5 วิธี จัด ล้าง เก็บ เตรียม Big Cleaning ประจำปี

งานเก็บล้างทำความสะอาด กับที่อยู่อาศัย เป็นสิ่งที่อยู่คู่กันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะการดูแลเอาใจใส่ เป็นหัวใจสำคัญที่จะทำให้บ้านหรือคอนโดของเราสวยอยู่คงทนคู่กับเราไปนานๆ บ้าน หรือ คอนโด เป็นสถานที่ พักผ่อน ให้ความปลอดภัย ความสุข แก่ผู้อยู่อาศัย การมีสิ่งสกปรกตามมุมต่าง ๆ ในบ้าน ไม่ว่า จะเป็น ฝุ่น คราบดำ หรือการวางของกระจัดกระจาย ซึ่งเป็นปัญหากวนใจอยู่ไม่ใช่น้อย การที่บ้านของคุณมีความสะอาดไม่มีสิ่งสกปรก จะก่อให้เกิดสภาพแวดล้อมที่ดี ทำให้บ้านมีความน่าอยู่ รวมถึงเรื่องสุขภาพของผู้อยู่อาศัยก็จะมีสุขภาพที่ดี ร่างกายแข็งแรง ไม่เจ็บป่วยง่าย ดังนั้น งานบ้าน งานเก็บล้างทำความสะอาด ถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยทำให้บ้าน คอนโดของคุณสะอาดเอี่ยมอ่อง และ ช่วยลดปัญหาการก่อเกิดเชื้อโรค และ ฝุ่นสะสม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงนี้ที่มีการแพร่กระจายของฝุ่น PM 2.5 และสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา ซึ่งเราต้องระวังมากเป็นพิเศษ วันนี้ พลัส ฯ มาเผยเคล็ดลับในการทำความสะอาดว่า งานเก็บล้างมีอะไรบ้าง? ต้องทำอย่างไรให้งานเก็บล้างของคุณเป็นไปได้อย่างง่ายดาย เพื่อที่จะทำให้บ้านของคุณสะอาดหมดจด ไม่ว่าบ้านคุณจะเก่าแค่ไหน เก็บล้างทำความสะอาดตาม 5 ข้อนี้ รับรองบ้านสะอาดแน่นอน มาลองทำตามดูกันเลยครับ 1. “จัด ล้าง” ทำความสะอาดตู้เย็น  ถอดชิ้นส่วนภายในออกมาล้าง จัดระเบียบวัตถุดิบภายในตู้ ทิ้งของที่หมดอายุ ของสดพยายามจัดแบ่งใส่กล่องหรือถุงซิปล็อค ไม่ควรเก็บของไว้ในตู้เย็นนานเพราะจะทำให้สูญเสียความสดใหม่ และพยายามไม่ซื้อของเข้าตู้มากเกินไป เพราะจะทำให้ตู้เย็นทำงานหนักและเปลืองค่าไฟฟ้าได้ 4 ขั้นตอน เก็บล้างทำความสะอาดตู้เย็นง่ายๆ ด้วยตัวคุณเอง 7 ประโยชน์การเก็บล้างทำความสะอาดตู้เย็น ที่คุณยังไม่เคยรู้มาก่อน 2. “จัด ล้าง” คราบมันในห้องครัว ทำความสะอาดคราบมันหรือคราบเศษอาหารทั้งบนพื้นและบนผนัง เช็ดถูตู้ โต๊ะ เคาน์เตอร์ในครัว ทั้งภายในและภายนอก โดยนำน้ำยาล้างจานผสมน้ำและน้ำส้มสายชูฉีดล้างทำความสะอาดนอกจากราคาประหยัดแล้วยังเกิดพิษจากสารเคมีน้อยที่สุดอีกด้วย 3. “จัด ล้าง” คราบสบู่ในห้องน้ำ ทั้งบนพื้น อ่างล่างหน้า อ่างอาบน้ำ ผนัง ล้างทำความสะอาดคราบจากครีมอาบน้ำหรือยาสระผมที่สะสมอยู่ ป้องกันอันตรายจากพื้นลื่น จัดเรียงขวดยาสระผม ครีมอาบน้ำ และอุปกรณ์ต่างๆ ให้เป็นระเบียบ ทิ้งแชมพูตัวอย่างหรืออุปกรณ์อาบน้ำเก่าๆ 4. “จัด เก็บ” เช็ดถูในส่วนที่เข้าถึงยาก บริเวณห้องนอน ห้องนั่งเล่น ห้องเก็บของ ตามหลังตู้เย็น หลังเครื่องซักผ้า ใต้โซฟา ใต้ตู้โชว์ ใต้เตียงนอน โต๊ะเครื่องแป้ง จะมีฝุ่นและเศษผมสะสมอยู่ 5. “จัด เก็บ” กลับด้านที่นอน สลับด้านที่นอนหัว-ท้าย เพื่อรักษาความคงตัวของที่นอน ไม่ให้ด้านใดด้านหนึ่งยุบตัวถาวร ทำความสะอาดห้องให้โล่งโปร่ง เปิดหน้าต่างให้แสงแดดส่องถึงที่นอน เพื่อช่วยฆ่าเชื้อโรคและถ่ายเทอากาศในห้อง งานเก็บล้างทำความสะอาด ได้แก่ การปัดกวาดเช็ดถู การจัดเก็บข้าวของให้เป็นระเบียบเรียบร้อย ยังเป็นกิจกรรมช่วยสร้างระเบียบวินัยและเสริมทักษะการวางแผน เพราะทำให้เราต้องเอาใส่ใจ คอยติดตามว่าเมื่อไหร่ที่บ้านเริ่มสกปรก เริ่มมีฝุ่นสะสม เราจะต้องเริ่มต้นทำโดยทันที แล้วเมื่อเราได้เห็นผลลัพธ์ที่เปลี่ยนแปลงไปหลังจากที่เก็บล้างทำความสะอาดเสร็จแล้ว…

