะดวก หรือการใช้เครื่องมือที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน รวมถึงค่าสาธารณูปโภค และการชำระภาษีต่างๆ การคำนวณค่าส่วนกลางคิดอย่างไร ค่าส่วนกลางจะถูกเรียกเก็บกับเจ้าของร่วมทุกคน ไม่ว่าจะเข้ามาอยู่อาศัยหรือใช้บริการสิ่งอำนวยความสะดวกหรือไม่ก็ตาม โดยจะคำนวณค่าใช้จ่ายจากขนาดพื้นที่ที่เป็นเจ้าของ หากคุณเป็นเจ้าของห้องชุดในคอนโดจะจัดเก็บเป็นอัตรา/ตารางเมตร และ บ้านจำคำนวณพื้นที่เป็นอัตรา/ตารางวา เช่น ค่าส่วนกลางคอนโดมิเนียมขนาดพื้นที่ 34 ตารางเมตร คิดอัตรา 50 บาท/ตารางเมตร ชำระรายปี จะมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 20,400 บาท/ปี ค่าส่วนกลางหมู่บ้านขนาดพื้นที่ 50 ตารางวา คิดอัตรา 45 บาท/ตารางวา ชำระรายปี จะมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 24,000 บาท/ปี ในโครงการที่มีจำนวนยูนิตจำนวนมาก ค่าส่วนกลางมักจะราคาไม่สูงเนื่องจากมีจำนวนตัวหารเยอะ ทั้งนี้อัตราการคิดค่าส่วนกลางในแต่ละโครงการ จะขึ้นอยู่กับระดับ Segment ของโครงการนั้นๆ ขนาดพื้นที่ และความหลากหลายของสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ บริษัทบริหารนิติบุคคล นำค่าส่วนกลางไปทำอะไรบ้าง จ่ายแล้วไปไหน? ค่าส่วนกลางที่เรียกเก็บจากเจ้าของร่วมในโครงการคอนโด หรือ โครงการหมู่บ้านจัดสรร นั้น นิติบุคคลฯ จะต้องนำมาบริหารค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เพื่อให้แน่ใจได้ว่าระบบหรืออุปกรณ์ต่างๆ จะสามารถใช้งานได้อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ สร้างความพึงพอใจแก่ผู้อยู่อาศัย ลดต้นทุนในการบำรุงรักษา ซึ่งนำมาสู่การสร้างมูลค่าให้แก่โครงการได้ สามารถแจกแจงรายละเอียดได้ดังนี้ ค่าใช้จ่ายตามสัญญา ในการว่าจ้างพนักงานฝ่ายบริหารอาคารฯ และช่างอาคาร, เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย, ฝ่ายรักษาความสะอาด, งานดูแลสวนหย่อม, งานกำจัดแมลง ฯลฯ ค่าใช้จ่ายสาธารณูโภค ไม่ว่าจะเป็นค่าไฟฟ้า, ค่าน้ำประปา, ค่าโทรศัพท์, อินเตอร์เนท ค่าใช้จ่ายอุปกรณ์สำนักงานต่างๆ ที่นิติบุคคลอาคารชุดฯใช้ประกอบในการปฏิบัติงานประจำวัน เช่น อุปกรณ์เครื่องเขียน, ซองจดหมาย, แบบฟอร์มใบแจ้งหนี้ใบเสร็จรับเงิน และ ฯลฯ ค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมบำรุงรักษา ไม่ว่าจะเป็นค่าซ่อมแซม ค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษา การจัดซื้อสารเคมีดูแลสภาพน้ำในสระว่ายน้ำ, การเติมน้ำมันระบบปั้มดับเพลิง, ค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมอุปกรณ์/เครื่องจักร, ฯลฯ ทั้งนี้ยิ่งอาคารชุดมีอายุมากขึ้น การเสื่อมสภาพ และการชำรุดของเครื่องจักรต่างๆ…
มารยาทการอยู่ร่วมกันบนตึกสูง ว่าด้วยเรื่องของการใช้ลิฟต์

คนเมืองส่วนใหญ่ในแต่ละวันใช้ชีวิตร่วมกันอยู่ในอาคารสูง ไม่ว่าจะเป็นการทำงานในอาคารออฟฟิศหรือการพักอาศัยในคอนโดฯ ดังนั้นจึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องใช้บริการสิ่งอำนวยความสะดวกในอาคารร่วมกัน การที่จะทำให้คนจำนวนมากใช้งานอาคารได้อย่างดี มีความคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพนั้น ส่วนหนึ่งนอกจากในเรื่องความทันสมัย เทคโนโลยีและความอัจฉริยะของระบบแล้ว ความมีระเบียบหลักเกณฑ์ และมีมารยาทในการใช้งานบริการสิ่งอำนวยความสะดวกก็เป็นสิ่งที่ควรปฏิบัติในสังคมของการใช้ชีวิตร่วมกันในอาคารเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์ปัจจุบันที่เชื้อ COVID-19 ได้เข้ามาปรับเปลี่ยนพฤติกรรการอยู่อาศัยของคนไปอย่างมาก จนกลายเป็นปรากฏการณ์ New Normal ที่ไม่ว่าใครต้องปรับตัวตาม Plus Property มีแนวทางการใช้ลิฟต์ให้ถูกวิธีเพื่อความสะดวกรวดเร็ว และปลอดภัย ที่มีวิธีปฏิบัติได้ง่ายๆ ดังนี้ 1. การกดปุ่มเรียกลิฟต์ ควรใช้อุปกรณ์ช่วยกดปุ่มขึ้นหรือลงที่ปุ่มกดหน้าชั้นเพื่อลดการสัมผัส เพียงปุ่มเดียว และครั้งเดียว การกดปุ่มเรียกลิฟต์ซ้ำ หลายๆ ครั้ง ไม่ช่วยให้ลิฟต์มารับได้เร็วขึ้น แต่กลับจะทำ ให้ปุ่มกดเรียกลิฟต์มีอายุการใช้งานสั้นลง นอกจากนี้การกดปุ่มเรียกลิฟต์ทั้ง 2 ปุ่ม (ขึ้น-ลง) จะทำ ให้ลิฟต์ทำงานช้าลง หลังจากกดเรียกลิฟต์เรียบร้อยแล้ว ให้คอยดูหรือฟังสัญญาณเสียงแจ้งว่าลิฟต์วิ่งมารับแล้ว 2. การเข้าในลิฟต์โดยสาร ก่อนที่ผู้โดยสารจะเดินเข้าไปใช้บริการ ควรให้ผู้โดยสารที่อยู่ภายในลิฟต์เดินออกมาก่อนทุกครั้ง เมื่อเข้าไปแล้วควรเดินชิดใน และเข้าใช้บริการไม่เกินจำนวนที่ฝ่ายจัดการฯ กำหนด เพื่อลดความแออัด