5 เหตุผลของคนเลือกอยู่คอนโดที่มีนิติบุคคลบริหารจัดการเป็น

หลายคนที่อยู่อาศัยในอาคารชุดหรือคอนโดมิเนียม หรือมีญาติ เพื่อน คนรู้จัก อาศัยอยู่ น่าจะเคยได้ยินคำว่านิติบุคคลมาบ้างแล้ว แต่อาจจะไม่เคยรู้ว่านิติบุคคลนั้นมีความสำคัญจำเป็นอย่างไร หากในโครงการที่เราอยู่อาศัยนั้นมีนิติบุคคลที่บริหารจัดการได้อย่างมืออาชีพจะทำให้ชีวิตดี๊ดีจริงหรือไม่ วันนี้ Plus Property ได้คัด 5 เหตุผลดีๆ ที่คนเลือกอยู่คอนโดแล้วมีประสบการณ์การอยู่อาศัยในโครงการที่การดูแลอย่างมืออาชีพมาฝาก ตามมาดูพร้อมกันครับ โครงการเดอะ เบส การ์เดน พระรามเก้า 1. ได้อยู่อาศัยในโครงการที่มีสภาพแวดล้อมดี เสริมภาพลักษณ์ พื้นที่ส่วนกลาง สภาพโครงสร้างอาคาร พื้นที่โดยรอบสะอาดตา สภาพภายนอกของอาคารได้รับการซ่อมแซมรักษาเป็นประจำ เช่น ทาสีใหม่ ปรับปรุงพื้นที่เริ่มสึกหรอ รักษาร่องรอยแตกร้าว สิ่งเหล่านี้หากมีนิติบุคคลที่บริหารจัดการดีมาดูแล จะช่วยให้คอนโดมีสภาพดี ย่อมสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีและน่าอยู่มีความอุดมสมบูรณ์ในระดับที่เหมือนหรือใกล้เคียงกับเมื่อเข้ามาอยู่ใหม่ แม้เวลาจะผ่านไปนานเท่าใด การดูแลรักษาที่ดีมีมาตรฐานอยู่เสมอก็จะไม่ทำให้โครงการที่เราอยู่อาศัยเสื่อมสภาพไปตามกาลเวลาได้ รีวิวจากลูกบ้าน “การดูแลพื้นที่ส่วนกลาง ผมก็ยังคิดนะว่า ใบไม้ที่มันร่วง ถ้าไม่มีนิติเก่งๆ มาจัดการให้ ผมว่าก็จบเหมือนกัน ใครจะกวาดล่ะ ต้นไม้เยอะๆ มันก็ดี แต่ถ้าไม่มีคนดูแลให้ก็แย่เหมือนกัน” “ทุกวันนี้อย่างที่บอกว่ากลับมานี่…ที่นี่มันคือความสุขของผม” “แทบจะเรียกได้ว่าคงสภาพค่อนข้างดีมากนะครับ ระยะเวลาที่มาอยู่นี่ประมาณ 5 ปี จะว่านานก็นาน จะว่าไม่นานก็ไม่นาน แต่ว่า 5 ปีไปแล้ว สภาพยังใกล้เคียงกับตอนที่เรามาซื้อ” 2. ได้อยู่อาศัยในโครงการที่มีความปลอดภัยสูง ความปลอดภัยถือเป็นเรื่องสำคัญในการอยู่อาศัย แม้ว่าโครงการจะสวยงามเพียงใด หากขาดการจัดการด้านความปลอดภัยที่ดีเราก็คงอยู่ด้วยความหวาดระแวง เพราะบางครั้งเราอาจจะต้องกลับบ้านดึก หรือทิ้งบ้านเพื่อออกเดินทางไกล หากนิติบุคคลมีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่ดี มีการสแกนคนเข้า-ออกอย่างรัดกุมรวมถึงการฝึกอบรมพนักงานรักษาความปลอดภัยเป็นประจำ และหากยิ่งมีการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยสอดส่องดูแลภายในโครงการ ประสานการทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ เราคงรู้สึกอุ่นใจมากขึ้นที่จะฝากบ้านไว้ รีวิวจากลูกบ้าน “อย่างตอนกลางคืน เราไม่ต้องเป็นห่วงอะไร เรื่องความปลอดภัย มีคนดูแลเดินตรวจทุกชั้นเลย” “เราเป็นผู้หญิง บางครั้งเป็นคนกลับบ้านค่อนข้างมืดก็จะเห็นว่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของโครงการ ดูแลได้เป็นอย่างดี เลยทำให้รู้สึกมั่นใจเพิ่มเติมขึ้น” พื้นที่สวนส่วนกลางโครงการโมริ เฮาส์ 3. ได้อยู่อาศัยในโครงการที่มีบรรยากาศน่าอยู่อาศัย การเลือกซื้อคอนโดเพื่ออยู่อาศัยแน่นอนว่า เรื่องดีไซน์ของโครงการ ทั้งภายในอาคาร พื้นที่ส่วนกลาง และพื้นที่สีเขียวภายนอก เป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้เราเลือกมาอยู่โครงการนี้ ดังนั้นการที่มีผู้ดูแลอาคารที่เอาใจใส่ดูแลความสวยงาม ความสะอาดเรียบร้อยถูกสุขอนามัย มีการดูแลสวนให้สวยงาม รดน้ำตัดแต่งต้นไม้อย่างสม่ำเสมอ ย่อมสร้างบรรยากาศที่ดีให้กับผู้อยู่อาศัย หรือแม้แต่กระทั่งความพิถีพิถันที่จะดูแลวัสดุ ของตกแต่งภายในโครงการทุกชิ้นด้วยความเชี่ยวชาญ นอกจากจะยืดอายุการใช้งานแล้ว ยังทำให้รู้สึกสบายตา สบายใจทุกครั้งที่ได้มอง รีวิวจากลูกบ้าน “ในการดูแลพื้นที่ส่วนกลาง หรือ อุปกรณ์ทุกอย่างที่อยู่ในส่วนกลาง ต้องชื่นชม เพราะเขาต้องใส่ใจ เขาต้องมีความรู้ มันต้องมีความปราณีต และต้องรู้ว่าจะต้องทำอย่างไร จะรักษาความสะอาดอย่างไร เพื่อให้มีความสวยงาม เพราะว่าถ้ามันดูไม่ดี หรือดูหมองไปมันก็ไม่ค่อยน่าอยู่” หินอ่อนที่นำมาตกแต่งในโครงการเดอะโมนูเมนต์สนามเป้า 4. ได้อยู่อาศัยในโครงการที่มีการจัดการที่เป็นระบบ นิติบุคคลที่เป็นมืออาชีพ จะมีการทำงานที่เป็นระบบ มีแผนการทำงานอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน มีการวางแผนและจัดตั้งงบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ จัดการเรื่องการเงินที่ได้ดุล รวมทั้งมีความซื่อสัตย์สุจริต สามารถไว้วางใจให้ดูแลบริหารจัดการได้อย่างเต็มที่เพราะมีการดำเนินการอย่างถูกต้องและครบถ้วนตามที่กฎหมายกำหนด มีระเบียบการอยู่อาศัยอย่างชัดเจน…
5 ข้อควรรู้ก่อนซื้อคอนโด 200,000 บาท/ตร.ม.