5 เช็คลิสต์เตรียมตัวขนของย้ายบ้าน ย้ายคอนโด

การขนของย้ายบ้าน ย้ายคอนโด เป็นเรื่องที่ยุ่งยากของใครหลายๆคน เนื่องจากขั้นตอนการจัดของเพื่อเตรียมขนย้ายไปยังที่อยู่ใหม่ มันวุ่นวายและชวนปวดหัวได้ไม่น้อย ดังนั้น เราควรต้องมี เช็คลิสต์เตรียมตัวย้ายบ้าน แสดงสิ่งที่ต้องทำ รายการของที่ต้องเตรียม เพื่อให้การขนของย้ายบ้าน หรือ คอนโดเป็นเรื่องที่ไม่ยุ่งยากอีกต่อไป 1. กำหนดวันย้ายบ้าน การกำหนดวันย้ายบ้านที่ชัดเจน เป็นเรื่องที่สำคัญมาก ควรกำหนดล่วงหน้าอย่างน้อย 1 เดือน เพื่อให้มีเวลาเตรียมตัวในการขนย้ายและทำเรื่องแจ้งย้ายต่างๆ ได้อย่างเพียงพอ เมื่อทราบวันย้ายบ้านที่แน่นอนแล้ว ก็ดำเนินการแจ้งเปลี่ยนแปลงข้อมูลที่อยู่อาศัยกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เรียบร้อย เช่น การยกเลิกสาธารณูปโภคต่างๆ ประปา ไฟฟ้า โทรศัพท์ เคเบิลทีวี สถาบันการเงินที่ใช้บริการ ควรแจ้งเปลี่ยนแปลงที่อยู่ในการจัดส่งเอกสารสำคัญไปยังที่อยู่ใหม่ 2. จัดเตรียมอุปกรณ์ที่ต้องใช้ในการขนย้าย เป็นการวางแผนรายการสิ่งของที่จำเป็นต้องเอาไปว่ามีอะไรบ้าง รวมทั้งจัดหาอุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้ในการจัดเก็บสิ่งของเพื่อย้ายบ้าน โดยอุปกรณ์ที่ควรมี มีดังนี้ 1. กล่อง/ลัง โดยเลือกเฉพาะกล่องหรือลังที่มีสภาพสมบูรณ์ มีความแข็งแรง สามารถบรรจุของได้ มีขนาดพอเหมาะกับสิ่งของที่ต้องบรรจุ 2. เชือก ใช้มัดของที่เป็นม้วน เช่น เสื่อ พรม และใช้มัดกล่องหรือหีบห่อให้แน่นหนา ป้องกันการเปิดระหว่างการขนย้าย และยังใช้เป็นหูหิ้วช่วยให้เคลื่อนย้ายได้สะดวกมากขึ้นอีกด้วย 3. พลาสติกกันกระแทก/หนังสือพิมพ์ ใช้ห่อหุ้มสิ่งของที่แตกหักหรือป้องกันการขีดข่วนได้ดีมาก ด้วยลักษณะเป็นแผ่นบาง ทำให้สามารถดัดรูปทรงตามสิ่งของที่ห่อได้ทุกรูปแบบ หากไม่มีสามารถใช้ผ้าแทนได้ 4. เทปกาว ใช้ในการปิดฝากล่องหรือลังที่เราบรรจุสิ่งของลงไป โดยอาจใช้เทปกาวหลายสีแยกตามประเภทของสิ่งของที่อยู่ในกล่องนั้นๆ อย่างเช่น สิ่งของที่แตกหักง่ายควรปิดเทปกาวสีแดง เพื่อความระมัดระวังมากขึ้นในการขนย้าย 5. ปากกา ใช้เพื่อจดรายละเอียดสิ่งของว่าในแต่ละกล่อง มีอะไรบรรจุอยู่บ้าง เพื่อให้ง่ายแก่การค้นหาเมื่อถึงที่อยู่ใหม่ 3. เก็บของแยกตามห้อง เมื่อเราเตรียมอุปกรณ์จัดเก็บเรียบร้อยแล้ว คราวนี้ก็ถึงเวลาลงมือเก็บของกันครับ เทคนิคในการเก็บของคือการจัดเก็บแยกตามประเภทห้อง เช่น สิ่งของในห้องนอนควรเก็บในกล่องเดียวกัน อาจมีการทำสัญลักษณ์ไว้ข้างกล่องว่าเป็นสิ่งของในห้องไหน มีรายการอะไรบ้าง เพื่อความสะดวกในการค้นหาและจัดวางใหม่เมื่อย้ายไปถึงที่อยู่ใหม่แล้ว    10 วิธีทำความสะอาด ปรับบ้านให้มีแต่โชคดี ข้อมูลที่ครบถ้วนช่วยลดปัญหาการอยู่อาศัยในอาคารชุด 4. วิธีการแพ็คเพื่อป้องกันความเสียหาย สำหรับเทคนิคในการแพ็คเพื่อป้องกันความเสียหายนั้น ทางเราแยกประเภทตามการจัดเก็บดังนี้ครับ 1. จาน ชาม แก้ว ควรห่อด้วยหนังสือพิมพ์หรือห่อกันกระแทกเพื่อป้องกันการแตกหักเสียหาย เมื่อห่อเสร็จแล้ว ควรจัดเก็บไว้ในกล่องเดียวกัน ควรเป็นกล่องพลาสติกที่มีความแข็งแรง ขนย้ายได้ง่าย 2. เสื้อผ้า ควรใช้กล่องพลาสติกกันฝุ่นเพื่อป้องกันไม่ให้เสื้อผ้าเกิดความสกปรกระหว่างการขนย้าย หรือถ้าไม่มีก็สามารถใช้ถุงดำหรือถุงพลาสติกขนาดใหญ่ได้เช่นเดียวกัน ซึ่งควรเก็บเสื้อผ้าที่ไม่ค่อยได้ใช้ก่อนแล้วตามด้วยชุดโปรด หรือถ้าเสื้อผ้าชุดไหนที่เราไม่ได้ใช้แล้ว อาจจะแยกใส่อีกลังเพื่อบริจาค วิธีนี้จะช่วยให้คุณสามารถเคลียร์ตู้เสื้อผ้าที่แน่นหนาได้ดีทีเดียว 3. หนังสือ ควรแยกตามขนาด และไม่ควรบรรจุใส่ลัง เนื่องจากหนังสือมีน้ำหนักมาก จะส่งผลให้การเคลื่อนย้ายเป็นไปด้วยความลำบาก ดังนั้นควรเก็บหนังสือใส่กล่องที่มีล้อ หรือกระเป๋าเดินทาง เพื่อให้ง่ายแก่การขนย้าย 4. รองเท้า ควรเก็บใส่กล่องรองเท้า เพื่อป้องกันรองเท้าเสียทรง หรือหากไม่มีกล่องรองเท้า สามารถเก็บรวมกันในกล่องขนาดใหญ่ได้ แต่ไม่ควรเก็บใส่ถุงดำ เพราะจะทำให้รองเท้าซ้อนทับกันจนทรงรองเท้าไม่สวยงาม 5. เครื่องใช้ไฟฟ้า  ควรบรรจุเครื่องใช้ไฟฟ้าลงในกล่องที่มาจากโรงงาน หากไม่มี…