หากมีสัมภาระควรพิจารณาว่าสามารถเข้าใช้บริการลิฟต์ตัวดังกล่าวได้หรือไม่ ถ้าไม่ได้ให้รอในรอบถัดไป หรือใช้ลิฟต์ตัวอื่น ในกรณีเร่งด่วนสามารถขออนุญาตผู้ใช้บริการร่วมเพื่อขอใช้บริการก่อนได้ 3. การกดปุ่มชั้นจุดหมายปลายทางที่ต้องการจะไป เมื่อเข้าไปในห้องโดยสารแล้ว กดปุ่มหมายเลขชั้นที่ต้องการจะไป แล้วถอยหลังมายืนด้านในของห้องโดยสาร เพื่อให้ผู้โดยสารคนอื่นๆ สามารถเข้าออกจากลิฟต์ได้โดยสะดวก ถ้าต้องการให้ประตูเปิดนานกว่าปกติ ให้กดปุ่ม “Door Open” ค้างไว้ ผู้ที่อยู่ใกล้แผงปุ่มกดลิฟต์ ควรต้องเป็นผู้กดปุ่มให้ประตูเปิดจนกว่าผู้โดยสารท่านอื่นจะเข้า-ออกเรียบร้อย และสอบถามผู้โดยสารในลิฟต์ว่าจะไปชั้นใด เพราะบางครั้งอาจจะไม่สามารถมากดปุ่มเลือกชั้นได้ 4. การขวางประตูลิฟต์ ถ้าประตูลิฟต์เกือบปิดสนิทแล้วขณะที่กำลังจะเข้าลิฟต์ ให้ถอยออกมาแล้วกดปุ่มเรียกลิฟต์ เพื่อเรียกลิฟต์ตัวอื่น การใช้มือ เท้า หรือวัตถุอื่นๆ เช่น ร่ม เพื่อหยุดการปิดประตูของลิฟต์ อาจเป็นสาเหตุให้ได้รับบาดเจ็บ หรือทำให้อุปกรณ์บางอย่างชำรุดเสียหายได้ 5. การสังเกตระดับชั้นก่อนเข้าหรือออกจากห้องโดยสาร ถึงแม้ว่าลิฟต์ในปัจจุบันนี้ถูกออกแบบให้จอดระดับชั้นใกล้เคียงกับระดับพื้นของอาคารมาก แต่อย่างไรก็ตามอาจมีบางครั้งที่ระดับชั้นในการจอดชั้นเพี้ยนไป ดังนั้น อย่าก้าวหรือออกจากลิฟต์ โดยไม่สังเกตระดับพื้นห้องโดยสารก่อน และถ้าหากสังเกตุเห็นระดับชั้นในการจอดของลิฟต์ผิดเพี้ยนไป ควรแจ้งให้ผู้มีหน้าที่ดูแลรักษาเข้ามาทำการดูแลแก้ไขต่อไป 6. การออกจากลิฟต์อย่างถูกต้อง เมื่อลิฟต์จอดเสมอชั้นและประตูเปิดออกแล้ว ควรให้ผู้โดยสารที่ต้องการออกจากลิฟต์และอยู่ใกล้ประตูควรจะออกก่อน โดยไม่ต้องเกี่ยงกันว่าเพศใดหรือวัยใดควรออกก่อนหรือหลัง ถ้าลิฟต์จอดก่อนชั้นที่เราต้องการจะออก ให้เขยิบไปด้านข้าง เพื่อให้ผู้โดยสารท่านอื่นๆ เข้าหรือออกจากลิฟต์ได้รวดเร็วและปลอดภัย 7. การสำรวมกิริยามารยาท เมื่อต้องการใช้งานลิฟต์ ควรให้ผู้ที่ยืนรออยู่ก่อน เด็กและผู้สูงอายุใช้บริการก่อน ไม่ควรทานอาหาร หรือพูดคุยหยอกล้อเสียงดังในขณะใช้บริการลิฟต์ ไม่ทำให้ผู้โดยสารท่านอื่นๆ เสียเวลาโดยการขัดจังหวะการปิดประตูลิฟต์เพื่อพูดคุยกับผู้อยู่นอกลิฟต์ การสูบบุหรี่ที่จะเป็นการรบกวนผู้โดยสารท่านอื่นๆ ดังนั้น ควรดับบุหรี่ก่อนเข้าไปในลิฟต์ทุกครั้ง การใช้ลิฟต์ร่วมกันในภาวะฉุกเฉิน เมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินต่างๆ เช่น กระแสไฟฟ้าดับ ไฟไหม้ หรืออื่นๆ ข้อควรระวังคือ ไม่ควรใช้ลิฟต์เป็นเส้นทางหนีไม่ว่ากรณีใดๆ…
7 วิธีจัดห้องเช่าให้ปัง มัดใจผู้เช่าให้ไว

สำหรับนักลงทุนคอนโดที่ ลงทุนซื้อคอนโด เพื่อทำกำไรในการปล่อยเช่าคอนโดนั้น การให้ความสำคัญกับการตกแต่งห้องเช่าให้ดูมีราคา และน่าอยู่อาศัย จะช่วยสร้างบรรยากาศให้ผู้เช่าอยากอยู่อาศัยและตัดสินใจเช่าได้ง่ายขึ้น เคล็ดลับสำคัญ ที่ทำได้ง่ายๆ เพื่อดึงดูดความสนใจของผู้เช่า ไม่ให้สามารถปฎิเสธได้ ทำได้ด้วยวิธีดังนี้ 1. ทำความสะอาดห้องเพื่อให้ห้องดูใหม่อยู่เสมอ ความประทับใจแรกเป็นสิ่งสำคัญเมื่อผู้เช่ามาเยี่ยมชมห้องของเราเป็นครั้งแรก ห้องที่ดูสะอาดสะอ้านจะทำให้รู้สึกถึงความน่าอยู่อาศัย ดังนั้นเจ้าของห้องควรเตรียมทำความสะอาดห้องให้ปราศจากฝุ่นและคราบสกปรกต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตามหน้าบานกระจกต่างๆ หน้าต่างห้อง รวมถึงกระจกในห้องน้ำ และตู้อาบน้ำ เพราะหากทิ้งคราบอันไม่น่าพึงประสงค์ไว้แล้ว จะทำให้ห้องดูเก่า และขาดการดูแล ไม่น่าอยู่อาศัย ทำความสะอาดให้ห้องดูใหม่อยู่เสมอ เพื่อการปล่อยเช่าคอนโดให้ได้ง่ายขึ้น 2. จัดเก็บห้องให้เป็นระเบียบ หากการนัดเยี่ยมชม เป็นห้องที่ยังมีผู้พักอาศัยอยู่ หรือเรายังพักอาศัยอยู่ในห้องนั้น แต่ต้องการปล่อยเช่าคอนโดควรทำการจัดเก็บข้าวของเครื่องใช้ให้เป็นระเบียบ เก็บสิ่งของไม่จำเป็นเข้าตู้ให้เรียบร้อย จัดเก็บที่นอน พับผ้าห่ม คลุมผ้าคลุมเตียงให้ดูน่านอน รวมถึงล้างจานชามที่อยู่ในครัว และนำขยะมีกลิ่นไปทิ้ง เพื่อสร้างบรรยากาศที่ดีให้กับห้องดูน่าอยู่อาศัย 3. ซ่อมแซมห้องให้อยู่ในสภาพดี บ่อยครั้งจุดเสียหายเล็กๆ น้อยๆ ภายในห้อง ก็สามารถทำให้ผู้เช่าตัดสินใจไม่เช่าห้องได้ เพราะกลัวเกิดความเสียหายเพิ่มมากขึ้นเมื่อเข้าพักอาศัย และทำให้ถูกปรับโดยการยึดเงินประกัน อีกหนึ่งความสำคัญที่ควรให้ความสำคัญในการปล่อยเช่าคอนโด คือควรทำการซ่อมแซมเฟอร์นิเจอร์ หรือ อุปกรณ์ต่างๆ ที่ชำรุดให้อยู่ในสภาพดี เช่น ซ่อมโซฟาที่ขาด ทำการเก็บสีบนผนังที่หลุดลอก