จากครั้งก่อน กับคอนโดราคา 17k-150k บาทต่อตารางเมตร หรือคอนโดระดับกลางไปแล้ว ว่าในการซื้อคอนโดราคานี้มีอะไรให้บ้าง เป็นคอนโดพร้อมอยู่ หรือมาพร้อมกับของคุณภาพแบบไหนบ้าง วันนี้เราขอนำเสนอซื้อคอนโดระดับหรู ราคาตั้งแต่ 200k บาทต่อตารางเมตรขึ้นไป ให้ผู้สนใจได้เปรียบเทียบว่าต่างกับซื้อคอนโดใน segment อื่นอย่างไร และได้อะไรบ้าง ตามหัวข้อด้านล่างต่อไปนี้เลยครับ 1. เฟอร์นิเจอร์ ถ้าซื้อคอนโดในโครงการระดับเอ็กซ์คลูซีฟ หรือราคาต่อตารางเมตรตั้งแต่ 200,000 บาทขึ้นไป มักจะไม่มีเฟอร์นิเจอร์มาให้ มีเพียงสุขภัณฑ์ แอร์ ชุดครัว นอกนั้นจะได้ห้องเปล่าๆ เนื่องจากลูกค้ากลุ่มนี้มักอยากตกแต่งห้องเองตามสไตล์ และความเหมาะสมในการอยู่อาศัยของตนเอง อาจจะมีห้องตัวอย่าง หรือห้องปล่อยเช่าที่เป็นลักษณะ Fully Fitted บ้าง 2. พื้นห้อง สำหรับยูนิตโครงการที่มีราคาต่อตารางเมตร 200,000 บาทขึ้นไปนั้น มักใช้วัสดุปูพื้นที่มีคุณภาพ โดยใช้หินอ่อนลวดลายสวยในห้องนั่งเล่น พื้นไม้ Engineer และกระเบื้อง porcelain ในส่วนของห้องนอน 3. เครื่องปรับอากาศ หากจะซื้อคอนโดโครงการที่ราคาตั้งแต่ 200,000 บาทต่อตารางเมตร กว่า 60% จะใช้เครื่องปรับอากาศแบบฝังฝ้าเพดาน หรือ Conceal Type เนื่องจากยูนิตส่วนใหญ่มีเพดานสูง พื้นที่ห้องกว้าง การใช้เครื่องปรับอากาศแบบฝังฝ้าเพดานจะช่วยกระจายความเย็นได้ทั่วถึง ทั้งยังเหมาะกับการตกแต่งให้เรียบเนียนสวย กลมกลืนไปกับส่วนอื่นๆ ของห้อง เช่นเดียวกับห้องตัวอย่างสวยๆ จากโครงการ The Monument Thong Lo ห้องนี้ ที่มีแอร์ฝังฝ้าเพดาน เรียบเนียนไปกับดีไซน์สุดหรูของห้องได้เป็นอย่างดีที่ทางทีมงาน interior ของแสนสิริที่ดีไซน์ตามคอนเซปต์ “Luxury is space” เพิ่มพื้นที่ให้กับยูนิตจากรูปแบบการออกแบบที่ชาญฉลาด ตอบโจทย์การใช้ชีวิตในทองหล่อ ที่พักที่อยู่อาศัยได้จริง มีขนาดใหญ่พอที่สามารถใช้เป็นที่พักหลักของบ้าน นอกจากเครื่องปรับอากาศแบบฝังฝ้าแล้ว โครงการนี้ยังใช้ไฟดาวน์ไลท์แบบฝังฝ้า ส่วนระจกหน้าต่างของโครงการนี้เป็นกระจก Insulated Laminate Low-E ที่มีคุณสมบัติป้องกันความร้อนได้มากถึง 50% ป้องกันรังสี UV 90% และป้องกันเสียงรบกวนจากภายนอกได้มากถึง 30% เรียกได้ว่า ถึงห้องจะมีช่องหน้าต่างเยอะขนาดนี้ก็ยังไม่ร้อนและเสียงยังเงียบอีกด้วย คอนโดระดับหรู THE MONUMENT Thong Lo ยังมีความพิเศษอีกมาก ซึ่งสามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่ 4. ห้องครัว ห้องครัวในโครงการระดับหรู (ราคาตั้งแต่ 200,000 บาทต่อตารางเมตร) เป็นส่วนที่ใช้วัสดุแตกต่างจากโครงการทั่วไปพอสมควร ก่อนจะซื้อคอนโดให้สำรวจส่วนนี้ด้วย วัสดุในห้องครัวเป็นแบบไหนบ้าง พื้นครัวนอกจากจะตกแต่งโดยใช้วัสดุคุณภาพดี ทนทาน และใช้ได้จริงแล้ว ยังมีความสวยงามเพื่อเป็นหน้าเป็นตาให้กับเจ้าของห้องอีกด้วย โดยวัสดุส่วนใหญ่มักใช้หินอ่อน หินแกรนิตโต้ และใช้พื้นไม้ Engineer ในบางที พื้นผิวกันเปื้อนก็มีการใช้หินแกรนิตโต้…
3 เคล็ดลับป้องกันอุบัติเหตุภายในบ้านและคอนโด เรื่องไม่เล็ก ที่ควรใส่ใจ

อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในบ้านนั้น ไม่ใช่เป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยอย่างที่เราเข้าใจ แต่ยังหมายถึงความปลอดภัยในชีวิตของเราอีกด้วย ในบทความนี้เราจะมากล่าวถึงวิธีในการป้องกันการเกิดอุบัติเหตุภายในบ้านโดยละเอียด บ้านที่เราอยู่อาศัย ไม่ว่าจะเป็น คอนโด บ้านเดี่ยว บ้านแฝด อาคารพาณิชย์ อาคารชุด หรือที่อยู่อาศัยอื่นๆ ก็ตาม เป็นที่ที่เกิดอุบัติเหตุได้บ่อย แต่ได้รับความสนใจน้อย เพราะเรามักจะเห็นว่าเหตุที่เกิดขึ้นนั้นมักจะไม่รุนแรง แต่ในความเป็นจริงนั้น คนไทยเสียชีวิตจากการพลัดตกหกล้ม ถึงปีละ 1,600 คน ซึ่งถือเป็นสาเหตุการตายอันดับสองในกลุ่มของการบาดเจ็บโดยไม่ตั้งใจ รองลงมาจากอุบัติเหตุบนท้องถนนเลยทีเดียวครับ จะเห็นได้ว่าอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในบ้านนั้น ไม่ใช่เป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยอย่างที่เราเข้าใจ แต่ยังหมายถึงความปลอดภัยในชีวิตของเราอีกด้วยนะครับ โดยจากบทความเรื่อง 3 เรื่องอันตรายในบ้านและคอนโดที่ไม่ควรมองข้าม เราได้กล่าวถึงสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุภายในบ้านไปแล้ว