เพิ่มมูลค่าอสังหา ด้วยการบริหารอาคารที่ดี

การเลือกซื้ออสังหาริมทรัพย์ประเภทที่อยู่อาศัย อย่างเช่น หมู่บ้านหรือคอนโด สิ่งสำคัญหลักๆ อย่างแรกที่ทุกคนต้องพิจารณานั่นก็คือทำเลของโครงการที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตเมื่อเข้ามาอยู่อาศัย หรือสามารถทำกำไรได้ดีและเป็นที่ต้องการของตลาด แต่หากเราต้องการซื้อคอนโดไว้เพื่อขายต่อหรือปล่อยเช่าหรือแม้กระทั่งซื้อไว้อยู่อาศัยเอง ยังมีสิ่งสำคัญอีกข้อที่ห้ามลืมพิจารณาเด็ดขาด นั่นก็คือ การบริหารอาคารของโครงการหลังการขายนั่นเอง งานบริหารอาคาร (Property Management) สำคัญอย่างไร? โครงการที่ได้รับการบริหารดูแลจัดการอย่างดีจะทำให้โครงการไม่เสื่อมสภาพ ราคาไม่ตกเนื่องจากโครงการยังดูใหม่และน่าอยู่เสมือนวันแรกที่ซื้อมา แบบนี้ต่อให้เวลาผ่านไปกี่ปี ราคาขายหรือปล่อยเช่าก็ไม่ตกแน่นอน เพราะการบริหารอาคารที่ดีจะส่งผลลัพธ์ ดังนี้ โครงสร้างของอาคารคงสภาพแข็งแรงอยู่เสมอ โครงสร้างเป็นส่วนสำคัญหลักของอาคาร หากมีการดูแลที่ดีจะทำให้อาคารยังคงมีสภาพแข็งแรง มีความทนทานต่อภัยพิบัติต่างๆ นำมาซึ่งความปลอดภัยต่อผู้อยู่อาศัย ระบบการทำงานของเครื่องจักรอยู่ในสภาพดี ลดความเสี่ยงจากการชำรุด หากมีแผนการดูแลงานบริหารอาคารอย่างมืออาชีพ ทั้งแผนการบำรุงรักษาและเปลี่ยนอะไหล่ตามอายุการใช้งานของระบบการทำงานของเครื่องจักรต่างๆ จะช่วยลดความเสี่ยงจากการชำรุด ขัดข้อง และ อันตรายที่อาจก่อให้เกิดต่อผู้พักอาศัยได้ ทัศนียภาพสวยงาม สะอาด ร่มรื่น เกิดสภาพแวดล้อมที่ดีในการอยู่อาศัย การปรับปรุงทัศนียภาพโดยเฉพาะพื้นที่สีเขียว ให้ดูสดชื่น ร่มรื่นอยู่เสมอ รวมถึงรักษาความสะอาดในบริเวณพื้นที่ส่วนกลาง ก็ถือเป็นงานบริหารอาคารที่สำคัญ เพราะจะทำให้เกิดสภาพแวดล้อมที่ดีในการอยู่อาศัยของเจ้าของร่วมภายในอาคารชุด นำมาซึ่งความสุขของการใช้ชีวิตในแต่ละวัน จัดสรรงบประมาณได้เหมาะสม ช่วยคงและเพิ่มมูลค่าของทรัพย์สิน การจัดสรรงบประมาณและให้ความสำคัญในการดูแลรักษาอาคารชุดและการบริหารอาคารสถานที่ จะช่วยให้คงมูลค่าทรัพย์สินของอาคารชุด อีกทั้งยังช่วยเพิ่มมูลค่าตามสภาพเศรษฐกิจและการเติบโตของตลาดที่อยู่อาศัยในอนาคตอีกด้วย เลือก “นิติบุคคล” ผู้ดูแลงานบริหารอาคารต้องเลือกอย่างไร? ในการดูแลงานบริหารอาคารของโครงการต่างๆ ผู้ดูแลคือนิติบุคคลของโครงการ การดูแลอาคารให้มีสภาพเหมือนใหม่อยู่ตลอดเวลาไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ดังนั้น ในการซื้อที่อยู่อาศัยไม่ว่าจะเป็นหมู่บ้าน หรือคอนโดมิเนียม เราควรพิจารณาถึงนิติบุคคลผู้ดูแลด้วย ควรเลือกนิติบุคคลที่มีความชำนาญในการบริหารงานอย่างมืออาชีพ แก้ปัญหาได้อย่างว่องไว มีความสามารถในการจัดการสิ่งต่างๆให้ดำเนินไปอย่างเป็นระบบ และที่สำคัญคือ มีความสามารถในการบริหารอาคารสถานที่ไม่ให้เสื่อมโทรม พื้นที่ส่วนกลางสามารถใช้งานได้ดีอยู่เสมอ เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนโครงการของเรายังมีสภาพเหมือนวันแรกที่เปิดโครงการ เพราะสิ่งเหล่านี้จะสามารถเพิ่มมูลค่าให้แก่ที่อยู่อาศัยของเราได้ จะขายต่อก็ได้กำไร จะปล่อยเช่าก็ปล่อยได้อย่างสบาย หรือแม้แต่อยู่อาศัยเองก็สามารถอยู่อาศัยได้อย่างสบายใจ บทความที่เกี่ยวข้อง เราจะเจอประสบการณ์แบบไหน หากได้ผู้ดูแลอาคารที่ดีมาบริหารจัดการ จัดระเบียบชีวิตให้ลงตัว เมื่อต้อง Work From Home Sunday is Plastic day ร่วมแยกขยะให้ถูกวิธี เพื่อบ้าน เพื่อโลกของเรา พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ผู้เชี่ยวชาญบริการอสังหาฯ ครบวงจร ที่ตอบโจทย์ได้ทุกความต้องการ บริหารงานนิติบุคคลคอนโด หมู่บ้าน อาคารสถานที่ ที่ปรึกษางานขายโครงการ และตัวแทนซื้อ ขาย เช่า คอนโดมือสอง ด้วยทีมงานระดับคุณภาพกับประสบการณ์ที่มากกว่า 20 ปี เติมเต็มทุกความต้องการอย่างแท้จริง สนใจติดต่อเพื่อรับข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 02 688 7555 หรือ plus.co.th/contactus ค้นหาบริการเพิ่มเติม: บริหารงานนิติบุคคลคอนโด, บริหารอาคารสถานที่, ที่ปรึกษางานขายโครงการ, ตัวแทนซื้อ ขาย เช่า คอนโดมือสอง , LIV-24 ศูนย์สังเกตการณ์ระบบรักษาความปลอดภัย หาข้อมูลคอนโดที่คุณต้องการได้ที่นี่: คอนโดสุขุมวิท, คอนโดให้เช่า, คอนโดจตุจักร, ขายคอนโด, คอนโดทองหล่อ, ทรัพย์สินรอการขาย, คอนโดพระราม 4, ระบบรักษาความปลอดภัย, บ้านหรู, คอนโดหรู

ปลอดหนี้แบบติดสปีด ด้วยการรีไฟแนนซ์และเพิ่มยอดผ่อน

กรณีศึกษาการรีไฟแนนซ์บ้าน และเพิ่มยอดผ่อน ช่วยผ่อนบ้านให้หมดไวขึ้น สำหรับผู้ที่กู้เงินธนาคารในการซื้อบ้านหรือคอนโดนั้น การรีไฟแนนซ์บ้านเป็นหนึ่งทางเลือกที่จะทำให้จ่ายดอกเบี้ยน้อยลง เพราะนานวันไปอัตราดอกเบี้ยก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย โดยการรีไฟแนนซ์บ้านสามารถทำได้หลังจากผ่อนไปแล้ว 3 ปี โดยจะช่วยให้อัตราดอกเบี้ยลดลง  และหากต้องการปิดบัญชีให้เร็วขึ้น สามารถพิจารณายอดผ่อนต่อเดือนมากขึ้น ตามฐานเงินเดือนที่เพิ่มขึ้นได้อีกด้วย แค่นี้ก็จะปลอดหนี้ได้ไว มีเงินเหลือใช้ไปลงทุนต่ออีกด้วย ตัวอย่างจากกรณีรีไฟแนนซ์บ้านอย่างไรให้คุ้มค่า  ลูกค้าสาวคนเก่งของเรา ที่ใช้ชีวิตโสดอย่างมีความสุข แถมยังไปได้สวยกับหน้าที่การงานที่ก้าวหน้าชนิดเรียกได้ว่าก้าวกระโดดทั้งตำแหน่งและเงินเดือน ที่ฉุกคิดขึ้นมาได้ว่าผ่อนบ้านปาเข้าไปปีที่ 7 แล้วโดยลืมเรื่องรีไฟแนนซ์บ้านไปเสียสนิท เพิ่งรู้ตัวว่าอยากผ่อนคอนโดให้หมดไวๆ เพิ่มยอดผ่อนชำระต่อเดือนอีกเท่าตัวก็ยอม จะได้ผ่อนหมดไวๆ แล้วไปซื้อคอนโดใหม่สำหรับลงทุนต่อ แต่ที่ผ่อนมาตลอด 7 ปี เพิ่งรู้ว่าผ่อนดอกเบี้ยมากกว่าเงินต้น ในกรณีนี้จะต้องทำอย่างไรมาดูกัน ในเคสนี้วงเงินกู้ของลูกค้าอยู่ที่ 2.6 ล้านบาท โดยมียอดผ่อนต่องวด 18,200 บาท/เดือน โดยมีอัตราดอกเบี้ยของสินเชื่อปัจจุบัน และอัตราดอกเบี้ยที่ธนาคารคู่แข่งเสนอให้สำหรับการรีไฟแนนซ์บ้าน ตั้งแต่ปีที่ 8 เป็นต้นไป พร้อมเพิ่มยอดผ่อนต่องวดเป็น 36,400 บาท/เดือน ดังนี้ จากการเปรียบเทียบระหว่างการรีไฟแนนซ์บ้าน และไม่รีไฟแนนซ์บ้านโดยเพิ่มยอดผ่อนต่องวดขึ้นเป็น 2 เท่าตามความต้องการของลูกค้า พบว่าการรีไฟแนนซ์นั้นสามารถประหยัดดอกเบี้ยจ่ายธนาคารได้เพียง 14% เท่านั้น และปิดหนี้เร็วกว่าเดิมเพียง 6 เดือนเท่านั้น ดังข้อมูลในตาราง ในกรณีนี้จะเห็นได้ว่าปัจจัยที่มีผลทำให้ผ่อนหมดเร็ว และจ่ายดอกเบี้ยน้อยนั้นมาจากการเพิ่มยอดเงินชำระในแต่ละงวดมากกว่าการรีไฟแนนซ์บ้านเพื่อลดอัตราดอกเบี้ยเพียงอย่างเดียว ดังนั้นในการตัดสินใจรีไฟแนนซ์บ้านจึงต้องพิจารณาในหลายๆ ด้านมากกว่าเรื่องอัตราดอกเบี้ย ซึ่งเรามีวิธีการตัดสินใจรีไฟแนนซ์บ้านหรือไม่รีไฟแนนซ์บ้านมาฝากกันดังนี้   Plus Guide หลักการตัดสินใจรีไฟแนนซ์ 1. รีไฟแนนซ์บ้านแล้วดอกเบี้ยต้องลดลง โดยเทียบจากดอกเบี้ยในช่วง 3 ปีจากยอดหนี้คงเหลือล่าสุด (เปรียบเทียบที่ 3 ปี จากสมมติฐานที่ว่าผู้กู้จะรีไฟแนนซ์บ้านทุกๆ 3 ปี) ดอกเบี้ยชำระในช่วง 3 ปี = (ยอดหนี้คงเหลือล่าสุด x อัตราดอกเบี้ย) x 3 เช่น ยอดหนี้ล่าสุด 2,300,000 บาท ธนาคารเดิมอัตราดอกเบี้ย 6.75% ต่อปี ในระยะเวลา 3 ปี จะมีดอกเบี้ยที่ต้องชำระ (2,300,000 x 6.75%) x 3 = 465,750 บาท ธนาคารใหม่อัตราดอกเบี้ย 4.50% ต่อปี ในระยะเวลา 3 ปี จะมีดอกเบี้ยที่ต้องชำระ (2,300,000 x 4.50%) x 3 = 310,500 บาท สรุปได้ว่าหากรีไฟแนนซ์บ้านไปธนาคารใหม่จะลดดอกเบี้ยจ่ายลง 465,750 – 310,500…