เปลี่ยนหลอดไฟให้ใช้งานได้ ซ่อมท่อน้ำที่ตัน เพื่อให้ผู้เช่ามั่นใจได้ว่า จะไม่มีปัญหาเกิดขึ้นเมื่อย้ายเข้ามาพักที่ห้องนี้ 4. กำจัดกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ กลิ่น เป็นสิ่งที่ช่วยสร้างสัมผัสแรกที่ดี อีกทั้งช่วยสร้างบรรยากาศและเพิ่มมูลค่าให้กับคอนโดปล่อยเช่าได้ การใช้น้ำหอมปรับอากาศ หรือเปิดเครื่องทำอโรม่า โดยใช้กลิ่นธรรมชาติ อ่อนๆ เช่น กลิ่นลาเวนเดอร์ กลิ่นทุ่งหญ้า จะช่วยสร้างบรรยากาศให้น่าอยู่อาศัยมากขึ้น แต่ควรระวังไม่ใช้กลิ่นที่มีความฉุนและกลิ่นแรง เพราะอาจจะทำให้เวียนหัวได้ 5. ถ่ายเทอากาศและอุณหภูมิในห้อง ระหว่างที่เปิดห้องให้ผู้เช่าเข้าชม การถ่ายเทอากาศและอุณหภูมิในห้องเป็นสิ่งสำคัญ หากเราไปในช่วงเวลาที่ลมพัดเย็นสบายๆ ควรเปิดหน้าต่างให้ลมเข้าเพื่อเพิ่มจุดแข็งให้กับห้อง หรือหากเป็นห้องอยู่ในทิศที่แดดส่อง โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่เข้าเยี่ยมชม ควรปิดหน้าต่าง ปิดม่าน และเปิดแอร์ให้รู้สึกเย็นสบายไม่รู้สึกอบอ้าว 6. เติมบรรยากาศให้เหมือนห้องตัวอย่าง ห้องที่มีแต่เฟอร์นิเจอร์ ไม่มีการตกแต่ง จะทำให้รู้สึกธรรมดา แต่หากอยากจะมัดใจผู้เช่าให้ได้ไวแล้ว การสร้างบรรยากาศเป็นสิ่งสำคัญ เติมบรรยากาศให้ห้องดูสดใสน่าอยู่ขึ้น ด้วยการจัดวางพร็อพต่างๆ เช่น วางดอกไม้ประดับและนิตยสารเก๋ๆ บนโต๊ะรับแขก วางจานชาม ช้อน ส้อม แก้วน้ำ บนโต๊ะอาหาร ให้เสมือนหนึ่งได้ดูห้องตัวอย่างสวยๆ จากโครงการ นอกจากเพิ่มมูลค่าให้ห้องแล้ว ยังปิดดิลได้เร็วอีกด้วย แต่อย่าลืมบอกคนเช่าว่าของชิ้นไหนสำหรับตกแต่งเท่านั้น เพื่อป้องการเข้าใจผิดในภายหลัง 7. จัดห้องให้เสมือนผู้เช่าได้อยู่จริง การเติมไอเดียให้ผู้เช่าได้จินตนาการว่าตัวเองได้มาอยู่อาศัยในห้องนี้แล้ว จะช่วยให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น ดังนั้นการตกแต่งห้องให้ดูเสมือนจริง จะช่วยเพิ่มความน่าอยู่มากขึ้น ด้วยการตกแต่งง่ายๆ เช่น ใส่ปลอกหมอน ปูผ้าห่ม ผ้าคลุมเตียง ที่เป็นสีพื้น โทนสีเดียวกับห้อง แทนการปล่อยฟูกไว้โล่งๆ…
บริการหลังการขาย เรื่องสำคัญที่ผู้ซื้อคอนโดไม่ควรมองข้าม

บทความประจำคอลัมน์ PropNow โดย พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ที่ propholic.com โดย คุณอนุกูล รัฐพิทักษ์สันติ กรรมการผู้จัดการ การจะซื้อคอนโดซักห้อง หลายคนมักให้ความสำคัญกับเรื่องข้อมูลและความน่าสนใจของตัวโครงการ ทั้งเรื่องดีเวลล็อปเปอร์ผู้พัฒนาโครงการ ทำเลที่ตั้ง รูปแบบห้อง facility ส่วนกลาง หรือความเหมาะสมของราคา ซึ่งนี่ก็เป็นปัจจัยพื้นฐานเบื้องต้นในการพิจารณาเลือกซื้อคอนโด แต่มีสิ่งหนึ่งที่หลายคนมักจะมองข้ามไป นั่นก็คือเรื่อง “บริการหลังการขาย (After-Sales Service)” ซึ่งที่จริงแล้วเป็นเรื่องที่ควรให้ความสำคัญ เพราะการซื้อคอนโดไม่ใช่เพียงซื้อแล้วจบเลย แต่ยังมีเรื่องของการอยู่อาศัยเมื่อคอนโดสร้างเสร็จ หรือการขายต่อ-ปล่อยเช่า อีกด้วย ดังนั้นบริการหลังการขายจึงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญสำหรับผู้ที่จะซื้อคอนโด ที่ควรนำมาประกอบการพิจารณาตัดสินใจด้วย เพื่อให้ได้รับการดูแลที่ดีหลังการขายและไม่มีปัญหาจุกจิกกวนใจ เพื่อการตัดสินใจซื้อที่เหมาะสม คุ้มค่า บริการหลังการขายในมุมผู้ซื้อเพื่ออยู่อาศัย ผู้ที่ซื้อคอนโดเพื่ออยู่อาศัยเอง แน่นอนว่าเมื่อเราตัดสินใจซื้อห้องแล้วก็ย่อมอยากได้คอนโดที่อยู่แล้วพึงพอใจ ไม่มีปัญหา สภาพแวดล้อมในโครงการน่าอยู่ แต่คอนโดจัดเป็นที่อยู่อาศัยประเภทที่เป็นเจ้าของร่วมกัน นั่นหมายถึงการอยู่อาศัยร่วมกันของคนจำนวนมากที่มีพื้นฐานชีวิตที่แตกต่างกัน การจะอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุขโดยเกิดปัญหาน้อยที่สุดจึงต้องมีการบริหารจัดการ หรือที่เรารู้จักกันในบทบาทของทีมนิติบุคคล ที่ต้องทำหน้าบริหารจัดการภาพรวมในโครงการ ทั้งเรื่องกฎระเบียบการอยู่อาศัยร่วมกัน เรื่องบริหารการเงินในโครงการ เรื่องการดูแลระบบวิศวกรรมอาคารและสภาพพื้นที่ส่วนกลาง รวมทั้งเรื่องกิจกรรมพิเศษต่างๆ ในโครงการหากเราได้คอนโดที่มีบริการบริหารจัดการโครงการที่เป็นมืออาชีพและเข้าใจลูกค้า ก็จะช่วยให้การอยู่อาศัยและใช้ชีวิตในคอนโดเป็นเรื่องง่าย ลดปัญหาเรื่องน่าปวดหัว และยังทำให้เรามีผู้ช่วยที่คอยดูแลรักษาโครงการให้มีสภาพดีและสวยงามน่าอยู่อีกด้วย บริการหลังการขายในมุมนักลงทุน ผู้ซื้อคอนโดเพื่อนำมาลงทุนขายต่อ ปล่อยเช่า ก็คงอยากให้ห้องที่ซื้อมาสามารถทำกำไรได้ มีผู้เช่าอย่างต่อเนื่องในราคาที่คาดหวัง