ในบทความนี้เราจะมากล่าวถึงวิธีในการป้องกันการเกิดอุบัติเหตุภายในบ้านและคอนโดโดยละเอียดกันครับ ภาพจาก โครงการ เดอะ ไลน์ จตุจักร-หมอชิต สำหรับวิธีการป้องกันและลดโอกาสในการเกิดอุบัติเหตุภายในบ้านนั้น พลัสฯ ได้แบ่งออกเป็น 3 วิธี 1. การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้อยู่อาศัย ส่วนใหญ่นั้นอันตรายจากอุบัติเหตุภายในบ้าน คอนโด เกิดจากความไม่ระมัดระวังของผู้อาศัยเอง ดังนั้นการป้องกันอุบัติเหตุจึงควรเริ่มจากตัวผู้อยู่อาศัยเองเป็นหลัก โดยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้มีความระมัดระวังมากขึ้น เช่น รักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงสมบูรณ์อยู่เสมอ เพราะหากเราอยู่ในสภาวะที่ร่างกายมีสภาพไม่สมบูรณ์อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ จากการขาดสมาธิในการทำงาน เช่น การพักผ่อนให้เพียงพอ หากพบว่าสภาพร่างกายบกพร่องควรรีบแก้ไข เช่น หากพบว่าสายตาสั้นควรตัดแว่นหรือใส่คอนแทกเลนส์เพื่อช่วยในการมองเห็น เนื่องจากการที่เราสายตาสั้นจะทำให้เรามองสิ่งต่างๆ ไม่ชัดเจน จนนำไปสู่การเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย เมื่อพบว่าเกิดความเจ็บป่วยไม่ว่าจะเป็นด้านร่างกายหรือจิตใจ ควรหยุดพักกิจกรรมที่ทำ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้ รวมถึงเมื่อรับประทานยาที่ทำให้เกิดอาการง่วงซึม เช่น การรับประทานยาแก้แพ้ หรือยาแก้หวัดครับ การระมัดระวัง มีสติในการทำงานก็ช่วยป้องกันการเกิดอุบัติเหตุได้ ศึกษาคู่มือการใช้งานอุปกรณ์และเครื่องมือต่างๆ อย่างละเอียดให้เข้าใจ นิติฯ โครงการทากะ เฮาส์ ช่วยแนะนำการใช้อุปกรณ์ต่างๆ ภายในห้องครัวส่วนกลางของโครงการ การใช้อุปกรณ์ เครื่องมือต่างๆ ควรมีความเหมาะสมกับงานที่ทำ รวมถึงตัวผู้ใช้งานเองด้วย หรือหากเป็นงานที่ไม่ถนัดจริงๆ อาจเรียกให้ผู้อื่นมาช่วยก็ดีนะครับ ในโครงการที่พลัสฯ ดูแลนั้น หากลูกบ้านมีปัญหาเกี่ยวกับงานช่าง ก็สามารถติดต่อกับช่างเทคนิค ให้เข้ามาช่วยดูปัญหาที่เกิดขึ้นภายในห้องได้ เพราะในบางกรณีช่างเทคนิคสามารถช่วยเหลือแก้ไขให้โดยไม่ เสียค่าใช้จ่าย หรือหากมีการว่าจ้างผู้รับเหมาให้เข้ามาซ่อมแซม ก็ยังสามารถติดต่อให้ช่างเทคนิคร่วมพูดคุยกับผู้รับเหมา เพราะช่างเทคนิคมีความคุ้นเคยกับระบบ และโครงสร้างต่างๆ ของอาคาร สามารถให้คำแนะนำต่างๆ ได้ครับ ช่างภายในโครงการ ทากะ เฮาส์ อย่าลืมสวมถุงมือป้องกันหากต้องทำงานที่อันตราย เช่น ในการทำงานช่างต่างๆ หรือการสัมผัสกับสารเคมี 2. การปรับปรุงที่อยู่อาศัยให้มีความปลอดภัยเพิ่มมากขึ้น การออกแบบฟังก์ชั่นภายใน รวมถึงการเลือกวัสดุที่ใช้ก็สามารถป้องกันและช่วยลดอุบัติเหตุได้ เช่น ควรมีแสงสว่างที่เพียงพอบริเวณทางเดิน โดยเฉพาะบริเวณทางต่างระดับเช่น ที่บริเวณบันได โดยอาจเลือกใช้ไฟกลางคืนแบบติดอัตโนมัติ เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุจากการพลัดตกหกล้ม ล็อบบี้ภายในโครงการ เดอะ ไลน์ อโศก-รัชดา มีการออกแบบให้มีแสงสว่างอย่างเพียงพอ ดูแลจัดวางสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ ให้เป็นระเบียบเรียบร้อย ช่วยป้องกันอุบัติเหตุจากการชน กระแทก สะดุดล้มได้ โดยเฉพาะสิ่งของที่เป็นอันตราย เช่น ของมีคม ของที่เป็นมีสารพิษอันตราย ที่สำคัญ อย่าลืมเก็บของเหล่านี้ให้พ้นมือเด็กนะครับ การดูแลบำรุงรักษาบ้าน บริเวณบ้าน ให้ถูกสุขลักษณะ ไม่สกปรก เป็นหลุมเป็นบ่อ นอกจากจะช่วยลดและป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้แล้ว…
รวมคอนโดติดรถไฟฟ้าให้เช่า ยูนิตน่าสนใจคัดมาให้แล้ว