โครงการ RTM (Ready To Move) มีดีมากกว่าพร้อมอยู่

โครงการคอนโดแบบพร้อมอยู่ เป็นเหมือนกับแพ็คเกตที่ครบเครื่อง หรือครบเซ็ตที่หลายคนให้ความสนใจ ซึ่งมีข้อดีอยู่หลายข้อทั้งกับผู้ซื้อ และผู้ซื้อไว้ปล่อยเช่า ทั้งนี้มีข้อได้เปรียบ หรือข้อดีอะไรบ้าง ตามไปดูกับเราได้เลยครับ 1.     ตรวจเช็คก่อนทำสัญญาได้ ถึงจะบอกว่าเป็นคอนโด หรือโครงการพร้อมอยู่ ที่มักยกเซ็ตเฟอร์นิเจอร์และของต่างๆ มาด้วยแล้ว หากมีจุดที่เราต้องปรับปรุง เปลี่ยนแปลง ก็สามารถแก้ได้ก่อนวางเงินทำสัญญา ไม่รู้สึกเร่งร้อนอะไร 2.     ลากกระเป๋าเข้าอยู่ได้เลย เมื่อมีการทำสัญญาโอนห้องเสร็จสิ้น ไม่ต้องลุ้นว่าคอนโดจะเสร็จเมื่อไร และการย้ายเข้ามาในช่วงนี้คุณอาจจะได้ความเป็นส่วนตัวในระยะเวลาหนึ่งอีกด้วย เพราะโดยปกติแล้วกว่าโครงการจะมีคนเข้ามาอยู่เต็ม ก็ 1 – 2 ปี หลังจากสร้างเสร็จ 3.     ได้เห็นโครงการของจริงครบ ทั้งภายในห้อง ขนาด ทำเล รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ ช่วยให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น 4.     ลดความเสี่ยง เรื่องคอนโดที่ต้องผ่อนดาวน์ เพราะการผ่อนดาวน์คอนโดที่สร้างไม่เสร็จเป็นความเสี่ยงอย่างหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นความเสี่ยงว่าโครงการจะสร้างไม่เสร็จ โครงการจะล้ม โครงการขายไม่ออก เพราะการที่โครงการจะสร้างเสร็จได้ Developer จะต้องได้รับเงินกู้จากธนาคาร ซึ่งธนาคารจะปล่อยก็ต่อเมื่อโครงการขายได้แล้วมากกว่า 50 % ซึ่งก็เป็นข้อหนึ่งที่พอยืนยันอนาคตของโครงการ 5.     ซื้อแล้วปล่อยเช่าได้ทันที เป็นข้อดีสำหรับนักลงทุนมากที่สุด เพราะะคอนโดมิเนียมที่ยังสร้างไม่เสร็จ ช่วงที่รอการก่อสร้างต้องจ่ายเงินดาวน์ไปเรื่อยๆ รอจนกว่าโครงการสร้างเสร็จจึงจะสามารถปล่อยเช่าได้ ซึ่งนับเป็นค่าใช้จ่ายที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้หรือไม่มีผลตอบแทน ข้อดีเหล่านี้ ทำให้ห้อง หรือโครงการที่เป็นแบบ Ready To Move เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย พลัส พร็อพเพอร์ตี้ขอแถมอีกสักหน่อยกับข้อมูลเปรียบเทียบในการวางดาวน์คอนโดมีเนียมหลังที่ 2 ตามกฎหมายใหม่ ที่มีการปรับ LTV (Loan To Value) ปรับขึ้นที่ผ่านมาเป็น 10% หากผ่อนสัญญาแรกมาแล้ว 3 ปีขึ้นไป ตัวอย่างเช่น   ·        เกณฑ์การกำกับดูแลสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยใหม่ วางดาวน์เท่าไหร่ ใครเกี่ยวข้องบ้าง ·        4 ทางเลือกกู้เงินซื้อบ้าน ซื้อคอนโด ผ่อนแบบไหนหมดไวสุด สำรวจตัวเอง คุณได้รับผลกระทบหรือไม่? ·        อยากซื้อบ้านหลังที่ 2 (มีบ้านแล้วอยากซื้อคอนโด อยู่คอนโดแล้วอยากมีบ้าน) แต่เพิ่งผ่อนหลังแรกยังไม่ถึง 3 ปี ·        กำลังหาซื้อบ้านราคามากกว่า 10 ล้าน ·        ผ่อนบ้านและคอนโดพร้อมกัน ต้องการถือครองอสังหาฯ หลายที่ ผลกระทบจากมาตรการรัฐหากซื้อ/โอนหลังวันที่ 1 เม.ย.62 ·        อาจยื่นขอกู้สินเชื่อได้ไม่เต็ม 100% ดอกเบี้ยเงินกู้อาจเพิ่มขึ้น ·        เมื่อกำหนดเงินดาวน์เพิ่มขึ้น 20% อาจทำให้ค่าผ่อนต่องวดสูงขึ้น ·        จองบ้าน/คอนโดไว้แต่ไม่สามารถโอนได้เพราะไม่มีเงินก้อนมาเพิ่มเงินดาวน์ให้ครบ 20% ทางเลือกสำหรับคนที่วางแผนล่วงหน้า ·        ซื้อที่อยู่อาศัยและยื่นขอกู้แบงค์ให้เสร็จก่อนวันที่ 1 เม.ย.62 หาคอนโดที่คุณต้องการได้ที่นี่: คอนโดพร้อมอยู่, เช่าคอนโด, คอนโดติดรถไฟฟ้า, หาข้อมูลคอนโดที่คุณต้องการได้ที่นี่: นิติบุคคลคอนโด, นิติบุคคลอาคารชุด, คอนโดสุขุมวิท, คอนโดให้เช่า, คอนโดจตุจักร, ขายคอนโด, คอนโดทองหล่อ, ทรัพย์สินรอการขาย, bangkok condo for rent, คอนโดพระราม 4…