หรือมีผู้ที่อยากซื้อห้องต่อที่ให้ราคาดี ดังนั้นนักลงทุนกลุ่มนี้เมื่อตัดสินใจซื้อคอนโดแล้ว ยังต้องพิจารณาเรื่องการหาลูกค้าหรือปล่อยห้องต่ออีกด้วย บริการตัวแทนด้านการซื้อ-ขาย-เช่า หรือที่เราเรียกกันว่า “เอเจ้นท์” จึงเป็นบริการหลังการขายที่เป็นตัวช่วยสำคัญของนักลงทุน เพราะหากเราได้เอเจ้นท์ที่เป็นมืออาชีพ มีฐานลูกค้าจำนวนมาก รู้จักและรู้ใจลูกค้า ก็ย่อมช่วยให้เราสามารถปล่อยคอนโดได้ง่ายขึ้น และเรายังได้ผู้ที่เป็นตัวแทนมาช่วยจัดการขั้นตอนการดำเนินการต่างๆ ช่วยอำนวยความสะดวกให้การลงทุนเป็นเรื่องที่ไม่ยุ่งยากอีกด้วย อย่างที่พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ก็มีธุรกิจที่เป็นบริการหลังการขาย ทั้งด้านการอยู่อาศัยที่มีบริการ Living Management ที่เป็นมากกว่านิติบุคคล แต่ดูแลครบทุกมิติของการอยู่อาศัย ไม่ว่าจะเป็นการจัดการด้านการอยู่อาศัยร่วมกัน ด้านความปลอดภัยในโครงการ การดูแลโครงการให้อยู่ในสภาพดีไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเพียงใด ด้านการดูแลซ่อมบำรุงระบบวิศวกรรมอาคาร รวมถึงการจัดกิจกรรมสำหรับลูกบ้านที่ตอบโจทย์ทุกความหลากหลาย และยังมีธุรกิจที่ให้บริการด้านที่ปรึกษาตัวแทนอสังหาฯ เป็น Sales Mate ตัวแทนซื้อ-ขาย-เช่า ที่ช่วยดูแลการลงทุนในคอนโด ให้คำแนะนำการลงทุนเชิงลึกและช่วยหาลูกค้าที่ตอบโจทย์ เพื่อให้การลงทุนในคอนโดเป็นเรื่องง่ายขึ้นเพราะการซื้อคอนโดเป็นการเลือกสินทรัพย์ก้อนใหญ่ที่จะมีข้อผูกมัดกับผู้ซื้อในระยะยาว บริการหลังการขาย จึงมิใช่เพียงเรื่องสำคัญที่มาหลังขั้นตอนการขายเท่านั้น แต่หากผู้ซื้อนำประเด็นนี้มาพิจารณาประกอบการเลือกซื้อคอนโดด้วยแต่ต้น ก็จะช่วยให้การตัดสินใจเป็นไปอย่างรอบด้านและได้ผลประโยชน์ครอบคลุมในระยะยาวมากยิ่งขึ้น บทความที่เกี่ยวข้อง เศรษฐกิจซบแต่ทำไมตลาดเช่าที่อยู่อาศัยยังโต การเลือกซื้อคอนโดฯ ที่ใช่ กับ โครงการที่มีนิติฯ ดี แบบไหนหายากกว่ากัน วิกฤตโควิด-19 อย่ามองข้ามความปลอดภัยในที่อยู่อาศัย พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ผู้เชี่ยวชาญบริการอสังหาฯ ครบวงจร ที่ตอบโจทย์ได้ทุกความต้องการ บริหารงานนิติบุคคลคอนโด หมู่บ้าน อาคารสถานที่ ที่ปรึกษางานขายโครงการ และตัวแทนซื้อ ขาย เช่า คอนโดมือสอง ด้วยทีมงานระดับคุณภาพกับประสบการณ์ที่มากกว่า 20 ปี เติมเต็มทุกความต้องการอย่างแท้จริง สนใจติดต่อเพื่อรับข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 02 688 7555 หรือ plus.co.th/contactus ค้นหาบริการเพิ่มเติม: บริหารงานนิติบุคคลคอนโด, บริหารอาคารสถานที่, ที่ปรึกษางานขายโครงการ, ตัวแทนซื้อ ขาย เช่า คอนโดมือสอง , LIV-24…
รีวิว T77 น่าอยู่จริงไหม

T77 น่าอยู่จริงไหม? – ฟังจากปากลูกบ้านตัวจริง (รีวิวแบบละเอียดยิบ) หลายคนอาจจะสงสัยว่า T77 มันน่าอยู่จริงไหม? อยู่จริงจะเป็นอย่างไร? วันนี้ผมจะขอพามารีวิวแบบละเอียดยิบในฐานะลูกบ้านคนนึงที่อยู่ใน T77 และความคิดเห็นจากเพื่อนบ้านอีก 2 ท่าน ให้ได้รู้ข้อเท็จจริง ข้อดี ข้อเสีย กันแบบตรงๆ ไม่มีหมกเม็ดหรือขายฝันครับ ทำเล แม้ว่าแสนสิริจะพยายามโปรโมตว่ามันคือ อ่อนนุช (เพราะทางเข้าด้านอ่อนนุชนั้นดูดีงามกว่า) แต่จริงๆ แล้ว T77 นั้นสามารถเข้าออกได้ 2 ทางครับ การเดินทาง จากประสบการณ์อยู่จริงแล้ว ผมและเพื่อนๆ อีก 2 ท่านดูเหมือนจะชอบฝั่งพระโขนงมากกว่าสำหรับการเดินทางด้วย BTS โดยหากออกไปทางอ่อนนุชนั้น โครงการที่ผมอยู่จะมีบริการรถกอล์ฟ ไปส่งถึงแค่ปากทางใกล้ๆ The Base Sukhumvit 77 เท่านั้น หากท่านใดขยันเดินต่อไปขึ้น BTS ก็สามารถเดินได้ประมาณ 700 เมตร แต่ปัจจุบันทางโครงการ T77 มีรถ Shuttle Bus ให้บริการแล้ว รับ-ส่ง จากโครงการไปยังสถานี BTS อ่อนนุช และ BTS พระโขนง ก็สะดวกดีครับ หรือหากจะใช้บริการพี่วิน ก็จะมีบริการอยู่หน้าคอนโด The Base Sukhumvit 77 ก็มีค่าบริการ 20 บาท สำหรับทางออกฝั่งพระโขนงนั้น วินอยู่หน้าทางออกโครงการเลย อีกทางเลือกคือ Grab Bike โดยจากประสบการณ์ส่วนตัวเป็นดังนี้ Grab Bike ราคาจากหน้าโครงการไป BTS อยู่ที่ 25 บาท แต่มีปริมาณรถให้บริการมากกว่ามากๆ และประทับใจกว่ามากครับ สำหรับขากลับนั้น หากท่านมาลงสถานีอ่อนนุชเพื่อใช้บริการพี่วินหน้า Tesco Lotus กลับเข้าโครงการ ราคา 35 บาท แต่ก็สามารถใช้บริการทางเลือกอย่าง Grab Bike ได้ตามที่บอกไว้ก่อนหน้านี้ครับ หากท่านเลือกที่จะเดินก็สามารถเดิน ผ่านทางด้านหลัง Big C ซึ่งมีอาหารสำเร็จขายมากมาย แต่ข้อดีสถานีอ่อนนุชคือ มี supermarket ให้เลือกซื้อของได้ทั้ง Tesco Lotus และ Big C โดยใน Tesco Lotus นั้นก็มี Food court ขนาดใหญ่ไว้รองรับผู้คนในย่านนี้อีกด้วย…