รถไฟฟ้า พาหนะโดยสารที่เรียกได้ว่าเป็นส่วนสำคัญของคนกรุงเทพฯ หรือคนที่อาศัยอยู่ในเมืองหลวงแห่งนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพราะการพักอาศัย ไม่ว่าจะบ้านหรือคอนโด จะอยู่ถาวร หรือแค่เช่าอยู่ การได้อยู่ใกล้กับเส้นรถไฟฟ้าต่างๆ ก็มีส่วนช่วยในการเดินทางและการใช้ชีวิตประจำวันมากทีเดียว วันนี้พลัสฯ จึงขอนำเสนอคอนโดติดรถไฟฟ้า โดยจะแยกเป็นรถไฟฟ้าบีทีเอส(BTS) เอ็มอาร์ที(MRT) และแอร์พอร์ตลิงค์ (ARL) สำหรับคนสนใจเช่าคอนโดโดยเฉพาะ มาดูกันเลยว่าคอนโดเหล่านี้เหมาะกับกลุ่มคนเช่าแบบไหนกันบ้าง คอนโด BTS ใกล้รถไฟ (ลอย) ฟ้า รถไฟฟ้า Skytrain หรือ BTS เป็นหนึ่งในรถไฟฟ้าของคนที่อาศัยอยู่ในกรุงเพทฯ ต้องใช้ในชีวิตประจำวันไม่มากก็น้อย โดยเส้นทางของ BTS ผ่านบริเวณสำคัญไม่ว่าจะเป็น แหล่งท่องเที่ยว ย่านธุรกิจและออฟฟิศ หรือย่านช้อปปิ้ง เส้นทางส่วนต่อขยายล่าสุดสามารถไปถึง 5 แยกลาดพร้าว และ BTS ยังมีแผนก่อสร้างเส้นทางยาวไปอีก สามารถดูแผนที่และหาข้อมูลเกี่ยวกับสถานีต่างๆ ได้ที่นี่ โดยการเช่าคอนโดติดรถไฟฟ้าต่างสถานี หรือย่านที่ต่างกัน ก็ให้ความสะดวกและเหมาะกับบุคคลที่มีไลฟ์สไตล์ หรือความต้องการที่ต่างกันออกไปด้วย ใครที่อยากอยู่ในย่านใจกลางเมืองก็อาจเลือกเช่าคอนโดใกล้รถไฟฟ้าสถานีสยาม หรือสถานีราชเทวี คอนโดติด BTS ย่าน CBD ในส่วนของใครที่อยากเช่าคอนโดย่าน CBD เพื่อเดินทางไปออฟฟิศสะดวก ทางพลัสขอแนะนำ คอนโดติด BTS Edge Sukhumvit 23 ขอแนะนำ Edge Sukhumvit 23 เลยครับ เพราะนอกจากจะรายล้อมด้วยออฟฟิศชั้นนำหลายบริษัทแล้ว ยังเป็นคอนโดติดรถไฟฟ้า BTS และ MRT ด้วย เรื่องของกินกับที่ช้อปนี่ไม่ต้องพูดถึง เพราะมีให้เลือกตั้งแต่ street food ไปจนร้านหรูไม่ซ้ำแบบ คอนโดให้เช่าแห่งนี้ราคาเริ่มเต้นแค่ 20,000 นิดๆ เท่านั้น ดูรายละเอียดและยูนิตให้เช่าเพิ่มเติมได้ที่นี่ อีกหนึ่งคอนโดให้เช่าที่เป็นที่ชื่นชอบจนคนเช่าบางคนเปลี่ยนใจมาซื้ออยู่จริงแล้วก็คือ คอนโดให้เช่าวิวสวนเขียวอย่าง คอนโดติด BTS THE LINE จตุจักร-หมอชิต THE LINE จตุจักร-หมอชิต นอกจากจะเป็นการเช่าคอนโดติดรถไฟฟ้าที่ได้วิวสวน facility ครบครันแล้ว การได้เช่าคอนโดอย่าง THE LINE จตุจักร-หมอชิต ยังเป็นคอนโดใกล้รถไฟฟ้า BTS ด้วย เพียงแค่เดินสกายวอร์คก็ถึงตัวสถานีรถไฟฟ้าที่เรียกได้ว่าเป็นจุดเชื่อมต่อของการเดินทางหลักในหลายเส้นทาง อ่านรีวิวละเอียดเกี่ยวกับโครงการเต็มๆ ที่นี่ คอนโดให้เช่าใกล้รถไฟฟ้าสถานีหมอชิตและพื้นที่สีเขียวโครงการนี้ราคาเช่าเริ่มต้นสบายกระเป๋าเพียงแค่ 16,000 บาท/เดือนเท่านั้น เป็นหนึ่งในคอนโดที่เช่าอยู่ก็สะดวก ซื้ออยู่หรือลงทุนก็ดี สนใจเลือกดูยูนิตให้เช่าคลิก คอนโดติดรถไฟฟ้าใต้ดิน รถไฟฟ้าใต้ดิน หรือ MRT เป็นอีกหนึ่งทางเลือกของผู้อาศัยในกรุงเทพฯ ที่นับวันจะได้รับความนิยมมากขึ้น เนื่องจากเส้นทางในการเดินทางมีทั้งที่เชื่อมต่อกับ BTS ย่านใจกลางเมือง ไปทางเมืองเก่าหรือเกาะกรุงรัตนโกสินทร์ และบริเวณกรุงเทพฯ รอบนอกอีกมากมาย เช่นเดียวกับ BTS…
มี Plus Living & Property Management ดูแลบริหารอาคารดีอย่างไร

มากกว่าแค่บริษัทบริหารจัดการนิติบุคคล แต่พลัสฯ ให้คุณได้มากกว่า เพราะพลัสฯ ไม่ใช่แค่เชี่ยวชาญบริหารจัดการสิ่งปลูกสร้างเท่านั้น แต่เรายังใส่ใจในทุกมิติของการอยู่อาศัย เพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของลูกบ้านด้วย แล้วพลัสฯ จะมีการดูแลบริหารอาคาร (Property Management ) อย่างไร ที่สามารถตอบโจทย์ และครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยของลูกบ้าน ซึ่งล้วนมีความต้องการที่หลากหลายได้นั้น ไปอ่านพร้อมกันเลยครับ 5 เหตุผลที่คุณควรเลือก PLUS LIVING MANAGEMENT เป็นนิติบุคคลบริหารจัดการที่พักอาศัย 01 ความปลอดภัยของผู้อยู่อาศัย หายห่วงด้วยระบบรักษาความปลอดภัยที่ได้มาตรฐาน ปลอดภัย สบายใจ หายห่วง ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยที่ได้มาตรฐานจากพลัสฯ พร้อม LIV-24* ที่คอยมอนิเตอร์ ดูพื้นที่ส่วนกลางของแต่ละโครงการ ที่มีความต้องการที่แตกต่างกันได้จากจุดเดียว เพื่อวิเคราะห์ และนำไปใช้ตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลาย ที่มีความเฉพาะของแต่ละโครงการนั้นๆ นอกจากนี้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย หรือ รปภ. ของพลัส พร็อพเพอร์ตี้ จะได้รับการฝึกฝนด้วยระบบ Sansiri Security Inspection (SSI) ทีมครูฝึก รปภ. ที่มากด้วยประสบการณ์และระบบการจัดการความปลอดภัยที่เข้มงวด ตามแบบฉบับมาตรฐานของแสนสิริ และมีการฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอเพื่อดูแลลูกบ้านอย่างใส่ใจตลอด 24 ชม. *เฉพาะในโครงการที่เข้าร่วมบริการ LIV-24 หมายเหตุ: LIV-24 บริหารงานและให้บริการ โดย “บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด” แต่เพียงผู้เดียว สำหรับโครงการของแสนสิริ/บริษัทในเครือที่จัดให้มี