5 วิธีตั้งราคาปล่อยเช่า แบบได้กำไรชัวร์ๆ ตอน2

จากบทความที่แล้ว พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ได้นำวิธีการคำนวณหาค่าเช่าด้วยวิธีคำนวณแบบง่ายเพื่อตั้งราคาได้รวดเร็วมาฝากกันนะคะ หากใครสนใจวิธีนี้สามารถย้อนกลับไปอ่านได้เลยค่ะ คลิกอ่าน 5 วิธีตั้งราคาปล่อยเช่า แบบได้กำไรชัวร์ๆ ตอนที่ 1 วิธีคำนวณแบบง่าย ตั้งราคาได้รวดเร็ว ซึ่งในบทความนี้ยังมีอีก 2 วิธีที่สามารถช่วยให้เราคำนวณค่าเช่าแบบแม่นยำมากขึ้น โดยมีการนำเอา Rental Yield เข้ามาประกอบการคำนวณ รวมทั้งคิดครอบคลุมค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เกิดขึ้นอันเป็นหนึ่งในต้นทุนด้วย ซึ่งทั้ง 2 วิธีนี้จะมีวิธีการคำนวณที่ค่อนข้างซับซ้อนอยู่พอสมควร แต่ก็ไม่ยากจนเกินความสามารถ เพียงแต่อาจจะมีหลายขั้นตอนมากหน่อย ไปติดตามกันได้เลยค่ะ 4. ตั้งราคาแบบเปรียบเทียบอัตราผลตอบแทนจากการปล่อยเช่า (Rental Yield) ระดับความยากง่ายในการคำนวณ: ซับซ้อน ระดับความแม่นยำ: 4/5 การคำนวณด้วยวิธีนี้อาจมีวิธีคำนวณที่ค่อนข้างซับซ้อนแต่ได้ผลที่ค่อนข้างแม่นยำ เพราะเราต้องคำนวณหาผลเฉลี่ยอัตราผลตอบแทนจากการปล่อยเช่า (Rental Yield) ในพื้นที่นั้นก่อน เพราะแต่ละพื้นที่จะมีอัตราผลตอบแทนที่แตกต่างกัน โดยส่วนใหญ่จะคิดเป็นเปอร์เซนต์ เพื่อที่เราจะได้นำค่าเฉลี่ยนั้นมาคำนวณหาราคาปล่อยเช่าให้กับห้องของเราได้ ซึ่งเราสามารถคิด คำนวณหา Rental Yield ในพื้นที่นั้นๆ ได้ด้วยตนเอง หรือค้นหาข้อมูลผลตอบแทนการลงทุนจากโครงการได้จากแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือ เมื่อเราได้ค่าเฉลี่ยผลตอบแทนมาแล้วให้นำมาคูณกับราคามูลค่าโครงการที่ซื้อมา และนำไปหารด้วย 12 เพียงเท่านี้เราก็จะได้ราคาปล่อยเช่าในแต่ละเดือน Example ตัวอย่างการตั้งราคาแบบเปรียบเทียบอัตราผลตอบแทน (Rental Yield) ต้องการปล่อยเช่าคอนโดย่านพร้อมพงษ์ ห้องชุดที่ต้องการปล่อยเช่าอยู่ย่านอโศก ซื้อมาในราคา 5,500,000 บาท ขนาด 1 ห้องนอน อ่านจากหนังสือพิมพ์พบว่าอัตราผลตอบแทนเฉลี่ยจากการปล่อยเช่าในย่านนี้อยู่ที่ประมาณ 6% ต้องตั้งราคาค่าเช่าเท่าไหร่จึงจะได้กำไร ขั้นตอนที่ 1 คำนวณหาอัตราผลตอบแทนต่อปี สูตร ราคาห้องชุด x อัตราผลตอบแทน(%) วิธีทำ 5,500,000 x 6% = 330,000 ตอบ ห้องชุดนี้มีอัตราผลตอบแทนอยู่ที่ 330,000 บาท/ปี ขั้นตอนที่ 2 คำนวณหาผลตอบแทนต่อเดือน สูตร อัตราผลตอบแทนต่อปี ÷ 12 วิธีทำ 330,000 ÷ 12 = 27,500 คำตอบสุดท้าย ควรตั้งราคาค่าเช่าเริ่มต้นที่ 27,500 บาท/เดือน (สามารถคิดราคาบวก/ลบเพิ่มจากราคาตั้งต้นนี้ หากห้องที่ปล่อยเช่ามีการตกแต่งเพิ่มเติม) 5. ตั้งราคาแบบคำนวณจากต้นทุนทั้งหมด ระดับความยากง่ายในการคำนวณ: ซับซ้อน ระดับความแม่นยำ: 5/5 การเลือกวิธีคำนวณด้วยวิธีนี้เป็นวิธีที่ซับซ้อนที่สุดจากที่กล่าวมา แต่รับรองได้ว่าหากใช้วิธีนี้คำนวณหาราคาปล่อยเช่าให้กับห้องของเราแล้วจะไม่ขาดทุนแน่นอน เพราะการคำนวณด้วยวิธีนี้เป็นการรวมเอาค่าใช้จ่ายที่เป็นต้นทุนที่เกิดขึ้นจริงทั้งหมดมาคิดคำนวณ โดยแบ่งเป็น 2 ส่วนด้วยกัน คือ 1. Investment Cost (ต้นทุน) ได้แก่ ราคาซื้อขายจริง, เงินกองทุน…