5 เช็คลิสต์เตรียมบ้านก่อนวันหยุดยาวจำเป็นแค่ไหน ทำไมต้องทำ

ตรวจสอบระบบไฟฟ้า สายไฟ เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในห้อง หากมีการเสีย ให้ทำการซ่อมแซม หรืองดเปิดใช้งานเป็นการชั่วคราวจนกว่าจะซ่อมแซม หรือเปลี่ยนอุปกรณ์แล้วเสร็จ ถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้า ปลั๊กพ่วง ในบริเวณต่างๆ และนำสายไฟขึ้นที่สูงเพื่อป้องกันการเกิดน้ำท่วม รวมถึงปิดสวิทซ์ตู้ควบคุมไฟฟ้าหลัก (Main breaker) เพื่อป้องกันเกิดไฟฟ้าลัดวงจรระหว่างที่ไม่อยู่เคสตัวอย่าง ปกติผู้พักอาศัยรายนี้มักจะชอบเสียบปลั๊กกระติกน้ำร้อนอยู่ตลอดเวลา และมีแม่บ้านคอยเติมน้ำให้เต็มอยู่เป็นประจำเพราะต้องคอยดื่มน้ำอุ่นตลอด แต่เนื่องจากวันหยุดยาวแม่บ้านขอลากลับบ้านต่างจังหวัด และไม่ได้ฝากฝังอะไรไว้ ในช่วงเวลาที่แม่บ้านไม่อยู่นั้นเจ้าของบ้านก็ไม่ได้สนใจเติมน้ำให้เต็มและออกจากบ้านไปทำธุระทั้งๆ ที่สายไฟยังเสียบอยู่ ผลปรากฎว่าน้ำแห้งทำให้มอเตอร์ไหม้และเกิดไฟช็อตและเต้าเสียบระเบิด โชคดีที่ติดตั้งเครื่องตัดไฟฟ้าอัตโนมัติจึงสามารถระงับเหตุไว้ได้ ทำความสะอาด นำอาหารที่คงค้างในตู้เย็นออก และนำขยะภายในห้องไปทิ้ง เพื่อป้องกันการเน่าเหม็น คละคลุ้งห้องในช่วงที่ไม่อยู่ และถอดปลั๊กตู้เย็น เพื่อป้องกันไฟช็อตระหว่างไม่อยู่อีกด้วย ทั้งนี้ก่อนถอดปลั๊กตู้เย็นตรวจเช็คให้แน่ใจว่าตู้เย็นมีระบบลายน้ำแข็งด้วยตัวเองหรือไม่ (No frost) เพราะหากไม่มีเมื่อถอดปลั๊กออกแล้วอาจทำให้น้ำแข็งละลายเอ่อล้นไหลออกมาได้เคสตัวอย่าง ผู้เช่าคอนโดเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศเป็นเวลา 5 วัน แต่ก่อนออกจากห้องได้ถอดปลั๊กตู้เย็นและปิด Main breaker โดยที่ไม่ทราบว่าตู้เย็นในห้องเป็นระบบธรรมดาจึงไม่ได้เอะใจว่าน้ำแข็งที่อยู่ในตู้เย็นจะละลายออกมา ปรากฎว่ามีน้ำไหลซึมออกมาจากห้องจนนิติบุคคลต้องแจ้งไปยังเจ้าของห้องว่ามีน้ำไหลซึมออกมา ทำให้พื้นห้องได้รับความเสียหาย ปิดวาวล์แก๊สตรวจสอบวาวล์น้ำ ตามจุดต่างๆ หากมีการรั่วไหล ให้รีบทำการซ่อมแซม น้ำซึมเพียงเล็กน้อย อาจจะก่อให้เกิดผลตามมาที่รุนแรง และเสียหายให้กับทรัพย์สินเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะหากปล่อยไว้ในช่วงวันหยุดยาว ก่อนออกเดินทางควรปิดวาล์วน้ำหลัก เพื่อป้องกันเหตุน้ำรั่วน้ำซึมที่เกิดขึ้นระหว่างที่เราไม่อยู่เคสตัวอย่าง ก่อนเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศพบว่าท่อน้ำจากเครื่องซักผ้ารั่วซึมเล็กน้อยจึงเอาผ้าผูกเอาไว้รอกลับมาก่อนแล้วค่อยทำการซ่อมและไม่ได้แจ้งใครไว้ ผลปรากฎว่ากลับมาถึงพบน้ำท่วมไปทั้งห้องเพราะรอยรั่วขยายผลทำให้น้ำไหลออกมามากกว่าแค่ซึม ทำให้พื้นไม้ลามิเนตในบริเวณห้อง บวมและเสียหายไปทั้งห้อง เช็คกุญแจ ปิดประตูปิดหน้าต่าง อุปกรณ์ตัวล็อค ประตูหน้าต่างให้พร้อมใช้งาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหน้าต่างห้องน้ำและห้องครัวที่เป็นจุดที่คาดไม่ถึง หากจุดไหนมีสภาพที่ไม่สมบูรณ์ควรจะเปลี่ยนใหม่ให้เรียบร้อย เพื่อป้องกันฝนสาด รวมถึงลมพัดสิ่งสกปรก หรือแมลงและสัตว์เข้ามาในบ้าน ซึ่งนอกจากจะทำให้บ้านสกปรก ยังส่งผลให้เกิดความเสียหายกับห้องในบางกรณีอีกด้วยเคสตัวอย่าง ก่อนเดินทางกลับบ้านที่ต่างจังหวัด 3 วัน ไม่ได้ปิดหน้าต่างเพราะคิดว่าไม่อยู่ในช่วงสั้นๆ และอยากให้ห้องมีอากาศถ่ายเทจึงเปิดหน้าต่างทิ้งไว้ ผลปรากฎว่า มีผู้พักอาศัยชั้นบนสูบบุหรี่และทิ้งก้นบุหรี่ที่ยังไม่ได้ดับลงมานอกหน้าต่าง ทำให้ก้นบุหรี่ตกไปยังผ้าที่ตากไว้และเกิดควันไฟลุกลามไปในห้อง โชคยังดีที่ Smoke detector ที่ตรวจจับควันส่งสัญญานเดือนไปยังห้องระบบของนิติบุคคลจึงระงับเหตุได้ทัน ทำเป็นว่าบ้านมีคนอยู่ เปิดไฟในบ้านให้เหมือนมีคนอยู่อาศัย หรือติดตั้งหลอดไฟที่สามารถตั้งเวลาติดได้เองในเวลากลางคืน และดับลงในเวลาที่มีแสงอาทิตย์ นอกจากนี้ให้ฝากฝังนิติบุคคลให้ช่วยเป็นหูเป็นตาและช่วยดูแลบ้านให้ในช่วงที่เราไม่อยู่ พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร รับบริหารจัดการโครงการที่พักอาศัยและเพื่อการพาณิชย์ ด้วยทีมงานระดับคุณภาพกับประสบการณ์ที่มากกว่า 20 ปี เติมเต็มทุกความต้องการอย่างแท้จริง สนใจติดต่อเพื่อรับข้อมูลด้านบริหารโครงการเพิ่มเติมได้ที่ 02 688 7555 หรือ คลิกที่นี่ เพื่อให้เราติดต่อกลับ หาข้อมูลคอนโดที่คุณต้องการได้ที่นี่: คอนโดสุขุมวิท, คอนโดให้เช่า, คอนโดจตุจักร, ขายคอนโด, คอนโดทองหล่อ, คอนโดพระราม 4, ระบบรักษาความปลอดภัย, บ้านหรู, คอนโดหรู, คอนโด 2 ห้องนอน, คอนโดอ่อนนุช, บ้านแสนสิริ บทความที่เกี่ยวข้อง: รับมือหน้าฝนในยุคดิจิทัลด้วย 6 แอพพลิเคชั่นเด็ด 3 ปัญหาหนักใจของลูกบ้านให้นิติฯ ช่วยรับมือ