LIV-24 – ฟรีค่าบริการ 2 ปี เริ่มนับแต่วันที่เปิดใช้งานระบบเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ อุปกรณ์การเชื่อมต่ออาจมีความแตกต่างกันในแต่ละโครงการ สำหรับรายละเอียดอื่นเป็นไปตามที่พลัสฯ กำหนด คุณจะได้อยู่ในโครงการที่มีระบบรักษาความปลอดภัยที่ได้มาตรฐาน ผ่านบุคลากรที่มีทักษะความเชี่ยวชาญ และเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพ 02 ดูแลทรัพย์สินให้มีมูลค่าเพิ่ม รักษาให้โครงการอยู่ในสภาพดีตราบนานเท่านาน พลัสฯ มีการดูแล บำรุงรักษา กายภาพ ที่มีความแตกต่างกันในแต่ละโครงการ ให้ยังคงสภาพดี เป็นทรัพย์สินที่มีมูลค่าตราบนานเท่านาน เช่น การดูแล material ได้ทุกประเภท หินที่หลากหลาย ต้นไม้ที่หลากหลาย ภูมิอากาศที่หลากหลาย รวมถึงมีการ training เฉพาะทางด้วย ตัวอย่างเช่น การดูแลหินอ่อน เนื่องจากหินอ่อนมีความสวยงามทนทาน แต่เกิดรอยง่าย การดูแลหินอ่อนจึงต้องใช้ความพิถีพิถันเป็นพิเศษ ยิ่งในบางโครงการที่นำเข้าหินอ่อนมาจากแหล่งผลิตชั้นดี เช่น Corchia Grey จากประเทศอิตาลี Blue Sodalite จากประเทศโบลิเวีย หรือ Black Maquina จากประเทศสเปน หรือเป็นหินอ่อนที่มีเอกลักษณ์ เป็นหินอ่อนหายากหรือเป็นลายที่มีเพียงชิ้นเดียวในโลก ยิ่งต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ เพราะหากทำความสะอาดผิดวิธีหินอ่อนชิ้นนั้นอาจจะเกิดการเสียหายในระยะยาวได้ คุณจะได้อยู่ในโครงการที่มีสภาพแวดล้อมดี มีอายุการใช้งานยาวนาน พร้อมใช้งานอยู่เสมอ เป็นทรัพย์สินที่มีมูลค่าตราบนานเท่านาน หินอ่อนบริเวณ Lobby โครงการ เดอะ…
รวมคอนโดติดรถไฟฟ้า ทำเลดี พร้อมอยู่พร้อมเช่า THE LINE
อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ จากหลักกิโลเมตรที่ 0

เชื่อว่าหลายคนยังสงสัยว่า “กิโลเมตรที่ 0” เริ่มต้นจากตรงไหนกันแน่ โดยแต่เดิมว่ากันว่าหลักกิโลเมตรที่ 0 ของประเทศไทยอยู่ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ส่วนอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมินั้น ตั้งอยู่ที่กิโลเมตรที่ 5.0 ของถนนพหลโยธิน โดยที่ กม. 0 ของถนนพหลโยธินอยู่ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยซึ่งอยู่ห่างจากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิเป็นระยะทาง 5 กิโลเมตร แต่ก็มีอีกหลายข้อมูลเดิมบอกว่านั่นเป็นเพียงสัญลักษณ์ ของจุดศูนย์กลางของการเริ่มต้นเท่านั้น ซึ่งก่อนที่จะมีการสร้างวงเวียนอนุสาวรีย์ ที่บริเวณจุดตัดของถนนพญาไท ถนนราชวิถี และถนนพหลโยธินนี้มีชื่อเรียกว่า “สี่แยกสนามเป้า” ทำให้โดยรอบเป็นวงเวียนอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ จะอยู่กึ่งกลางระหว่างถนนพหลโยธิน ถนนราชวิถี และถนนพญาไท ซึ่งเป็นจุดตัดมุ่งไปสู่เส้นทางอื่นๆ นั่นเอง ทำให้หลักกิโลเมตร 0 ที่เริ่มต้นจากบริเวณ วงเวียนอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย หัวมุมถนนดินสอด้านหน้าโรงเรียนสตรีวิทยาที่ว่านี้จึงเป็นเพียงความหมายเพื่อส่งเสริมความสำคัญของอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย อันเป็นสัญลักษณ์เชิดชูระบอบการปกครองของประเทศไทย แต่จุดเริ่มต้นตามความเป็นจริงของทางหลวงสายประธานทั้ง 4 ภาค ในป้ายก็ระบุไว้ด้วยว่าเริ่ม ณ จุดดังต่อไปนี้ หลักกิโลเมตรที่ 0 ของถนนพหลโยธิน อยู่ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ใช้งานจริงเป็นจุดเริ่มต้นบอกระยะเส้นทาง “ภาคเหนือ” หลักกิโลเมตรที่ 0 ของถนนสุขุมวิท อยู่ที่แยกเพลินจิต ใช้งานจริงเป็นจุดเริ่มต้นบอกระยะเส้นทาง “ภาคตะวันออก” หลักกิโลเมตรที่ 0 ของถนนเพชรเกษม อยู่ที่วงเวียนใหญ่ ใช้งานจริงเป็นจุดเริ่มต้นบอกระยะเส้นทาง “ภาคใต้” หลักกิโลเมตรที่ 0 ของถนนมิตรภาพไม่ได้อยู่กรุงเทพ อยู่ที่หลักกิโลเมตรที่ 107 ของถนนพหลโยธิน ในเขตจังหวัดสระบุรี ใช้งานจริงเป็นจุดเริ่มต้นบอกระยะเส้นทาง “ภาคอีสาน” โดยป้ายบอกระยะทางถึงกรุงเทพจะบวก 107 กม.