6 โซนสุขุมวิทกับ 6 ไลฟ์สไตล์ที่ลงตัว

สุขุมวิทเป็นถนนเส้นยาว มีโครงการคอนโดมากมายให้เลือกสรร แต่โซนใดในสุขุมวิทจะตอบโจทย์กับ ไลฟ์สไตล์ของเรามากที่สุด วันนี้พลัส พร็อพเพอร์ตี้ มีตัวอย่างมาให้ทุกคนได้ลองพิจารณากันครับ พูดถึงคอนโดใจกลางเมือง ใครๆ ก็ต้องนึกถึงคอนโดติดถนนสุขุมวิทเป็นตัวเลือกแรกๆ ถนนสุขุมวิท จะเรียกว่าเส้นเลือดใหญ่ของชาวกรุงก็ว่าได้ เพราะสองข้างทางและในซอยเล็กซอยน้อยเต็มไปด้วยออฟฟิศ ร้านอาหาร คาเฟ่ ห้างร้าน สิ่งอำนวยความสะดวกและสถานที่สำคัญมากมายที่มีส่วนในชีวิตประจำวันของผู้คนที่อาศัยในกรุงเทพฯ การคมนาคมก็สะดวกเพราะมีรถไฟฟ้า และชุมสายของรถประจำทาง และการคมนาคมอื่นๆ ให้เลือก สิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยให้หลายคนอยากมีคอนโดอยู่ใกล้ถนนสุขุมวิท 1.    อ่อนนุช ชีวิตไม่มีสุดทาง คอนโดโซนอ่อนนุชคือโซนที่อยู่อาศัยยอดนิยมสำหรับคนที่อยากหลีกหนีความวุ่นวายของใจกลางสุขุมวิท แต่ก็อยากเดินทางได้สะดวก แม้จะอยู่เกือบชานเมือง เพราะคอนโดย่านอ่อนนุชนี้ เป็นคอนโดที่อยู่แนวรถไฟฟ้า ทำให้เดินทางเข้าเมือง ไปยังย่านออฟฟิศที่อยู่กลางเมืองได้สะดวกมาก หรือถ้าเจอวันหยุดยาวและอยากขับรถไปเที่ยวสมุทรปราการ หรือพัทยา ก็เลี้ยวขึ้นทางด่วนต่อมอเตอร์เวย์ได้ทันที คอนโดย่านอ่อนนุชกำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งราคาเช่า-ซื้อก็ไม่แพงมากเมื่อเทียบกับคอนโดสุขุมวิทโซนอื่นๆ เดินทางสะดวก ประกอบกับคอมมูนิตี้มอล ร้านค้าก็มากขึ้นเรื่อยๆ และโครงการ เดอะ เบส สุขุมวิท 77 เองก็เดินจากสถานีรถไฟฟ้าอ่อนนุชเพียง 15 นาที 2.    พระโขนง แหล่งใหม่ของเหล่า ฮิปสเตอร์ ขยับเข้ามาใกล้อีกหน่อย คือย่านพระโขนงที่รวบรวมความเก๋และความชิคไว้ไม่แพ้ใจกลางเมือง นับว่าคอนโดย่านพระโขนงนี้มีความสะดวกไม่แพ้กับใจกลางเมือง เพราะอยู่ติดเส้นรถไฟฟ้า มีถนนเชื่อมไปเส้นลาดพร้าว พระรามสี่ได้ จะเข้าเมืองหรือออกไปชานเมืองก็ไม่ได้ลำบากเช่นเดียวกับคอนโดย่านอ่อนนุช พร้อมมีห้างร้าน คอมมูนิตี้มอลล์รายล้อมครบครัน และร้านกาแฟฮิปๆ ที่ทยอยผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ด ถูกใจสาย café hopping ที่สุด หากคุณคือคนที่รักความสะดวกสบาย มีไลฟ์สไตล์แบบคนเมือง คอนโดย่านพระโขนงคืออีกตัวเลือกหนึ่ง เช่นคอนโดใกล้รถไฟฟ้าโครงการ เดอะ ไลน์ สุขุมวิท 71 เพราะนอกจากจะเป็นคอนโดใกล้รถไฟฟ้าสถานีพระโขนงแล้ว คุณยังสามารถเดินไปยังแหล่งรวมคาเฟ่ ร้านค้า ร้านอาหารและตลาดได้อย่างสะดวกอีกด้วย 3.    เอกมัยศูนย์กลางไลฟ์สไตล์ ใครอยู่คอนโดย่านเอกมัย เรียกได้ว่าอยู่ในแหล่งรวมทุกสิ่งทุกอย่างของชาวสุขุมวิท ไม่ว่าจะเป็นคาเฟ่ชิคๆ ร้านอาหารหรูๆ ผับ ห้าง ฟิตเนส โรงหนัง คอนโดย่านเอกมัยมีให้ครบตอบโจทย์ชีวิตตั้งแต่เช้ายันค่ำ ส่วนเรื่องการเดินทางของคนอยู่คอนโดย่านนี้ใกล้ทั้งรถไฟฟ้า หรือไม่อยากเดินก็มีวินมอเตอร์ไซต์พร้อมให้บริการ พาลัดเลาะเข้าทองหล่อและพร้อมพงษ์ก็ไปได้ง่าย รถตู้ รถทัวร์จอดพร้อมที่ขนส่งเอกมัย หรือจะขับรถเชื่อมไปเลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทราก็สะดวก คนที่ไลฟ์สไตล์ชีวิตไม่หยุดนิ่ง ขอแนะนำให้อยู่คอนโดย่านเอกมัยเลยครับ โดยเฉพาะคอนโดซีล บายแสนสิริ ที่ดีไซน์มาตอบโจทย์ทุกฟังก์ชั่นของการดำเนินชีวิต ตั้งอยู่ใจกลางย่านเอกมัย ให้คุณใช้ชีวิตในทุกด้านแบบเต็มที่ 4.    ทองหล่อ ชีวิตไม่หยุดนิ่ง ย่านที่ไม่เคยหลับ ทองหล่อ เป็นย่านในฝันของชาวเมือง เป็นทำเลในอุดมคติที่จัดสรร Work and Play ได้อย่างลงตัว เพราะมีทั้งออฟฟิศ ร้านค้าเก๋ๆ ร้านอาหารชื่อดัง ผับบาร์หรู ร้านกาแฟลับที่ซ่อนตัวอยู่ตามตรอกซอกซอย Art Gallery ที่จัดกิจกรรมเวิร์คชอป หรือเลือกซื้อและชามงานคราฟก็มีให้เลือกแบบไม่มีวันเบื่อ คนที่อยู่คอนโดในย่านทองหล่อนี้คงพูดได้เต็มปากว่าอยากใช้ชีวิตแบบไหนก็ได้ สโลว์ไลฟ์ใจกลางกรุงเทพฯ มันก็เป็นไปได้เหมือนกัน ย่านทองหล่อเป็นย่านที่เหมาะมากกับคนที่เสพติดความโมเดิร์น และชอบเฟ้นหาความแปลกใหม่ ถ้าทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่คุณมองหา คอนโด สิริ แอท…