พาสำรวจย่านธุรกิจในกรุงเทพ 5 ทำเลทอง ใจกลางเมือง น่าอยู่ น่าลงทุน กับเทรนด์อาชีพของคนยุคใหม่

ปัจจุบันย่านธุรกิจในกรุงเทพถือเป็นแหล่งไลฟ์สไตล์คนเมือง ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าผู้คนส่วนมากในปัจุบันมองหาทำเลใจกลางเมือง ย่านธุรกิจในกรุงเทพฯ หรือย่านเศรษฐกิจในกรุงเทพฯ ต่างๆ เพื่ออยู่อาศัยหรือลงทุนเก็งกำไรแบบเน้นๆ หากใครกำลังมองหาทำเลทองที่ว่าต้องไม่พลาดบทความนี้ หากเรามองในมุมกว้างก็จะเห็นได้ว่า โลกทุกวันนี้เปลี่ยนแปลงไปเร็วมาก… การขยับขยายของย่านธุรกิจในกรุงเทพก็ยิ่งกว้างขึ้น เพราะในปัจจุบันที่รถไฟฟ้าเริ่มค่อย ๆ ทั่วถึงทั้งเมืองมากขึ้น จึงเริ่มเกิดทำเลใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็น ย่านเศรษฐกิจในกรุงเทพฯ , ย่านออฟฟิศในกรุงเทพฯ หรือคอนโดมิเนียมที่อยู่อาศัยใหม่ๆ ที่ผุดขึ้นมามากมายในกรุงเทพฯ ไม่เพียงแต่สิ่งแวดล้อมต่างๆ ที่เปลี่ยนไป แต่พฤติกรรมผู้คนก็เปลี่ยนแปลงไปตามสิ่งแวดล้อม รวมไปถึงอาชีพ มีอาชีพใหม่เข้ามาแทนที่ ด้วยพฤติกรรมคนที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้ความต้องการของสายงานแต่ละอาชีพต้องปรับตามไปด้วย และถ้าหากใครยังตามเทรนด์ไม่ทัน พลัสฯ จะพาไปสำรวจย่านธุรกิจในกรุงเทพ และเทรนด์อาชีพของคนยุคใหม่กัน เทรนด์อาชีพของคนยุคใหม่ จากข้อมูลที่ถูกสำรวจผ่านแบบสำรวจทางสังคมออนไลน์โดย Krungsri Guru อาชีพเหล่านี้ในอีก 10 ปีข้างหน้าที่คนคิดว่าจะมาแรง พลัสฯ รวบรวมมาให้ทั้งหมด 5 อาชีพ ดังนี้ 1. นักการตลาดออนไลน์ ทุกวันนี้ผู้คนใช้โทรศัพท์มือถือเช็คข้อมูลข่าวสารกันแทบจะทุกวินาที แน่นอนที่สุดว่าสิ่งที่เราเช็ค ข้อมูลที่เราดู มันไม่ได้ฟรีเสมอไป สิ่งที่ติดตามมากับข้อมูลก็คือ โฆษณา ที่นักการตลาดออนไลน์เป็นผู้ออกแบบ ผลิตโฆษณาแบบเนียน ๆ ทำให้เราต้องควักเงินซื้อสินค้า อาชีพนักการตลาดออนไลน์ถือว่าเป็นอาชีพที่ใกล้ตัวเรามากที่สุดก็ว่าได้ 2. นักเขียน Application ถ้าในอดีตนักเขียนเว็บไซต์ ออกแบบเว็บไซต์คงเป็นที่นิยม แต่ในปัจจุบัน และอนาคตอาชีพที่จะมาแรงคงหนีไม่พ้นนักออกแบบ เขียนโปรแกรม Application บนมือถือ Smart Phone พูดง่ายๆก็คือ พัฒนาและสร้างสรรค์ Application ขึ้นให้ตรงตามโจทย์ของผู้ใช้งานหรือตอบโจทย์ผู้จ้างงานนั่นเอง 3. เจ้าของ Start Up อาชีพที่มาแรงในยุคนี้ไม่มีใครปฏิเสธว่าเหล่า Start Up นั้นเป็นที่นิยมกันมาก วัยรุ่นหลายคนมีฝันใหญ่อยากประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย เป็นอายุน้อย 100 ล้าน ต่างก็เข้ามาลองเชิงทำธุรกิจ Start Up กันทั้งนั้นเพราะด้วย สิ่งแวดล้อมต่างๆที่เปลี่ยนแปลงไป การเริ่มทำธุรกิจก็ไม่ได้ยากเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว 4. นักบริหารความสัมพันธ์ คนกลุ่มนี้อาจเป็นบล็อกเกอร์ หรือ Influencer เก่ง ๆ ที่มีคนติดตามอยู่เยอะ เวลาโพสอะไรไปก็จะมีน้ำหนักมากกว่าที่เจ้าของผลิตภัณฑ์เป็นผู้โพสต์เอง ใครทำให้คนเชื่อถือ หรือติดตามได้ รับรองทำเงินได้แน่นอน 5. กูรูออนไลน์ หลายคนอาจสงสัยว่าคืออาชีพอะไรแต่คนยุคใหม่อย่างรุ่นเราๆนี้ต้องไม่พลาด เพราะในยุคนี้เป็นยุคข้อมูลข่าวสารที่ข้อมูลเป็นเรื่องที่ใคร ๆ ก็เข้าถึงได้ แต่ข้อมูลดิบ ๆ ที่ไม่ได้ผ่านการคิดวิเคราะห์แยกแยะออกเป็นส่วน ๆ หรือไม่ได้ผ่านการย่อยให้เข้าใจง่าย ๆ ก็จะไม่ได้รับความนิยม สำหรับคนที่คิดจะพัฒนาตัวเอง มักจะเลือกอ่านข้อมูลที่ถูกย่อยมาเป็นอย่างดี เข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อน ยังมีอีกหลากหลายอาชีพที่น่าสนใจอีกมากมาย ที่รอทุกคนได้ทำความรู้จักกันนี้เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งที่เราได้คัดเลือกมาให้ทุกคนได้รู้จัก เทรนด์อาชีพที่กล่าวมานี้จะตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนที่เปลี่ยนแปลงไปโดยเฉพาะเรื่องเทคโนโลยีและออนไลน์ มีอาชีพใหม่ๆ ที่น่าสนใจหลายอย่าง ในส่วนของการแบ่งพื้นที่ของทำเลก็เช่นกัน แต่ละสายอาชีพจะมีโซนของทำเลย่านธุรกิจที่แตกต่างกันออกไป ในปี 2565…
ค่าธรรมเนียมการโอนคอนโด โอนบ้าน พร้อมวิธีคำนวณ อัปเดตปี 2568