ไว้แล้ว นอกจาก อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ จะเป็นอนุสรณ์สถานที่สำคัญ และเป็นที่จารึกรายนามทหารที่เสียชีวิต ในกรณีพิพาทระหว่างไทยกับฝรั่งเศส ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 และสงครามเกาหลีแล้ว ยังเป็นต้นทางของถนนพหลโยธิน ที่เชื่อมต่อกับใจกลางเมือง รายล้อมสถานที่สำคัญต่างๆ อยู่โดยรอบบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ อาทิ โรงพยาบาลราชวิถี โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า วิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า ทางพิเศษศรีรัช สถานีรถไฟฟ้า BTS อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ แฟชั่นมอลล์ และห้างเซ็นเตอร์วัน เป็นต้นทำให้บริเวณนี้ถือเป็นศูนย์กลางด้านการคมนาคมที่สำคัญของกรุงเทพ ซึ่งมีรถโดยสารให้บริการในหลายเส้นทาง เป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นรถเมล์ รถไฟฟ้า BTS รถตู้ รถมอเตอร์ไซค์ และอื่นๆ อีกมากมาย ตลอด 24 ชั่วโมง จึงทำให้อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เป็นสถานที่อันดับต้นๆ สำหรับผู้คนที่คิดจะเดินทางไปไหนมาไหน ไม่ว่าจะทั้งในกรุงเทพ และออกต่างจังหวัดเปรียบเสมือนเป็นประตูสู่จุดเริ่มต้นสำหรับการเดินทางในปัจจุบัน หาข้อมูลคอนโดที่คุณต้องการได้ที่นี่: คอนโดสุขุมวิท, คอนโดให้เช่า, คอนโดจตุจักร, ขายคอนโด, คอนโดทองหล่อ, คอนโดพระราม 4, ระบบรักษาความปลอดภัย, บ้านหรู, คอนโดหรู, คอนโด 2 ห้องนอน, คอนโดอ่อนนุช, บ้านแสนสิริ พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ตัวแทนด้านอสังหาริมทรัพย์ รับฝากขายปล่อยเช่า พร้อมบริการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับที่อยู่อาศัย ด้วยทีมงานระดับคุณภาพ…
บริหารจัดการพื้นที่ว่าง (Waste Space) ให้เป็นสวนผักกินได้

ยุคสมัยปัจจุบันที่ชีวิตรีบเร่งตั้งแต่เช้าจรดค่ำ มื้ออาหารทั้ง 3 มื้อส่วนใหญ่จะฝากท้องไว้กับร้านสะดวกซื้อบ้าง ร้านอาหารบ้าง วันไหนไม่มีนัดสังสรรค์กลับถึงบ้านถึงคอนโดดึกๆ ก็อาศัยตัวช่วยอย่าง Line Man, Grab food, Food Panda ฯลฯ ช่วยชีวิตไว้ในแต่ละวัน ครั้นวันหยุดหรือพอจัดสรรเวลาได้ก็อยากจะทำอาหารบ้าง เพราะการทำอาหารไว้ทานเองนั้นเป็นความสุขอย่างหนึ่งสำหรับคนชอบทำอาหาร และถือเป็นช่วงเวลาดีๆ ของครอบครัว อย่างในสมัยก่อนที่วิถีชีวิตเรายังมีบ้าน ก็จะมีแปลงผักสวนครัวเล็กๆ ปลูกไว้ใช้ยามฉุกเฉิน มีร้านค้าขายของชำอยู่ใกล้ๆ พริกหมด ขาดมะนาว หรืออยากได้ใบโหระพา แม่ก็มักจะใช้ให้เราเดินไปซื้อมาให้ทุกครั้งไป แต่เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนครอบครัวมีขนาดเล็กลงเรื่อยๆ การเปลี่ยนวิถีชีวิตจากบ้านมาสู่คอนโดในเมือง การจะหาผักจากสวนหลังบ้านแทบจะเป็นไปไม่ได้ อยากใช้ใบกะเพราะสัก 5-6 ใบ พริก 2-3 เม็ดพอใส่ต้มยำกุ้งถ้วยโปรด ตั้งใจทำกับข้าวหม้อเล็กๆ พอทาน 1-2 คน จะไปซื้อที่ตลาดหรือซุปเปอร์มาร์เกตก็ขายเป็นแพคเยอะเกินความจำเป็น ใช้จริงนิดเดียวทานไม่หมด ต้องปล่อยเหลือทิ้งไว้ในตู้เย็น ด้วยเหตุนี้จึงได้กลายเป็นที่มาของโครงการ Sansiri Backyard และโครงการสวนครัวหลังบ้าน เปลี่ยนพื้นที่ว่างภายในโครงการคอนโดมิเนียมและหมู่บ้านที่พลัสฯ บริหารจัดการให้กลายเป็นแปลงผัก ปลูกพืชพรรณ ผักสวนครัวต่างๆ ให้ลูกบ้านได้บริโภคกัน เมื่อพื้นที่ “ว่าง” “ไม่ว่าง” อีกต่อไป ภาพก่อนและหลังปรับปรุงพื้นที่ว่างให้กลายเป็นพื้นที่แปลงผักในโครงการ เดอะ เบส ดาวน์ ทาวน์ ภูเก็ต พื้นที่ที่ถูกละเลย (Lost space) พื้นที่ไร้ประโยชน์ (Waste space) พื้นที่ตาย (Dead space) (Mumford, 1961; Transik, 1986; Lynch and Southworth, 1990; Perera, 1994*) คำศัพท์เหล่านี้ได้นิยามถึงพื้นที่ที่ถูกละเลย ไม่มีประโยชน์ใช้สอยหรือการใช้งาน โครงการคอนโดมิเนียมและหมู่บ้านที่พลัสฯ บริหารจัดการอยู่นั้น มักจะมีพื้นที่ว่างๆ เหล่านี้ที่ไม่ได้ใช้งานปล่อยทิ้งไว้เช่นกัน บางแห่งก็เป็นแปลงไม้ดอกไม้ประดับเก่าที่กาลเวลาผ่านไปก็ผลัดเปลี่ยน หมุนเวียนพรรณไม้ไปเรื่อยๆ บางครั้งก็มีสภาพเสื่อมโทรม ชำรุด บางที่ยังพอมีพื้นที่เหลือบนดาดฟ้าที่มีไม้ดอกไม้ประดับเยอะแล้ว หากจัดสรรพื้นที่ให้ดี เราก็จะได้ทั้งประโยชน์และความสวยงามไปพร้อมๆ กัน การเตรียมแปลงผักสวนครัวในโครงการ เศรษฐสิริ พัฒนาการ ฝ่ายจัดการฯ จึงระดมทีมคนสวน ทีมช่าง เปลี่ยนแปลงพื้นที่ดังกล่าวให้เป็นแปลงผัก ซ่อมระแนงไม้เดิมที่ไม่ได้ใช้งานเปลี่ยนรูปแบบใหม่ สร้างโรงเรือนเล็กๆ ไว้พอจัดเรียงกระถางต้นไม้ได้ เปลี่ยนอิฐที่เดิมเคยมีไว้ประดับเพื่อความสวยงามให้สามารถเป็นภาชนะปลูกผักได้ กระเช้าหรือตะกร้าจากของขวัญปีใหม่ก็นำมาดัดแปลงเป็นกระถางปลูกต้นไม้ได้ในบางพื้นที่ที่มีพื้นที่จำกัด ไม่สามารถทำเป็นแปลงปลูกผักได้ นอกจากจะนำของมารีไซเคิลให้เกิดประโยชน์แล้ว ยังประดับพื้นที่ให้สวยงามได้อีกด้วย และพื้นที่ว่างๆ ที่เคยไร้ประโยชน์ก็กลายเป็นพื้นที่ที่สร้างประโยชน์ได้อย่างมากมาย ดูแลพื้นที่ส่วนกลางเสร็จแล้วก็มาดูแลผักด้วย แปลงผักในโครงการ ฮาเว่น พหลโยธิน การปลูกพืชผักสวนครัวในพื้นที่ว่างในโครงการคอนโดส่วนใหญ่ได้รับการดูแลจากทีมงานบริหารจัดการของพลัสฯ กันเอง ทั้งผู้จัดการคอนโดฯ ช่างอาคาร แอดมิน แม่บ้าน…
เรื่องต้องระวัง ในช่วงวันหยุดยาว สำหรับชาวคอนโด

การตรวจตราก่อนหยุดยาว ต้องทำอะไรบ้าง? เมื่อเราไม่อยู่พักอาศัยเป็นระยะเวลานานเกิน 3 วันขึ้นไป เจ้าของ/ผู้พักอาศัยควรที่จะทำการตรวจห้อง ก่อนออกเดินทาง เพื่อความปลอดภัยของทรัพย์สิน สิ่งสำคัญที่จะต้องตรวจสอบ มีอะไรบ้าง 1. ตรวจสอบระบบไฟฟ้า สายไฟ เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในห้อง หากมีการเสีย ให้ทำการซ่อมแซม หรืองดเปิดใช้งานเป็นการชั่วคราวจนกว่าจะซ่อมแซม หรือเปลี่ยนอุปกรณ์แล้วเสร็จ รวมถึงก่อนออกจากห้อง และต้องออกจากที่พักอาศัยในระยะยาว ให้ถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้า ปลั๊กพ่วง ในบริเวณต่างๆ และนำสายไฟขึ้นที่สูงเพื่อป้องกันการเกิดน้ำท่วม รวมถึงปิดสวิทซ์ตู้ควบคุมไฟฟ้าหลัก (Main breaker) เพื่อป้องกันเกิดไฟฟ้าลัดวงจรระหว่างที่ไม่อยู่ 2. ทำการล้างตู้เย็น นำอาหารที่คงค้างในตู้เย็นออก และนำขยะภายในห้องไปทิ้ง เพื่อป้องกันการเน่าเหม็น คละคลุ้งห้องในช่วงที่ไม่อยู่ นอกจากเป็นแหล่งเชื้อโรคแล้ว ยังทำให้เหล่าแมลงและบรรดาสิงสาราสัตว์ที่ไม่ต้องประสงค์ เช่น มด แมลงสาบ หนู เข้ามายึดครองบ้านของคุณช่วงที่เจ้าของบ้านไม่อยู่อีกด้วย และเพื่อความปลอดภัย ควรเคลียร์ตู้เย็นเอาของสดออกให้หมด และถอดปลั๊กตู้เย็น เพื่อป้องกันไฟช็อตระหว่างไม่อยู่อีกด้วย 3. ตรวจสอบวาวล์น้ำ ตามจุดต่างๆ หากมีการรั่วไหล ให้รีบทำการซ่อมแซม น้ำซึมเพียงเล็กน้อย อาจจะก่อให้เกิดผลตามมาที่รุนแรง และเสียหายให้กับทรัพย์สินเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะหากปล่อยไว้ในช่วงวันหยุดยาว ก่อนออกเดินทางควรปิดวาล์วน้ำหลัก เพื่อป้องกันเหตุน้ำรั่วน้ำซึมที่เกิดขึ้นระหว่างที่เราไม่อยู่ 4. ปิดประตูปิดหน้าต่าง ให้เรียบร้อยเพื่อป้องกันฝนสาด รวมถึงลมพัดสิ่งสกปรก หรือแมลงและสัตว์เข้ามาในบ้าน ซึ่งนอกจากจะทำให้บ้านสกปรก ยังส่งผลให้เกิดความเสียหายกับห้องในบางกรณีอีกด้วย นอกจากตรวจสอบเรื่องหลักๆ ดังที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว เรื่องอื่นๆ ที่ควรจัดการ เช่น ควรจัดเก็บทรัพย์สินที่มีค่าไว้ในที่ปลอดภัย รวมถึงตรวจสอบระบบกล้องวงจรปิดให้ใช้การได้หากมีติดตั้งไว้ รวมถึง ฝากเพื่อนบ้านสอดส่องดูแลกันเวลาที่เราไม่อยู่ สิ่งเหล่านี้สำคัญไม่แพ้กันค่ะ ความสูญเสียมหาศาล จากการไม่เตรียมพร้อม จากคำแนะนำเบื้องต้นในการจัดเตรียมบ้านก่อนวันหยุดยาวที่แนะนำไปเบื้องต้นแล้ว อาจจะยังไม่เห็นภาพกันว่า สิ่งเหล่านี้สำคัญอย่างไร และก่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรงอย่างไร ในฐานะที่พลัสฯ ได้ดูแลลูกบ้านอย่างใกล้ชิด พร้อมกับประสบการณ์ที่ได้พบเจอมาในแต่ละวัน จะมายกตัวอย่างให้ฟังกันว่า สิ่งเหล่านี้สำคัญอย่างไร และก่อให้เกิดความเสียหายอย่างไรได้บ้างค่ะ กรณีแรก ผู้เช่าห้อง ในคอนโด A ไปต่างประเทศเป็นระยะเวลา 1 สัปดาห์ ก่อนเดินทางพบท่อน้ำที่ต่อจากเครื่องซักผ้ามีน้ำรั่วซึมออกมาเล็กน้อย จึงเอาผ้าผูกเอาไว้และใช้ถังน้ำรองเพื่อไม่ให้น้ำหยดลงพื้น แต่ไม่ได้ทำการซ่อมแซม และไม่ได้แจ้งเจ้าของห้องหรือนิติบุคคลถึงปัญหาที่เกิดขึ้น หลังจากนั้นได้เดินทางไปต่างประเทศ 1 สัปดาห์ ต่อมาผู้เช่ากลับมาจากต่างประเทศ พบน้ำท่วมห้องสูง 5 ซม. เป็นผลทำให้พื้นไม้ลามิเนตในบริเวณห้อง บวมและเสียหายไปทั่วทั้งห้อง ส่วนท่อน้ำจากการซึมแค่เล็กน้อย น้ำกลับไหลออกมาเป็นสายไม่หยุด เป็นเหตุทำให้ น้ำไหลลงพื้นและลามไปทั่วห้อง ผลเสียหายจากกรณีนี้ ผู้เช่าห้องต้องชดใช้ค่าเสียหายให้กับเจ้าของห้องในการซ่อมแซมพื้นลามิเนตใหม่ทั้งห้อง เป็นเงินกว่าแสนบาท ซึ่งถือว่ายังโชคดีเพราะถ้าน้ำท่วมไปลงลิฟท์โดยสารส่วนกลาง รวมถึงห้องชุดเพื่อนบ้านข้างเคียง ความเสียหายจะต้องสูงถึงหลักล้านเลยทีเดียว ข้อสังเกตุ กรณีนี้ทำไมน้ำถึงไม่ไหลออกมานอกประตูห้อง จึงไม่มีใครสังเกตุเห็น และทำการระงับเหตุได้ทัน เพราะปกติการปูพื้นห้อง จะปูลาดไปทางระเบียง เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบไปยังห้องข้างๆ หรือส่วนกลาง เพื่อป้องกันการเกิดเหตุดังเช่นกรณีเดียวกันนี้ ดังนั้น หากผู้เช่า มีการติดต่อนิติบุคคลเพื่อเข้าไปทำการซ่อมแซมท่อน้ำที่รั่วซึม…