5 ขั้นตอน ปล่อยเช่าคอนโดให้กับชาวต่างชาติ สร้าง Passive Income

เชื่อว่าหลายคนกำลังมองหาโอกาสในการลงทุนเพื่อให้สินทรัพย์ที่มีอยู่งอกเงยขึ้นมา สร้างเป็น Passive Income ให้กับตัวเองยามวัยเกษียณ การปล่อยคอนโดให้เช่าที่มีอยู่ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่นิยมในหมู่นักลงทุน และหลายคนก็นิยมที่จะเลือกลงทุนปล่อยคอนโดให้เช่าในทำเลที่ Expat หรือชาวต่างชาตินิยมเช่า เพราะคิดว่าจะได้เรทของการปล่อยเช่าที่สูงกว่าเรทของคนไทยด้วยกันเอง  ภาพจากห้องตัวอย่างโครงการ TAKA HAUS แต่ก็ยังมีข้อกำหนดและสิ่งที่คุณต้องรู้ในกรณีที่คุณจะปล่อยคอนโดให้เช่ากับชาวต่างชาติ เพราะเจ้าของห้องจะต้องแจ้งข้อมูลชาวต่างชาติที่เช่าห้องพักให้กับที่ทำการตรวจคนเข้าเมืองหรือสถานีตำรวจในท้องที่ ซึ่งบุคคลต่างด้าว หรือชาวต่างชาติที่เช่านั้นจะต้อง “ได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว” ในช่วงเวลาที่ย้ายเข้าพักอาศัยในคอนโดด้วย รวมถึงเข้ามาประกอบอาชีพ หรือทำธุรกิจภายในประเทศไทยอย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยพระราชบัญญัติ คนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 กำหนดไว้ว่า เจ้าของบ้าน หรือผู้จัดการโรงแรมซึ่งรับคนต่างด้าวเข้าพักอาศัย จะต้องแจ้งต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ณ ที่ทำการตรวจคนเข้าเมืองซึ่งตั้งอยู่ในท้องที่ที่ เคหสถาน หรือโรงแรมนั้นอยู่ “ภายใน 24 ชั่วโมง” นับแต่เวลาที่คนต่างด้าวเข้าพักอาศัย แต่ถ้าท้องที่นั้นๆ ไม่มีที่ทำการตรวจคนเข้าเมืองตั้งอยู่ ให้แจ้งต่อเจ้าพนักงานตำรวจ ณ สถานีตำรวจในท้องที่นั้นๆ สิ่งสำคัญที่ต้องทราบอีกอย่างคือ ชาวต่างชาตินั้นจะต้อง “ได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว” ในช่วงเวลาที่ย้ายเข้าพักอาศัยด้วย ซึ่งถือว่าเป็นข้อดีที่เราจะขอหลักฐานการได้รับการอยู่อาศัยในประเทศไทยอย่างถูกต้อง ทั้งนี้ก็เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยและความปลอดภัยของทรัพย์สินของเจ้าของห้องเองด้วย ถ้าเจ้าของคอนโดรายใดไม่ปฏิบัติตาม กฎหมายได้กำหนดให้มีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท ในกรณีธุรกิจโรงแรม ผู้จัดการโรงแรมจำเป็นต้องแจ้งที่ทำการตรวจคนเข้าเมืองเช่นกัน หากไม่ปฏิบัติตามต้องระวางโทษปรับตั้งแต่ 2,000 บาทถึง 10,000 บาท สำหรับวิธีการแจ้ง ให้แจ้งตามแบบ ตม. 30 โดยสามารถดาวน์โหลดได้ ที่นี่ สถานที่รับแจ้ง หากทรัพย์สินตั้งอยู่ในเขตกรุงเทพมหานคร ให้แจ้งที่กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ อาคารรัฐประศาสนภักดี ถนนแจ้งวัฒนะ ซอย 7 แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ 10210 ในกรณีที่ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ต่างจังหวัด ให้แจ้ง ณ ที่ทำการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดในเขตพื้นที่ที่มีหน้าที่รับผิดชอบ ส่วนวิธีการแจ้ง นอกจากจะแจ้งที่สถานที่ดังกล่าวแล้ว สามารถแจ้งทางไปรษณีย์ หรือ แจ้งทางอินเทอร์เน็ตผ่าน เว็บไซต์สำนักงานตรวจเข้าเมือง โดยผู้ปล่อยเช่าต้องแจ้งข้อมูลและยื่นเอกสารเกี่ยวกับผู้เช่า (ชาวต่างชาติ) ให้เจ้าหน้าที่นิติบุคคลเก็บไว้เป็นหลักฐานเสมอ ตามระเบียบของนิติบุคคลอาคารชุดที่ 002/2555 ว่าด้วยเรื่อง การใช้ประโยชน์ห้องชุดสำหรับบริการเช่าพักอาศัย ภาพจากห้องตัวอย่างโครงการ THE BASE Garden Rama 9 เอกสารประกอบการเช่าพักอาศัยกรณีปล่อยเช่าให้ชาวต่างชาติ มีดังนี้ 1. สำเนาบัตรประจำตัวคนต่างด้าว หรือหนังสือเดินทาง และสำเนาใบสำคัญแสดงถิ่นที่อยู่ ของผู้เช่าพักอาศัยและบริวารในห้องชุด 2. สำเนาใบรับการแจ้งรับคนต่างด้าวเข้าพักอาศัย ที่กองตรวจคนเข้าเมืองรับแจ้งเรียบร้อยแล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่นิติบุคคลสามารถตรวจสอบได้กรณีผู้เช่ามีพฤติกรรมน่าสงสัย 3. กรณีผู้เช่าเป็นบุคคลต่างด้าว จะเข้าพักได้ไม่เกิน 3 คนต่อหนึ่งห้องชุด ทั้งนี้เจ้าของร่วมต้องส่งข้อมูลผู้เช่าที่เป็นปัจจุบันให้ฝ่ายจัดการฯ และเพื่อความสงบปลอดภัยฝ่ายจัดการฯ จะทำการตรวจสอบเป็นประจำทุก 6 เดือนทีนี้เรามาดูกันว่า 5 ขั้นตอนของการปล่อยเช่าให้กับชาวต่างชาติ นั้นมีอะไรกันบ้าง ทั้งตัวเจ้าของห้อง ผู้เช่า และนิติบุคคล มีบทบาทและหน้าที่อย่างไร เจ้าของบ้าน/ห้องชุด 1. ตกลงและสรุปรายละเอียดของสัญญาเช่า…

5 คำถามที่ต้องการคำตอบ ก่อนตกลงใจเช่าห้อง

การทำงานในเมืองใหญ่ ที่ต้องฝ่าฟันชั่วโมงเร่งด่วน ทั้งฝนตก รถติด เสียเวลาไปในแต่ละวันมากมายแล้ว อีกหนึ่งทางเลือกของคนทำงานในเมือง คือ การเช่าห้องพักอยู่ในเมืองเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาเหล่านี้ การเลือกอพาร์ตเม้นท์ หรือคอนโดซักห้องเพื่อพักอาศัยในช่วงวันทำงานนั้น นอกจากการเลือกห้องที่ใช่ โลเคชั่นที่ใช่แล้ว คำถามต่อมาที่ควรต้องหาคำตอบจากเจ้าของห้อง หรือนายหน้าผู้ดูแลห้องนั้นๆ ก่อนตัดสินใจเช่าห้อง และทำการเซ็นสัญญานั้นมีอะไรบ้าง คำถามแรก คือ สิ่งอำนวยความสะดวกที่อยู่โดยรอบ เช่น ตลาด โรงพยาบาล ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหารท้องถิ่น หรือสถานีรถไฟใกล้เคียง คำถามที่ 2 กฎระเบียบของการเข้าพักอาศัย เพราะแต่ละที่อาจจะมีกฎระเบียบไม่เหมือนกัน เช่น อนุญาติให้เลี้ยงสัตว์หรือไม่  การใช้ส่วนกลางมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมหรือจำกัดจำนวนแขกของผู้เช่ากี่คน เป็นต้น เพื่อใช้ในการตัดสินใจให้เข้ากับ ไลฟสไตล์ของเรา คำถามที่ 3  รอบการชำระค่าสาธารณูปโภค เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ และมีบิลค้างชำระจากผู้เช่าเก่าหรือไม่ เพื่อไม่ให้เป็นการแบกภาระสำหรับตนเอง รวมถึงค่าส่วนกลางใครเป็นผู้ชำระ คำถามที่ 4 จำนวนที่จอดรถ และค่าที่จอดรถรวมอยู่ในค่าเช่าไหม และหากมีแขกมาเยี่ยม สามารถจอดได้นานแค่ไหน หากเราต้องใช้การเดินทางด้วยรถเป็นหลัก คำถามที่ 5 จำนวนเงินค่าเช่าที่ต้องจ่ายล่วงหน้า และเงินค้ำประกัน จำนวนกี่เดือน รวมไปถึงอัตราค่าปรับหากชำระค่าเช่าล่าช้า เพื่อการบริหารเงินที่ดี หลายคนอาจหลงลืมคำถามเหล่านี้ไป และมารู้คำตอบหลังย้ายเข้ามาพักอาศัยแล้ว ซึ่งอาจจะผิดหวังเพราะมีหลายสิ่งไม่ตรงกับที่เราต้องการ ดังนั้นควรรอบคอบและถามคำถามที่อยู่ในใจให้เคลียทุกข้อสงสัย เพื่อให้เราอยู่อาศัยได้อย่างสบายกาย และสบายใจ พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ตัวแทนด้านอสังหาริมทรัพย์ รับฝากขายปล่อยเช่า พร้อมบริการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับที่อยู่อาศัย ด้วยทีมงานระดับคุณภาพ หากสนใจอยากทราบข้อมูลเพิ่มเติมของโครงการคอนโดที่มีเทคโนโลยีสมัยใหม่ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ ทำให้จังหวะชีวิตคุณสุดได้ไม่สะดุด สามารถโทรติดต่อขอคำปรึกษาได้ที่ 02 688 7555 หรือ คลิกที่นี่ เพื่อค้นหายูนิตฝากขายได้เลยครับ หาข้อมูลคอนโดที่คุณต้องการได้ที่นี่: คอนโดสุขุมวิท, คอนโดให้เช่า, คอนโดจตุจักร, ขายคอนโด, คอนโดทองหล่อ, ทรัพย์สินรอการขาย, Bangkok condo for rent, คอนโดพระราม 4, Property Management บทความที่เกี่ยวข้อง : 3 สิ่งเตรียมพร้อม ก่อนยื่นกู้ซื้อบ้าน 5 นิสัยที่ควรมีถ้าอยากให้บ้านสะอาดอยู่เสมอ 10 วิธีทำความสะอาด ปรับบ้านให้มีแต่โชคดี เตรียมพร้อมค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ก่อนขึ้นบ้านใหม่