หลายคนที่กำลังคิดเป็นเจ้าของคอนโดหรือบ้านสักแห่ง ไม่ว่าจะซื้อด้วยเงินสด หรือกู้สินเชื่อที่อยู่อาศัย อันดับแรกที่พลาดไม่ได้คือการคำนวณเงินและค่าใช้จ่ายในส่วนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งเงินจอง ค่าธรรมเนียมการโอนคอนโด เงินทำสัญญา เงินดาวน์ ค่าส่วนกลาง ตลอดจนค่าภาษีระหว่างการโอนฯ ฯลฯ ดังนั้นก่อนการซื้อคอนโดต้องคำนึงถึงค่าใช้จ่ายต่างๆ ก่อนซื้อเสมอ ใครที่กำลังวางแผนซื้อขายอสังหาฯ ตามมาอ่านกันเลย มาตรการกระตุ้นอสังหา2567 มาตรการลดค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมสำหรับที่อยู่อาศัย ปี 2567 ลดค่าจดทะเบียนโอนและค่าจดจำนองอสังหาฯ เหลือ 0.01% ลดค่าจดทะเบียนโอนอสังหาฯ จาก 2% เหลือ 0.01% ลดค่าจดทะเบียนจำนองอสังหาฯ จาก 1% เหลือ 0.01% เงื่อนไข : (เฉพาะที่จดทะเบียนโอนในคราวเดียวกัน) เฉพาะอสังหาริมทรัพย์ดังนี้ อาคารที่อยู่อาศัย ประเภทบ้านเดี่ยว, บ้านแฝด, บ้านแถว อาคารพาณิชย์ หรือที่ดินพร้อมอาคารดังกล่าว หรือห้องชุด (คอนโดมิเนียม) ที่จดทะเบียนอาคารชุด เฉพาะบุคคลธรรมดาสัญชาติไทย มีผลบังคับใช้ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2567 ค่าธรรมเนียมการโอนคืออะไร ค่าธรรมเนียมการโอน คือ ค่าใช้จ่ายที่เกิด ณ สำนักงานที่ดินในวันโอน รวมถึงค่าใช้จ่ายอีกหลายรายการ เช่น ค่าจดจำนอง ค่าอากร ค่าภาษีเงินได้ เป็นต้น ดังนั้นผู้ซื้อจึงควรคำนวณค่าใช้จ่ายอย่างถี่ถ้วน ทั้งยังควรศึกษา เปรียบเทียบราคาค่าใช้จ่ายทั้งหมดคร่าวๆ เพื่อเป็นการเตรียมเงินไว้ก่อนตัดสินใจซื้ออสังหาริมทรัพย์ใดๆ ค่าใช้จ่ายระหว่างโอนกรรมสิทธิ์คอนโด อีกหนึ่งค่าใช้จ่ายสำหรับคนที่ต้องการเป็นเจ้าของคอนโด ห้ามพลาดเลยก็คือ ค่าใช้จ่ายระหว่างโอนกรรมสิทธิ์คอนโด ซึ่งประกอบไปด้วยค่าใช้จ่าย 3 ส่วนหลักๆ คือ ค่าธรรมเนียมการโอนคอนโด ค่าโอนคอนโดมีมูลค่า 0.01% ของราคาประเมินที่ดินและสิ่งปลูกสร้างหรือราคาที่ขาย2. ค่าจดจำนอง ค่าใช้จ่ายก้อนนี้จ่าย ณ วันโอนกรรมสิทธิ์คอนโด 1% ของมูลค่าที่จำนองหรือยอดเงินกู้ทั้งหมด3. ค่าอากรสแตมป์ คิดเป็นร้อยละ 0.5% พิจารณา จากราคาซื้อขาย ซึ่งหากคิดเป็นตัวเลขกลมๆ ค่าอากรแสตมป์จะอยู่ที่ 1 บาท/มูลค่าโครงการทุกๆ 200 บาทนั่นเอง4. ค่าภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ในส่วนนี้จะถูกหัก ณ ที่จ่าย โดยคิดตามหลักเกณฑ์ของกรมสรรพากร สามารถคำนวณภาษีที่ถูกหักได้จากที่นี่5. ค่าภาษีธุรกิจเฉพาะ คิดเป็น 3.3% กรณีผู้ขายเป็นเจ้าของบ้านหรือซื้อบ้านโครงการใหม่ถือครองไม่เกิน 5 ปี แต่หากเกิน 5 ปี หรือมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านเกิน 1 ปี ผู้ขายจะต้องจ่ายค่าอากรสแตมป์ด้วย*กรณีสินเชื่อที่อยู่อาศัยจะมีค่าเบี้ยประกันอัคคีภัยมาเกี่ยวข้อง หากเป็นคอนโดมือสองจะมีค่าประเมินราคาคอนโดไม่เกิน 3,000 บาท ค่าทำสัญญา และค่าธรรมเนียมต่างๆ…
เช่าอยู่ให้รู้ ก่อนตัดสินใจซื้อคอนโด ให้ได้ห้องที่ใช่จริงๆ

“จะซื้อคอนโดดีไหม? หรือจะลองเช่าคอนโดก่อนดี” เรียกได้ว่าเป็นปัญหาหนึ่งของคนที่กำลังมองหาคอนโดอยู่เหมือนกัน การเลือกซื้ออยู่เลยก็ดีตรงที่ได้เป็นเจ้าของคอนโดเลย แต่ถ้าสำหรับใครที่ยังอยากเก็บข้อมูลเกี่ยวกับคอนโดที่เราสนใจเพิ่มเติม เพื่อเพิ่มความมั่นใจก่อนซื้อเพื่ออยู่จริง การลองเช่าคอนโดอยู่ไปก่อนอาจเป็นตัวช่วยที่ดีสำหรับคุณ วันนี้ พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ขอนำเสนอมุมเช่าก่อนซื้อคอนโดมาฝากกัน จะมีข้อดีอะไรบ้าง ตามมาหาคำตอบได้เลยครับ 1. เช่าก่อนซื้อให้รู้ว่าเหมาะกับไลฟ์สไตล์ไหม เคยได้ยินใช่ไหมครับว่า “คับที่อยู่ง่าย คับใจอยู่ยาก” คงไม่ดีเท่าไร ถ้าจะยังคิดไม่ได้ว่าจะซื้อคอนโดดีไหม? พอซื้อคอนโดไปแล้วแล้ว ไปอยู่จริงไปสักพัก กลับอยู่ไม่ได้ เพราะเรื่องไลฟ์สไตล์ คอนโดที่น่าอยู่ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับขนาดห้อง ดีไซน์ และสไตล์การตกแต่งเท่านั้น แต่ยังรวมถึงเรื่อง “ไลฟ์สไตล์” ด้วย เช่น พอเข้ามาอยู่จริงจะเข้ากับเพื่อนบ้านได้ไหม เดินทางไปทำงานลำบากแค่ไหน การมาลองเช่าก่อนซื้อก็จะช่วยเราหาคำตอบได้ว่า การอยู่คอนโดนี้ เหมาะกับไลฟ์สไตล์เราไหม ถ้าลองอยู่ไปสักพักแล้วรู้สึกว่าชอบ มีความสุข ไม่ติดขัดอะไร ก็ค่อยตัดสินใจซื้อก็ได้ครับ 2.