ดูแลหินอ่อนอย่างไร ให้สวยคงอยู่ตลอดไป

รู้จักวิธีดูแลการหินอ่อนแต่ละประเภท วัสดุ โครงสร้างต่างๆ ที่มาพร้อมโครงการ หากได้รับการดูแลที่ดี ก็จะสามารถช่วยยืดอายุการใช้งาน และเพิ่มมูลค่าได้ โดยเฉพาะหินอ่อนที่มักจะถูกนำมาใช้กับคอนโดมิเนียมในปัจจุบัน หิน เป็นหนึ่งในวัสดุอันดับต้นๆ ที่นิยมนำมาใช้เป็นส่วนประกอบสำคัญในงานก่อสร้างคอนโด อาคาร บ้าน งานตกแต่งทั้งภายใน และภายนอกอาคารที่มีมานานแล้ว เพราะหินนั้นมีความทนทานต่อการสึกกร่อน แข็งแรง ทนต่อสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลงได้ดี ในขณะที่ หินอ่อน นั้นเป็นวัสดุที่ให้ความเงางาม หรูหรา ด้วยลวดลายที่เป็นธรรมชาติ มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และมีความทนทาน มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน กล่าวคือไม่ผุ ไม่บวม ไม่กรอบ ไม่ขึ้นสนิม เหมือนวัสดุอื่นๆ (ถ้าได้รับการดูแลอย่างสม่ำเสมอ) หินอ่อนจะเป็นวัสดุที่สามารถมีอายุการใช้งานได้นับ 100 ปี ดังที่เรามักจะเห็นการนำหินอ่อนไปตกแต่งปราสาท หรือพราะราชวัง ถึงตัวอาคารจะมีอายุนับร้อยปี แต่วัสดุอย่างหินอ่อนก็ยังคงทนทานไม่บุบสลาย จึงเป็นที่นิยมนำมาใช้ตกแต่งเพื่อความสวยงาม และเพิ่มความหรูหราด้วยเช่นกัน หินอ่อน วัสดุแม่เหล็กสำคัญที่ช่วยเพิ่มมูลค่าโครงการ คอนโดในปัจจุบันนี้ การเลือกนำวัสดุหินอ่อนมาใช้ในโครงการนั้นมีด้วยกันมากมายหลากหลายรูปแบบ ชนิด ราคา และแหล่งกำเนิดที่แตกต่างกันไป ลักษณะหินอ่อนที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมนำมาใช้นั้นส่วนใหญ่มีแหล่งกำเนิดมาจากประเทศอิตาลี เนื่องจากมีความสม่ำเสมอของสีและลวดลาย อีกทั้งประเทศอิตาลียังเป็นผู้นำทางด้านการผลิตหินอ่อน มีความเชี่ยวชาญการใช้หิน คุณลักษณะ วิธีการตัด การขัดผิวหน้า รวมทั้งยังมีการพัฒนาเครื่องจักรอย่างต่อเนื่อง พื้นลายหินอ่อนที่เปรียบเสมือนงานศิลปะในโครงการ เดอะ โมนูเมนต์ สนามเป้า ในคอนโดบางโครงการถือได้ว่าลายของหินอ่อนนั้นเป็นเอกลักษณ์ของโครงการที่มีสี และลายเฉพาะตัวที่เดียวเท่านั้น ซึ่งสามารถเป็นตัวช่วยเพิ่มมูลค่าโครงการได้ แน่นอนว่าหินอ่อนที่นำมาใช้งานประดับตกแต่งนั้นมักมีราคาสูง และเป็นวัสดุชั้นดี เป็นของหายากเพราะบางชิ้นมีเพียงลายเดียวในโลก ดังนั้นการดูแลรักษาเพื่อคงความสวยงามของหินอ่อนนั้นจึงต้องมีความพิถีพิถันมากเป็นพิเศษ เพราะหากทำความสะอาดผิดวิธีหินอ่อนชิ้นนั้นอาจจะเกิดการเสียหายในระยะยาวได้ พื้นหินอ่อนบริเวณพื้นที่ส่วนกลางในโครงการ เดอะ โมนูเมนต์ สนามเป้า ยกตัวอย่างลักษณะหินอ่อนที่นำมาใช้ในโครงการ เดอะ โมนูเมนต์ สนามเป้า เรียกได้ว่านำหินอ่อนเข้ามาใช้ตั้งแต่บริเวณทางเข้ารวมถึงพื้นที่ส่วนกลางทั้งหมด และยังมีการนำเอาหินอ่อน Staturio จากอิตาลีเข้าไปกรุในผนังของห้องน้ำทั้ง 84 ยูนิตอีกด้วย โดยหินอ่อนที่นำมาใช้ได้ถูกคัดสรรมาจากแหล่งผลิตชั้นดี ประเภทหินอ่อนที่ใช้ในโครงการ The Monument Sanampao Blue Sodalite จากประเทศโบลิเวีย Corchia Grey จากประเทศอิตาลี Black Maquina จากประเทศสเปน ลายหินอ่อนบริเวณผนังทางเข้าในโครงการ เดอะ โมนูเมนต์ สนามเป้า อีกหนึ่งโครงการที่นำหินอ่อนมาใช้ได้อย่างสวยงามคือ โครงการ เดอะ ไลน์ จตุจักร หมอชิต โดยนำหินอ่อนมาใช้ทั้งหมดตั้งแต่เสาของอาคารบริเวณ drop off ไปจนถึงบริเวณ Lobby ตั้งแต่พื้นจรดผนัง ซึ่งมีผนังส่วนหนึ่งใช้การก่อสร้างในลักษณะ Book Match หรือเทคนิคหินอ่อนต่อลายเต็มผนัง ประเภทหินอ่อนที่ใช้ในโครงการเดอะ ไลน์ จตุจักร หมอชิต หินอ่อนชนิด Calacatta Cielo Marble จากประเทศอิตาลี หินอ่อนชนิด Pietra Grey Marble จากประเทศอิตาลี เคาน์เตอร์หินอ่อน และ…