เจาะลึกพฤติกรรมผู้เช่าชาวญี่ปุ่น

ผู้เช่า “ญี่ปุ่น” สำหรับนักลงทุนที่สนใจตลาดผู้เช่า “ชาวญี่ปุ่น” เป็นกลุ่มเป้าหมาย หลังจากที่ได้ศึกษาทำเลยอดนิยมที่ชาวญี่ปุ่นชอบอยู่อาศัย รวมถึงลักษณะพิเศษเฉพาะตัวหรือคาแรคเตอร์ที่แต่ละชาติมีความชอบและสนใจที่ต่างกันจากบทความ เลือกคอนโดปล่อยเช่ายังไงให้เพอร์เฟคโดนใจชาวต่างชาติ แล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่ควรให้ความสำคัญไม่แพ้กันคือ ไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมายเพื่อที่จะได้นำมาประกอบการตัดสินใจเลือกซื้อคอนโดปล่อยเช่าได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังเป็นแนวทางในการตกแต่งห้องให้มีฟังก์ชันถูกใจ ตอบโจทย์ผู้เช่าและปิดดีลได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งได้ค่าเช่าในราคาสูงอีกด้วย รูปแบบการอยู่อาศัยของลูกบ้านชาวญี่ปุ่นในโครงการที่พลัสฯ บริหาร มี 2 ประเภท คือ ครอบครัว มีจำนวนสมาชิก 3-4 คน และอาศัยอยู่คนเดียว โดยส่วนมากเป็นพนักงานจากบริษัทแม่ในประเทศญี่ปุ่นส่งมาประจำที่เมืองไทยเป็นระยะเวลาประมาณ 5 ปี เมื่อครบกำหนดจะย้ายไปประจำที่ประเทศอื่น (Relocation) ตัวอย่างบริษัท เช่น Toyota, Honda, Daikin และบริษัทในอมตะนคร ห้องพักที่ลูกบ้านญี่ปุ่นนิยมคือประเภท 2-3 ห้องนอนหากอยู่กันเป็นครอบครัว และ 1 ห้องนอนที่มีเฟอร์นิเจอร์ครบสำหรับผู้พักอาศัยคนเดียว โดยสิ่งสำคัญที่คนญี่ปุ่นแทบทุกห้องต้องมีคือ เครื่องทำน้ำร้อน, เครื่องกรองน้ำสำหรับอาบน้ำ และTV สามารถเชื่อมต่อสถานีโทรทัศน์ NHK ได้ สาเหตุที่ลูกบ้านญี่ปุ่นชอบอาศัยอยู่แถวทองหล่อ สุขุมวิท สำหรับคนที่มีงบประมาณ คือห้องมีขนาดใหญ่ เดินทางสะดวกเพราะส่วนใหญ่มักจะทำงานอยู่แถวชลบุรี ระยอง สามารถขึ้นทางด่วนเพื่อออกมอเตอร์เวย์ได้เลย และในย่านดังกล่าวยังถูกใจกลุ่มแม่บ้านชาวญี่ปุ่นด้วย เพราะมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของชาวญี่ปุ่นมากทั้งร้านค้าที่นำสินค้าจากญี่ปุ่นมาจำหน่าย รวมไปถึงร้านอาหารญี่ปุ่นในรูปแบบต่างๆ ใกล้ซุปเปอร์มาร์เกตญี่ปุ่น Fuji Supermarket, Tops ห้างสรรพสินค้า Emporium และร้านอาหารที่มีให้เลือกมากมาย รวมถึงคอนโดในบริเวณนี้มีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่สามารถให้ลูกๆ เรียนว่ายน้ำได้ และ หากเจ็บป่วยไม่สบายก็มักจะใช้บริการที่โรงพยาบาล สมิติเวช สุขุมวิท เพราะมีล่ามภาษาญี่ปุ่นโดยเฉพาะ และที่สำคัญสะดวกสบายในเรื่องระบบการคมนาคมโดยรถไฟฟ้า ระยะเวลาการอยู่อาศัยประเภทเช่าจะเป็นไปตามสัญญาการย้ายมาทำงานประจำ ถ้าระยะยาวคือ 4-5 ปี ระยะสั้น 1 ปี โดยช่วงการเข้าอยู่อาศัยมีทั้งช่วงกลางปี (มิ.ย. – ก.ค. – ส.ค.) และ ปลายปี ขึ้นอยู่กับสัญญา และ ชาวญี่ปุ่นมักจะรักษาความสะอาดห้องเป็นอย่างดี รวมถึงจ่ายค่าเช่าตรงเวลา และจากการสอบถามไปยังฝ่ายจัดการฯ นิติบุคคล โครงการ สิริแอทสุขุมวิท และ บ้านบรรณาวรรณ ที่มีชาวญี่ปุ่นอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก อัตราการอยู่อาศัยสูงที่สุดในบรรดาผู้เช่าต่างชาติ ถึงความประทับใจที่มีต่อลูกบ้านญี่ปุ่น คือ ลูกบ้านที่มาพักอาศัยมีอัธยาศัยดี ยิ้มแย้มแจ่มใส ใจดี และปฏิบัติตามกฏระเบียบข้อบังคับของการอยู่อาศัยเป็นอย่างดี และลูกบ้านก็ประทับใจการให้บริการและการช่วยเหลือในทุกเรื่องของฝ่ายจัดการฯ เช่นกัน เพราะให้บริการไม่จำกัดเฉพาะเรื่องการอยู่อาศัย เช่น ช่วยแนะนำสถานที่ท่องเที่ยว ช่วยดูแลลูกๆ ในขณะที่แม่ไปทำธุระ ฯลฯ หาข้อมูลคอนโดที่คุณต้องการได้ที่นี่: คอนโดสุขุมวิท, คอนโดให้เช่า, คอนโดจตุจักร, ขายคอนโด, คอนโดทองหล่อ, คอนโดพระราม 4, ระบบรักษาความปลอดภัย, บ้านหรู, คอนโดหรู, คอนโด 2 ห้องนอน, คอนโดอ่อนนุช, บ้านแสนสิริ พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ตัวแทนด้านอสังหาริมทรัพย์ รับฝากขายปล่อยเช่า พร้อมบริการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับที่อยู่อาศัย ด้วยทีมงานระดับคุณภาพ หากสนใจอยากทราบข้อมูลเพิ่มเติมของโครงการคอนโดที่มีเทคโนโลยีสมัยใหม่ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ ทำให้จังหวะชีวิตคุณสุดได้ไม่สะดุด สามารถโทรติดต่อขอคำปรึกษาได้ที่