เช่าก่อนซื้อคอนโดดีไหม? จะได้รู้ว่าบรรยากาศน่าอยู่ เราไม่มีทางรู้ได้เลยว่า บรรยากาศรอบๆ คอนโดนั้นน่าอยู่สำหรับเราหรือเปล่า เช่น กลางคืนเปลี่ยวไหม วุ่นวายหรือเปล่า สำหรับใครที่เรื่องการจับจ่ายใช้สอย ทั้งของกินและของใช้เป็นเรื่องใหญ่ ก็อาจจะต้องดูเรื่องความสะดวกของร้านค้าที่ตั้งอยู่ในบริเวณนั้น เช่น มีร้านสะดวกซื้อเปิด 24 ชั่วโมง อยู่ใกล้ๆ ในระยะที่เดินถึงได้หรือเปล่า หรือว่ามีห้างสรรพสินค้าอยู่ในละแวกนั้นไหม อีกเรื่องที่สำคัญคือ ชุมชนโดยรอบคอนโด ทั้งคนที่อาศัยอยู่ในคอนโดเดียวกับเรา หรือคนที่อาศัยอยู่รอบๆ คอนโด เราก็ต้องพิจารณาด้วย ว่าเราต้องอยู่กับสภาพแวดล้อมนี้ไปทุกวัน ต้องลองอยู่เพื่อดูให้รู้ว่า เราชอบหรือพอใจกับบรรยากาศเหล่านี้ เพื่อตอบคำถามตัวเองได้ว่าจะซื้อคอนโดดีไหม? สำหรับใครที่กำลังมองหาคอนโดจตุจักร ที่มีบรรยากาศดี ๆ ลองเข้ามาดูได้ · รีวิวคอนโดจตุจักรเดอะไลน์ จตุจักร-หมอชิต คอนโดที่ความกรีนโอบล้อม 3. เช่าก่อนซื้อเพื่อเพิ่มระยะเวลาในการตัดสินใจว่าจะซื้อคอนโดดีไหม? ชีวิตมีการเปลี่ยนแปลงเสมอ บางทีงานที่เราทำอยู่ อาจจะมีการปรับโครงสร้าง ทำให้เราต้องรับภาระที่เยอะขึ้น หรืออาจจำเป็นต้องย้ายงานที่อยู่ไกลออกไป หรือมีแผนแต่งงาน ต้องการสร้างครอบครัว ทำให้มีสมาชิกในบ้านเพิ่มขึ้น บางทีคอนโดที่เราอยู่ก็อาจไม่ตอบโจทย์กับสิ่งที่กำลังจะเปลี่ยนแปลงไปก็ได้ การเช่าคอนโดอยู่ไปก่อน ก็จะเป็นวิธีช่วยเพิ่มระยะเวลาในการตัดสินใจได้ว่า ควรเช่าอยู่ดูสถานการณ์ชีวิตไปก่อนดีไหม เผื่อมีอะไรเปลี่ยนแปลง จะได้ย้ายถิ่นฐานได้สะดวก 4. เช่าก่อนซื้อเพื่อเช็กสภาพห้องว่าน่าอยู่ไหม แน่นอนว่าก่อนซื้อคอนโด ทางโครงการก็จะเปิดห้องให้เราเข้าไปดูก่อนเข้าอยู่จริงอยู่แล้ว แต่นั่นก็เป็นเพียงแค่ช่วงเวลาสั้นๆ เราอาจจะยังดูไม่ทั่วถึง หรืออาจจะสัมผัสบรรยากาศของห้องยังไม่เต็มอิ่มเท่าไร ถ้าอยากรู้ว่า ห้องที่เราจะซื้อน่าอยู่แค่ไหน ต้องลองเข้าไปเช่าอยู่ยาวๆ เลย เพราะการเข้าไปเช่าอยู่ในระยะยาว จะทำให้ได้ใช้ฟังก์ชันในห้องครบทุกส่วน ได้สำรวจทุกมุมของห้อง ทำให้เรานึกภาพออกว่า การใช้ชีวิตประจำวันของเรากับการอยู่ในห้องแบบนี้จะเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน แค่ดูอาจยังไม่รู้ ต้องลองเข้าไปอยู่ ด้วยการเช่ายาวๆ เลย แถมยังได้ลองใช้ Facility ดูก่อนอีกด้วย หากใครกำลังมองหาคอนโดจตุจักร เพื่อเช่าอยู่ก่อนตัดสินใจซื้อมาดูได้ · คอนโดจตุจักร เดอะไลน์ จตุจักร – หมอชิต พร้อมให้เช่า วิวเมืองแบบพาโนรามา บนชั้น 39 5.…
10 คำศัพท์ภาษาอังกฤษ เกี่ยวกับธุรกิจอสังหาฯ ที่ท่านควรทราบ

รวมคำศัพท์ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับอสังหาฯ ที่ควรรู้จัก และทำความเข้าใจ ก่อนเริ่มลงทุนมีดังนี้ Presales Resales Capital Gain Rental Yield Rate Occupancy Rate Prime Locations Downtown Midtown CBD = Central Business District New CBD = New Central Business District การลงทุนอสังหาฯ ลงทุนคอนโด เป็นการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูง และความผันผวนต่ำ จึงเป็นที่นิยมในกลุ่มนักลงทุนอสังหาฯ มือใหม่ ซึ่งก่อนที่เราจะทำความเข้าใจและศึกษาถึงข้อมูลแวดล้อมเฉพาะทางและรายละเอียดของโครงการต่างๆ เพื่อใช้ในการตัดสินใจนั้น เราจำเป็นต้องรู้จักคำศัพท์เกี่ยวกับอสังหาฯ ต่างๆ ที่ใช้ในวงการ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อม สร้างความเข้าใจ เวลาที่เราศึกษาข้อมูลต่างๆ เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจในการลงทุนคอนโด เช่น การอ่านบทความวิเคราะห์และความรู้อสังหาฯ หรือนำไปสอบถามเจ้าหน้าที่ประจำโครงการ คนรู้จักที่อยู่วงในมาก่อน จะได้ช่วยให้เราเข้าถึงข้อมูลได้มากขึ้น 1. Presales /พรี – เซล / คือ ราคาขายคอนโด เปิดตัวในโครงการใหม่ ส่วนใหญ่ผู้ซื้อจะมีสิทธิ์ถือครองเป็นระยะเวลา 2-3 ปี ก่อนคอนโดสร้างเสร็จ ราคาเปิดตัวจะต่ำกว่าราคาขายต่อ ผู้ซื้อสามารถเลือกจองทำเลได้ก่อน และตัดสินใจซื้อได้จากการดูห้องตัวอย่างที่ทางโครงการจัดแสดงไว้ให้ ซึ่งเหมาะกับการลงทุนอสังหาฯ ระยะสั้น รอบ VIP คืออะไร บริษัทพัฒนาโครงการอสังหาฯ จะมีรอบเปิดขายราคาพิเศษให้กับกลุ่มลูกค้านักลงทุนที่เป็นลูกค้าประจำ มักจะมีราคาพิเศษ หรือตำแหน่งยูนิตพิเศษเปิดให้จองก่อน 2. Resales /รี – เซล / Resale คือ ราคาขายต่อหลังจากที่โครงการสร้างเสร็จแล้ว ซึ่งราคาจะสูงกว่าราคา Presales เพราะมีความเสี่ยงน้อยกว่า ผู้ซื้อสามารถเห็นสภาพห้อง วัสดุที่ใช้ ทำเล วิวได้จริงทั้งหมด ก่อนตัดสินใจซื้อ ซึ่งนักลงทุนอสังหาฯ สามารถทำกำไรจาก Capital Gain หรือ Rental Yield ได้ในระยะยาว หรือในบางกรณี Resale คือการขายต่อสิทธิ์ในการจองโครงการก่อนโครงการสร้างเสร็จ หรือเรียกว่า ขายดาวน์ 3. Capital Gain /แคพ’ พิเทิล – เกน/ คือ กำไรจากการขายอสังหาฯ โดยการคำนวนด้วย เอากำไรตั้ง หารด้วยต้นทุนที่ซื้อมา และ คูณด้วย 100 จะเป็น % ของ Capital Gain…